Chapter 158: ปัญหาของชายหนุ่ม
Chapter 158: ปัญหาของชายหนุ่ม
วันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ ในวันนี้เป็นวันฉลองปีใหม่และวันรวมญาติ ทุกคนเนมืองก็มารวมตัวกันในบ้านของเพื่อนและครอบครัว นอกจากชายคนหนึ่งที่แบกกระเป๋าและวิ่งไปยังชานเมือง
ชายคนนี้ก็คือพี่ชายฮุยที่เป็นชายที่โดนหักแขนโดยหวังหยู่และก็ถูกหลอกลวงจี้หยกโดยลุงโมริ…
พี่ชายฮุยนั้นดูกระเซอะกระเซิง มันเป็นที่เด่นชัดว่าเขานั้นหวาดกลัวต่อบางสิ่ง สุดท้ายแล้วเขานั้นได้รับข่าวใหม่มาว่าลุงโมรินั้นถูกลักพาตัวไป…
พี่ชายฮุยนั้นไปเยี่ยมร้านของลุงโมริทันทีที่เขาได้รับข่าวใหม่ และพบว่าร้านนั้นว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์แบบ แม้กระทั่งจี้หยกก็หาไม่พบ
คำพูดบนถนนนั้นก็คือโจรร้ายนั้นปล้นธนาคารในช่วงเช้าของวัน ไม่เพียงแต่มือปืนทั้งสี่คนนั้นพ่ายแพ้ต่อชายที่ใช้มือเปล่า แขนของพวกเขานั้นถูกหักโดยเขาด้วยเช่นกัน…พี่ชายฮุยรู้ว่ามันถูกจัดการโดยผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้...
ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ทั้งสองคนที่พี่ชายฮุยพบนั้นดุร้ายอย่างมาก เพียงแค่พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้พี่ชายฮุยตื่นตระหนก มากจนเขาไม่กล้าที่จะเดินเตร่ไปบนถนนอีกเลย…
ภายใต้ห้องสอบสวน ชายแก่ที่มีผมหงอกทั้งหัวนั้นนั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ
มันมีชายสองคนยืนอยู่ด้านข้างเขา ชายคนแรกนั้นสูงและมีร่างกายที่บึกบึน เขานั้นมีรูปร่างที่เรียบร้อยและมีการแสดงออกที่ตึงเครียด มันมีดาวอยู่หนึ่งดวงบนหน้าอกของชุดยูนิฟอร์มทหาร ชายคนนี้คือผู้บังคับบัญชาทหารในเมือง ผู้บังคับบัญชาหลู่
ชายอีกคนนั้นก็คือผู้ตรวจการตำรวจของท้องถิ่น ผู้ตรวจการหลิ่ว
ชายทั้งสองคนนั้นเคารพชายแก่อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้บังคับบัญชาหลู่
“ท่านมาสเตอร์หวัง พวกเรานั้นพาพวกมันมาแล้ว!”ผู้บังคับบัญชาหลู่ตอบกลับอย่างเคารพ
“อื้ม!”ชายแก่พยักหน้าแล้วเขาก็ยิ้มออกมาเจื่อนๆ “หลู่น้อย ฉันสร้างปัญหาให้นายแล้วละในครั้งนี้!”
“ท่านพูดอะไรกับครับ ท่านมาสเตอร์หวัง? มันไม่สำคัญอะไรเลย! สุดท้ายแล้วท่านนั้นก็คือคนที่แบ่งปันให้กับประเทศนี้มากที่สุด!”ผู้บังคับบัญชาหลู่รีบตอบกลับ
ชายคนนี้หัวเราะ แล้วเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาแล้วเขาก็จ้องไปที่ชายแก่วัยห้าสิบที่พาตัวเขามา
ชายคนนี้คือหลี่โมริ เขานั้นมีการแสดงออกที่ดูชั่วร้ายบนใบหน้าของเขา และเขาก็ถามอย่างขี้เกียจกับผู้ตรวจการหลิ่ว “ผู้ตรวจการหลิ่ว นี่คือเรื่องอะไรกัน? คนของคุณลากผมมาในช่วงเช้าของวัน และก็ลากผมมาที่นี่ในตอนกลางคืนนี่นะ? ผมนั้นหยุดทำกิจกรรมทุกอย่างไปหลายปีแล้ว…”
เมื่อเป็นอาชญากรที่มีประสบการณ์ หลี่โมรินั้นก็คุ้นเคยอย่างมากกับการทำงานของตำรวจ เขานั้นไม่ได้หวาดกลัวผู้ตรวจการหลิ่วเลยแม้แต่นิดเดียว
ใบหน้าของผู้ตรวจการหลิ่วมืดคล้ำขึ้นแล้วเขาก็เตือนอย่างเย็นชา “ระวังคำพูดของนายดีๆ ดูด้วยว่านายอยู่ที่ไหนกัน?”
