Chapter 17 - Graysoul Cemetery (3)
Chapter 17 - Graysoul Cemetery (3)
เฮนริคชูขวานขึ้นมาแล้วตะโกน
"คาลตู"
"เข้าใจแล้ว"
อย่างน้อยคาลตูก็ยังมีสติ เขายกคันธนูขึ้นมาแล้วเล็งไปที่ผีที่กำลังลอยเข้ามา
"ฟิ้วว"
ลูกธนูได้พุ่งตรงเข้าใส่ผีแต่เมื่อมันถึงตัวผีมันก็ทะลุผ่านไป
"...เวรเอ้ย พวกเราควรทำยังไงดี"
เฮนริคมองไปรอบๆอย่างสั่นๆ
'ฉันกำลังกลัว'
ฮิโระก็ยังคงแอบอยู่ด้านหลังของเขา
"Labeh Ahondi Russo"
อคานน่าก็ยังคงสวดมนต์ต่อ
"เราควรทำยังไง"
คาลตูมองมาที่เฮนริค ไม่มีใครที่ไว้ใจได้เลยในตอนนี้ืเฮนริคมองไปข้างหน้าอีกครั้ง เขาได้เห็นผีผู้หญิงเข้ามาใกล้พวกเขาแล้ว
เฮนริคจับขวานเอาไว้แน่นเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เขาจะสามารถพึ่งพาได้ หน้าเขาเริ่มซีดริมฝีปากเริ่มสั่น เฮนริคและผีเริ่มจะจ้องมองกัน
"ฮะ.."
เฮนริคได้วางแผนเอาไว้ว่าจะแกว่งขวานเข้าใส่เมื่อผีเข้ามาใกล้พอ แต่เมื่อเขาได้มองเข้าไปในตาของผีตัวเขาก็แข็งไม่สามารถขยับได้
ผีหยุดที่จะลอยเข้ามาใกล้และยกมือของมันขึ้นข้างหนึ่ง
"กรี๊ดดด..."
และปล่อยเสียงดังออกมา
'...ขยับสิ ขยับ'
เฮนริคพยายามควบคุมร่างกายของตนเอง แต่เขาก็ไม่สามารถสลัดความหวาดกลัวอันชั่วร้ายที่ครอบงำร่างกายเขาออกไปได้ แต่หลังจากนั้นสักครู่
ผีได้หันไปมองรอบๆ และลอยทางซ้ายจากจุดที่เธออยู่
เมื่อเธอหายตัวไปสักพักเฮนริคก็สามารถที่จะขยับตัวได้อีกครั้ง ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
"นั้นมันอะไรกัน"
"มันไปแล้ว?"
คาลตูได้ตอบคำถามของฮิโระ
"อ่า เธอหายไปโดยไม่ได้ทำอะไร"
เมื่อผีได้หายไป อคานน่าก็ได้หยุดสวดมนต์และลุกขึ้น
ทุกคนได้หันมามองเขาและก็เป็นครั้งแรกที่อคานน่าพูดคำที่พวกเขาเข้าใจ
"ขอขอบคุณพรจากบรรพบุรุษ"
เฮนริคตกใจแบะเผลอเปล่งคำพูดออกมา
"อะไรน่ะ อคานน่าสามารถพูดได้"
อคานน่าได้ตอบสนองโดยการปิดปากเงียบและกระพริบตาในเวลาต่อมา มันทำให้เฮนริคหมดคำพูด คาลตูจึงพูดขึ้น
"ขอแทรกหน่อยนะ แต่ว่าว่าใสเมื่อปีไปแล้ว...เขาก็ควรจะไปกันต่อพวกเราได้ใช้เวลากว่า 10 นาทีแล้วตั้งแต่การจู่โจมเริ่มขึ้น เราควรทำจะไปต่อและเคลียการจู่โจม"
เฮนริคได้ยืนขึ้นและหยิบโคมไฟขึ้นมา
"ช..ใช่แล้ว...ฉันคิดดว่าผีไม่น่าจะใช่มอนสเตอร์"
ทั้งสี่คนได้รีบเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วพวกเขาไปต้องการรอให้ผีโผล่ขึ้นมาอีกครั้งแต่...
