Chapter 43 - Black Market Fifth Shopping
Chapter 43 - Black Market Fifth Shopping
ซังจินได้นั่งลงอยู่บนพื้นในนณะที่ดาบวางอยู่ข้างๆ
สถานที่ๆซังจินั่งอยู่นั้นคือฮอลล์นักล่า มันคือฮอลล์ขนาดใหญ่ที่เหมือนกับจะไร้ที่สิ้นสุด
ในไม่ช้าก็ได้มีเสียงดังขึ้นพร้อมกับผู้คนปรากฏตัวขึ้นมา ซังจินเงยหน้าขึ้นมองไปที่พวกเขา ทุกๆคนต่างก็เต็มไปด้วยเหงื่อและทรายเกาะตามตัว
เมื่อฝูงชนปรากฏมามากขึ้นใบหน้าของโอเปอเรเตอร์ก็ปรากฏขึ้นมาบนจอ
[ขอแสดงความยินดีด้วย]
[นักล่าที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ได้ผ่านบทที่ห้ามาเรียบร้อยแล้ว]
ไม่มีใครยินดีไปกับคำพูดนั้น พวกนักล่าต่างก็ต้องต่อสู้และดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากก่อนหน้านี้ครู่หนึ่ง
[จำนวนนักล่าที่เหลือรอดอยู่ในปัจจุบันคือ 637,024 คน]
[การจู่โจมนั้นเริ่มขึ้นด้วยจำนวนนักล่าทั้งหมด 7,310,067,613 คน]
[ตอนนี้นั้นนักล่าได้เหลือน้อยกว่า 1 ใน 10 ของตอนเริ่มต้น]
ซังจินพยายามนึกย้อนกลับไปในอดีต เขาจำได้ว่าเมื่อตอนที่เขาเคลียบทนี้ในอดีต โอเปอเรเตอร์ก็ได้บอกถึงจำนวนคนเช่นกัน แต่ว่าเขาจำ จำนวนไม่ได้แล้ว
'มันขึ้นอยู่กับโชคชะตา ฉันรู้สึกว่าทุกสิ่งมันผันผวนอย่างมาก'
ในขณะที่ซังจินอยู่ในความคิดตัวเอง โอเปอเรเตอร์ก็พูดต่อไป
[ทุกๆคนในที่นี้เป็น 0.1% ของคนทั้งหมด]
[คุณได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าคุณนั้นมีคุณค่า]
[โปรดเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆและแข็งแกร่งขึ้น]
[แล้วจากนั้นก็เคลียการจู่โจมทั้งหมด]
หลังจากนั้นรูปของโอเปอเรเตอร์ก็ได้หายไปและแทนที่ด้วยรูปคนอื่นๆ ซังจินตัดสินใจหันหน้าหนีและสังเกตุสีหน้าคนอื่นๆ
ทุกๆคนได้มีสีหน้าที่โกรธแค้นและโมโหในทันที พวกเขานั้นจะเห็นภาพของเพื่อนและครอบครัวของพวกเขาที่ได้ตายลง
[เพื่อที่จะเตือน]
[เมื่อการจู่โจมสุดท้ายได้จบลง]
[ทุกๆคนที่ถูกคุมขังไว้ในนรกจะฟื้นกลับมา]
มีใครบางคนได้สถบออกมา
"เวรเอ๊ย...เราจะไปเชื่อแบบนั้นได้ยังไง?"
บางคนก็แสดงความคิดเห็นออกมา
"มันได้จับพวกเขาไว้เป็นตัวประกัน...นี้มันเป็นการขู่กรรโชกชัดๆ"
แต่แล้ว
[เริ่มจากบทนี้เป็นต้นไป ที่ใจกลางของตลาดมืด]
แม้ว่าในก่อนหน้านี้จะมีเสียงบทออกมามากมาย แต่เมื่อโอเปอเตอร์ได้เริ่มพูดพวกเขาก็เงียบลงในทันที คำพูดของโอเปอเรเตอร์นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากเพื่อที่จะเอาชีวิตรอด
[พื้นที่ใหม่จะปรากฏออกมา]
[มันจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการช่วยเพิ่มโอกาสเอาตัวรอดของคุณ ดังนั้นฉันจึงขอแนะนำให้พวกคุณไปเยี่ยมชมที่นั่นอย่างน้อยสักครั้ง]
[คุณจะถูกส่งไปในตลาดมืดในอีก 10 วินาที]
ซังจินสามารถได้ยินเสียงบ่นอยู่รอบๆตัวเขา
"พื้นที่ใหม่? มันคืออะไร?"
