Chapter 49 - Count Dimitri's Castle Ruins (5)
Chapter 49 - Count Dimitri's Castle Ruins (5)
เคาท์เดมิทรีได้รอคอยพวกเขาอยู่ด้วยชัดสูทแฟนซีที่สวมใส่ก่อนหน้านี้ และจากนั้นเขาก็ได้เอ่ยคำทักทายอย่างสุภาพ
"ยินดีต้อนรับสู่ที่ชั้นบน พวกเจ้าได้สนุกกับการพักผ่อนหย่อนใจที่ข้าได้เตรียมไว้ให้ไหม"
ซังจินนั้นไม่ได้มีเวลาว่างมากนักที่จะมาสนทนา
"ฮ่า"
เขาได้ปาดาบบลัดเวเจนออกไปใส่เคาท์ แต่เมื่อดาบได้เข้าไปใกล้ถึงตัวเคาท์เขาก็ได้กลายร่างเป็นฝูงค้างคาวหลบดาบไป
จากซังจินสามารถจะได้บินเสียงหัวเราะที่น่ารำคาญออกมาจากกลุ่มค้างคาวนั้น
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ"
"ย้า"
ซังจินได้เรียกดาบบลัดเวเจนกลับมา ในตอนนั้นฝูงค้างคาวก็บินขึ้นไปบนโพเดี่ยมและกลายร่างกลับมาเป็นมนุษย์ เคาท์ก็ได้พูดออกมาด้วยเสียงที่ซุกซน
"ความกระตือร้นๆ....ดูเหมือนว่าสิ่งที่ข้าได้เตรียมไว้ในหน้านี้จะไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าได้"
เคาท์ได้ดึงเรเปียร์ออกมา
"ในฐานะที่ข้านั้นเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้ ข้าจะมอบความบันเทิงให้แก่พวกเจ้าเอง"
เคาท์เดมิทรีนั้นเป็นบอสที่ยากที่จะกำจัด การแปลงร่างเป็นค้างคาวของเขาน่ารำคาญมากมันมีทั้งความเร็ว ความสามารถในการร่ายเวท สติปัญญาที่สูงและทักษะการดูดเลือด
ถ้าหากว่าเพื่อนร่วมทีมคนใดในทีมของเขาถูกดูดเลือดเคาท์มันก็จะฟื้นฟูพลังชิวิตและพละกำลังจนเต็ม
ซังจินจะต้องฆ่าเขาก่อนที่เขาจะสามารถดูดเลือดหนึ่งในเพื่อนร่วมทีมของเขา
ดังนั้นเขาจึงรีบพุ่งออกไปด้านหน้าพร้อมดาบคู่ในตำนานของเขา เคาท์เดมิทรีได้รอให้ซังจินพุ่งเข้ามาใกล้พร้อมกับดาบในมือของเขา
เคาท์นั้นคงตะมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับซังจินได้ด้วยเรเปียร์ในมือของเขา แต่แล้วในการปะทะครั้งแรก ร้อยยิ้มที่มั่นใจของเขาก็ได้หายไป
"เคร๊ง เคร๊ง"
ในการโจมตีเพียงสองครั้งเราเปียร์ก็ได้ถูกปัดออกไปจากมือของเขา เขาจึงถอยกลับไปด้านหลังพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง
'ฉันจะไม่บอมให้นายหนีไปหรอก'
ซังจินได้เตรียมดาบของเขาและเหวี่ยงเข้าไปใส่เคาท์ แต่แล้วความรู้สึกของสิ่งที่ดาบสัมผัสก็แปลกไป
"เป้ง"
ในเวลาเดียวกันที่เสียงดังออกมา เคาท์ก็ได้กลายร่างไปเป็นค้างคาวพร้อมกับร่ายเวท
"ความเป็นจริงคือสิ่งลวงตาและสิ่งลวงตานั้นคือความจริง ภาพลวงตา"
ทันใดนั้นฝูงค้างคาวก็บินไปสูงขึ้นและแยกออกจากกันไปในทั้งสี่มุมของห้องจากนั้นก็ได้กลายร่างเป็นเคาท์ ในตอนนี้นั้นมีเคาท์อยู่ทั้งหมดสี่คน
คนอื่นๆเริ่มที่จะรู้สึกหวาดกลัว ซังจินได้ถอยกลับเข้าไปรวมกลับทีมเป็นครั้งแรกและกล่าวขึ้น
"คนทำดาเมจ มันจะดีมากหากนายสามารถที่จะโจมตี แต่การหลีกเลี่ยงการถูกกัดนั้นสำคัญมาก โดบเฉพาะกับจิโอวานี่ ช่วยอยู่ใกล้กันและปกป้องกันเองไว้"
"เข้าใจแล้ว"
"ซาดาเมียร์ นายมีเวทมนตร์ที่สามารถใช้แยกแยะภาพลวงตาไหม"
"....."