"อะบรูวว~"
พวกเขาได้ยินเสียงหมาป่าหอนดังมาจากระยะไกล มันเป็นเสียงที่ไม่มีใครอยากได้ยินอีกหลังจากจบบทที่ 2 มา ฮิโระกล่าวขึ้น
"เดี๋ยวก่อนนะ...นั้นเสียงของหมาป่่หรอ?"
คาลตูเอียงคอและถามขึ้นมาต่อ
"มีหมาป่าอยู่ในสุสานนี้"
เฮนริคได้แต่เม้มริมฝีปาก ในบทนี้มีแต่สิ่งน่าประหลาดใจในตอนนี้เขาไม่สามารถคาดเดาอะไรได้อีกแล้ว
****
ซังจินได้ค้นหารอบๆสุสานอย่างเอาเป็นเอาตาย พวกมอนสเตอร์ที่ยังมีชีวิตรอดอยู่กลายเป็นเรื่องยากที่จะหาเจอ
หรืออีกนัยหนั่ง คือเขาได้กำลังวิ่งอยู่เป็นวงกบมแต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอิ่นสุสานนี้มันมืดจนเกินไปมันยากที่ที่จะบออกว่าด้านไหนซ้ายด้านไหนขวา
ในที่สุดแบ้วเปลวเพลิงบนคาตานะก็หายไปเมื่อมันครบ 5 นาที ซังจินก็พุ่งเข้าไปในความมืดอีกครั้ง
"5 นาทีได้ผ่านไปแล้ว ฉันเหลือเวลาอีกไม่มาก..."
ซังจินได้เรียกโอเปอเรเตอร์
"โอเปอเรเตอร์ เอา...."
เขากำลังจะเอาเถ้าซาลาแมนเดอร์ออกมา แค่แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ถึงเคน
'จริง..สิ..'
[ได้โปรดบอกสิ่งที่ต้องการ]
"อ่า ไม่มีอะไร"
ซังจินล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบรูปสลักออกมา และโยนมันไปในอากาศ
ก่อนที่จะถึงพื้นรูปปั้นขนาดเบ็กได้กลายเป็นหมาป่าตัวใหญ่ มันช่วนไม่ได้ที่ซังจินจะยิ้มให้กับเคน
'หมาป่านั้นมีวิสัยทัศน์ในตอนกบางคืนที่ดีเยี่ยม'
เคนปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในการจู่โจม
"อะบรูวว~"
เคนได้หอนออกมาเป็นเวลานานเพื่อประกาศแสดงตัวของเขา ซังจินได่เดินเข้าไปหาเคน
"เคนที่นี่มันมืดเกินไปที่ฉันจะมองเห็น แกช่วยพาฉันไปหาแท่นบูชาที่มีรูปห้าเหลี่ยมหน่อย เข้าใจนะ มันน่าจะมีลักษณะคล้ายกัับกองหินนะ"
เคนได้เห่าออกมาสั้นๆ เพื่อให้รู้ว่าเขาเข้าใจ
"โฮ่ง ๆ"
"ค้นหาจากศพ...ไม่ใช่สิไม่ใช่พวกที่ไม่เคลื่อนไหว หาแต่พวกที่ยังเคลื่อนไหวอยู่การค้นหามอนสเตอร์ที่ยังเคลื่อนไหวอยู่อาจจะนำเราไปสู่บอส"
ซังจินพยายามที่จะอธิบายข้อมูลเพิ่มเติม แต่ว่าเคนได้เริ่มที่จะเคลื่อนไหวแล้ว ซังจินดึงได้แต่เดินตามหลังของเคนไป
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เคนก็ได้หยุดลงและแยกเขี้ยว
"กรรร.."
