Chapter 35 - Kutan desert (2)
Chapter 35 - Kutan desert (2)
[3 2 1 0 การจู่โจมได้เริ่มขึ้น]
ด้วยสัญญาณนี้ นักล่าเริ่มที่จะเคลื่อนที่ไปในทะเลทรายอย่างระวัง ซังจินตัดสินใจที่จะอยู่ติดไปกับพวกเขาเมื่อการจู่โจมเริ่มขึ้น เขาไม่ได้มีความคิดที่จะมีส่วนร่วมไปกับการล่าเป็นกลุ่มในตอนที่พักอยู่
ด้วยความแตกต่างของความสามารถที่มากเกินไป มันจะดีกว่าถ้าหากออกล่าด้วยตัวคนเดียวและเคลียการจู่โจมลงด้วยตัวคนเดียวอย่างรวดเร็วก่อนที่จะไปค้นหาชิ้นส่วนลับต่อ
ที่เป็นเช่นนี้เพียงเพราะเขาแค่อยากจะรู้เกี่ยวกับทักษะของเพื่อนร่วมทีม โดยเฉพาะกับแกลดิเอเตอร์อิกกอ
'ฉันจะอยู่ดูสักสองสามนาทีก่อนจะออกไปฆ่าบอส'
อย่างที่คาดไว้ ผู้พิทักษ์ระดับสูงบูกิไตได้อยู่ในแนวหน้า ถัดมาคือแกลดิเอเตอร์อิกกอ ตามมาด้วยคนคลั่งราล์ฟและสุดยอดนักล่าซังจิน
นักสำรวจระดับสูงมูเนียร์ได้ยืนอยู่ในแนวหลังพร้อมกับหน้าไม้ ตำแหน่งของนักล่าได้ถูกกำหนดตามอาวุธที่พวกเขาได้ถืออยู่
ซังจินได้เดินไปเรื่อยๆกับนักล่าคนอื่นๆ และแมงป่องยักษ์กได้โผล่ออกมาจากเนินทะเลทราย
มันมีความยาวประมาณ 5 เมตร มีก้ามขนาดใหญ่อยู่ทั้งสองข้างและหางพิษที่เป็นสัญลักษณ์ยาวสองเมตรอยู่ด้านบน
"ฟุบ ฟุบ ฟุบ"
สามหรือสี่ลูกศรได้ถูกยิงจากหน้าไม้ของมูเนียร์อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามแมงป่องยักษ์รู้สึกได้ถึงบางอย่างจึงยกก้ามขึ้นมาป้องกัน
ลูกศรของมูเนียร์ไม่สามารถที่จะทะลวงก้ามของแมงป่องเข้าไปได้และกระเด็นออกมา
แมงป่องได้ขยับขาของมันอย่างรวดเร็วและพุ่งเขามาหากลุ่มนักล่าด้วยความเร็วที่น่าตกใจ บูกิไตที่อยู่แนวหน้าได้ยกโล่ของเขาขึ้นอย่างเคร่งเครียด
อย่างไรก็ตามก่อนที่แมงป่องจะได้เข้ามาถึงกลุ่มนักล่า มูเนียร์ก็ได้ลดหน้าไม้ลงและชูมือขึ้นมาข้างหนึ่ง
"จงพันธนาการมันด้วยน้ำแข็ง ฟรอสต์ไบท์"
'อืมมม?'
ซังจินจ้องมองไปที่เขา นี้มันดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องไม่ปกติ 'ฟรอสต์ไบท์' เป็นเวทมนตร์ระดับสองที่ได้จากลิช ด้วยการลงทุนแต้มเพียงเล็กน้อยก็จะพอเป็นไปได้ที่จะร่ายมันออกมา
ปัญหาก็คือประสิทธิภาพของมัน สเตตัสของเขาน่าจะมุ่งเน้นไปที่การใช้หน้าไม้ซึ่งนั้นก็จะหมายความว่าผลของเวทมนตร์นั้นจะอ่อนแอ และเมื่อดูผลของมันพื้นที่มันก็ดูจะเล็กกว่าตอนที่ซังจินจะได้ลองใช้ในบทที่สี่
เวทมนตร์นี้มันจึงทำได้เพียงทำให้มอนสเตอร์เคลื่อนที่ได้ช้าลงเพียงเท่านั้น แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย
"ย่าา"
ต้องขอบคุณเวทมนตร์ของเขา บูกิไตจึงสามารถที่จะตั้งมั่นโล่และพุ่งเขาไปปะทะได้ แมงป่องได้เหวี่ยงกล้ามของมันอย่างบ้าคลั่ง
บูกิไตก็ได้ใช้โล่ยักษ์อย่างชำนาญป้องกันทุกๆการโจมตีจากกล้ามของมัน ในขณะเดียวกันนั้น
"หาง!"
