Chapter 30 - Giants Canyon (8)
Chapter 30 - Giants Canyon (8)
[พ่อค้าพเนจรจากดินแดนที่ห่างไกล]
[ได้มาสู่หุบเขา พร้อมกับสมบัติในมือ]
[เขาถูกจับโดยยักษ์แล้วถูกแขวนด้วยเท้า]
[ยักษ์นั้นไม่รู้ถึงคุณค่าของของที่เอาพกมา]
['การกิน' นั้นคือสิ่งที่มีค่าที่สุดที่มันรู้]
ซังจินได้ครุ่นคริดเกี่ยวกับคำอธิบาย แต่คำพูดนั้นบอกเพียงแค่ข้อมูลที่คลุมเครือ
"...บอกฉันอีกรอบหนึ่ง"
หลังจากได้ฟังคำที่สอง ซังจินได้คิดว่ามีสองคำที่ได้บอกใบ้ถึงสถานที่ 'ถูกแขวนด้วยเท้า' และ 'การกิน'
"คว่ำลง....การกิน...'
บางสถานที่ๆยักษ์ได้ทำอาหาร....ที่ไหนที่เหมาะสำหรับทำอาหาร ซังจินได้พยายามค้นลงไปในสมอง
'อะ เดี๋ยวก่อนนะ...'
ในตอนนี้เขาก็ได้นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยเห็นหม้อใบใหญ่ที่พอจะใส่คนทั้งคนลงไปได้
'แต่มันอยู่ที่ไหนนะ?'
มันได้อยู่ที่ไหนบางแห่งภายในหุบเขานี้เขามั่นใจเกี่ยวกับมัน ซังจินจึงหันหน้ากลับไปถามกับเซริน
"เซริน เธอพอจะจำได้ว่าเคยเห็นหม้อใบใหญ่หรือป่าว?"
"หม้อใบใหญ่หรอ?"
"ใช่แล้ว มันไม่ใช่ขนาดปกติ ขนาดของมันใหญ่พอที่จะใส่คนลงไปได้"
เซรินได้ส่ายหัวของเธอ
"ไม่ ฉันจำไม่ได้เลยว่าเคยเห็นอะไรบางอย่างแบบนั้น ถ้าฉันเห็นอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาดฉันก็จะจำมันได้"
'นี้มันหมายความว่าฉันได้เห็นมันภายในส่วนหลังของหุบเขา'
ซังจินทำการตัดตัวเลือกออก เซรินนั้นได้ผ่านมาแค่ครึ่งทางของหุบเขาเท่านั้น เธอไม่สามารถที่จะมองเห็นอะไรที่ปรากฏอยู่ในพื้นที่หลังๆหุบเขาได้
เมื่อคิดขึ้นได้ ซังจินก็ได้วิ่งออกไปเพื่อค้นหาหม้อ แต่เซรินก็ได้หยุดเขาไว้
"เค นายกำลังจะไปไหน"
"อา...นั่น..."
ซังจินลังเลใจ เขารู้สึกไม่สบายใจที่จะบอกเธอเกี่ยวกุบเรื่องชิ้นส่วนลับ แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจพูดไป
"ฉันจะต้องไปหาบางสิ้ง ส่วนประกอบที่ได้ซ่อนอยู่ภายในนี้
เขาได้บอกแก่เธอไปตามตรง เธอนั้นได้ขอบคุณซังจินอย่างมากที่ได้ช่วยเธอไว้ ดังนั้นเธอคงไม่ขออะไรที่ไร้เหตุผลเมื่อเขาได้พบกับสมบัติลับ
"ส่วนประกอบที่ซ่อนอยู่"
"ใช่แล้ว ตัวอย่างเช่นบอสลับที่เราได้สู้ด้วยเมื่อตะกี้ และก็ยังมีสมบัติลับที่ได้ซ่อนอยู่ภายในแต่ละพื้นที่อีกด้วย"
ดวงตาของเซรินเบิกกว้างอย่างตกใจ
"จริงหรอ?""