เคนได้ขู่เตือนออกมา
"แกเจออะไรงั้นหรอ เคน"
ซังจินได้ยืนอยู่ข้างๆเคน และในระยะไกล
"แก๊ก แก๊ก"
เขาก็ของพวกกูลและโครงกระดูกศัตรูนั้นพวกจำนวนมากเคนจึงได้เห่าเตือให้ซังจินได้รู้ และทั้งคู่ก็พุ่งเข้าไปโจมตีพร้อมกัน
****
"เฮ้อ...ไม่มีศัตรูเลย.."
ฮิโระได้บ่นในเรื่องที่ไม่มีศัตรูให้สู้เลย เฮนริคก็เห็นด้วยกับเขา
"ใช่...."
เฮนริคนั้นชอบความปลอดภัยมากกว่าความประมาท แต่ฮิโระก็ชอบวิ่งออกไป เมื่อสักครู่กลุ่มของเขาก็ได้วิ่งออกไปเพื่อหาศัตรูแต่พวกเขาก็มันจะพบว่าพวกมันได้ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
และในขณะที่ทั้งสี่กำลังตรวจสอบรอบๆ พวกเขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆ
"ฉับ โฮ่ง แก๊ก"
มันเป็นเสียงของการต่อสู้ พวกเขาต่างมองไปที่ทิศทางที่มาของเสียงและเฮนริคก็ได้ถามขึน
"...เราควรจะไปตรวจสอบไหม"
ไม่มีใครที่ปฏิเสธ นับตั้งแต่ที่พวกเขาเจอกับผี พวกเขาก็ไม่เจอศัตรูเลยสักตัวเดียวที่มีชีวิตอยู่ พวกเขาได้มุ่งหน้าไปสู่ที่มาของเสีย
"..นักรบที่ไร้ซึ่งใครเทียบได้..."
อคานน่าได้กล่าวประโยคที่สองของเขาออกมา นักล่าคนอื่นๆได้ยกโคมไฟขึ้นเพื่อที่จะเดินไปเข้าไปสู่ความวุ่นวาย
และในไม่ช้าพวกเขาก็ได้เห็นการต่อสู้ของเค เขาเป็นผู้ใช่ดาบคาตานะด้วยความเร็วและพลังจนทำให้เหมือนกับสายฟ้าฟาด
การกวัดแกว่างดาบแต่ละครั้งของเขาจะตัดซอมบี้ถึงสามหรือสี่ตัว
กูลจะพยายามเข้าไปโจมตีในจุดบอดของเขาในบางครั้ง แต่ก็เกมือนกับเคนั้นมีตาหลังเขาจะหยุดพวกมันด้วยฝักดาบของเขาและแยกตัวพวกมันออกด้วยคาตานะของเขา
"ก๊าซซ"
เมื่อเผชิญหน้ากับใบมีดที่ยิ่งใหญ่ของซังจิน กูลก็ได้ถูกตัดเป็นชิ้นๆราวกับกระดาษ
โครงกระดูกได้พยายามแทงหอกเข้าใส่เค แต่เขาก็หลบมันอย่างสบายๆด้วยการเอนหลังหลบและ
"ก๊าา"
โครงกระดูกได้โดนพุ่งเข้าชนโดยหมาป่าทำให้มันล้มลง เมื่อมันพยายามจะลุกขึ้นก็ได้ถูกหมาป่าเข้ามาฉีกมันเป็นชิ้นๆด้วยกรงเล็บ
"ว๊าว.."
