ตอนที่ 269 หลิน ซวนหนีออกจากบ้าน
ตั้งแต่ที่หลิน ฮวงกลับมาบ้าน เขาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกเทคนิคปืน อย่างไรก็ตาม เขากลับคิดที่จะข้ามเทคนิคขั้นกลางไปและบอกให้หลิน ซวนสอนเทคนิคขั้นสูงแก่เขา หนึ่งในพวกมันคือพายุสายฟ้า ทักษะที่อยู่ในระดับเดียวกับทักษะต่อสู้ระดับสุดยอดอื่นๆ ซึ่งต้องใช้ชิ้นส่วนการ์ด3000ชิ้น หลิน ฮวงเพียงสามารถสะสมชิ้นส่วนการ์ดได้ครบหลังจากฝึกอยู่8วัน
นอกจากการฝึกเทคนิคปืน หลิน ฮวงยังเข้าไปในลานประลองนักล่าและต่อสู้กับหลิน ซวนอยู่สองครั้งในห้องฝึกส่วนตัวที่ไม่ต้องใช้รหัส การเข้าสู่ระบบอย่างฉับพลันหลังจากหายไปนานของเขาก่อให้เกิดความวุ่นวาย แม้ว่าเขาจะไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ แต่มันก็ยังกลายเป็นประเด็นร้อนแรงบนลานประลองนักล่า อย่างไรก็ตาม เขาก็ยุ่งจนไม่มีเวลาจะสนใจกับเรื่องเหล่านี้ หลิน ซวนได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด อย่างที่ได้กล่าวไป เขาเพียงเชี่ยวชาญพื้นฐานการต่อสู้แต่ไม่ได้เรียนรู้การพลิกแพลง ตอนแรก เขาถูกฆ่าโดยหลิน ฮวงในการโจมตีเดียวแต่หลังจากนั้นสักพัก มันก็กลายเป็นเรื่องยากที่จะฆ่าเขา
การฝึกแรกใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงและเขาก็ถูกฆ่าโดยหลิน ฮวง แม้ว่าเขาจะมีทีท่าเงอะงะอยู่ตลอดเวลา เขาก็ไม่ได้แย่เกินไปสำหรับมือใหม่ การฝึกครั้งที่สองใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงและเขาก็สามารถจบการต่อสู้ได้แบบเสมอ หลิน ซวนเพียงอยู่ในระดับเงินขั้น3ขณะที่หลิน ฮวงอยู่ในระดับทองขั้น2 ด้วยความสามารถของหลิน ฮวงในปัจจุบัน เขาสามารถจัดการกับคนที่ต่ำกว่าผู้หลุดพ้นได้แต่หลิน ซวนกลับสามารถสู้กับเขาได้อย่างสูสี หลิน ฮวงมีเพียงความคิดเห็นเดียวต่อฝีมือของหลิน ซวน นั่นก็คือ-เขาต่อสู้ราวกับมอนสเตอร์ที่ผ่านการกลายพันธ์สูงสุด!
นอกจากการต่อสู้กับหลิน ซวน หลิน ฮวงก็ได้รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับดราแคนน่า(เงื่อนไขการปลดผนึกของชาโคล ตอนก่อนผมเขียนไปว่าชิ้นส่วนมังกร แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นมังกรหรือเปล่า) และลาว่าใต้ดินบนเครือข่ายหัวใจและเครือข่ายนักล่าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการอัพเกรดชาโคล ไทแรนด์ และมอนสเตอร์อัญเชิญอื่นๆของเขา เมื่อเทียบกับตัวอื่น เงื่อนไขของไป่และเนฟิลิกง่ายกว่ามากเพราะมอนสเตอร์หลุดพ้นกลายพันธ์สองครั้งประเภทมืดไม่ได้หายาก เงื่อนไขการปลดผนึกที่ยากที่สุดคงจะเป็นเซียนดาบไร้ปราณีเพราะเขาต้องฆ่ามอนสเตอร์หลุดพ้นประเภทดาบที่แตกต่างกันถึง9ตัว มอนสเตอร์หลุดพ้นประเภทดาบส่วนใหญ่จะมีสติปัญญาเฉกเช่นมนุษย์ควบคู่ไปกับวิชาดาบอันน่ากลัว แม้กระทั่งมนุษย์หลุดพ้นก็ยังหลีกเลี่ยงที่จะสู้กับมอนสเตอร์ประเภทนี้