มูเนียร์ได้ตะโกนออกมาจากด้านหลัง บูกิไตนั้นกำลังถูกกล้ามของมันดวนใจอยู่จึงไม่ได้สังเกตุเห็นหางของแมงป่องที่ได้โจมตีมา
มันช้าเกินไปแลล้วที่บูกิไตจะยกโล่ของเขาไปป้องกันหางที่พุ่งเข้ามา แต่ก่อนเขาจะถูกโจมตี
"ปังง!"
แกลดิเอเตอร์อิกกอได้เข้ามาป้องกันหางด้วยโล่ของเขา ไม่ใช่เพียงแค่นั้นเขาได้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อและเหวี่ยงดาบตัดหางของแมงป่องยักษ์ออกไป
ซังจินเม้มริมฝีปากและหยักหน้า
"โอ้..."
ด้วยการโจมตีที่รวดเร็วรุนแรงของเขา โดยที่ไม่คิดถึงอุปกรณ์ เขาจะต้องมีค่าสเตตัสที่สูงพอตัว เขาคงจะรักษาระดับผลงานที่ทำให้สูงมาจนถึงตอนนี้
ด้วยหางที่หายไปแล้ว กล้ามที่ยังยุ่งกับการโจมตีบูกิไตก็ได้ถูกตัดออกด้วยฝีมือของคนคลั่งราล์ฟ
"ฟุบ ฟุบ ฟุบ"
มูเนียร์ได้ยิงลูกศรสามลูกเข้าไปในจุดเปราะบางของร่างกายแมงป่อง พวกเขาทั้งสีคนสามารถที่จะฆ่าศัตรูตัวแรกได้อย่างไม่มีปัญหามากนัก
มูเนียร์เลียลิมฝีปากและผิวปากออกมา ราล์ฟหันหน้ากลับหลังไปมองคนที่อยู่ข้างหลัง
"ฉันคิดว่าพวกเราจะไม่มีปัญหาหากเป็นเช่นนี้"
แต่ก็ได้มีบางอย่างที่ผิดปกติด้านหลังของเขามีคนเพียงแค่สามคน หายไปคนหนึ่ง
"อา?"
"ชาวจีนหายไปไหน"
อิกกอได้หันมองไปรอบๆเพื่อมองหาเขา มีเพียงแค่บูกิไตเท่านั้นที่เติบโตขึ้นมาในที่ราบกว้าง เขาจึงสามารถที่จะมองเห็นซังจินที่อยู่ไกลออกไปได้ แต่ก็เพียงแค่แปปเดียว
ซังจินก็ได้หายไปจากสายตาโดยการใช้ 'สวิฟพาว'
บูกิไตได้หรี่ตาลงเพื่อจ้องมอง แต่รูปร่างของซังจินก็ได้หายไประหว่างคลื่นความร้อน
****
ซังจินหยุดลงครู่หนึ่งหลังจากที่ได้วิ่งมาไกล เพื่อที่จะเทน้ำลงบนหัวเพื่อคลายความร้อน
"โครตร้อน"
เขาไม่ได้ตั้งใจวิ่งไปที่ใดที่หนึ่ง เพราะมันเหมือนกับในตอนอเฮนน่า บาซิลิสจะปรากฏตัวออกมาเมื่อมอนสเตอร์ได้ถูกกำจัดเพียงพอ
ซังจินเพียงแค่ไม่ต้องการจะแชร์ค่าผลงานกับผู้อื่นเพียงเท่านั้น
'ทั้งสี่คนนั้นดูจะแข็งแกร่ง ดังนั้นพวกเขาคงจะไม่เจอกับสิ่งที่สามารถจะฆ่าพวกเขาได้ง่ายๆ'
ซังจินได้เริ่มการล่าคนเดียวในทะเลทรายแห่งนี้ เขามองเห็นกิ้งก่าขนาดใหญ่อยู่ไกลออกไปในทะเลทราย เพียงแค่ลำตัวของมันก็ยาว 4 เมตรไปแล้วและเมื่อได้รวมกับหางของมันกิ้งก่าก็ได้ยาวถึง 6 เมตร
มันอยู่อย่างเงียบๆเชกเช่นศพในระยะไกล นี้คือลักษณะโดยปกติของกิ้งก่ามันจะเงียบและนิ่ง แต่เมื่อใดที่มันตัดสินใจจะเคลื่อนไหว มันจะเคลื่อนที่ด้วยความคล่องตัวที่น่าตกใจ
