Chapter 16 - Graysoul Cometary (2)
Chapter 16 - Graysoul Cometary (2)
เมื่อซังจินไปแล้ว ทั้งสี่คนที่เหลือก็ได้ตัดสินใจที่จะรวมกลุ่มกัน
"ใช่แล้ว ปล่อยให้ฉัน ฉันจัดการได้"
ฮิโระก็เป็นคนที่ช่างพูดเช่นเคย
"..."
อคานน่าก็เงียบกิบเช่นกัน แต่โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงความแตกต่างของนิสัยพวกเขาก็ได้ตกลงที่จะรวมกลุ่มกันไปจัดการเคลียการจู่โจมสุสานวิญญาณสีเทา
ด้านหน้าจะเป็นเฮนริวที่ถือขวานอยู่กับฮิโระที่ใช้คาตานะ ส่วนตรงกลางจะเป็นอคานน่าที่ใช้หอกและสุดท้ายหลังสุดจะเป็นคาลตูที่ใช้ธนู
ก่อนที่จะเข้าสุสานเฮนริคและคาลตูก็ได้เอาโคมไฟที่พวกเขาเตรียมไว้ออกมา
"มันคือ?"
เฮนริคตอบกลับไปตามจริง
"อะไร ก็โคมไฟในกระดาษข้อมูลมันได้บอกว่าในสุสานนั้นมืดมากคุณควรที่จะซื้อโคมไฟที่ตลาดมืด"
ฮิโนะได้เอียงศีรษะของเขา
"อย่างนั้นหรอ"
อคานน่าก็ยังแสดงออกด้วยการกระพริบตาเช่นเคย เฮนรินไก้แต่ส่ายหัว
"ฉันอยู่ด้านหน้าและคาลตูอยู่ด้านหลัง ฉันหวังว่าแสงไฟมันจะส่องถึงนะ ไปกันเถอะ"
เฮนริคได้เดินนำเข้าไปในสุสานในเวลาต่อมา
"ก๊าซซ~"
มีซอมบี้โผล่ขึ้นมาไม่กี่ตัว
"ซอมบี้"
"ไม่มีปัญหา"
ฮิโระวิ่งเข้าไปอย่างไร้ความกลัว
"...เดี๋ยวก่อน"
เดิมทีเขาได้วางแผนที่จะสังเกตุดูศัตรูก่อนด้วยการป้องกัน แต่ฮิโระได้ทำให้เขาต้องรีบวิ่งตามเข้าไปช่วยสมทบอย่างไม่ลังเล แต่อย่างไรก็ตามฮิโระทำได้ดีกว่าที่เขาคิด
เขาได้ใช้ดาบอย่างชำนาญเมื่อพวกซอมบี้ได้เข้ามาสู่ระยะโจมตีของเขาแขนขาของพวกมันจะถูกตัดออกไปในทันที และเมื่อพวกซ้อมบี้ล้มลงจากการเสียขาไปเขาก็จะตัดหัวขพวกมันด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่เฮนริคจะได้ไปถึงเขาก็ต้องใบ้กิน
"ฉันเห็นแล้วว่าทำไมเขาถึงมั่นใจขนาดนั้น"
ในขณะที่เขาวอกแวกซอมบี้ก็ได้พุ่งเข้าใส่เขา เฮนริคจึงรีบขวานไปตามสัญชาตญาณและมันก็ได้ตัดข้อมือของซอมบี้โดยไร้ซึ่งแรงต้านใดๆ
แต่ปัญหานี้ก็ได้ทำอันตรายแก่เขาที่เกิดความวอกแวก เพราะซอมบี้ยังคงพุ่งเข้าใส่เขาต่อโดยไม่สนใจถึงความเสียหาย
เฮนริคที่เหวี่ยงขวานไปแล้วไม่ได้อยู่ในท่าๆที่สามารถป้องกันตนเองได้ ในตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะป้องกันการกัดของซอมบี้ได้ในช่วงเวลาอันตรายนี้
"วูบบ"
หอกยาวของอคานน่าได้ทะลุศีรษะของซอมบี้จนมาถึงใบหน้า
"อะโฮ่"
เมื่อใดก็ตามที่อคานน่าแทงหอกออกไปเขาก็จะตะโกนคำแปลกๆออกมาและจะมีหลุมปรากฏบนหน้าของซอมบี้