เฮนริคได้พูดออกมาด้วยความสะพรึงกลัว สำหรับฮิโระแม้ว่าเขาจะมีความสามารถที่ดีแต่ก็ยังอยู่ในเกณของมนุษย์
แต่สิ่งที่เขาได้เห็นการต่อสู้จากเคมันเหนือเกินกว่าระดับมนุษย์ไปแล้ว เหมือนกับว่าพวกเขากำลังดูสงครามของเทพ
'ฮิโระ'
เฮนริคได้นึกถึงฮิโระและหันไปมองเขา เขาก็เห็นว่าฮิโระก็กำลังมองดูการต่อสู้และอ้าปากกว้างออกมาเช่นกัน
'ฉันสงสัยว่าเขาจะรู้สึกยังไงบ้าง'
และเมื่อการต่อสู้จบลงเสียงที่วุ่นวายก็หมดไปกลายเป็นความเงียบกริบ รอบๆตัวของเคนั้นไม่มีอะไรเลยนอกเสียจากกองซากศพ
เคได้ขมวดคิ้วขึ้นในขณะที่เขาได้เช็ดเลือดออกไปจากตัวและคาตานะ หมาป่าที่อยู่ข้างๆเคได้หันมามองพวกเขาสั้นๆและหอนขึ้น
"อะบรูว"
ในที่สุดเคก็หันมามองพวกเขาสี่คน
"อ่า...พวกนายมาแล้ว"
แต่
"กรร"
หมาป่าที่อยู่ถัดจากเขาได้แยกเขี้ยขู่ เมื่อเคสังเกตุเห็นเขาก็กล่าวกับหมาป่า
"เฮ้ อย่าทำอย่างนั้นเคน นักล่าพวกนี้ไม่ใช่ศัตรู"
เมื่อเขาพูดคำนั้นออกมาหมาป่าก็ดูผ่อนคลายและเดินเขาไปใกล้ขาของเขามันดูเชื่องและซื่อสัตย์ต่อเจ้านาย หลังจากเคพูดกับหมาป่าจบเขาก็หันขึ้นมามอง
****
ซังจินได้นับยอดของพวกเขาในใจอย่างรวดเร็ว
'หนึ่ง สอง สาม สี่'
เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครที่เสียชีวิตลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีใครได้รับบาดเจ็บให้เห็น แะ่น่าเสียดายเขาไม่มีโอกาสได้เห็นพลหอกผู้เชี่ยวชาญกับซามูไรระดับกลางว่าป้องกันกลุ่มของเขาได้ดีขนาดไหน
'นี้เป็นกลุ่มของผู้ที่มีพรสวรรค์'
แม้ว่าเหตุหลักเลยที่พวกเขาปลอดภัยก็คือมอนสเตอร์ส่วนใหญ่ได้ถูกจัดการด้วยมือของเขา ชายชาวยุโรปได้เดินเข้ามาและพูดกับเขา
"นี่มันน่าตกใจมากเลยเค"
ซังจินตอบรับเขาอย่างดี
"ฉันดีใจที่เห็นว่าพวกนายสบายดี"
"ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายมีความสามารถมากขนาดที่....พอที่จะอยู่รอดคนเดียวได้"
"อ่า ขอบคุณ"
ซังจินยอมรับคำชมเชยแต่ก็มีสิ่งสำคัญที่เขาควรจะพูดก่อน เขาได้ชี้ไปที่หินที่กรองอยู่เป็นแท่นบูชา
"เอ่อ...ฉันกำลังจะเข้าไปหาบอส...พวกนายจะทำอะไรต่อหละ"
มันเป็นวงเวทที่ใช้อัญเชิญ ลิชเดธมอน ที่ถูกค้นพบโดยเคนขณะที่ค้นหาในความมืด
ชายชาวยุโรปมองไปที่แท่นบูชาและเคร่งเครียดขึ้นมา เด็กหนุ่มคนญี่ปุ่นที่อยู่ถัดมาก็ก้าวออกมาและพูดขึ้น