ซังจินหยิบมูนสเปคออกมาและเข้าไปหากิ้งก่า กิ้งก่าก็ยังคงนอนนิ่งเช่นเคย
'หยุดแสดงได้แล้ว'
ซังจินคิดขึ้นมาและเตรียมตัวจะวิ่งเข้าไปฟันมันด้วยดาบของเขา แต่
'จงพันธนาการด้วยน้ำแข็ง'
เขาได้นึกถึงเวทมนตร์มูเนียร์และเขาก็ได้เปลิ่ยนความคิด เขาย้ายมูนสเปคจากมือขวาไปอยู่ในมือซ้ายของเขา และพูดขึ้น
"จงพันธนาการด้วยน้ำแข็ง ฟรอสต์ไบท์"
มันได้ผลอย่างน่าตกใจ แม้จะมีความร้อนจากทะเลทรายก็ตาม พื้นที่รอบๆบริเวณที่กิ้งก่าอยู่ก็ได้แข็งตัวลง พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้ขยายตัวมีขนาดใหญ่กว่าครั้งล่าสุดที่เขาได้ใช้ในบทที่สี่ แน่นอนเขาได้เห็นประโยชน์ของการมีพลังเวทสูงแล้ว
เมื่อเท้ามันเริ่มจะแข็ง กิ้งก่ามันก็เลิกทำท่าเป็นตายและเริ่มที่จะดิ้นรนเพื่อที่จะเป็นอิสระ ซังจินรีบวิ่งเข้าไปหากิ้งก่าอย่างรวดเร็ว
"แคร๊ก"
กิ้งก่าพยายามที่จะหลบแต่มันก็ไม่มีทางเอาชนะความต่างของสเตตัสตัดได้ ซังจินยกดาบขึ้นมาตัดหัวมันและคิดกับตัวเอง
'มันก็ยังคงหนึ่งดาบหนึ่งตัว'
เพียงเท่านั้น
'วูบ'
หางขนาดใหญ่ได้เหวี่ยงเข้ามาใส่ใบหน้าของเขา ซังจินได้เหวี่ยงดาบอย่ารวดเร็วและตัดหางมันออก
'อะไรน่ะ?'
เมื่อเขาตรวจสอบรอบๆ เขาก็เห็นกิ้งก่าที่ไร้หัวกำลังดิ้นอย่างไร้เหตุผล
'อา...ฉันลืมไปเลย'
แม้ว่าหัวของมันจะถูกตัดออก ร่างกายของมันก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกครู่หนึ่ง แน่นอนว่ามันไม่สามารถจะเล็งโจมตีได้ถ้าหัวขาด แต่ก็ควรจะระวังรอบๆหลังจากตัดหัวมันออก
เขาสงบจิตใจอีกครั้งเมื่อมองเห็นแมงป่องยักษ์สองตัวพุ่งเขามาหาเขา เมื่อมองอย่างระมัดระวังก็จะเห็นตัวที่สามอยู่หลังสองตัวแรก
ทั้งหมดมันมีสามตัว มันไม่ได้แย่เลย มันไม่ได้เป็นเหมือนพวกมอนสเตอร์ปกติที่ไม่สามารถจะสร้างบาดแผลให้เขาได้ แม้แต่เส้นผมเส้นเดียวก็ตาม
'เร็ว เข้ามา เข้ามา'
ซังจินพุ่งเข้าไปหาแมงป่อง เขาตัดผ่านก้ามของมันเป็นอย่างแรก และฟันด้านข้างพร้อมกับหางมันเป็นอย่างที่สอง ก้ามที่โจมตีเข้ามา ฟัน หลบ ฟัน ฟัน...ศัตรูได้ตายลงอย่างรวดเร็ว ซังจินคิดขึ้น
'ง่าย...ง่ายเกินไป'
เขาได้ขยับตัวอย่างรวดเร็วและฆ่าแมงป่องสองตัวแรกก่อนที่ตัวที่สามจะมาถึง และตอนนี้มันก็ถึงเวลาสำหรับ 1 ต่อ 1
แมงป่องสองตัวยังไม่ใช่แม้แต่คู่ต่อสู้ของเขา ตัวเดียวกลับยิ่งไม่ใช่ ซังจินใช้มือจับดาบและรอตัวสุดท้ายที่เข้ามา อย่างไรก็ตามมุมมองของเขาก็ได้ลดลงเมื่อทรายเริ่มจมลงอย่างรวดเร็ว
'อะไร?'