ซอมบี้ที่ถูกแทงหน้าด้วยหอกทุกตัวจะล้มลงและไร้ซึ่งพลังชีวิตของพวกมัน ต้องขอบคุณการค่อสู้ที่กล้าหาญของทั้งสองคนจึงทำให้เฮนริคและคาลตูไม่ได้ทำอะไรมากนะ
"ย้าา"
"อะโฮ"
ทั้งหมดที่เฮนริคและคาลตูได้ทำในตอนนี้ก็คือให้แสงที่ทำให้ทั้งคู่สามารถต่อสู้ได้ถูกต้อง
"เอาหละ เฮนริคขยับแสงมาใกล้ตรงนี้อีกหน่อย"
อย่างน้อยฮิโระก็ยังต้องการแสงในการต่อสู้
"อะโฮ่โฮ่"
อคานน่าได้วิ่งเข้าไปในความมืดที่ไม่สามารถมองเห็นไก้ชัดตามลำพังและฆ่าพวกซอมบี้ด้วยตัวเขาเอง
"สิ่งที่ฉันเห็นอยู่นี้มันอะไรกันเนี้ย"
เฮนริคผู้ที่อาศัยอยู่โคเปนเฮแกนมาตลอดชีวิตกำลังมีปัญหาในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่เขาเห็นอยู่
แต่ก็ต้องขอบคุณในความพยายามของทั้งสองคนอีกครั้งที่ทำให้เฮนรินและคาลตูสามารถเดินหน้าเขาไปโจมตีได้อย่างไม่มีปัญหา
ในบางครั้งจะมีกูลที่มีความเร็วที่มากกว่าซอมบี้พุ่งเข้ามาโจมตีเฮนริคและคาลตู แต่เมื่อใดก็ตามที่พวกเขากำลังตกอยู่ในอันตรายฮิโระและอคานน่าก็จะเข้ามาช่วยปกป้องพวกเขา
เฮนริคได้ขอบคุณทั้งสองคน
"ขอบคุณพวกนายสองคนมาก...ฉันคิดว่าพวกเราสามารถที่จะเคลียการจู่โจมนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา แน่นอนว่าก็ควรที่จะเห็นบอสก่อนถึงจะรู้....แต่เท่าที่ฉันเห็นมันก็ควรจะเพียงพอแล้ว สิ่งที่น่ากังวลที่จริงก็คือเด็กหนุ่มเคก่อนหน้านี้ ฉันไม่รู้ว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับเขามั้ง"
อย่างไรก็ตามการแสดงออกของฮิโระนั้นแปลกมาก ฮิโระพูดราวกับว่าเขารู้อะไรบางอย่าง
"ใช่ถ้าให้ฉันเดานะ....แต่ก็น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ ในรอบนี้"
"อะไรที่มันแปลกงั้นหรอ"
"ฉันหมายความว่า....ฉันคิดว่าอะไรบางอย่าง...จำนวนมอนส์เตอร์และความแข็งแกร่งของพวกมัน...นายไม่รู้สึกหรอกว่าบางอย่างมันดูมันง่ายกว่าในครั้งก่อนในป่าอเฮนน่านะ"
คาลตูก็เห็นด้วยกับข้อสังเกตุนี้
"ฉันคิดว่าเขาพูดถูกนะ เมื่อกับจำนวนที่ไม่สิ้นสุดของหมาป่าในการจู่โจมครั้งก่อน ดูเหมือนกับมีศัตรูน้อยเกินไปในการจู่โจมนี้ กูลก็น้อยเช่นกัน...หรืออาจจะเป็นเพราะเรายังเข้าไปไม่ลึกพอ"
"อี้"
อคานน่าได้ขัดการสนทนาด้วยการทำเสียงแปลกๆ เฮนริคจึงหันไปหาเขา
"มีอะไรงั้นเหรออคานน่า นายต้องการจะพูดอะไร"