"มันอาจจะไร้ประโยชน์หากปราศจากเหรียญ"
มันช่วยไม่ได้ที่ซังจินจะคิดขึ้น
'นายจะไม่ต้องการมันเลย'
[3 2 1 0]
พร้อมกับเวลาที่นับจบลง ผู้คนภายในฮอลล์แห่งนี้ได้ถูกส่งตัวไปในที่ต่างๆของตลาดมืด
****
ซังจินเริ่มออกเดินทันทีที่เขามาถึงตลาดมืด เป้าหมายของเขานั้นคือร้านคาตานะของเคนเนท เมื่อเขาได้มาถึงหน้าร้านเขาก็หยุดลงและถามกับโอเปอเรเตอร์
"โอเปอเรเตอร์ฉันมีเหรียญดำอยู่เท่าไหร่"
[คุณมีเหรียญดำ 12550 เหรียญ]
ซังจินหยักหน้าและเดินเขาไปภายในร้านของเคนเนท เช่นปกติเคนเนทได้กล่าวทักทายเขาทันทีที่เข้ามา
"ยินดีต้อนรับท่านนักล่า"
"เฮ้เคนเนท ขอโทษด้วยนะ....แต่ว่า...ฉันขอ..ดูบลัดเวเจนอีกครั้งได้ไหม"
มันเป็นครั้งที่สามแล้ว แต่เคนเนทก็ยิ้มอย่างสดใสและตอบกลับมา
"แน่นอนอยู่แล้ว ท่านสามารถดูได้"
และนี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่เคนเนทได้ส่งบลัดเวเจนให้แก่ซังจิน เมื่อซังจินได้ถือมูนสเปคไว้ในมือขวาและถือบลัดเวเจนไว้ในมือซ้าย เขาก็ได้ลองเหวี่ยงดาบออกมา ดาบได้เคลื่อนไหวผ่านอากาศไปอย่างราบรื่น
"สสสส สสสส"
เคนเนทหัวเราะออกมาในขณะกำลังตบมือ
"ฉันเคยเห็นลูกค้าหลายคนที่ได้ใช้ดาบสองมือ....แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นผู้ที่ใช้ดาบสองมือได้ยอดเยี่ยมเช่นนี้"
ซังจินก็มีความสุขมากเช่นกัน เขาสามารถใช้ดาบทั้งสองเล่มได้พร้อมกัน ด้วยดาบสองเล่มนี้เขาก็ไม่ต้องการอาวุธอื่นใดอีก
ซังจินยกบลัดเวเจนขึ้นมาและพูดขึ้น
"ฉันขอซื้อดาบเล่มนี้ โอเปอเรเตอร์ช่วยจ่ายด้วย"
ลูกบาศก์ได้ลอยไปข้างหน้าและทำการค้าขายเสร็จสิ้น เคนเนทได้โค้งคำนับและกล่าวขอบคุณกับซังจิน
"9700 เหรียญสำหรับบลัดเวเจน 1 เล่ม ขอบคุณมากสำหรับการค้า"
แ้วยความสุภาพและนอบน้อม ซังจินตอบกลับด้วยการก้มหัว
"ขอบคุณมาก ฉันจะดูแลมันอย่างดี"
ซังจินแขวนบลัดเวเจอไว้ในเข็มขัดของเขา ในที่สุดตอนนี้เขาก็ได้กลายเป็นนักดาบสองมือ
ในขณะที่ซังจินกำลังจะเดินกลับโรมแรมเขาก็ได้นึกถึงบางสิ่ง
'อา...ใช่แล้ว'
ในพื้นที่ใหม่ที่ถูกสร้างมามันมีสิ่งที่เขาต้องทำ ซังจินได้เดินผ่านร้านค้ามากมายไปสู่ใจกลางตลาดมืด
ในพื้นที่ตรงกลางวางเปล่าก่อนหน้านี้ ได้มีแผงรอยวงกลมตั้งอยู่โดยที่มีมนุษย์หมูสามตัวดูแล
"คุณมีอะไรที่ต้องการจะขายหรือไม่"
"หรือว่าคุณต้องการจะซื้ออะไรบางอย่าง"
"ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม โปรดเข้ามาก่อน"
เมื่อซังจินได้เดินมาถึงโอเปอเรเตอร์ก็ได้เริ่มคำอธิบายของเธอ
[นี้คือร้านของพี่น้องอชิ 'เวลาคือเงิน']
[นักล่าสามารถนำไอเทมมาประมูลทิ้งไว้ในที่แห่งนี้ ซึ่งสามารถถูกซื้อโดยนักล่าคนอื่น]