มีรูโผล่ขึ้นมาตรงหว่างขาของเขาและทรายก็เริ่มถูกดูดอย่างรวดเร็ว
ซังจินจึงรีบพื้นขึ้นมาจากทรายและกระโดดออกจากหลุมทรายตรงนั้น ในพื้นที่ๆเขายืนอยู่เมื่อครู่ ได้มีเขี้ยวของหนอนทะเลทรายโผล่ออกมา
มีเพียงแค่ฟันเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้ แต่เส้นผ่าศูนย์กลางของมันกว้างถึงหกถึงเข็ดเมตร หนอนทะเลทรายได้กินทรายอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหายไปในพื้นทราย
ถ้าหากซังจินยังคงยืนอยู่ตรงนั้นเขาก็จะถูกกินเข้าไปแล้ว
ซังจินไม่มีเวลาแม้แต่จะถอนหายใจเพราะแมงป่องได้เข้ามาหาเขาแล้ว
ซังจินเตรียมตัวพร้อมที่จะต่อสู้ แต่แล้วเท้าของเขาก็ได้โดนทรายดูดอีกครั้ง โดยไม่ลังเลซังจินได้ออกไปจากจุดนั้นทันที
หลุมที่จะมีทรายดูดจะปรากฏออกมาครู่หนึ่งกาอนจะตามมาด้วยทรายดูด
'มันน่ารำคาญ...'
เมื่อซังจินได้ออกมาจากพื้นที่ แมงป่องก็พุ่งเข้ามาหาเขาโดยไม่สนใจทรายดูดมันวิ่งผ่านพื้นที่ราดเอียงเข้ามา
ในกรณีเช่นนี้มันคือสิ่งที่ซังจินชอบ เขาจะได้จัดการกับแมงป่องก่อนเป็นอย่างแรก และเมื่อเขาได้ตัดก้ามและหางของมันออก เขาก็ได้ปีนขึ้นไปด้านบนของแมงป่อง
แม่งป่องที่ได้ถูกปลดอาวุธลงและหมดหนทาง มันไม่สามารถจะต่อสู้กับซังจินที่ขี่มันอยู่ได้ และเร็วๆนี้ทรายทรายใต้แมงป่องก็เริ่มจะจมลง
'มันมาแล้ว'
ซังจินได้แทงดาบลงไปในตัวของแมงป่อง
"แคร๊ก"
ดาบได้ผ่านเข้าไปในตัวแมงป่องอย่างง่ายดายและมันก็ได้ตายลง เมื่อแมงป่องได้ตายลงทรายก็ได้ดูดมันลงไปและฟันที่แหลมคมก็โผล่ออกมา
ซังจินกระโดดออกไปจากแม่งป่อง รอให้หนอนทรายค่อยๆดูดแมงป่องลงไป
"แคร๊ก แคร๊ก"
มันได้พยายามบดขยี้เปลือกของแมงป่องอย่างเต็มที่ แต่ก่อนที่มันจะได้กลืนแมงป่อง ซังจินก็เล็งมือไปทางมัน
"จงเผาไหม้ทุกอย่างในเส้นทาง บอลไฟ"
ลูกบอลไฟยักษ์ได้พุ่งเข้าไปภายในปากของหนอนยักษ์ครู่หนึ่ง
"ตูม"
การระเบิดได้เกิดขึ้นอยู่ภายในร่างกายของหนอนทะเลทรายและกระจายออกมาในพื้นที่โดยรอบ
และดูเหมือนมันจะไม่สามารถจะอยู่รอดได้จากเวทมนตร์นี้ ซังจินถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"โอ้ว...ฉันลืมทุกอย่างเกี่ยวกับพวกมัน..."
