Chapter 19 - Graysoul Cemetery (5)
Chapter 19 - Graysoul Cemetery (5)
ซังจินได้พุ่งเข้าไปค้นหาในสุสานด้วยผลของ 'สวิฟพาว' ผลของมันดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้
เพราะมันทำให้ความเร็สเพิ่มมากขึ้นถึงสิบเท่าจากปกติ ซังจินจึงต้องควบคุมตัวเองให้ชะลอลงเพราะเร็วเกินไป
แต่ว่าผลของมันก็ยังสุดยอดอยู่ดี มันช่วนให้ลดเวลาในการค้นหาให้เหลือเพีงแค่หนึ่งในสิบเท่านั้น
ซังจินได้คิดถึงสิ่งที่เขาได้ยินมาในขณะที่กำลังค้นหาอยู่ตามหลุมฝังศพ
"เยี่ยมเลย ท่านรู้ไหมเธอเป็นผีผู้หญิงที่เห็นได้จากหนังสยองขวัญที่หน้ากลัว ผิวที่ซีดขาวและเลือดที่ไหลออกจากริมฝีปาก..."
เป็นคำใบ้ที่ได้มาจากคนที่ไม่คาดคิด
'...ฉันแน่ใจว่าผีจะต้องมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับบอสลับหรือชิ้นส่วนลับ'
ในตอนนี้เขาได้คิดถึงเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีในบทที่ 3 นักล่าคนอื่นๆในชีวิตที่แล้วของเขาได้นินทากันเกี่ยวกับเรื่องนี้
'และฉันคิดว่าฉันควรที่จะใช้ทักษะ 'นักล่าสมบัติ' ทักษะที่จะใช้งานได้หลังจากบอส...'
ซังจินได้เก็บสกิลไว้มาจนถึงตอนนี้ เขาจะได้รับคำใบ้อย่างน้อยหนึ่งในสองอย่างอย่างและมันก็มีโอกาสที่คำใบ้ของโอเปอเรเตอร์จะเหมือนกับที่เขามีอยู่แล้ว
ไม่มีมอนสเตอร์เหลืออยู่อีกสักตัวเดียวในสุสานแห่งนี้ พวกมันส่วนใหญ่ได้ถูกจัดการในระหว่างค้นหาและจากนักล่าอีกสี่คนที่เหลืออยู่
'ผี...อยู่ไหนกันนะ...'
ซังจินได้ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบสุสานเมื่อเขาเคลื่อนตัวผ่านไปเรื่อยๆและในที่สุดความเร็วของเขาก็ค่อยๆลดลง
'เป็นเวลาสามสิบวินาทีแล้ว ฉันยังหาที่อยู่ของผีไม่เจอเลย'
ซังจินได้กลับมาวิ่งด้วยความเร็วปกติ เขาได้หยุดอยู่ครู่นึง
ข้างหน้าเขาถูกล้อมรอบไปด้วยทะเลที่ไม่สามารถแยกได้จากสุสาน
'เวรเอ้ย'
เขาหันหลังกลับในขณะสบถและในตอนนั้นก็เห็นอะไรบางอย่างสีขาวลอยอยู่ นั้นคือผีผู้หญิงชุดขาว
'นั้นไง'
ซังจินได้วิ่งเข้าไปหาผีผู้หญิงในทันที
****
"อาจารย์"
ฮิโระพยายามที่จะไล่ตามเคไป แต่ก็เป็นไปไม่ได้เคนั้นได้วิ่งเร็วจนเกินไปและครู่นีงฮิโระก็ไม่สามารถมองเห็นเคได้
เขาหยุดพักครู่หนึ่งและมองไปในทางที่เคหายไป หากเป็นคนอื่นพวกเขาคงจะยอมแพ้ไปแล้วแต่มันไม่ใช่กับฮิโระ
"พระเจ้า อาจารย์สุดยอดมาก"
หลังจากเขาพักหายใจ เขาก็เริ่มที่จะไล่ตามต่อ
หลังจากนั้นประมานสองนาทีเขาก็ได้เห็นผีอีกครั้ง
"เย้ยย"
ฮิโระได้หยุดในทันที แถมเขายังได้ก้าวถอยหลังโดยที่ไม่รู้ตัว เขานั้นอยู่คนเดียวโดยไม่มีทั้งเฮนริค คาลตูและอคานน่า
ฮิโระนั้นไม่เกรงกลัวทั้งโครงกระดูกหรือซอมบี้ แต่เขากลัวผีจากภายในจิตใจเขาเลย จากนั้นเขาก็เห็นเคอยู่ถัดไปไม่ไกลจากผี
"ฉันควรจะทำอะไร..."