หลิน ฮวงใช้เวลา8วันที่ผ่านมาอย่างมีประสิทธิภาพ ตอน7โมงในวันที่9 เสียงออดบ้านเขาก็ดังขึ้นขณะที่เขากำลังทำอาหารเช้า หลิน ฮวงเปิดประตูและมันก็คือคุณฟู่ เขามองมาที่หลิน ฮวงอย่างตกใจ
“ฉันต้องบอกว่า...ความเร็วในการเลื่อนระดับของเธอน่ากลัวมาก”คุณฟู่กล่าวกับหลิน ฮวงอย่างตกใจ
“ไม่จริงหรอกครับ ผมใช้เวลาเกือบเดือนเพื่อเลื่อนเป็นระดับทอง”หลิน ฮวงยิ้มขณะที่อธิบาย
คุณฟู่เลิกคิ้วขึ้นโดยไม่พูดอะไรและเดินเข้าไปในบ้าน
“เด็กๆอยู่ไหนกันละ?ฉันซื้อของขวัญมาให้”คุณฟู่กล่าวขณะที่หยิบของขวัญออกมาทีละชิ้น
“เด็กๆอยู่ข้างบนครับ ทั้งคู่จะลงมาที่นี่ในอีกสักพัก โปรดนั่งรอก่อนครับ อาหารเช้ากำลังจะเสร็จพอดี”หลิน ฮวงหยิบน้ำผลไม้ให้คุณฟู่และกลับไปที่ครัว
ในไม่ช้า หลิน ซินและหลิน ซวนก็ลงบันไดมา ทั้งคู่รู้สึกมีความสุขเมื่อเห็นคุณฟู่เพราะทั้งคู่จำได้ว่าชายชราคนนี้คือคนที่ซื้อของขวัญให้พวกเธอมากมาย
ดวงตาของทั้งคู่สว่างขึ้นเมื่อเห็นของขวัญบนพื้น
“พี่คะ เรามีแขก!”หลิน ซินตะโกน
“พี่รู้แล้ว ไปพูดคุยเล่นกับเขาก่อน พี่จะเสร็จแล้ว”หลิน ฮวงตอบกลับ
“ฉันซื้อของขวัญเหล่านี้มาให้พวกเธอ รับไปสิ”คุณฟู่หัวเราะและกล่าวกับทั้งคู่
เมื่อรู้ว่าคุณฟู่คืออาจารย์ของหลิน ฮวงและพวกเธอก็เคยรับของขวัญจากเขามาก่อน ทั้งคู่จึงรีบหยิบของขวัญที่ตัวเองชอบอย่างบ้าคลั่ง
ขณะที่ทั้งคู่กำลังหยิบของขวัญ คุณฟู่ก็จับตามองไปที่หลิน ซวน เขาจ้องเขม็งขณะที่คอยดูหลิน ซวนหยิบกล่องโลหะสีดำจากกองของขวัญ.....
“อาหารเช้าพร้อมแล้ว มาเร็ว!”หลิน ฮวงตะโกนจากครัว
ทั้งคู่หยุดเลือกของขวัญและล้างมือในครัวเพื่อรอกินอาหารเช้า ในขณะเดียวกัน คุณฟู่ก็เดินตามมาช้าๆ
มันเป็นอาหารเช้าง่ายๆด้วยขนมปังทาเนย แฮมทอด ไข่ดาวสองฟอง นมหนึ่งแก้วและผลไม้ หลิน ฮวงได้ซื้อขนมปังทาเนยมาจากร้านขนมเดียวกันกับเค้กแช่แข็ง มันเป็นของขายดีอันดับ2ในร้าน รสสัมผัสและรสชาติของมันน่าทึ่งมาก อย่างไรก็ตาม หลิน ซวนกลับไม่กินแฮม เขากลับมีเนื้อย่างชิ้นโตบนจานเขา
หลังมื้อเช้า คุณฟู่ก็กล่าวกับทั้งคู่
“ปู่กำลังจะพาพี่ชายของพวกเธอไปข้างนอกสักพัก”
ทั้งคู่พยักหน้า แม้ว่าพวกเธอจะไม่ชอบใจที่หลิน ฮวงต้องไป ทั้งคู่ก็รู้ดีว่ามันจำเป็นสำหรับหลิน ฮวง
“ดูแลตัวเองกันดีๆนะ รีบติดต่อหาพี่ทันทีหากมีเรื่องเร่งด่วนอะไร อย่าตื่นตระหนกหากน้องไม่สามารถติดต่อพี่ได้เพราะพี่อาจอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีสัญญาณ น้องสามารถทิ้งข้อความไว้ได้และพี่จะติดต่อน้องกลับไปเมื่อพี่เห็นข้อความ”หลิน ฮวงลูบหัวทั้งคู่และกล่าว