ซังจินได้เดินเข้าไปหาหมูที่ตัวเล็กที่สุดจากนั้น
"โอเปอเรเตอร์ส่งแมนต้ามาที"
ซังจินรับแมนต้ามาจากลูกบาศก์แล้วส่งไปให้มนุษย์หมู
"ช่วยนำไปประมูลที"
มนุษย์หมูได้ตอบกลับมา
"โอ้ นี่มันเป็นไอเทมระดับวีรบุรุษ ราตคาขั้นต่อของราคามันจะอยู่ที่ 2000 เหรียญ ถ้าหากมีใครบางคนมาเสนอราคา ไอเทมก็จะอยู่จนถึงพระอาทิตย์จะตกดินสำหรับการเสนอราคาอื่น"
"ฉันรู้ เริ่มประมูลทีื 3000 เหรียญ และตั้งราคาที่ 6000 เหรียญสำหรับการซื้อทันที"
ซังจินนั้นรู้ราคาด้วยทั่วไปของไอเทมพวกนี้จากประสบการณ์ของเขา
ไอเทมระดับแรร์ราคาจะระหว่าง 500-5000 ระดับวีรบุรุษจะอยู่ระหว่าง 2000-5000 และระดับตำนานจะอยู่ระหว่าง 5000-50000
ไอเทมในระดับตำนานที่มีชิ้นเดียวจะไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ เพราะจะไม่มีใครนำลงมาขายส่วนใหญ่พวกเขาจะใช้ช่วยในการจู่โจม
เช่นเดียวกับที่ซังจินไม่คิดจะขาย 'เรื่องราวของสามก๊ก' ออกไป
"รับทราบ"
มนุษย์หมูได้หยิบไอเทมและนำไปวางไว้บนลูกบาศก์ขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางร้านค้า
"ถ้าหากไอเทมขายออกไปแล้ว เราจะส่งเงินไปที่โรงแรมเก้าสิบเก้าคืน"
ซังจินหยักหน้ารับ ปกติแล้วไอเทมชนิดเวทมนตร์จะขายไม่ค่อยได้ มันเป็นเพราะนักล่าส่วนใหญ่จะยังไม่พร้อมสำหรับการใช้เวทมนตร์จนกว่าจะถึงบทที่ 7 หรือ 8
แต่ตราบใดที่มันยังอยู่ในร้านค้าก็อาจจะใครบางคนมาซื้อมันไป มันเป็นไอเทมที่ไม่เลวเลย มนุษย์หมูอีกตัวหนึ่งเดินเข้ามาหาซังจิน
"มีอะไรที่นายต้องการจะซื้อไหม"
ซังจินส่ายหัว แต่แล้วเขาก็คิดแปปหนึ่งและถามออกมา
"...มีไอเทมระดับตำนานที่กำลังขายอยู่ไหม"
"มัน...ไม่มีไอเทมระดับตำตานที่ขายอยู่เลย"
อย่างที่เขาคิด มันยังเร็วเกินไปที่จะมีไอเทมระดับตำนานโผล่ออกมา เนื่องจากซังจินไม่มีความสนใจในไอเทมที่ระดับต่ำกว่าตำนาน เขาจึงเดินออกจากร้านค้านี้ไป
"โอเค ฉันจะกลับมาตรวจสอบอีกครั้งในภายหลัง"
ซังจินเดินทางกลับโรงแรมในทันที ตอนนี้เขาได้ตัดสินใจกับเมนูอาหารเรียบร้อยแล้ว
****
"ซูด"
มันเป็นก๋วยเตี๋ยวเย็น ซังจินได้ดื่มน้ำซุปของมันจากขอบของชาม มันให้ความรู้สึกสดชื่นมากหลังจากที่เขาพึ่งได้ผ่านทะเลทรายมา
"ตอนนี้ท่านดูดีขึ้นมากเลย เจ้านาย"
ซาดาเมียร์ได่กล่าวออกมาขณะที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกับเขา ซาดาเมียร์นั้นสามารถปรากฏตัวออกมาได้ในโรมแรมเช่นเดียวกับเคน
"แน่นอน ทะเทรายคูตาลนั้นเป็นทะเลทรายเพียงแห่งเดียวที่ฉันเคยไป แล้วที่นายพูดว่านายไม่ต้องการกินอะไรนี้คือยังไง?"
