Chapter 44 - Black Market Fifth Shopping (2)
Chapter 44 - Black Market Fifth Shopping (2)
"ก๊อก ก๊อก"
ซังจินได้ลืมตาขึ้นมา และอีกครู่หนึ่ง
"ก๊อก ก๊อก"
เขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูขึ้นมาอีกครั้ง ซังจินจึงหันไปทางประตูและพูดขึ้น
"ฉันตื่นแล้ว ขอบคุณมากดารูปิน"
เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกจากข้างนอก จากนั้นเขาจึงลุกขึ้นยืดตัวและล้างหน้า แต่งตัวออกไปนอกห้อง
ดารูปินได้ยืนรอเขาอยู่ในขณะที่กระพริบตาปริบๆ ซังจินได้หันไปมองและพูดขึ้น
"ฉันจะออกไปข้างนอกนะ"
"แต่ว่า...ท่านจะออกไปไหนในเวลาอย่างนี้"
ซังจินได้หยุดเดินลงและหันมามองที่เขา
"นายถามเพราะไม่รู้จริงๆอย่างนั้นหรอ"
ดารูปินได้เงียบลง ซังจินจึงหันกลับไปมองหน้าเขาและพูดขึ้น
"อย่าเป็นเช่นนั้นดารูปิน ฉันไม่ต้องการที่จะให้ใครคอยมาดูแลและป้อนอาหารให้ฉัน"
เขานั้นแปลกใจกับการแสดงออกของใบหน้าดารูปิน แต่ซังจินก็เดินออกไป
"โฮ่ง"
เมื่อเคนได้เห็นซังจินจากข้างนอก เขาก็ต้องการที่จะตามซังจินไป
"อา...เคน ไม่...ไม่ใช่ในเวลานี้"
เคนตอบกลับมาโดยการเห่า
"โฮ่ง ๆ"
เคนได้เห่าออกมาสองครั้งอย่างเหงาหงอย ดูเหมือนกับว่าเขาจะต้องการตามมา ซังจินจ้องไปที่เคนครู่หนึ่งแล้วตอบกลับมา
"...โอเคร ทำตามที่นายต้องการเถอะ"
ซังจินได้เดินไปในทางตลาดมืดแะก็มีเคนเดินตามหลังเขาอย่างใกล้ชิด ตลาดมืดนั้นเงียบมากในตอนกบางคืน
ตลาดมืดนั้นมีขึ้นเพื่อให้บริการแก่นักล่าเพียงอย่างเดียว เมื่อนักล่าได้นอนหลับมันก็ไม่มีเหตุผลที่จะเปิดร้านต่อ แต่จะมีเพียงร้านเดียวที่พิเศษ
ซังจินนั้นกำลังค้นหาร้านที่ได้เดี่ยวๆ ที่มันได้ถูกซ่อนอยู่ภายในตลาดมืด มันเป็นร้านค้าที่หายากมากที่สุด
''มันควรจะอยู่รอบๆนี้..'
แต่เขาก็ไม่เห็นมัน ซังจินจึงถามกับโอเปอเรเตอร์
"โอเปอเรเตอร์ตอนนี้กี่โมง"
[เวลาในตอนนี้คือ ตี4.32 นาที]
'ฉันจะลองรอดูอีกสักหน่อย'
ซังจินได้นั่งคุกเข่าลงเพื่อมองไปที่เคน
"เคนสถานที่ๆฉันกำลังจะไป...ฉันหมายความว่าคนที่ฉันจะไปพบ...เขาเป็นคนที่อันตราย ฉันไม่แน่ใจเกี่ยวกับเขามากนัก...แต่ฉันรู้สึกถึงมันได้ ดังนั้นนายจะต้องอยู่สงบๆนะ โอเคร?"
"โฮ่ง"
เคนได้ตอบกลับมาด้วยการเห่าสั้นๆ ซังจินได้นั่งลงเล่นกกับขนของเคน แต่แล้วเขาก็เห็นแสงไฟเปิดขี้น
ซังจินหันไปมองที่นั้นแล้วเขาก็พบว่ามันเป็นร้านค้าที่อยู่ในความมืด มันเป็นร้านค้าที่มืดกว่าร้านค้าทั้งมวล
'...ต้องเป็นที่นี่'
ซังจินได้ยืนขึ้นและกหลังจะเดินไปในร้าน แต่แล้ว
"แฮ่... แฮ่.."