"ใช่ ดังนั้นฉันจึงจะออกไปและค้นหามัน เธอสามารถที่จะพักอยู่ที่นี้จนกว่าจะกลับไปตลาดมืดเลยก็ได้ เพราะพวกเราได้เคลียการจู่โจม 100% แล้วดังนั้นมันจึงไม่มีพวกมอนสเตอร์อยู่อีกแล้ว"
ซังจินต้องการที่จะออกไปในทันทีที่พูดจบ แต่เซรินก็ตอบกลับมา
"ไปด้วยกัน ฉันไม่มีอะไรที่ต้องการจะทำต่ออยู่แล้ว....และการที่จะต้องอยู่กับศพคนเดียว..มันรู้สึกไม่ดี"
เซรินได้ชี้ออกไปที่ศพของซานติอาโก้ที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย
"อ่า...ใช่ มันคงจะไม่ดีสำหรับเธอ"
ซังจินหยักหน้าเล็กน้อยและยอมรับข้อเสนอของเธอ สี่ตาย่อมดีกว่าสองตาอยู่แล้ว
เธอได้พิสูจน์แล้วว่าเธอมีประโยชน์ในการค้นหาบอสลับก่อนหน้านี้ ซังจินและเซรินเริ่มเดินลึกออกไปในหุบเขาอีกครั้งหนึ่ง
พวกเขาพวกได้เดินออกไปโดยไร้คำพูด แต่ภายในชั่วขณะหนึ่งเซรินก็ได้พูดออกมาทำลายความเงียบนี้
"ขอโทษนะ...คือว่าบอสลับ...มีอยู่ในทุกๆรอบเลยหรอ?"
"ใช่"
"และนายล่าพวกมันในทุกๆครั้ง"
"....ใช่"
"การ...ค้นหาพวกเขาก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่านายไม่กลัวตายเลยหรอ?"
ซังจินยักไหล่
"อย่างที่เธอเห็น...ถ้าเธอไม่สามารถที่จะเติบโตแข็งแกร่งขี้นในการจู่โจม เธอก็จะไม่สามารถอยู่รอดได้ ดังนั้น...ฉันจึงต้องทำงานหนักและผลักดันตัวเองเพื่อที่จะได้แข็งแกร่งขึ้น"
"เค คุณนั้นมีความแข็งแกร่งอยู่แล้วหละ"
ซังจินไม่ได้ตอบกลับไป เขาไม่ต้องการที่จะบอกเกี่ยวกับเรื่องชีวิตที่แล้วของเขา
แต่เขาเลือกที่จะให้คำเตือนแก่เธอแทน
"เซริน จงพยายามที่จะแข็งแกร่งให้มากขึ้นเท่าที่เธอจะทำได้ เพราะนั่นมันจะทำให้เธอมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น"
"ฉันได้พยายามอย่างดีที่สุดในแต่ละรอบ...ดังนั้นหมายความว่าฉันก็ควรที่จะพยายามหาบอสลับและจัดการบอสลับในแต่ละรอบด้วย?"
"สิ่งนั้น..."
ซังจินติดอยู่ในสถานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เช่นเดียวกับในตอนของ 'ฮิโระ' หากเขาบอกว่าใช่มันจะทำให้เกิดความเสี่ยงมากเกินไป
"การตัดสินใจเช่นนั้นมัน....จงทำมันเมื่อเธอได้พิจารณาสถานการณ์อย่างรอบคอบแล้ว"
"ตัวอย่างเช่น?"
"เธอควรพยายามจัดการบอสลับ ถ้าสิ่งต่อไปนี้เป็นจริง: สมาชิกพรรค 5 คนมีพลังและมีพรสวรรค์เป็นพิเศษ ทีมของคุณทำงานร่วมกันเป็นอย่างดีและยังคงประสานงาน ไม่มีการปะทะกันภายในเกิดขึ้นหลังจากที่ฆ่าบอสลง เฉพาะในกรณีที่สิ่งเหล่านี้เป็นจริงเธอจึงจะสามารถไปสู้กับมันได้ หากไม่เช่นนั้นแล้วทุกคนจะตาย "
ซังจินได้พูดเหมือนกับที่พูดกับฮิโระ เซรินได้ฟังคำพูดเขาอย่างระมัดระวัง
"ขอบคุณที่บอกให้ฉันได้รู้ แต่ว่า..."
