ตอนที่ 124 อีกครั้ง (FREE)
เพราะมีคนต้อนรับเขาเป็นพิเศษ ตามปกติแล้ว ฟาง เจิ้งจือ ก็ควรจะหยุดเพื่อดูสักเล็กน้อย นางสวมชุดสีเขียวต่อให้นางไม่ได้งดงามจนต้องใครก็ต้องตะลึง แต่นางก็ค่อนข้างน่ารัก
เขาคิดว่าควรจะแสดงความสง่าผ่าเผยและเป็นสุภาพบุรุษของเขาให้นางเห็น
ตัวอย่างเช่นแสดงความเป็นมิตรกับนาง
ขณะที่เขาคิด
ฟาง เจิ้งจือ ได้พลั้งปากพูดบางอย่างโดยไม่ตั้งใจออกไป
"ทำไมนางดูเหมือนผู้ชายแปลกๆ?"
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกจากปากไป...
ริมฝั่งแม่น้ำราวกับทุกสิ่งอย่างหยุดนิ่ง นักปราชญ์ทุกคนต่างจ้องมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความตกใจ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือคนที่เป็นผู้ชนะทั้งสองด้านของการทดสอบกฎแห่งเต๋าระดับเมืองหลวง
หญิงในชุดเขียวเองก็ผงะไปเช่นกัน
นางติดตาม หยุน ชิงวู มานานหลายปี มีประสบการณ์ในด้านต่างๆมากมาย แต่นางก็ไม่เข้าใจความหมายที่ ฟาง เจิ้งจือ พูดออกมาอยู่ดี
เขาจะจีบข้า?
หรือว่า...
เขาจะเหมือนผู้ชายคนอื่นๆที่หลงไหลในตัวนาง?
ฟาง เจิ้งจือ มองไปยัง หญิงสาวในชุดเขียวที่ยืนนิ่งอึ้งอยู่ เขาถอนหายใจลึกๆในใจพยายามหาวิธีที่จะทำให้บรรยากาศดีขึ้น แต่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีสำหรับการเล่นมุขตลก
"ที่ข้าพูดหมายถึงท่านหญิงในชุดสีเขียวที่ยืนอยู่ริมน้ำ ให้บรรยากาศที่เยือกเย็นหนักแน่นราวกับสุภาพบุรุษ น่านับถือยิ่งนัก.." ฟาง เจิ้งจือ พยายามเรียบเรียงคำพูด
"ขอบคุณมากนายน้อยฟาง ลมที่นี่แรงนัก ได้โปรดขึ้นไปบนเรือ!" น้ำเสียงของนางเปลี่ยนไป
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้เคลื่อนไหว เพราะเขานั้นรู้กฎดี การขึ้นไปบนเรือเป็นเรื่องง่าย แต่จะออกมานั้นเป็นเรื่องยาก
เหมือนตอนที่เขาพา เหยียน ซิว ไปที่ภัตตาคารชมจันทร์ หลังจากดื่มกินการจ่ายเงินทั้งหมดคงไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าไม่เจอ ซู จิว เขาคงต้องไปล้างจานอยู่หลังร้านแล้ว
ถ้าเขาเดาไม่ผิด สถานะของ หยุน ชิงวู ก็ต้องเทียบเท่ากับเจ้าของร้านอาหารในโลกเก่าของเขา ไม่มากก็น้อย
แน่นอนว่าการที่ได้รับคำเชิญจากนางนั้นยากยิ่งกว่าปีนขึ้นไปบนสวรรค์เสียอีก และแน่นอนการกินเลี้ยงกับผู้หญิงก็ไม่พ้นเรื่องเงินๆทองๆ
หญิงในชุดเขียวเห็น ฟาง เจิ้งจือ ไม่เข้าไปสักทีจึงสับสนเล็กน้อย
"มีบางอย่างที่ข้าต้องบอกให้ชัดเจน ข้ามาที่นี่เพียงฟังดนตรีและดื่มกิน ข้าไม่มีเงินหรือของขวัญที่จะให้" ฟาง เจิ้งจือ คิดอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจพูดสิ่งที่อยู่ในความคิดออกมา
ที่จริงแล้วตอนที่ เหยียน ซิว ได้ยินว่า หยุน ชิงวู นั้นเชิญ ฟาง เจิ้งจือ ไปที่เรือ เขาได้มอบไข่มุกขนาดใหญ่เท่าไข่ไก่ 1 ฟองให้กับ ฟาง เจิ้งจือ แต่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้รับไว้
เอาสมบัติของเพื่อนเพื่อจะได้กินดื่มกับผู้หญิง?