หลี่โมริหัวเราะออกมาแล้วเขาก็ตอบกลับอย่างไม่แยแส “ผู้ตรวจการหลิ่ว ช่วยถอดกุญแจมือนี้ทีเถอะ พวกเรารู้กันดีว่าผมนั้นเป็นชายแก่ที่ไม่มีอันตรายอะไร”
“ฮึ่ม! พวกเรารู้ดีว่านายนั้นเจ้าเล่ห์ขนาดไหน ฉันไม่สามารถที่จะเชื่อคำพูดสักคำจากปากของนายได้!”
พูดตามจริงแล้ว นอกจากพวกอันธพาลหนุ่มที่ไม่เข้าใจความกว้างของโลกใบนี้แล้ว มันก็ไม่มีใครที่กล้าที่จะต่อต้านคนของรัฐบาล เหตุผลเดียวที่หลี่โมรินั้นถูกสวมกุญแจมืออยู่นั้นก็เป็นเพราะว่าเฒ่าหวังนั้นอยู่ที่นี่ ผู้ตรวจการหลิ่วนั้นหวาดกลัวว่าจะมีบางสิ่งที่เกิดขึ้น
“ฮ่าๆ!”ชายแก่หัวเราะแล้วเขาก็เดินเข้าหาหลี่โมริ และก็บิดกุญแจมือเหล็กด้วยสองนิ้วแล้วเขาก็หัวเราะ “ไม่ต้องกังวลไป ผู้ตรวจการหลิ่ว ฉันนั้นอยากที่จะเห็นคนที่กล้าที่จะทำตัวเลวทรามต่อหน้าฉันมาก”
“…”
แม้ว่าในห้องสอบสวนนั้นจะมีแสงเพียงเล็กน้อย มันก็ยังมองเห็นได้อยู่ ตาของผู้ตรวจการหลิ่วและหลี่โมริแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าตาย เมื่อพวกเขาเห็นชายแก่บิดกุญแจมือจนพังออกมา
มันเป็นไปได้ยังไงกัน? ชายแก่นี้เป็นสัตว์ประหลาดงั้นเหรอ?
“นายรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร?”ชายแก่ยิ้มอย่างใสซื่อ เมื่อเขามองไปยังหลี่โมริ
“ไม่..ไม่เลยแม้แต่น้อย..”หลี่โมริตอบกลับอย่างกระวนกระวายใจ เมื่อหลังของเขานั้นเริ่มที่จะเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน การรู้จักชายแก่คนนี้ไม่ใช่ข่าวดีเลยแม้แต่น้อย…หลังจากที่เป็นอันธพาลมาหลายปี การระมัดระวังตัวนั้นกลายเป็นความสามารถที่ดีอย่างหนึ่งของหลี่โมริ
“นายเคยได้ยินตระกูลหวังทางเหนือไหม?”ชายแก่หัวเราะแล้วเขาก็จ้องไปที่หลี่โมริ
“ตระกูลหวังทางเหนือ…”หลี่โมริคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เหมือนกับว่าเขานั้นจำอะไรบางอย่างได้ ก่อนที่จะรีบส่ายหัว “ผมไม่เคยได้ยินมันมาก่อนเลยครับ!”