"นายสามารถที่จะเผามันเพื่อเช็คดูว่ามันเป็นเพียงขี้เถ้าได้ไหม"
"อา...ใช่แล้ว.."
คำพูดของซังจินนั้นเร่งรัดเป็นอย่างมาก ซาดาเมียร์จึงก้มลงขออภัยเขา
"ข้าขอโทษด้วยนายท่านที่ไม่สามารถจะใช้เวทมนตร์ขาว...."
"ไม่เป็นไร เพียงแค่เลือกหนึ่งในพวกมันในด้านขวาและใช้เวทไฟใส่มัน"
"ข้าจะทำให้สำเร็จ นายท่าน"
ซังจินมองลงไปและพูดออกมา
"เคนนายจัดการหนึ่งตัวในด้านซ้าย ฉันจะใช้กระดิ่งให้เอง"
"โฮ่ง"
"สุดท้ายนี้...พวกนายจะต้องร่วมมือกันเพื่อจัดการเจ้าอีกตัวที่เหลืออยู่"
"โอเค"
นักล่าทั้งสี่คนตอบกลับมาพร้อมๆกัน
เมื่อซังจินให้คำแนะนำเสร็จสิ้น เขาก็เริ่มนับ
"3 2 1 ไป"
ซังจินได้นำกระดิ่งออกมาจากกระเป๋าและสั่นมันในขณะที่เขาได้วิ่งเข้าใส่เคาท์ที่เขาไม่รู้ว่าเป็นตัวจริงหรือไม่
"จงเผาไหม้ทุกอย่างในเส้นทาง บอลไฟ"
ซาดาเมียร์ได้ร่ายมนตร์ออกมา
"กรร"
เคนได้ขู่ออกมาในขณะที่พุ่งเข้าไปใส่เคาท์อีกตัวหนึ่ง
"ย้าโฮ่"
มาฮาเดสได้พุ่งออกไปพร้อมกับตะโกนออกมา ซังจินได้ฟันเข้าใส่ที่เคาท์แล้วจากนั้นมันก็เริ่มจะหดตัวลงแล้วหายไป
'ภาพลวงตา ตัวไหนกันคือตัวจริง'
ซังจินมองออกไปรอบๆ ซาดาเมียร์ได้ส่ายหัว เคนก็ได้ยืนอยู่ตัวคนเดียว เหลือเพียงตัวเดียวที่เหลืออยู่เบื้องหลังคนอื่นๆ ทางด้านนักล่าทั้งสี่คนกำลังแหงนหน้ามองขึ้นไป
ซังจินได้ไล่สายตาออกไปตามพวกเขาและพบว่าในตอนนี้เคาท์ได้ลอยอยู่ด้านบนพร้อมร่ายเวท
"ใบมีดแห่งสายลมที่ตัดเหล็กกล้า คมมีดวายุ"
คงมีดสีเขียวได้ปรากฏขึ้นที่นิ้วของเขาและพุ่งเข้าใส่เหล่านักล่า
"ไปหลบหลังฉัน"
จิโอวานี่ได้ยกโล่ขึ้นมาและพยายามที่จะป้องกันนักล่าคนอื่นๆที่อยู่หลังเขาแต่เขาก็ไม่เร็วพอ
"ฟึบ ฟึบ"
ใบมีดลมส่วนใหญ่ได้ถูกป้องกันด้วยโล่ของเขา แต่ก็มีบางส่วนได้ไปถูกเพ่ง หลง
"อั๊ก"
ใบมีดได้กรีดผ่านเกราะของเขาและทิ้งบาดแผลเอาไว้ ซังจินวิ่งออกไปหาเคาท์เพียงตัวเดียวที่เหลืออยู่ในทันที แต่เขาก็ลอยกลับขึ้นไปในอากาศและ
"ความเป็นจริงคือสิ่งลวงตาและสิ่งลวงตานั้นคือความจริง ภาพลวงตา"
เขาได้ร่ายเวทมนตร์นี้ขึ้นมาอีกครั้ง
"กรร..."