ฮิโระเริ่มที่จะกำมือของเขาแบะหยุดหงิดขึ้นมา เขากำลังอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเนื่องจากแรงผลักดันให้เขาไปและความหวาดกลัวให้ถอยรวมกันอยู่ในจุดๆนึง
'ฉันเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ ฉันต้องเอาชนะความกลัว...'
ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้และเขาก็เข้าไปหาเคและผี เมื่อได้ยินเสียงจากเขาเคก็หันหน้ามามอง"
"หืม อะไร นายมาได้ยังไงเนี้ย"
ครู่ต่อมาผีก็หันมามองเขาเช่นกัน
"อึก"
เมื่อถูกจ้องมองโดยผีที่มีใบ้หน้าซีดเซียวและดวงตาสีดำสนิท ฮิโระก็ต้องการที่จะหนีออกไป แต่เคก็ได้หยุดเขาไว้
"ไม่ต้องกลัว ผีตนนี้...เป็นมิตร"
เคพดถูก ผีไม่เคยแสดงเจตนาที่จะโจมตีเขาเลย แต่ฮิโระก็ยังไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้
เป็นมิตรหรือไม่นั้นมันไม่เกี่ยว แค่การปรากฏตัวของผีนั้นก็ก็เพียงพอที่จะสร้างความหวาดกลัวขึ้นในใจของมนุษย์
ในขณะที่ฮิโระรักษาระยะห่างจากผีเขาก็มองไปที่เค และในลักษณะที่คล้ายกันเธอได้ทำสิ่งเดียวกับที่ทำกับเฮนริค เธอได้ชูมือขึ้นชี้ไปในจุดที่ไกลออกไปและ
"วี้~~~"
เปล่งเสียงประหลาดๆออกมา เคดูไม่หวาดกลัวผีเลยเขาทำเพียงแค่ลูบคางและพูดขึ้น
"สิ่งนี้...ฉันคิดว่าเธอพยายามที่จะพูดอะไรบางอย่าง..."
นั้นคือทั้งหมดที่เขาพูด ทันใดนั้นผีก็ได้เริ่มที่จะลอยออกไปในทิศทางที่เธอได้ชี้ไปก่อนหน้านี้ เคนั้นได้ตามเธอไปโดยไร้ซึ่งคำพูด ฮิโระมองดูครู่นึง
"อะ...อาจารย์"
หลังจากนั้นเขาก็เรียกเคแต่เคก็ไม่สนใจเลย ฮิโระที่ไม่มีทางเลือกได้แต่ตามทั้งสองไปอย่างห่างๆ
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็หยุดลงอีกครั้งและ
"ฮ้าาาาาา~"
เปล่งเสียงแปลกๆ เคได้หยุดลงข้างๆเธอ
"หืมม...มีอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั้น"
เขารำพึงกับตัวเอง
"โอเปอเรเตอร์"
ทันใดนั้นเขาก็เรียกโอเปอเรเตอร์
"เถ้าของซาลาแมนเดอร์"
เขาเอาเถ้าของซาลาแมนเดอร์ออกมาจากช่องเก็บของ ฮิโระนั้นคุ้นเคยกับมันเขาได้ใช้มันในการจัดการกับโทรลในบทที่หนึ่งและหมาป่าในบทที่สอง
เคเปิดถุงออกมาและทามันลงบนคาตานะ
"พรึบ"
คาตานะได้มีไฟลุกขึ้นและให้แสงสลัวๆรอบๆพื้นที่ ใช้คาตานะเป็นคบเพลิงเขาได้ตรวจพื้นที่รอบๆในทันทีและพื้นที่ด้านใต้ผี
เขาเห็นประตูหินฝังศพถูกแกะสลักไว้ด้วยภาพผู้หญิงสองคนที่เหมือนกันยืนอยู่เบื้องหลัง
"...แฝดหรอ?..."