คำพูดของเธอขาดหายไป ซังจินรู้ว่านั้นเป็นเพราะอะไร
เพราะความสวยงามที่โดดของเธอมันได้ขัดขวางการมีชีวิตอยู่ของเธอ
'อา...จริงสิ'
ซังจินได้นึกถึงบางอย่างและตัดสินใจบอกกับเธอ
"อืมมม...ในตลาดมืดเธอสามารถไปที่ร้านหน้ากากได้"
"ร้าน...หน้ากาก"
"ใช่ ถ้าเธอไปที่นั่น เธอจะสามารถซื้อหน้ากากที่สามารถเปลื่ยนรูปลักษณ์ของเธอได้ชั่วคราว ลองไปที่นั้นดู ตามแต่ที่เธอต้องการ เธอก็จะ..."
'ห่างไกลจากความสวย'
มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการจะพูด แต่แล้วเขาก็เปลื่ยนใจ
"ไปพบว่ามันมีประโยชน์"
เซรินหยักหน้ารับ
"ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณทุกๆความช่วยเหลือ เค"
และแสดงความขอบคุณออกมาพร้อมกับรอยยิ้มสดใสของเธอ
"....แน่นอน"
ซังจินตอบกลับในทันทีอย่างไม่เจตนาและเขาคิดเกี่ยวกับท่าทางเธอ
'ผู้หญิงคนนี้...ถ้าเธอมีความโชคดีที่ตามมา เธอก็จะสามารถอยู่รอดมาเป็นสมาชิกในช่วงท้ายได้...'
บทที่ห้ากำลังจะเริ่มขึ้นในเร็วๆนี้ ขั้นตอนการจู่โจมนี้จะจบลงในไม่ช้าและซังจินได้วางแผนสำหรับอนาคตอย่างช้าๆ
'สมาชิกชุดสุดท้าย 5 คน'
การรวมตัวของสมาชิก 5 คนสุดท้ายนั้นเป็นความสงสัยของซังจิน แน่นอนว่าเขาได้เป็นหนึ่งในนั้นแน่นอนหลังจากการ รีเซ็ท
ปัญหาก็คือคนอื่นๆอีกสี่คน
ไม่ว่าคนอื่นๆจะเก่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่จะทำให้การจู่โจมจบลงด้วยตัวคนเดียว การจู่โจมเหล่านี้นั้นได้ถูกออกแบบมาสำหรับคนห้าคน
ความร่วมมือต่อบทเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการดำเนินตามความคาดหมาย เป็นความคิดที่ดีที่จะพิจารณาว่าใครจะเป็นกลุ่มสมาชิก 5 คนสุดท้ายในตอนนี้
ซังจินไม่สงสัยในความสามารถของเธอเลย เธอนั้นเป็นนักธนูเหรียญทองโอลิมปิค นั่นหมายความว่าเธอเป็นมือธนูที่เก่งที่สุดในโลกและซังจินก็ได้ทักษะของเธอแล้ว
และแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่เย็นยา เธอนั้นเป็นคนที่มีเกียรติ์และตรงไปตรงมา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอนั้นไว้ใจเขามาก ซังจินได้พูดออกมาอย่างต่อเนื่อง
"เธอได้สังเกตุไหม...ในการจู่โจมที่ดำเนินไปเรื่อยๆ จำนวนคนก็ได้ลดลงไปอย่างหน้าเหลือเชื่อตามๆกัน"
เซรินปั้นหน้าแข็งขึ้นมาในทันที และเธอหยักหน้ารับอย่างซีเรียส
"ดังนั้น....แม้ว่าการจู่โจมจะเริ่มจากคนทั้งโลก จำนวนคนก็จะ..."