คุณฟู่นำสมบัติมิติสีทองออกมาในห้องนั่งเล่น หลิน ฮวงเดินตามหลังเขาไปและก้าวผ่านประตูมิติไปก่อนที่จะโบกมืออำลาทั้งคู่ ในไม่ช้า ประตูก็ปิดตัวและเปลี่ยนเป็นละอองสีทองก่อนจะหายไป เมื่อเห็นว่าหลิน ฮวงจากไปแล้ว หลิน ซินก็ไปโรงเรียนอย่างไม่มีความสุข ในขณะเดียวกัน หลิน ซวนก็หยิบกล่องดำขนาดเท่าฝ่ามือออกจากช่องเก็บของหลังจากที่ยืนยันว่าหลิน ซินไปแล้วมันเป็นกล่องโลหะสีดำที่คุณฟู่มอบให้เขา เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่เขากลับรู้สึกได้ถึงบางสิ่งข้างใน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเลือกหยิบกล่องนี้เป็นของขวัญ
เมื่อเขาเปิดกล่อง มันก็มีลูกปัดสีทองอยู่ข้างใน มันมีขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ ด้วยความอยากรู้ หลิน ซวนจึงสัมผัสมันด้วยมือเขา ขณะที่นิ้วเขาสัมผัสกับลูกปัด มันก็เริ่มละลายเป็นของเหลวสีทอง มันราวกับถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้น ของเหลวสีทองค่อยๆไหลออกจากกล่องและลอยอยู่ตรงหน้าหลิน ซวน หลังจากที่หมุนวนรอบตัวเขาด้วยความเร็วสายฟ้า มันก็พุ่งเข้าไปในหน้าผากเขา
หลิน ซวนยืนนิ่งอยู่กับที่ และในที่สุด ดวงตาเขาก็เปลี่ยนเป็นสีทองปกคลุมแม้กระทั่งรูม่านตาเขา แสงสีทองสาดออกจากตาเขาราวกับดวงอาทิตย์ขณะที่เท้าของเขาค่อยๆลอยขึ้นจากพื้น เขาดูเหมือนจะอยู่เหนือแรงโน้มถ่วงขณะที่เขาลอยอยู่ใจกลางห้องนั่งเล่นด้วยแขนและขาที่เหยียดกว้าง เขาราวกับตกอยู่ในห้วงภวังค์ หากมันไม่ใช่เพราะดวงตาที่ยิงลำแสงสีทองออกมา เขาคงจะดูเหมือนคนที่หลับลึก
เหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นอยู่สองสามชั่วโมง เมื่อประมาณเที่ยง แสงสีทองก็จางหายไปหลังจากที่ร่างของเขาลดระดับลง
“เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายข้า....”หลิน ซวนยืนอยู่ที่เดิมและประหลาดใจเมื่อมองดูมือเขา เขาวิ่งไปที่กระจกในห้องน้ำทันที เขาดูสับสนขณะที่จ้องมองใบหน้าของเด็กในกระจก หลังจากที่สังเกตอยู่สักพัก จู่ๆเขาก็คิดได้ถึงบางสิ่ง
“หมายเลข327....หลิน ซวน...หลิน ฮวง...หลิน ซิน...”
ขณะที่เกาหัว หลิน ซวนก็นั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น หลังจากที่ตกอยู่ในความเงียบ เขาก็หยิบเอากระดานเขียนออกมาจากช่องเก็บของและเริ่มเขียน เขาวางกระดานเขียนไว้บนโต๊ะกาแฟ ถอดแหวนหัวใจจักรพรรดิออกและวางมันข้างกระดาน จากนั้นเขาก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าบนชั้นสองและเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมสีเทา เขาเดินลงจากบันไดช้าๆ
เมื่อเขามาถึงประตูบ้าน เขาก็หันกลับไปมองห้องนั่งเล่นและห้องกินข้าว เขายิ้มขณะที่มอง
“หลิน ฮวง หลิน ซิน ขอบคุณที่คอยดูแลข้า แต่น่าเสียดาย ข้าไม่อาจอยู่ที่นี่ได้.....”
เมื่อเขาพูด หลิน ซวนก็ออกจากบ้านไปและบินไปในท้องฟ้าราวกับนก เขาบินหายไปในชั่วพริบตา.....