เขาไม่คิดจะเป็นคนอย่างนั้น
"เขาไม่ได้เอาของขวัญมา!"
"เขาช่างหน้าด้าน ข้าเชื่อว่าบนโลกนี้ไม่มีใครที่จะไร้ยางอายได้เท่าเขาแล้ว!"
"เขาไม่ได้เอาแม้แต่ของขวัญมาให้ หยุน ชิงวู! ไล่เขากลับไปเลย!"
เมื่อเหล่านักปราชญ์ได้ยินคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ พวกเขารู้สึกโกรธเกรี้ยวทันที คนแบบไหนกันที่จะได้พบ หยุน ชิงวู แต่ไม่นำของขวัญติดมือไปให้นางสักนิด?
"นายน้อยฟาง อย่ากังวล ครั้งนี้ท่านหญิงเป็นคนเชิญนายน้อย เรื่องของขวัญนั้นไม่ได้จำเป็นแม้แต่น้อย!" หญิงในชุดเขียวเอามือป้องปากและหัวเราะออกมาเบาๆ
"ของขวัญไม่จำเป็น?!"
เมื่อเหล่านักปราชญ์ได้ยิน พวกเขารู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่าใส่หัว ยืนนิ่งตัวแข็งค้าง
การได้รับคำเชิญจาก หยุน ชิงวู นั้นราวกับได้รับการอวยพรจากสวรรค์แล้ว แต่ไม่ต้องนำของขวัญไปด้วย? แม้แต่ในอาณาจักรเซี่ยอันยิ่งใหญ่ คงไม่มีใครสักคนที่รับได้
"งั้นให้ข้าขึ้นไปฟังดนตรีเสียหน่อย!" ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าด้วยความพอใจ
เหล่านักปราชญ์ต่างมองไปที่ร่างของ ฟาง เจิ้งจือ ที่ค่อยๆหายไปในเรือพร้อมกัดฟันแน่น....
เรือสำราญของ หยุน ชิงวู นั้นมีเอกลักษณ์อันโดดเด่น
ไม่ต้องพูดถึงเครื่องเพชรอันสวยงามที่ประดับอยู่ทั่วเรือ แม้แต่ภาพวาดและบทกลอนก็มีประดับอยู่ทั่วบนเรือ
"เรือลำนี้ราวกับงานศิลปะ แต่ว่า..."
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้พูดออกมา เพราะว่าจากตำแหน่งของอัญมณีที่ประดับอยูทั่วเรือ เขาสามารถคาดเดาได้อย่างรวดเร็วว่าไม่เพียงแต่ หยุน ชิงวู จะมีความเชี่ยวชาญในด้านการขับร้อง บทกวี ศิลปะ นางยังเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้อีกด้วย
หยุน ชิงวู...
นางคงไม่ธรรมดาเหมือนที่เห็นจากภายนอก?
"โปรดนั่ง นายน้อยฟาง ท่านหญิงจะมาถึงในเร็วๆนี้!" หญิงในชุดเขียวเชิญ ฟาง เจิ้งจือ เข้าไปในห้องอันงดงาม
ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าคำพูดนี้คงทำให้ชายหนุ่มทั้งหลายเพ้อฝันราวกับเข้าพวกหอนางโลมก็มิปาน
เขานั่งลงและรออย่างเงียบๆ
จากนั้นหญิงในชุดเขียวไม่กี่คนก็นำจานขนมมาวางไว้หน้า ฟาง เจิ้งจือ ก่อนจะเดินออกจากฟ้องไป
หลังจากเครื่องดื่มถูกนำมาวางไว้ ได้ปรากฎรูปร่างอันงดงามอยู่หลังม่านไข่มุก
สวมชุดขาวเรียบง่าย แต่ดูสง่างาม ผมของนางราวกับสายน้ำที่ไหลยาวจนถึงเอว นางไม่ได้สวมเครื่องประดับไว้บนหัว รอบๆตัวนางให้บรรยากาศที่ดูสะอาดบริสุทธิ์
แต่ใบหน้าของนางกลับถูกปกปิดไว้ด้วยผ้าสีดำ เท้าที่สวมรอองเท้าสีขาวดั่งหิมะก้าวเดินมา ก่อนจะโค้งตัวให้ ฟาง เจิ้งจือ ก่อนจะค่อยนั่งลงหน้ากู่เจิ้ง ตรงข้ามของ ฟาง เจิ้งจือ
นางคือ หยุน ชิงวู ที่ทำให้นักปราชญ์ทั่วทั้งอาณาจักรนั้นต้องกลายเป็นบ้า
"นายน้อยฟาง ขอบคุณที่รอ!" หยุน ชิงวู พูดออกมา เสียงของนางสดใสราวกับเสียงนกร้อง
มันเป็นการเดตแบบตัวต่อตัว ใครจะรู้ว่านักปราชญ์มากแค่ไหนที่ฝันถึงฉากนี้เอาไว้ แต่ ฟาง เจิ้งจือ นั้นกลับไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร
เหตุผลที่เขามาที่นี่เพราะความอยากรู้อยากเห็นล้วนๆ
เขาอยากรู้ว่าทำไม หยุน ชิงวู ถึงมั่นใจว่าเขาจะเป็นผู้ชนะการทดสอบด้านปัญญา และอยากรู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของนางว่าเดินทางมาที่เมืองแม่น้ำแห่งความสัตย์เพื่ออะไร?