เคได้พูดกับตัวเองและแงะประตุโดยคาตานะ
"ก๊าา~"
ผีได้ร้องออกมาเสียงดังเป็นเสียงที่ดูน่ากลัว แต่คราวนี้ดูเหมือนกับเธอ...มีความสุข
เธอหมุนตัวกลางอากาศและลอยเข้าไปด้านในทางเข้าหิน เคและฮิโระก็ตามเธอเข้าไปในประตู
มันเป็นเรื่องยากที่จะมองเห็นภายใน เมื่อเคปัดดาบไปปัดมาก็สามารถที่จะมองเห็นโครงกระดูกชิ้นใหญ่เต็มพื้น
"ว๊ากก"
ฮิโระกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวอีกครั้ง ในทางกลับกันเคก็เดินเข้าไปเฉยๆโดยไร้ความกลัว
"อาจารย์ท่านไม่กลัวผีหรอ"
เคหันกลับมามองฮิโระและ
"....ฉันได้ตายไปแล้วครั้งหนึ่ง ทำไมฉันถึงจะต้องกลัวผี*
พูดอะไรบางอย่างที่ฮิโระไม่สามารถเข้าใจ ก่อนที่ฮิโระจะได้ตอบสนองอะไรเคก็ได้เดินเข้าไปในห้องฝังศพ ทางเดินนั้นแคบและก็มืด ฮิโระพยายามจะหาข้อแก้ตัวให้ตัวเอง
"ฉันจะรอให้อาจารย์ออกมา..."
เขานั้งลงอยู่ข้างหน้าทางเข้าห้องฝังศพ อะไรบางอย่างที่เคได้พูดไว้อย่าง 'ฉันได้ตายไปแล้วครั้งหนึ่ง' ได้ถูกลืมไปอย่างสมบูรณ์
****
ซังจินได้เข้ามาภายในห้องนี้ตัวคนเดียวโดยที่ใช้คาตานะเป็นคบเพลิงให้แสงสว่างในส่วนต่างๆของห้อง ห้องเก็บศพนี้ทั้งยื้นและแคบ แม้ว่าซังจินจะได้เข้ามาโดยที่มั่นใจแต่ก็เริ่มหวาดระแวงกับสภาพแวดล้อม
สำหรับเขาแล้วก็ไม่ต้องสงสัยเลยมันเป็นสถานที่ๆเขาได้ค้นหามาโดยตลอด เมื่อมาถึงสุดทางเดินแคบก็มาถึงพื้นที่ขนาดเล็กกว้างยาวสามสิบเมตร
และผีผู้หญิงที่เป็นผู้พาเขามาที่นี้ได้รอเขาอยู่ภายในห้องนี้โดยที่ล้อมรอบไปด้วยกระดูก เมื่อมองขึ้นไปดูกผีก็เต็มไปด้วยเลือด ซังจินจึงคิดขึ้น
'...ฉันคิดว่าฉันน่าจะเข้าใจแล้วว่าทำไมคนอื่นถึงกลัวกันนัก'
"แฮร่..."
ผีร้องเสียงประหลาดๆออกมาและชูมือขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อซังจินเห็นมืดของเธอเขาคิดว่ามันดูแตกต่างจากปกติ
มือของเธอไม่ได้ยึดติดกันและนิ้วมือก็เหมือนจะลอยอยู่อย่างเหนือธรรมชาติ แต่ซังจินคิดว่านิ้วของเธอยกสูงขึ้นเล็กน้อยเหมือนกับจะชี้ไปที่อะไรบางอย่าง
'เธอชี้ไปที่...'
ซังจินมองตามไปในทิศทางที่เธอชี้ไป เธอชี้ไปที่มุมหนึ่งของกำแพงในห้องเก็บศพ
ซังจินเขาค่อยๆเดินเขาไปที่กับแพงเพื่อที่จะตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เขาสังเกตุเห็นอิฐอยู่ก่อนหนึ่งเหมือนจะถูกผลักออกมาเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตรงอื่นๆของกำแพง
ซังจินจับมันอย่างระมัดระวังและดึงมันออกมาเบาๆ
อิฐถูกดึงออกมาง่ายกว่าที่คิดและด้านในนั้นซังจินได้เห็นวัตถุบางอย่างถูกห่อเอาไว้
'มันคือ...'
ซังจินเอื้อมมือเข้าไปและหยิบมันออกมาจากผังหนังที่เก็งมันอยู่ สิ่งนั้นมันดูคล้ายกับดาบ
เมื่อซังจินดึงออกมาแล้วที่ห่อหุ้มก็หลุดออกมา'แผลบ' และดาบที่ดูเหมือนจะสกปรกและดูเหมือนจะพังก็โผล่ออกมา
ปลอกที่ดูเหมือนมันจะแตกสลายหากจับแรงๆ ซังจินได้จับดาบเบาๆและดึงออกจาฝัก
'พระเจ้า...'