อคานน่าได้ทำท่าทางไปที่โคมไฟของเฮนริค เฮนริคเข้าใจท่าทางของเขาในทันทีแล้วส่งโคมไฟไปให้อย่างง่ายดาย แต่ก็ยังถามคำถามขึ้น
"อคานน่า นาย...ฉันคิดว่านายไม่ต้องการแสงเพื่อที่จะมองซะอีก"
"อี้ อี้"
อคานน่าได้ทิ้งทั้งสามคนไว้และวิ่งออกไปในที่หนึ่งจากนั้นเขาก็หยุดลงและวางโคมไฟลงบนพื้น ชายทั้งสามคนได้แต่เปิดปากด้วยความประหลาดใจ
ไม่ไกลจากจุดที่พวกเขาได้ต่อสู้อยู่ ตรงนั้นมีศพของซอมบี้อยู่นับไม่ถ้วนและศพของกูลกองอยู่รอบๆ เฮนริคได้เดินเข้าไปหาอคานน่าและหยิบโคมไฟขึ้นมา เขามองไปรอบๆในบริเวณที่โคมไฟส่องถึง
ที่นั้นเขาได้พบซากศพซอมบี้และกูลมากมายไม่ใช่เพียงแค่นั้นมันยังมีโครงกระดูกอยู่อีกด้วย เฮนริคได้แต่พึมพัมกับตัวเอง
"นี้มันบ้าอะไรเนี้ย..."
****
ซังจินได้เหวี่ยงดาบของเขาเหมือนกับสายฟ้าฟาด
"ฉับบ"
ด้วยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว ซอมบี้สองตัวได้ถูกตักขาดลงพร้อมกันเลือดและน้ำดีของมันได้พุ่งกระฉูดไปเต็มหน้าของซังจิน
"ฉูดดด"
กลิ่นเหม็นของคาวเลือดมันได้ลุกโชนขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อที่ซังจินเหวี่ยงดาบของเขาอะไรก็ตามที่ใบดาบได้สัมผัสถูกมันก็จะถูกตัดโดยไร้แรงต้านใดๆทั้งสิ้น และของเหลวที่ไม่วามารถระบุได้เต็มไปทั่วพื้นที่แห่งนี้
"..."
มีสองปัญหาใหญ่เกี่ยวกับสุสานวิญญาณนี้ อย่างแรกเลยก็คือพวกศัตรูนั้นมีกลิ่นเหม็นและสกปรกโดยที่ส่วนใหญ่จะเป็นพวกซอมบี้และกูล
อย่างที่สองคือพวกมันจะเป็นอันตรายเพราะพวกมันจำนวนมากนั้นจะพุ่งเข้ามาโจมตีใส่โดยไม่สนอะไรทั้งสิ้นแม้ว่าจะไม่เป็นภัยคุกคามกับซังจินก็เถอะ แต่การต่อสุ้กับเจ้าพวกนี้ก็น่ารำคาญอยู่ดี
'ฉันไม่สามารถที่จะหามันทั้งแมพได้'
มันเป็นครั้งที่สองแล้วแต่เขาไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่ามีชิ้นส่วนลับอยู่ที่ไหน เขาเพียงแค่ต้องการให้การจู่โจมจบลง
แผนของเขาก็คือ เมื่อเขาพบวงเวทสีแดงที่ซ่อนอยู่ภายในสุสาน เขาก็จะสามารถที่จะรู้ที่อยู่ของบอส 'เดธมอน' ได้เพื่อที่จะฆ่ามันอย่างรวดเร็วและไปค้นหาชิ้นส่วนลับ
'....ไปที่ตรงนั้นอีกครั้งหนึ่ง'
แต่เขาจำไม่ได้แล้วว่าวงเวทสีแดงมันอยู่ตรงไหน สุสานแห่งนี้มันมืดเกินไปที่จะระบุสถานที่ได้
เมื่อครั้งนั้นพวกเขาทั้งห้าคนได้เดินวนเวียนอยู่ภายในสุสานอย่างไร้จุดหมายจนกว่าจะบังเอิญไปสะดุดวงเวทเข้าและพวกเขาเกือบที่จะไม่สามารถเอาชนะบอสได้ภายในเวลาที่กำหนด
'...บางทีฉันควรที่จะซื้อโคมไฟมา..'