เคนได้ทำตัวแตกต่างจากปกติและดูเหมือนกับว่าเขาจะกลัวมาก
"เคน ถ้าหากนายไม่ต้องการจะเข้าไป ฉันจะเข้าไปคนเดียวเอง กลับไปพักผ่อนที่โรงแรมเถอะ"
เคนได้เดินวนไปรอบๆและนั่งลงรอเขา
'ฉันคิดว่ามันคงช่วยไม่ได้'
"โอเคร รอเดี๋ยวนะเคน เดี๋ยวฉันจะกลับมา"
ซังจินได้เดินเข้าไปในความมืด ภายในร้านนั้นได้มีบันไดทอดลงไปสู่ชั้นใต้ดิน ถ้าไม่ใช้เพราะเขามีความรู้สึกว่าเท้าเขาได้สัมผัสพื้นเขาก็จะไม่รู้อะไรเลยเพราะมันมืดอย่างมาก
ซังจินนั้นค่อยๆเดินลงไปในยั้นใต้ดินอย่างระมัดระวัง เมื่อบันไดได้สิ้นสุดลงที่ชุ้นสุดท้าน ก็ได้มีแสงเทียนเล็กๆปรากฏอยู่ ภายในร้านนั้นไม่มีลูกค้าอยู่เลย
ได้มีคนคนหนึ่งนั่งบันทึกอยู่ในมุมมืด
'มันให้ความรู้สึกที่แย่มากๆ..'
ซังจินเดินเข้าไปในขณะคิดขึ้น แล้วโอเปอเรเตอร์ก็ประกาศขึ้น
[สถานที่แห่งนี้เป็นร้านค้าที่ซ่อนอยู่ 'มืดมิดยิ่งกว่าสีดำ']
ซังจินเหล่มองไปที่ลูกบาศก์ คำพูดของเธอได้จบลงเพียงแค่นั้น หากเป็นตามปกติก็จะมีคำต่อท้ายอีก
'สถานที่แห่งนี้เป็นที่ขายดาบคาตานะ'
'คุณสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติต่างๆของชาในร้านนี้ได้ฟรี'
แต่มันก็ไม่มีคำอธิบายเช่นนั้นภายในร้านแห่งนี้
'เยี่ยม...ฉันคิดว่ามันสมเหตุสมผล มันเหมาะสมแล้วหบะที่ไม่มีคำอธิบายสำหรับร้านแห่งนี้'
ซังจินได้เดินเข้าไปหาชายที่นั่งอยู่และนั่งลงในที่ตรงข้ามของเขา ในที่สุดชายที่นั่งอยู่ก็พูดขึ้น
"ผู้ที่ค้นหาคำตอบก็จะพบกับคำถาม และผู้ที่ค้นหาคำถามก็จะพบกับคำตอบ หนุ่มน้อยนายต้องการอะไร"
ซังจินพยายามที่จะมองไปที่ชายที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกับเขา แต่เขาก็ไม่สามารถจะเห็นรายละเอียดอะไรได้เนื่องจากความมืด ชายที่นั่งอยู่ได้เปิดปากพูดออกมา
"นายต้องการจะเห็นหน้าฉันหรอ? เปิดแสงได้ สว่าง"
ลูกลมๆเล็กๆได้ลอยขึ้นมาจากมือของเขา และในตอนนี้ซังจินสามารถจะมองเห็นใบหน้าเขาได้แล้ว เขานั้นเป็นมนุษย์
พ่อค้าแม่ค้าคนอื่นๆนั้นจะเป็นพวกครึ่งมนุษย์ แต่เขาคนนี้นั้นเป็นมนุษย์แท้ๆ 100% เขาดูไม่เหมือนกับจะแปลกเท่าไหร่ แต่มันก็แปลก
ใบหน้าของเขานั้นให้ความรู้สึกเหมือนกับชาวเอเชีย และในบางมุมเขาก็ยังดูคล้ายชาวตะวันตก ในขณะที่ซังจินกำลังจ้องอยู่นั้น
"แต่ทำไมใบหน้าของฉันนั้นได้ปรากฏออกมาเช่นนี้"
ใบหน้าของเขาได้เปลื่นไปเป็นของอิกกอ ซังจินนั้นตกใจมาก ชายคนนั้นยังคงพูดต่ไปเรื่อยๆในขณะที่ใบหน้าได้เปลื่ยนไป รอบนี้นั้นเป็นเซริน
"บางอย่างที่ต้องการ"
ใบหน้าของฮิโระ
"ปรากฏ"
ใบหน้าของเบลเทน
"ไม่มีค่าอะไร"
และหลังจากคำพูดสุดท้าย ใบหน้าของเขาก็กลับเป็นปกติ เขาพูดต่อออกมา
"ถ้านายมีคำถามหรือสิ่งที่ต้องการก็บอกมา ฉันมีตัวตนอยู่เพื่อตอบสนองสิ่งเหล่านี้เพียงเท่านั้น"
ซังจินกำลังจะพูดบางอย่างออกมา แต่เขาก็ถูกขัด