ซังจินกำลังจะพูดว่า 'จำนวนคนก็จะลดลงไปเรื่อยๆจนเหลือเพียงห้าคน' แต่เขาก็ตัดสินใจเปลื่ยนคำพูดเล็กน้อย
"อาจจะค่อยๆลดลงจนเหลือเพียง 5 คนก็ได่ เธอเข้าใจใช่ไหม?"
เซรินหยักหน้าเล็กน้อย
"ใช่...มันรู้สึกเหมือนว่า 'การจู่โจม' จะดำเนินไปเรื่อยๆจนไร้จุดสิ้นสุด' "
"ถ้าเวลานั้นมาถึงและห้าคนที่เหลืออยู่ มันจะเป็นห้าคนที่สุดยอด ห้าคนที่มีความเชี่ยวชาญและความเชื่อใจกันใช่มั้ย?"
"ฉันคิดอย่างนั้น ฉันรู้ว่ามันจะมีห้าคนที่มีทักษะมากอยู่รอดในท้ายที่สุด แต่ฉันไม่สามารถจะรู้ได้ว่าพวกเขาแต่ละคนในตอนท้ายจะไว้ใจได้หรือไม่?"
ซังจินคิดถึงสิ่งที่เธอพูด ในทางเทคนิคมันถูกต้องแต่ว่า...
'ถ้าฉันต้องการอย่างน้อยฉันก็จะสามารถเลือกสมาชิกบางคนเข้าไปในห้าคนสุดท้ายได้...'
ซังจินรู้ว่าเขามีระดับความสามารถในการควบคุมสมาชิก เขามีทักษะที่มากมายกว่ท ข้อมูลที่เหลือกว่าและแต้มสเตตัสที่มากกว่านักล่าคนอื่นๆ
การจัดการไม่เพียงแต่ผลให้ของการจู่โจมเท่านั้น แต่ยังมีกระบวนการที่เป็นไปได้ในระดับหนึ่ง ในขณะที่ซังจินหลงอยู่ในความคิด เซรินก็กล่าวขึ้น
"ดูนั่น"
ซังจินหยุดลงและมองไปทางที่เซรินชี้ออกไป มันมีหม้อต้มขนาดใหญ่อยู่ไกลออกไป
ซังจินได้มองข้ามหม้อไปและไปฆ่าบอสในก่อนหน้านี้ เซรินได้บอกกับเขาว่า
"ช่วยถอยไปสักหน่อย"
"ทำไม นี่เธอ...คิดจะทำให้มันเอียงลงหรอ?"
"ใช่"
"ฉันจะทำเอง ฉันรู้เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของนาย แต่การเอียงหม้อน้ำร้อนด้วยการใช่เพียงแต่ดาบ....มันอาจจะเป็นอันตรายใช่ไหม?"
เธอพูดถูก ซังจินถอยออกมาด้านข้างเพื่อให้เธอสามารถที่จะยิงธนูใส่หม้อได้ แต่คำถามเดียวคือลูกธนูของเธอมีพลังมากพอจะเจาะหม้อหรือป่าว
แต่เธอก็ดึงธนูออกมาจากหลัง และเธอก็พูด
"ความแข็งแรงของยักษ์"
ในช่วงเวลาสั้นๆแหวนไข่มุกในมือเธอก็สว่างขึ้น
'อา...'