ซังจินกัดฟันแน่น มันเป็นศัตรูที่น่ารำคาญมากในการต่อสู้ด้วย นักล่าคนอื่นๆได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งโดยไม่ต้องให้ซังจินบอก แค่เพียงพวกเขาคนหนึ่งก็จะสามารถคืนพลังให้แก่เคาท์ได้
เคาท์ได้เสร็จสิ้นการแยกร่างเป็นสี่ร่างอีกครั้ง
"นายท่านถึงเวลาแล้ว"
"โฮ่ง ๆ ๆ"
เวทมนตร์อัญเชิญของทั้งสองหมดเวลาลงแล้ว
'อา...'
"10 นาทีได้ผ่านไปแล้วนับตั้งแต่ที่เขาได้ทำการอัญเชิญมา เคนได้กลับไปเป็นรูปสลักไม้และซาดาเมียร์ก็ได้กลับเข้าไปในตะเกียง ทางเลือกของเขาได้ลดลงแล้ว
'มาฮาเดสไปด้ายซ้าย โดมินิคไปทางด้านขวา จิโอวานี่และเพ่ง หลงอยู่ในแนวหลัง'
มันจะเป็นเรื่องดีหากเป็นเช่นนี้ แต่ว่าถ้าหากมีใครคนใดคนหนี่งได้ถูกกัดสถานการณ์ก็จะเลวร้ายยิ่งขึ้น ซังจินจึงเปลื่ยนความคิดนี้
เขาจะต้องจัดการอย่างรวดเร็วเนื่องจากอาการโดมินิค แต่เขาก็ได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการอย่างใจเย็นและระมัดระวัง
'ฉันรู้สึกเสียใจกับโดมินิคแต่ว่าฉันจะต้องใช้เวลาของฉันจัดการทั้งสี่ตัวด้วยตนเอง"
การพยายามวิ่งออกไปทางใดทางหนึ่งโดยไม่ระมัดระวังอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซังจินจึงมองไปรอบๆและเขาก็สังเกตุเห็นเลือด
เขาได้เห็นหยดลือดอยู่บนพื้นห้อง มันไม่ได้กระจัดกระจายไปทั่วแต่มันมีเพียงแค่พื้นที่บางแห่งเท่านั้น
'มันมาจากไหน'
ซังจินได้นึกกลับไปในความทรงจำ ในตอนแรกที่เขาได้เผชิญหน้ากับเคาท์ เขาคิดว่าดาบของเขาได้ปะทะกับอะไรบางอย่าง เคาท์ก็อาจจะได้รับบาดเจ็บในตอนนั้น ไม่สิเขาจะต้องได้รับบาดเจ็บในตอนนั้นแน่นอน
ภาพลวงตาทั้งหมดนั้นถูกฟันแขนซ้ายและมีเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่มีเลือดไหลออกมาจากมัน
'นั้นจะต้องเป็นตัวจริง'
ซังจินได้หันกับไปกระซิบเพ่ง หลงที่ยืนอยู่ข้างๆ
"เพ่ง หลง เลือดนั่น"
เพ่ง หลงได้เข้าใจในสองคำนี้ในทันที จากนั้นซังจินก็พุ่งออกไปในทันที ดูเหมือนว่าเคาท์นั้นจะได้รับความแปลกใจ
เคาท์ได้เริ่มที่จะร่ายเวทออกมา
"กล้ามเนื้อและขาจงอ่อนแรง สโลว"
ซังจินเริ่มที่จะเคลื่อนไหวช้าลงเล็กน้อยและเคาท์ก็เริ่มที่จะถอยออกไปพร้อมกับแปลงร่างเป็นค้างคาว