"ด้วยการชดเชย ฉันจะทำมันหรือให้คำตอบทุกอย่างถ้ามีการชดเชยที่เหมาะสม"
ซังจินลังเลอยู่ครู่หนึ่งและตอบกลับมา
"มันมีอยู่ใช่ไหม ไอเทมที่จะสามารถเคลื่อนย้ายระหว่างการจู่โจมได้"
****
ซังจินได้ยกกาแฟขึ้นมาหลังจากนั้นก็จิบมันไปทีหนึ่ง เขามองดูลงไปในแก้วกาแฟ กาแฟนั้นมันเป็นสีดำ แต่มันก็ไม่ได้ใกล้เคียงกำความมืดที่เขาไปได้เผชิญมาเลย
'อะไรกันนะ มืดมิดยิ่งกว่าสีดำ'
ซังจินได้คิดขึ้นอย่างนั้นและหยิบหนังสือขึ้นมาวางบนโต๊ะ
หนังสือเวทมนตร์ - โพลี่มอฟ
เวทมนตร์เขียวระดับ 5
เปลี่ยนเป้าหมายให้กลายเป็นแกะ ระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับพลังเวท ถ้าหากเป้าหมายถูกโจมตีก็จะกลับไปสู่ร่างเดิม
ซาดาเมียร์เริ่มที่จะกล่าวคำพูดที่ไม่จำเป็นออกมา
"มันเป็นเวทมนตรที่เยี่ยมมาก เมื่อท่านได้เผชิญหน้ากับศัตรูหลายๆตัว มันจะมีประโยชน์ในการช่วยเสกศัตรูให้กลายเป็นแกะหนึ่งหรือสองตัว จนกว่าที่ท่านจะจัดการอีกตัวหนึ่งเสร็จ"
ซังจินได้เห็นผลของมันโดยตรงแล้ว เขารู้สึกว่ามันเป็นเวทมนตร์ที่มีประโยชน์ เขาจึงยกมันขึ้นและพูดทันที
"เรียนรู้"
หนังสือเวทมนตร์เริ่มที่จะส่องแสงสีเขียวออกมาและหายไป
[เวทมนตร์ - โพลี่มอฟ ได้ถูกเรียนรู้แล้ว]
[คำร่ายคือ 'จงถอยคมเขี้ยวและกลายเป็นแกะที่เชื่อฟัง โพลี่มอฟ']
ต่อมาซังจินก็หยิบหนังสือเล่มสีฟ้าออกมา
หนังสือเวทมนตร์ - โซ่สายฟ้า
เวทมนตร์น้ำเงินระดับ 6
ปล่อยเส้นสายฟ้าไปใส่เป้าหมายและเชื่อมต่อไปยังศัตรูข้างเคียง
เมื่อเป้าหมายถูกโจมตี ตัวที่ถูกเชื่อมไปจะลดความเสียหายลง
เป็นอีกครั้งที่ซาดาเมียร์เริ่มสาธยายออกมา
"นี้มันเป็นทักษะเอกลักษณ์ของข้า ข้าไม่สามารถจะนับจำนวนคนที่พ่ายแพ้ด้วยเวทมนตร์บทนี้ของข้าได้"
เขาได้เล่าถึงเรื่องราวในอดีตอันยืดยาวของเขา ซังจินจึงเตรียมตัวจะเก็บเขาลงตะเกียง เขาก็ยังคงพูดต่อไปเรื่อย
"สิ่งหนึ่งที่ท่านจะต้องจดจำเอาไว้พือเมื่อท่านได้ใช้เวทมนตร์โพลี่มอฟ ได้โปรดอย่าใช้เวทมนตร์นี้เพราะมันจะทำให้เวทมนตร์ก่อนหน้าถูกยกเลิก โปรดจดจำไว้เมื่อท่านได้เรียนรู้มัน"
ซังจินคืดว่าคำพูดของเขาสมเหตุสมผลดี เขาจึงหยักหน้ารับ
"เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ ซาดาเมียร์"
ซังจินยกหนังสือขึ้นและพูดออกมา
"เรียนรู้"
หนังสือได้เปล่งแสงสีน้ำเงินสลัวออกมา เมื่อเขาได้เรียนรู้เวทมนตร์นี้เสร็จสิ้น มันก็ได้ถึงเวลาสำหรับอัพสเตตัส
"โอเปอเรเตอร์"
ซังจินได้เรียกโอเปอเรเตอร์ เขานั้นได้คิดวางแผนแบ่งแต้มสเตตัสเอาไว้แล้ว
"เพิ่มค่าความแข็งแรง 1500 ความคล่องแคล่ว 2000 ความอดทน 100 พลังเวท 700 พลังจิตใจ 1500]
[เรียบร้อยแล้ว]
"แสดงหน้าต่างสเตตัสของฉันที"
โอเปอเรเตอร์ได้แสดงหน้าต่างสเตตัสออกมาในทันที
ความแข็งแรง 4412 (+1324)
ความคล่องแคล่ว 5093 (+1528)