"ใช่แล้ว ข้าจำเป็นต้องดูดซับมานาจากบรรยากาศเพียงเท่านั้น"
"เข้าใจละ..."
"งับ งับ"
เคนได้กับลังยุ่งกับการกินเนื้อไก่ของเขา ซังจินก้นลงไปลูบหัวของเคน
"ดี ดี ดีมาก กินให้อร่อยนะเคน"
ในตอนนี้เคนตัวค่อนข้างจะใหญ่ขึ้นแล้ว ในก่อนหน้านี้เขาเห็นมันไม่ค่อยชัด แต่ในตอนนี้ซังจินก็มั่นใจ เคนได้เติบโตขึ้นในแต่ละวันอย่างรวดเร็ว
'นี้มันทำให้ฉันรู้สึกสงสัย?'
ซังจินได้รู้สึกสงสัย แต่เขาก็ได้สลัดความคิดไปอย่างรวดเร็วดูเหมือนกับว่าเวลาในตลาดมืดจะไหลไปอย่างรวดเร็ว
การจู่โจมจะเริ่มขึ้นในตอนเช้า แต่เมื่อถึงเวลาที่พวกเขากลับมามันกลับเป็นช่วงบ่ายตลอด มันจะไม่แปลกเลยถ้ามันอาจจะผ่านไปหลายวันในขณะที่พวกเขาอยในการจู่โจม เมื่อซังจินกินอาหารเสร็จเขาก็กล่าวออกมา
"ไว้เจอกันใหม่นะ ซาดาเมียร์ เคน"
ซังจินหันหน้าไปหน้าดารูปินและกล่าวขอบคุณ
"ขอบคุณสำหรับอาหารนะ"
เมื่อเขากล่าวจบเขาก็กลับขึ้นไปบนห้อง เขาเหนื่อยมากเนื่องจากความร้อนจากทะเลทราย
เขาได้ลงไปแช่ในอ่างน้ำอย่างที่เขาเคยทำเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ
"ฮ่าห์.."
มันช่วยไม่ได้ที่ซังจินจะถอนหายใจออกมา เขารู้อยุ่แล้วว่ามันเป็นการจู่โจมที่ลำบาก แต่มันก็ได้ลำบากกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ มันเป็นเพียงความเหนื่อยทางกาย แต่
'ฆ่าฉัน และอยู่รอดต่อไปจนถึงจุดจบ จากนั้นก็ปลดปล่อยมนุษยชาติทุกคนให้เป็นอิสระ'
หลังจากที่เขาได้ฆ่าอิกกอด้วยมือของเขา เขาก็รู้สึกวุ่นวายภายในใจ เขาได้ลืมบางอย่าง แต่
'เมื่อการจู่โจมครั้งสุดท้ายจบลง ทุกๆคนที่ถูกคุมขังไว้ในนรกจะฟื้นขึ้นมา'
อิกกอและโอเปอเรเตอร์ได้เตือนถึงไารกิจหน้าที่ของเขา มันเหมือนกับว่าความอยู่รอดของมนุษยชาติได้อยู่บนบ่าของเขา มันเป็นภาระหน้าที่ที่หนักมาที่เขาต้องทำ
ซังจินแหวนหน้าขึ้นไปมองเพดาน
'แต่..นี้ไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะสามารถเคลียได้ด้วยตนเอง...'