"ภาพลวงตา"
ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าซังจินรู้ได้อย่างไรว่าตัวไหนคือตัวจริง เขาจึงจะทำการแยกร่างอีกครั้งในขณะที่เลือดติดอยู่
"เพ่ง หลง"
ซังจินได้ตะโกนออกมาเมื่อเราช้าลง
เพ่ง หลงรีบรั้งสายธนูแล้วตะโกนออกมา
"ลูกศรแตกตัว"
ลูกศรของเขาได้พุ่งออกไปและเข้าไปปักค้างคาวในฝูงนั้น
ซังจินได้วิ่งเข้าไปหาฝูงค้างคาวนั้นและเก็บดาบลงไปในปอกขณะที่มันเริ่มกลายเป็นเคาท์อีกครั้ง
"เสียงคร่ำครวญของคนตาย"
"กรี๊ดดดดดด"
ชั่วหรือหนึ่งแวมไพร์ก็ร้องออกมาด้วยความหวาดหลัวและทุกทรมานประสานกับเสียงของทักษะนี้
****
จิโอวานี่ได้คืนสติกลับมาหลังจากที่ได้สั่นกลัวอยู่ครู่หนึ่ง เขานั้นรู้สึกอายเล็กน้อย แต่มันก็หายไปอย่างรวดเร็ว
"ตะ..ตาย"
โดมินิคกำลังแทงหอกใส่อากาศในขณะที่กำลังประสาทหลอน
"อ๊ากก"
เพ่ง หลงได้วิ่งไปไกลพร้อมกับร้องออกมา ส่วนมาฮาเดสก็ปิดตาลงทำสมาธิ จิโอวานี่ได้มองสำรวจไปรอบๆเพื่อค้นหาแวมไพร์และเค
แต่แล้วโอเปอเรเตอร์ก็ประกาศออกมา
[บอสเคาท์เดมิทรีได้ถูกกำจัดแล้ว]
[จะกลับสู่ตลาดมืดในอีก 1 ชั่วโมง 2 นาที 45 วินาที]
เขาได้เห็นเคสะบัดเลือดออกจากดาบและเก็บดาบเข้าฝักจากระยะไกลและจิโอวานี่ก็ได้เห็นหัวของเคาท์ตกอยู่ที่เท้าของเค เขาจึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก
แต่เคก็ได้มาหาเขาและพูดขึ้น
"ไปกันเถอะ เราได้เสียเวลามาแล้วประมาณ 15 นาที...ดังนั้นเราก็น่าจะเหลือเวลาอีก 15 นาที ดังนั้นเราจะต้องไม่เสียเวลาไปอีก"
จิโอว่านี่ประหลาดใจกับคำพูดของเขา ผิวของโดมินิคยังคงซีดอยู่ดังนั้นจึงยังมีสิ่งที่ต้องทำ แต่เขาก็มีคำถาม
"แต่ว่า..พวกเขาจะไปไหน"
จากนั้นเคก็ตอบกลับมา
"อา จริงสิ"
เคได้ปรบมือขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ถึงบางอย่างและจากนั้นก็หันไปพูดกับโอเปอเรเตอร์
"โอเอเรเตอร์ ฉันต้องการจะใช้ทักษะนักล่าสมบัติหนึ่งครั้ง ดังนั้นช่วยให้คำใบ้เกี่ยวกับสถานที่ลับหรือบอสลับที"
[ก่อนอื่นฉันจะบอกคุณเกี่ยวกับสถานที่ลับในแผนที่]
"คืออะไร..."
จิโอวานี่เริ่มพูดออกมา แต่ซังจินก็ขัดขวางเขาไว้โดยการเอานิ้วมาขึ้นมาและบอกให้เขาเงียบ
"ชู่วว..."