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุในข้อมูลเกี่ยวกับสุสานมันถึงได้กระตุ้นให้นักล่าซื้อโคมไฟคนละหนึ่งอัน
มันเป็นการยากที่เขาจะรักษาเงินไว้โดยไม่ใช้สักบาทเพื่อที่ไปซื้อไอเทมระดับตำนานในภายหลัง ซังจินได้เรียกโอเปอเรเตอร์
"โอเปอเรเตอร์"
[ว่ายังไง นักล่าที่น่านับถือ]
"เอาเถ้าของซาลาแมนเดอร์ที่ฉันได้รับเป็นรางวัลในการจู่โจมครั้งล่าสุดมา"
ได้มีถุงปรากฏออกมาอยู่บนลูกบาศก์มันเป็นรางวัลที่ได้รับจากป่าอเฮนน่า ซังจินยกมันขึ้นมา
เถ้าของซาลาแมนเดอร์
ไอเทมใช้งานระดับปกติ
ความสามารถพิเศษ: เพลิง(I)
เพลิง(I) - ปล่อยเปลวเพิงออกมาอ่อนๆ 5 นามี
เป็นเถ้าที่เก็บมาจากซาลาแมนเดอร์ที่ตายแล้ว
มีสถานที่ๆถูกไว้สร้างเป็นฟามของซาลาแมนเดอร์เพื่อที่จะเก็บเกี่ยวเถ้ามันอีกด้วย
ซังจินทาขี้เถ้าไปที่ดาบขอบเขาและครู่นึงไฟก็ได้ลุกขึ้นรอบๆดาบ
'...มันมีประโยชน์'
ปกติมันเป็นไอเทมที่ไว้ใช้สำหรับเพิ่มพลังโจมตี แต่ว่าซังจินกลับมองมันเป็นแค่เพียงแหล่งกำเนิดแสง
เขามีดาเมจที่สูงพออยู่แล้วและการขายก็ได้แค่เพียงเหรียญเดียวเท่านั้น ด้วยระยะเวลา 5 นาทีนี้เขามั่นใจว่าเขาสามารถที่จะหา 'เดธมอน' เจอ
"แก๊ก แก๊ก"
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะเปลวไฟมันจึงทำให้กลุ่มโครงกระดูกเดินเข้ามาหาเขา ซังจินนั้นชอบพวกมันเพราะว่าอย่างน้อยก็ไม่มีเนื้อที่เน่าเหม็นและเลือดที่สกปรก
พวกมันแต่ละตัวต่างก็ถือดาบหอกหรือขวาน และพวกมันได้เคลื่อนที่เข้ามาหาซังจินด้วยความเร็วที่ไม่มีทางเทียบได้กับซังจิน
ซังจินได้ถือดาบคาตานะด้วยมือข้างหนึ่งและอีกข้างหนึ่งถือฝักดาบเหมือนกับการต่อสู้ด้วยดาบคู่ที่ทั้งฟันทั้งทุบ
ไม่มีตัวใดเลยที่โจมตีถูกซังจิน และเมื่อศัตรูทั้งหมดได้ถูกทำลายด้วยการทุบตีจนละเอียด เขาก็ได้มองไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
อม้ว่าเขาจะมองเห็นดวงจันทร์ในตอนนี้ แต่เขาก็ไม่สามารถบอกทิศทางได้เลย ไม่รู้ว่าที่ไหนควรจะไปและควรจะไปตรงไหน
"....ฉันไม่รู้ว่าวงเวทมันอยู่ตรงไหน...ฉันควรจะทำยังไงกี"
ซังจินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึงก่อนที่จะใช้แผนการค้นหาทุกอย่างให้กว้างและเร็วที่สุด
ถ้าหากเขาวิ่งเข้าไปเจอศัตรูก็แสดงว่าเป็นที่เขายังไม่เคยไป แต่หากที่นั้นเต็มไปด้วยซากศพก็แสดงว่าเขาเคยไปมาแล้ว
ถึงแม้ว่าเขาจะเหนื่อยใจและรังเกียจกับการต่อสู้กับซอมบี้และกูล แต่เขาก็ได้กล้ำกลืนฝืนทนและทำมันอีกครั้ง
****
"ไม่ใช่ว่า....เคทำทั้งหมดนี่ด้วยตัวคันเดียว"
เฮนริคถามออกมาอย่างไม่เชื่อและฮิโระก็ตอบกลับ
"แล้วจะเป็นใครไปอีก?"
เสียงของฮิโระดูเหมือนจะเคือง
"เยี่ยม ฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีตราบเท่าที่เราสามารถเคลียการจู่โจมได้ถูกไหม?"
เฮนริคพยายามปลอบเขาแต่ฮิโระก็ยังกอดอกและเงียบอยู่ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกถึงการแข่งขันระหว่างเขากับซังจิน
นักล่าทั้งสี่คนได้ต่อสู้และคนหาภายในสุสานทันใดนั้นพวกเขาก็พบบางอย่าง
"เอ๊ะ"
อคานน่าได้หยุดลง เขาสามารถที่จะมองได้ไกลในความมืด ในขณะที่คนอื่นๆกำลังกังวลอยู่เขาก็ปักหอกลงกับพื้น
"Amero Hum manieh damondi!"
เขาได้ล้มลงคุกเข่าและเริ่มที่จะโค้งคำนับอย่างรวดเร็วคล้ายกับเขายอมจำนนต่ออะไรบางอย่างและเมื่อคนอื่นๆมองตามไปพวกเขาก็เห็นคนสวมชุดสีขาว
"ว๊ากกกกก"
ฮิโระได้เริ่มกรีดร้องออกมาคล้ายกับผู้หญิงและไปหลบหลังเฮนริค
"ก..กะ..เกิดอะไรขึ้น"
ฮิโระได้ตอบคำถามในทันที
"ผ..ผะ..ผี"
เฮนริคมองไปอีกครั้งเขาเห็นคนที่สวมเสื้อผ้าสีขาวหน้าซีดผมยาวเธอกำลังเข้ามาใกล้พวกเขา
แต่การเคลื่อนไหวของเธอมันดูเรียบง่ายเกินไป เมื่อเขามองไปอย่างระมัดระวังเขาก็เห็นว่าด้านล่างของเธอไม่มีเท้าอยู่ เฮนริคพยายามที่จะให้กำลังใจฮิโระ
"พวกเราควรที่จะสะ...สู้กับมัน"
ฮิโระได้จับเสื้อเฮนริคแน่นและพึมพัมออกมา
"ผะ..ผีมันน่ากลัว"
อคานน่าก็ยังคงสวดมนต์อธิฐานต่อไป
"Raome Kani Besemeres"
เฮนริคเริ่มที่จะตื่นตระหนกเมื่อเอสของทีมทั้งสองคนสูญเสียกำลังใจที่จะสู้และมีพฤติกรรมแปลกๆ
เฮนริคมองไปที่ผีอีกครั้ง ในตอนนี้ผีที่ไม่มีขากำลังลอยเข้ามาหาพวกเขา