แต่ความสงสัยนี้ก็ไม่ได้ต้องการคำตอบอย่างเร่งด่วน
ดังนั้น ฟาง เจิ้งจือ จึงยิ้มอย่างสุภาพ และโค้งให้กับ หยุน ชิงวู เช่นกัน
"ขอบคุณ ท่านหญิงชิงวู สำหรับคำเชิญ!"
"นายน้อยฟางชอบฟังอะไรงั้นหรือ?" หยุน ชิงวู ชี้ไปที่กู่เจิ้งที่วางอยู่ข้างหน้านาง
"เอาเป็นท่วงทำนองจากอดีตกาลดีไหม?" ในเมื่อ หยุน ชิงวู ให้เขาเลือกเพลง ทำไมเขาต้องเลือกอะไรง่ายๆด้วย ฟาง เจิ้งจือ ต้องการจะรู้ว่า หยุน ชิงวู นั้นรู้จักบทประพันท์โบราณที่หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์แล้วหรือไม่
"ฮ่าฮ่า..." หยุน ชิงวู หัวเราะ อย่างสุภาพ
น่าเสียดายที่ผ้าสีดำปกปิดรอยยิ้มอันงดงามของนางไว้
"ดูเหมือนนายน้อยจะเป็นคนหนึ่งที่สนใจเรื่องประวิตศาสตร์ ท่วงทำนองจากอดีตกาลนั้นแบ่งออกเป็นหลายส่วน ข้าสงสัยว่านายน้อยอยากจะฟังส่วนไหนก่อน?" หยุน ชิงวู ยิ้ม ก่อนจะถามออกไป
ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าเขาคงเล่นมากไปหน่อย เขาไม่คิดว่า หยุน ชิงวู จะรู้จักมันจริงๆ ดีที่นางบอกว่ามันมีหลายส่วน เพราะเขาเองก็ไม่ได้รู้จักมันมากมาย ไม่งั้นเขาคงหน้าแตกไปแล้ว
"ตอนนี้เราพึ่งเจอกัน ข้าคิดว่าเราควรเริ่มจากส่วนแรกก่อน" ฟาง เจิ้งจือ แกล้งทำเป็นว่าทุกอย่างไม่มีปัญหา
"ได้!" หยุน ชิงวู พยักหน้า
...
ที่ริมแม่น้ำแห่งความสัตย์ นักปราชญ์นักไม่ถ้วนกำลังฟังท่วงทำนองที่ถูกบรรเลงอยู่ภายนอก
พวกเขารู้สึกท้อแท้
ความเป็นจริง...
นี่เป็นสาเหตุที่เหล่านักปราชญ์มารวมตัวกันที่เมืองแม่น้ำแห่งความสัตย์มากมายขนาดนี้
ฟาง เจิ้งจือ นั่งฟังเพลงอยู่บนเรือ กินขนมแสนอร่อย กลับกันพวกนักปราชญ์ข้างนอกกลับยืนคอตก
เมื่อเพลงจบ กู่เจิ้งก็ถูกเก็บไป
หยุน ชิงวุ นั่งอยู่เงียบๆบนเก้าอี้ ดวงตาอันดำขลับของนางจ้องมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
ฟาง เจิ้งจือ ในทางกลับกัน เขาก็มองไปที่นางเช่นเดียวกัน แต่ระหว่างพวกเขานั้นมีผ้าสีดำบางๆกั้นไว้อยู่
จากนั้น หยุน ชิงวู ก็เริ่มพูด
"นายน้อยฟาง ท่านสามารถเดาถึงเหตุผลที่ข้าเชิญท่านมาที่นี่ได้หรือไม่?"