โอเปอเรเตอร์ได้เริ่มที่จะพูดออกมาอีกครั้ง
[พ่อค้าเร่ที่ได้มาจากแดนไกล]
[ได้ปืนเขามาพร้อมกับหีบสมบัติ]
[เพื่อค้นหาปราสาทที่จะให้เขาได้เฉลิมฉลองด้วยความปิติยินดี]
['เจ้านายของปราสาทแห่งนี้จะจ่ายให้กับสมลบัติของข้า']
[แต่สิ่งเดียวที่รอเขาอยู่ที่ปราสาทเก่า]
[นั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่แปลกประหลาด ดังนั้นเขาจีงวิ่งหนี]
[แต่เขาก็ได้ถูกจับในไม่ช้าและกลายเป็นรังไหม]
คำอธิบายของโอเปอเรเตอร์ได้จบลง และจินโอวานี่ก็หันไปมองที่เคพร้อมกับคำถามที่มีมากขึ้นกว่าเดิม แต่แล้วเคก็เริ่มพูดกับตัวเอง
"พ่อค้าเร่ร่อนที่มาจากแดนไกล...กลายไปเป็นรังไหม..."
เขาพึมพักออกมาและจากนั้นตาของเขาก็เบิกกว้างและเริ่มเดินไปที่ประตู
"ไปกันเถอะ"
นักล่าทุกคนต่างก็กลับมาเป็นปกติและทำตามที่เขาบอก นักล่าทุกคนได้เดินไปที่ลิฟและมันก็เริ่มเคลื่ยนไหวอีกครั้ง
"ครืดด ครืดด"
เสียงครูดของลิฟได้ดังออกมา ในขณะเดียวกันมาฮาเดสที่ได้เงียบตลอดมาก็ถามขึ้น
"โทษทีนะ แต่ว่า..อะไรที่นายกำลังพบายามจะทำมันให้สำเร็จ"
เคได้ตอบคำถามของเขา
"อา..นี้มันเป็นภารกิจเสริมประเภทหนึ่งที่จะให้สมบัติเป็นรางวัล"
"สมบัติ?"
เพ่ง หลงได้แสดงความสนใจในคำพูดของเขา
"ใช่แล้ว นายจะเห็นมันเมื่อนายไปที่นั่น ฉันนั้นคิดว่าพวกนายทั้งหมดนั้นโชคดี คนนั่น..ที่แต่งกายประหลาดๆ...มันควรจะพิสูจน์ว่าเป็นประโยชน์"
จากนั้นจิโอวานี่ก็หันไปถามเขา
"นายหมาถึงอะไรมีประโยชน์"
แทนที่จะตอลคำถามของเขา เคได้พูดอย่างอื่นแทนในขณะที่เคาะนิ้วลงบนริมฝีปาก
"นายกังวลเกี่ยวกับการได้รับผลงานต่ำในครั้งนี้ใช่ไหม"
จิโอวานี่ เพ่ง หลง โดมินิค เขาหันาสนใจทั้งหมด มันเป็นหัวข้อที่น่ากลัวสำหรับพวกเขา เคยังคงพูดต่อไป
"คนที่พวกเรากำลังจะไปเจอกัน เขาจะทำให้นายได้รับผลประโบชน์อย่างมาก ทุกคนควรจะได้รับสิ่งที่ดีจากนี้"
เคยังคงพูดเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ
"สมบัติก็ส่วนของสมบัติ ข้อตกลงก็ส่วนของข้อตกลง...แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับฉันหละ"
โดมินิคได้ถามออกมา เคจึงหันไปมองเขา
"ในตอนนี้ที่นายได้พูดถึงมัน...มันอาจจะแก้ไขได้ง่ายๆ"
โดมินิคได้เอียงหัวของเขาด้วยความสับสน
"นายจะทำอะไร..."
ในขณะนั้น
"ติ้ง"
เสียงของลิฟได้ดังออกมาและพวกเขาก็ได้มาถึงชั้นที่ 4 ในห้องของมอนสเตอร์ของแฟรงเก็นสไตเพื่อที่จะลงไปอีกพวกเขาจะต้องไปอีกฝั่งของห้องเพื่อที่จะลงลิฟอื่นๆ เคได้รีบเดินไปในขณะที่เขาพูดออกมา
"ตามฉันมาเร็วๆ และก็เชื่อใจฉัน นายจะไม่เสียใจแน่นอน"
จิโอวานี่ยังคงอยากรู้อยู่ว่าเขานั้นหมายถึงอะไร
"เราจะไปที่ไหนหละ"
เคตอบกลับมา
"เธอบอกว่ารังไหมในก่อนหน้านี้ใช่ไหมหละ เรากำลังจะไปที่ห้องของแมงมุมในชั้นที่สอง