มันเป็นแหวนที่เธอได้รับรางวัลจากการจู่โจม เธอคงได้ตรวจสอบความสามารถมันแล้วสวมใส่มันแล้ว สิ่งนี้ได้เตือนให้เขานึกถึงแหวนที่เขาได้รับมา 'แกมรัมธ์ - แหวนของแฝดสยาม' ที่อยู่ในกระเป๋าเขา
'ฉันยังไม่ได้ตรวจสอบสิ่งที่ฉันได้รับมา...ฉันคิดว่าฉันคงจะตรวจสอบมันได้พร้อมกับชิ้นส่วนลับที่กำลังจะได้รับ'
ซังจินตัดสินใจที่จะดื่มด่ำไปกับความสุขของการตรวจสอบไอเทมในภายหลัง
'ปุ่ง'
ลูกธนูของเธอได้พุ่งเข้าไปข้างในกระทะทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมา
"ซ่า ซ่า"
น้ำได้ไหลออกมาจากรูที่เธอได้เจาะมันไว้ เธอมองลงไปที่แหวนและพูดขึ้น
'"มันมีประโยชน์มากเลยทีเดียว แม้ว่าผลคูณสเตตัสความแข็งแรงจะมีเพียงสามวินาที ดังนั้นฉันยิงสามารถใช้มันได้เพียงครั้ง..."
ซังจินหยักหน้าให้กับความเห็นของเธอ "ฝนลูกศร" ของเธอเป็นทักษะ AOE ที่เยี่ยมยอดเหมาะสำหรับศัตรูหลายตัวและตอนนี้เธอได้รับทักษะเพิ่มพลังยิงที่มีประสิทธิภาพซึ่งเธอสามารถใช้มันสำหรับบอสได้
ทั้งสองได้จ้องมองไปที่หม้อพักหนึ่ง แต่ก็ไม่มีอะไรออกมาและไรซึ่งเสียงของโอเปอเรเตอร์
"เกิดอะไรขึ้น?"
ซังจินสับสนอยู่ครู่หนึ่ง
'หรือฉันจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับคำใบ้'
และความคิดของเขาก็ได้ถูกขัด
"เค นั่นไม่ใช่สิ่งน่าสงสัยหรอกหรอ?"
เซรินพูดออกมาดึงความสนใจจากเขา ถัดไปจากหม้อเป็นซากศพของยักษสองหัวและเต๊นท์เล็กๆที่ถูกสร้างขึ้น
ซังจินเดิสเข้าไปหามัน สิ่งแรกที่เขาสังเกตุคือยักษ์สองหัว เขาจำไม่ได้เลยว่าเขาฆ่ามันแต่ด้วยบาดแผลของมันได้แสดงให้เห็นว่าเป็นฝีมือเขา
'....ฉันคิดว่าฉันวิ่งไปในขณะที่ฆ่าพวกเขาอย่างไม่สนใจ'
เขาได้ผ่านซากศพเข้าไปในเต๊นท์ เขาไม่พบอะไรที่ผิดสังเกตุในสถานที่นี้...ยกเว้น
'มีกำแพงอยู่ด้านหลังเต๊นท์หรอ? ทำไม?'
เขาพบว่ามันน่าสงสัยมากเขาจึงเข้าหากำแพง เมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเขาพบสถานที่ที่ผนังถูกแยกออกจากเต็นท์ผ้าเล็กน้อย มันมีพื้นที่ว่างเปล่าอยู่
ไม่มีแสงส่องผ่านมาจากด้านบน และลมบัดเบาๆจากช่องว่างเล็กๆ พื้นที่รอบๆเต็มไปด้วยซากสัตว์และกองเนื้อ
'นี้มันคือตู้แช่ของยักษ์'
"อะไรนะ....เดี๋ยวก่อนนะ นั้นมนุษย์นิ ช่วยชั้นด้วย"
เขาได้ยินเสียงมาจากมุมๆหนึ่ง ซังจินได้ตรวจสอบรอบๆช่องว่างและเขาก็ได่เห็นสิ่งที่อยู่ในความมืด นั้นคือมนุษย์หนูที่ถูกห้อยขาหัวคว่ำลง
ลูกบาศก์ได้ประกาศออกมาด้วยความร่าเริง
[ขอแสดงความยินดีด้วย กับสิ่งที่คุณได้ค้นพบ]
[พ่อค้าลับ 'พ่อค้าเร่ รัฟฟ์ ฮาน]