มันช่วยไม่ได้ที่ซังจินจะตะโกนออกมา สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายได้ฝักดาบที่ชำรุดคือใบดาบส่องประกายออกมาด้วยสีฟ้าอ่อนๆ
เมือดาบถูกดึงออกมาผีที่อยู่ข้างๆเขาได้สลายเป็นควันและถูกดูดเข้ามาในดาบ
"ก๊าา~"
โดยไร้ซึ่งความผิดพลาด ผีได้ร้องออกมาเมื่อมันได้หายไป
[ขอแสดงความยินดีด้วย]
ซังจินได้ยินเสียงของโอเปอเรเตอร์ขึ้นมา
[คุณได้ค้นพบชิ้นส่วนลับ]
[มูนสเปค - ดาบที่ถูกสิง]
"....สุดยอด"
ซังจินยิ้มขึ้นในขณะที่ตรวจสอบดาบที่ได้รับมา
มูนสเปค - ดาบที่ถูกสิง
คาตานะระดับตำนาน - ความแข็งแรง S ความคล่องแคล่ว A จิตใจ B
ทักษะติดตัว
ดูดวิญญาณ(II)
จะฟื้นฟูมานา 2% ของทั้งหมดต่อการโจมตีหนึ่งครั้ง
ทักษะใช้งาน
เสียงคร่ำครวญของคนตาย(IV)
ผีจะทำให้สิ่งมีชีวิตใกล้เคียงทั้งหมดเกิดความหวาดกลัว
คูลดาว 10 นาที
คาตานะที่เต็มไปด้วยพลังของวิญญาณร้าน ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าเจ้าของจะกลายเป็นวิญญาณพยาบาทหรือจะกลายเป็นวิญญาณพยาบาทเมื่อถุกดาบเล่มนี้ฟัน
"....ระดับตำนาน?"
เขาไดรับไแเทมระดับตำนานแล้ว เขาไม่สามารถจะเชื่อได้ว่าเขาจะได้รับไอเทมในตำนานอย่างง่ายดายเช่นนี้
เขาเหลือบตาไปมองรายละเอียดและสิ่งที่สะดุดตาเขาที่สุดก็คือโบนัสสเตตัสความแข็งแรงระดับ S และโบนัสความคล่องแคล่วระดับ A
"โอเปอเรเตอร์แสดงโบนัสสเตตัสอีกครั้ง"
[โบนัสสเตตัสจะเพิ่มขึ้นตามนี้]
[Rank E – x0.1 | Rank D – x0.2 | Rank C – x0.5]
[Rank B – x1.0 | Rank A – x1.5 | Rank S – x2.0]
[Rank SS – x3.0 | Rank SSS – x4.0]
ซังจินยังไม่เคยพบศัตรูที่เขาโจมตีไม่ตายในครั้งเดียวด้วยดาบสเตตัสระดับ C กับ D เลย แล้วตอนนี้เขาเพิ่งได้รับคาตานะระดับตำนานมาอีกซึ่งมันมีโบนัสระดับ S และ A อีกมันได้ทำให้ความเสียหายของเขาเพิ่มขึ้นถึงสี่เท่า
'เยี่ยม...ฉันคิดว่าในบทต่อๆไปศัตรูคงเต็มเพียงแค่กระดาษเปียกเท่านั้น'
ซังจินได้คิดถึงสเตตัสที่เขาได้อ่านมาเกี่ยวกับทักษะ 'เสียงคร่ำควรของคนตาย' มันดูเหมือนจะมีประโยชน์อย่างมาก
และเมื่อย้อนกลับไปดูที่โบนัสสเตตัสก็ยังมีโบนัสจิตใจระดับ B อีก
นั่นหมายความว่าการเพิ่มความแข็งแรง 1 จะเท่ากับเพิ่มพลังโจมตี 2 แต่การเพิ่มขึ้นของจิตใจก็ยังจะบวกโบนัสพลังโจมตีอีก 1
'การเพิ่มค่าพลังจิตใจก็จะเพิ่มค่าพลังโจมตีของดาบขึ้นไปอีก...หมายความว่า...'
นอกจากนี้ก็ยังมีสกิลติดตัว 'ดูดวิญญาณ' อีกด้วย
'อีกนัยหนึืงก็คือดาบเล่มนี้ได้ถูกออกแบบขึ้นมาสำหรับนักดาบเวท'
การเพิ่มค่าสเตตัสพื้นฐานเป็นสิ่งที่ดี แต่ซังจินก็จำเป็นจะต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
'ฉันจะกลับมาคิดเกี่ยวกับมันอีกครั้งในภายหลัง'
ในที่สุดซังจินก็เก็บดาบลงไปในฝัก
"ชิ้ง"
เสียงดาบถูกเก็บลงไปในฝักนั้นดังออกมาอย่างชัดเจน ซังจินได้เดินไปจากห้องเก็บศพนี้พร้อมกับดาบเล่มใหม่ที่ห้อยอยู่ข้างๆเขา