ซังจินได้เดินผ่านการจู่โจมตามความทรงจำของเขา ดังนั้นศัตรูและบางอย่างที่เขาลืมไปก็ได้ทำให้เขาประหลาดใจ
'ถ้าฉันได้อ่านข้อมูลที่ดารูปินเอามาให้ ฉันก็คงไม่ถูกเจ้าตัวอย่างนี้จับแน่นอน....ฉันเริ่มอ่านข้อมูลพวกนั้นหลังจากตอนนี้'
ซังจินนึกย้อนกลับไปถึงตัวเองในขณะที่เขากำลังเดินอยู่ เนื่องจากสเตตัสที่เหลือกว่าอย่างขาดลอยมันได้ทำให้มอนสเตอร์ไม่มีทางทำอะไรเขาได้ แต่ปัญหาเดียวของเขาในตอนนี้คือความเย่อหยิ่งของเขาเอง
****
นักล่าทั้งสี่คนได้ยืนอยู่ห่างจากกัน และมองดูรอบๆ พวกเขาต่างก็ดูจะอ่อนแรงกัน
"อา...โอ้ ฉัน....มันอยู่กับฉัน"
เท้าของบูกิไตเริ่มที่จะจมลงไปในทราย เขาพยายามที่จะปีนออกมาจากหลุม แต่เท้าของเขาจมลงเร็วเกินกว่าความเร็วในการปีนของเขา
"จับไว้"
มูเนียร์เหวี่ยงผ้าที่นำมาทำเป็นเชือกชั่วคราวไปให้บูกิไตจับบูกิไตเก็บโล่ลงบนหลังและจับเชือกเอาไว้
บูกิไตได้ปีนออกมาจากหลุมด้วยความช่วยเหลือของมูเนียร์ หลังจากนั้นสั้นๆแถวฟันก็ได้โผล่ออกมาและก็เห็นตัวของหนอน
"ตอนนี้แหละ"
มูเนียร์ตะโกนออกมาและเขาก็ยิงลูกธนูออกจากหน้าไม้
"ฉึก ฉึก ฉึก"
ลูกธนูได้ฝั่งลึกเข้าไปภายในร่างของหนอนทะเลทราย
"โอ้ววว"
คนคลั่งราล์ฟกระโดดขึ้นและขึ้นและเหวี่ยงขวานเข้าไปบนตัวของหนอน ในขณะเดียวแกลดิเอเตอร์อีกกอก็เหวี่ยงดาบและแทงไปในร่างกายของหนอน
"ก๊าซซ~"
หนอนทะเลทรายได้ร้องออกมาอย่างแปลกประหลาด มันได้เริ่มที่จะบิดร่างกายตนเองและหนอนทะเลทรายก็โผล่ออกมาและกวาดพื้นที่โดยรอบ
มูเนียร์อยู่ไกลออกไปดังนั้นเขาจึงไม่ถูกการโจมตีนี้ แต่บูกิไตและราล์ฟได้ถูกโจมตีโดยการสะบัดร่างกายของหนอน และอิกกอคือผู้เดียวที่สามารถจะโจมตีสวนกลับไปได้
เขาพบจุดบอดของมันและเขาก็กระโดดเข้าไปโจมตีมัน ร่างกายของทันครึ่งหนึ่งก็ได้ขาดลง
"ก๊าซซ"
หนอนทะลงทรายได้ตกลงบนทรายและตายลง ต้องโจมตีมันถึง 5-6 ครั้งกว่าจะล้มมันลงได้ มูเนียร์ได้เช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากและพูดขึ้น
"โอ้...แมงป่องและกิ้งก่ายังพอไหว แตนี้มัน..."
และในที่สุดเขาก็ตะโกนเรียกทั้งสองคนที่ถูกโจมตีกาอนหน้านี้
"เฮ้ พวกนายเป็นอะไรไหม"
นักล่าคนอื่นๆยกมือขึ้นมาเพื่อแสดงว่าพวกเขานั้นสบายดี แม้ว่าเขาจะได้รับความเสียหาย แต่ก็ไม่ได้เป็นบาดแผลที่อันตรายถึงชีวิต
ในขณะที่นักล่าทั้งสองคนกำลังดื่มโพชั่น อิกกอก็ได้ตรวจสอบพื้นที่รอบๆ เพื่อระวังศัตรูที่อาจจะเข้ามาใกล้
ในระยะไกลออกไปเขาได้เห็นเนินทรายขยับแม้จะไม่มีลมพัด เขาจึงได้เรียกบูกิไต
"เฮ้ ชาวมองโกลอะไรมันอยู่ตรงนั้น"
บูกิไตได้พยายามมองออกไปดูว่าคืออะไร แต่แล้วโอเปอเตอร์ก็ได้ประกาศออกมาก่อนหน้าเขา
[คำเตือน]
[บอส 'บาซิลิส' ปรากฏตัว]
ทุกๆคนต่างก็ตื่นตระหนกกับคำเตือนของโอเปอเรเตอร์ ราล์ฟพูดออกมาเป็นคนแรก
"หืมม ไม่ใช่ว่าข้อมูลในกระดาษบอกว่าบอสจะโผล่ออกมาก็ต่อเมื่อเราได้ฆ่ามอนสเตอร์ไป 75% หรอ?"
มูเนียร์ได้เบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อได้ตระหนักถึงบางสิ่ง
"พวกเราได้ฆ่าพวกมันไปแล้ว 75% จริงหรอ? นี้มัน้พิ่งจะผ่านไปเพียงแค่ 20 นาทีเองนะ..."