ความอดทน 3315 (+995)
พลังเวท 1619 (+486)
พลังจิตใจ 2012 (+604)
แต้มที่ยังไม่ได้อัพ: 0
สิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากก่อนหน้านี้คือความสำคัญของพลังจิตใจ ในก่อนหน้านี้เขาได้อัพพลังเวทไว้สูง มันได้ทำให้เขาไม่สามารถใช้เวทมนตร์ในตอนที่ต้องการได้
ในตอนแรกซังจินคิดว่าจะเพิ่มพลังเวทไปอย่างช้าๆ แต่เมื่อเขาได้ทดสอบใช้กับพวกมอนสเตอร์ในทะเลทราย มันก็ให้ผลประโยชน์ทำให้เขาจัดการศัตรูที่เขาหาได้ยากได้อย่างสบายๆ
'จงเผาไหม้ทุกสิ่งในเส้นทาง บอลไฟ'
หากปราศจากเวทมนตร์ การฆ่าหนอนมันจะกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญมากสำหรับซังจิน
'ในสภาพสเตตัสปัจจุบันนี้ไม่น่าจะมีปัญหากับเรื่องเวทมนตร์...ฉันคิดว่าฉันได่เพิ่มแต้มเพียงพอแล้ว'
ซังจินคิดว่าในตอนนี้เขาไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องสเตตัสแล้ว เพราะว่าด้วยเพียงแค่สเตตัสในตอนนี้อย่างเดียวเขาก็สามารถจะเคลียการจู่โจมได้แล้ว มีเพียงประเด็นเดียวในตอนนี้ที่เขาจะต้องตัดสินใจ
'ในรอบหน้าฉันควรจะลองใช้ฉายานักล่าสมบัติดีไหม'
เขาคิดว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาใด เพราะในก่อนหน้านี้เกือบทุกบทก็ได้กลายเป็นสมบัติสำหรับเขา
ในทุกๆบท ซังจินได้เติบโตขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อไม่ให้เกิดความอันตรายขึ้นในการจู่โจม ดังนั้นในตอนนี้ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการลองใช้ฉายานักล่าสมบัติ
"โอเปอเรเตอร์เปลื่ยนฉายาเป็นฉายานักล่าสมบัติ"
[เรียบร้อยแล้ว]
ซังจินได้เสร็จสิ้นการเตรียมการทั้งหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงเริ่มหยิบแซนวิซที่อยู่ถัดไปจากถ้วยกาแฟมากิน
ในขณะที่เขากำลังเพลิดเพลินไปกับอาหารเขาก็ได้อ่านข้อมูลในกระดาษไปด้วย
'ข้อมูลของซากปรักหักพังของเคาท์เดมิทรี'
ซังจินถามโอเปอเรเตอร์ออกมา ในขณะที่ไม่ละสายตาจากกระดาษ
"โอเปอเรเตอร์เหลือเวลาเท่าไหร่ก่อนการจู่โจมจะเริ่มขึ้น"
[36 นาที 24 วินาที]
'เหลือเฟือ'
ซังจินได้ค่อยๆอ่านข้อมูลจากข้างบนลงมาข้างล่างเรื่อยๆ แล้วเขาก็ได้รู้สึกกระวนกระวายกว่าปกติ
ในช่วงท้ายของการจู่โจมเขาได้วางแผนที่จะซื้อของ 'สิ่งนั้น' ที่จะทำให้ซังจินสามารถแทรกแซงการจู่โจมอื่นๆได้
ไม่เหมือนกับในครั้งอื่นๆ ซังจินได้จดจ่อกับข้อมูลที่อยู่ในแผ่นกระดาษ ข้อมูลที่ทำให้เขาสะดุดตาที่สุดนั้นคือข้อมูลของบอส
...ทักษะพิเศษของบอสเคาท์เดมิทรีคือ 'กาดูดเลือด' ถ้าหากเขาดูดเลือดสำเร็จพลังชีวิตของเขาจะเพิ่มขึ้นและมีพลังที่มากขึ้น การปกป้องเพื่อนร่วมทีมของคุณเป็นกุญแจไปสู่ความสำเร็จของการจู่โจมนี้
'ปกป้อง...ฉันไม่ค่อยเก่งในเรื่องนี้ด้วยสิ...'
และในขณะที่เขากำลังอ่านข้อมูลเพลินๆเขาก็ได้ถูกวาปออกไป