ถ้าเขาสามารถจะสามารถเคลียทุกๆการจู่โจมได้ด้วยตนเอง มันก็จะยอดเยี่ยมมาก แต่มันเป็นไปไม่ได้ การจู่โจมมันได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ถูกเคลียด้วยทีมเวิร์ค
ยิ่งการจู่โจมดำเนินไปมากขึ้น เพื่อนร่วมทีมก็ยิ่งเป็นสิ่งจำเป็น มันไม่ใช่เพียงแค่ต้องการเพื่อนร่วมทีมที่แข็งแกร่งแต่ต้องเป็นเพื่อนร่วมทีมที่เขาไว้ใจได้ แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะเจอทั้งสองคุณสมบัตินั้นในคนๆเดียวกัน
มันเป็นความจริงในโลกแห่งความเป็นจริง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจู่โจม มันช่วยไม่ได้ที่เขาจะนึกถึงคำพูดของอิกกอ
"ในทางแบบนี้ก็ไม่ใช่การดำเนินไปของโลกใบนี้ การแข่งขันแย่งชิงทรัพยากรมันที่จพกัดเกมนี้มันมีโครงสร้างเป็นแบบนี้ ทำการเคลียการจู่โจมรวมกับแล้วหลังจากนั้น
เขานั้นไม่ได้ผิด การออกแบบของการจู่โจมดูเหมือนกับจะกระตุ้นให้เกิดฆาตกร มันหาได้ยากมากที่จะหาคนที่จิตใจดีแต่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบที่จะได้รับรางวัลจากการฆ่า
'ดังนั้น...ในระบบนี้มันชอบคนชั่วมากกว่าคนดี?'
ถ้ามันเป็นความจริง แล้วสิ่งที่ต้องทำโดยพิจาณาจาก 'ความล้มเหลวก่อนหน้านี้' ซังจินนอนพักลงในอ่างและคิดกับตัวเองถึงในกรณีของเซรินและอิกกอ
'ถ้าฉันตั้งใจจะเคลียการจู่โจมครั้งสุดท้าย...ฉันไม่สามารถเป็นคนเดียวที่จะแข็งแกร่งขึ้น..ฉันต้องการต้องการจะเอาชนะระบบนี้และสามารถควบคุมการจู่โจมได้ทั้งหมด...'
แล้วเขาก็คิดถึงบางสิ่ง
'เอาชนะระบบ'
มันมีสถานการณ์ที่อาจจะเป็นไปได้ ซังจินลุกขึ้นจากอ่างน้ำและเช็ดตัวด้วยผ้าเช็ดตัว
"ก๊อก ก๊อก"
ดารูปินปรากฏตัวออกมาราวกับว่าเขารู้ว่าซังจินอาบนน้ำเสร็จแล้ว
"เข้ามาเลย"
ดารูปินเข้ามาทักทายเขาอย่างสุไาพและส่งกระดาษให้เขาแผ่นหนึ่ง
"มันเป็นข้อมูลในบทต่อไป"
ซังจินรับมาและถามดารูปิน
"ดารูปินฉันมีคำขอพิเศษสำหรับคืนนี้"
"ได้โปรดปลุกฉันในตอนตี 4.20 นาที ไม่สิ ตี 4.10 นาที"
"ตี 4 ?"
ดารูปินได้มองเขาอย่าง งงๆ เขาไม่เข้าใจเกี่ยวกับสิ่งนี้ ดารูปินกระพริบตาอยู่สองสามครั้ง และซังจินก็ตอบกลับมา
"ใช่แล้ว นายนอนหลับในช่วงระหว่างวันใช่ไหมหละ"
ไม่มีทางที่ดารูปินจะปฏิเสธ
"รับทราบ"
หลังจากดารูปินได้จากไป ซังจินก็ตรงไปที่เตียงนอน เขาต้องนอนเร็วกว่าปกติ เพราะเขาจะต้องตื่นขึ้นในเวลาตี 4.10 นาที เพื่อที่จะไปยังตลาดที่ซ่อนอยู่ซึ่งจะเปิดทำการในเวลาตี 4.30