"นายหมายถึงอะไร พวกเราจะต่อสู้"
ยืนยาวแอฟริกันที่อยู่ด้านหลังก็ยังคงจ้องมองพร้อมกับใบหน้าที่ว่างเปล่า
คนเนปาลที่อยู่เบื้องหลังดูเหมือนจะกำลกังวลใจ และซังจินก็พูดปลอบเขา
"เอาหละ ฉันจะไม่ขอให้พวกนายเข้าร่วมต่อสู้ แม้ว่าฉันจะไม่สามารถต่อสู้ไปด้วยและปกต้องพวกนาย แต่เมื่อพวกนายรู้สึกว่าไม่สามารถสู้ต่อได้ก็จงอย่าลังเลที่จะถอยออกมาจาการต่อสู้ ความจริงแล้วฉันก็สามารถที่จะเคลียการจู่โจมนี้ได้แม้จะไม่มีความช่วยเหลือจากพวกนาย"
บอส ลิชเดธมอน นั้นมันเป็นศัตรูที่สู้ด้วยลำบากมาก มันจะใช้การโจมตีด้วยเวทมนต์คนที่แข็งแกร่งหลายคนได้พบกับการตายอย่างกะทันหันด้วยเวทมนต์ของมัน
ด้วยคำพูดนี้คนชาวยุโรปเฮนริคและชาวเนปาลได่ก้าวถอยหลังออกมา ทำให้เหลือเพียงสามคน
ซังจิน เด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นฮิโระและชาวแอฟริกันอคานน่า ซังจินเงยหน้าขึ้นพวกเขามองอย่างรวดเร็ว
'เยี่ยม....อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็อยู่ในระดับที่จะไม่สร้างปัญหาให้กับฉัน'
ซังจินยืนอยู่เบื้องหน้าของแท่นบูชาที่ด้านบนมีรูปซาตานห้าเหลี่ยมถูกวาดอยู่
ที่อยู่ตรงกลางมีซี่โครงและกระดูกได้เปล่งแสงสีฟ้าออกมา
"เฮ้นายซามูไร รอบๆนี้ควรจะมีกระดูกที่เรืองแสงสีฟ้าอยู่รอบๆ ไปรวบรวมมันมาให้ฉันที"
ฮิโระได้รวบรวมกระดูกอย่าเงียบๆในขณะที่ซังจินบอก และซังจินยังได้ค้นหาเจออีกสามชิ้น
กระดูกขาอ่อนข้างขวา กระดูกต้นแขนขวาและหัวกระโหลก ซามูไมนำเอากระดูกต้นแขนซ้ายและกระดูกขาอ่อนขาขวามา ซังจินได้ชี้ไปที่จุดวงเวทและอธิบาย
"วางมันเอาไว้ตรงดาวห้าแฉกนั้น ใช่ร่างกายมันเป็นศูนย์กลางดังนั้นวาวกระดูกทั้งสองชิ้นนั้นไว้ด้านซ้ายของนาย เข้าใจนะ"
และตามคำแนะนำซามไรได้วางกระดูกไว้ทางด้านซ้ายตรงกระดูกเชิงกรานและกระดูกซี่โครง
ซังจินก็ตามเข้าไปวางกระดูกขาอ่อนด้าขวาและกระดูกต้นแขนข้างขวาบนดาวห้าแฉก เขาหยุดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนั้นไปมองนักล่าทั้งสองคน
"พร้อมนะ ซามูไรระดับกลางและพลหอกผู้เชี่ยวชาญ"
ทั้งสองคนหยักหน้าเลกน้อย ซังจินจึงวางกระโหลกศีรษะชิ้นสุดท้ายบนดาวห้าแฉก
วงเวทสีแดงโดยรอบสว่างขึ้นและเกิดเงาขึ้นทั่วพื้นที่กระดุกก็เริ่มที่จะประกอบตัวกัน โอเปอเรเตอร์ก็ได้ประกาศขึ้นมา
[คำเตือน บอสมอนสเตอร์]
[ลิชเดธมอนปรากฏตัว]