"ก่อนที่ข้าจะเดา เจ้าช่วยเอาผ้าปิดหน้าออกก่อนได้ไหม?" ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ตอบคำถามของ หยุน ชิงวู ในทันที แต่ถามนางกลับไปด้วยคำถามอื่น
"ฮ่าฮ่า...ดูเหมือนนายน้อยฟาง จะวางแผนไว้แล้ว ถ้านายน้อยฟาง อยากจะเห็น ทำไมไม่ทำเหมือนเดิมในครั้งที่แล้วละ?" หยุน ชิงวู ก็ถามกลับไปเช่นเดียวกัน
ริมฝีปากของ ฟาง เจิ้งจือ ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มจางๆ ก่อนจะลุกขึ้นและเดินไปหา หยุน ชิงวู
"นายน้อยฟางกล้าจะเปิดผ้าปิดหน้าของข้าอีกครั้งจริงๆงั้นหรือ?" หยุน ชิงวู มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ แต่นางดูเหมือนไม่คิดจะหลบแม้แต่น้อย
"ทำไมข้าจะไม่กล้า?"
"ก่อนหน้านี้ ในงานชุมนุมร้อยบุปผา นายน้อยฟางเปิดผ้าปิดหน้าของข้าและได้หนีไป...ครั้งนี้บนเรือสำราญข้าเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ที่จะหนีออกไป" หยุน ชิงวู มองไปรอบๆ และเตือน ฟาง เจิ้งจือ เบาๆ
"ถ้าข้าไม่สามารถหนีออกไปได้จริงๆแล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าเปิดผ้าปิดหน้าของเจ้า?" ฟาง เจิ้งจือ เข้าใจเป็นอย่างดีถึงความหมายเบื้องหลังคำพูดของ หยุน ชิงวู ตั้งแต่ที่เขาก้าวขึ้นมาบนเรือ เขาก็รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะออกไป
"นายน้อยฟางพูดถูก งั้นเชิญเข้ามา!" หยุน ชิงวู พยักหน้าเบาๆ ลุกขึ้นยืนและส่งสัญญานให้ ฟาง เจิ้งจือ เข้ามา
เห็น หยุน ชิงวู มีท่าทีง่ายๆ ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปหา หยุน ชิงวู ทีละก้าว ทีละก้าว
ในด้านของ หยุน ชิงวู นั้น นางไม่ได้พยายามที่จะหลบหลีกแม้แต่น้อย แต่ยืนเงียบๆอยู่ที่เดิม
ห้องนั้นไม่ใหญ่มาก
ต่อให้ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้เดินเร็ว แต่ไม่นานเขาก็เดินไปถึงนางได้
ระยะห่างของทั้งสองตอนนี้ไม่ถึงฟุต ฟาง เจิ้งจือ กระทั่งได้กลิ่นหอมจางๆจากร่างของ หยุน ชิงวู
"ข้าจะเปิดละนะ!"
"ถ้านายน้อยต้องการจะทำเช่นนั้นจะรีรออะไร?"
ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าเบาๆ จากนั้นมือขวาของเขาก็ยื่นไปข้างหน้าเพื่อคว้าผ้าสีดำที่ปกปิดหน้าของ หยุน ชิงวู ไว้ ด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า มันเร็วแม้แต่เสียงแหวกอากาศก็ไม่ได้ทันได้ยิน
และในเวลาเดียวกันนั้นเอง พูดได้ว่าขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ เคลื่อนไหว หยุน ชิงวู เองก็เคลื่อนไหวเช่นกัน รูปร่างที่งดงามของนางเผยให้เห็นความยืดหยุ่นเป็นอย่างสูง
เท้าหนึ่งยกขึ้นมาจากพื้น แต่นางไม่ได้ถอยไปข้างหลัง กลับบิดตัวไปทางซ้ายแทน
ชุดสีขาวดั่งหิมะของนางหมุนไปตามแรงบิดตัว ราวกับดอกบัวที่ค่อยๆคลี่บาน....
เพจหลัก : Double gate TH