“นายกำลังโกหกอยู่!”ชายแก่ยิ้มแล้วเขาก็เอาจี้หยกออกมาจากกระเป๋าเสื้อและโบกมันต่อหน้าหลี่โมริ “ฉันได้ยินมาว่าจี้หยกนี้ถูกพบในร้านของนายและมันเกี่ยวข้องกับผู้นำของตระกูลอีกด้วย”
จี้หยกในมือของเขานั้นก็คือจี้ที่หวังหยู่ให้กับพี่ชายฮุยก่อนหน้านี้
“ผม…”หลี่โมริพูดติดอ่าง เมื่อเขาจ้องไปที่จี้หยก เขาก็คุกเข่าลงกับพื้นในทันที “ท่าน ท่านหวัง นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดครับ…ไม่สำคัญว่าผมจะกล้ามากแค่ไหน ผมก็ไม่กล้าที่จะแตะต้องไปที่ตระกูลของท่านเลยครับ ผมได้รับมันมาจากอันธพาลวัยหนุ่มครับ…”
“และเขามีชื่อว่าอะไร?”เฒ่าหวังถามแล้วเขาก็เก็บจี้หยกกลับไป
“ชื่อของเขาคือหลี่หยานฮุย เขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งในเมือง เขานั้นอาศัยอยู่ในพื้นที่อยู่อาศัยทางทิศใต้ของสวน เบอร์มือถือของเขานั้นก็คือ…”ในการที่จะเอาชีวิตรอดนั้นหลี่โมริก็ขายพี่ชายฮุยออกมาโดยไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย
“เขียนมันไว้”เฒ่าหวังแนะนำผู้ตรวจการหลิ่ว
“ผมเข้าใจแล้วครับ ผมจะส่งคนของผมออกไปในทันที!”
“พาตัวเขาออกไปและพาคนอื่นเข้ามาแทน”เฒ่าหวังแนะนำ
เพียงเวลาไม่นาน หลังจากที่หลี่โมริออกจากห้องไป ชายทั้งสี่คนก็ถูกนำเข้ามา…
ชายพวกนี้ไม่ได้สวมกุญแจมือของตำรวจแต่พวกเขานั้นสวมอุปกรณ์ทางการแพทย์แทน สามคนในนั้น ตาของพวกเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผล ในขณะที่อีกคนนั้นพันแขนไว้อยู่
“พวกเขาทำอะไรลงไป?”เฒ่าหวังมองหลังจากเห็นสภาพอันน่าสลด
“พวกเขาพยายามที่จะปล้นธนาคาร!”
“โอ้! ชายหนุ่มพวกนี้ช่างหยาบคายมากจริงๆ! แล้วนายตกอยู่ในสภาพน่าอนาถแบบนี้ได้ยังไง หลังจากปล้นธนาคาร?”
“ฮึ่ม!”ชายที่แขนหักพ่นเสียงลมหายใจอันเย็นชาออกมา และปฏิเสธที่จะตอบคำถามของเฒ่าหวัง
ชายติดอาวุธสี่คนพ่ายแพ้กับคนที่ไม่มีอาวุธ ถ้าคำพูดพวกนี้ถูกกระจายออกไปแล้วละก็ พวกเขาก็คงไม่มีหน้าไว้ให้ซ่อนอีกต่อไป
“ฮ่าๆ! ฉันรู้สิ่งที่เกิดขึ้น แม้ว่าพวกนายจะไม่ต้องการบอกฉัน!”เฒ่าหวังหัวเราะออกมาดังก้อง ในขระที่เดินไปยังชายที่แขนหักและทำท่าแบบเดียวกับอีกแขนข้างหนึ่ง “นี่คือวิธีที่ชายคนนั้นหักแขนนายใช่ไหม?”
“คุณ...คุณรู้ได้ยังไงกัน?”ชายที่แขนหักอ้าปากค้าง
เฒ่าหวังนั้นรู้ท่าเดียวกันกับหวังหยู่ใช้ แม้ว่าพวกเขาจะใช้ท่าเดียวกัน เฒ่าหวังก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายใครสักคน ในที่แห่งนี้
“ท่านี้ถูกเรียกว่าการรัดตัวของมังกรดำ ฉันสอนเขาเมื่อเขาอายุห้าขวบ”ชายแก่ถอนหายใจ
“ตาของพวกนายถูกแทงโดยปากกาใช่ไหม?”เฒ่าหวังหันกลับไปถามอีกสามคนที่เหลือ
“ใช่”พวกเขาพยักหน้า
“แบบนี้หรือเปล่า?”เฒ่าหวังถามขึ้น เมื่อเขาหยิบปากกาสามแท่งมาจากบนโต๊ะและขว้างพวกมันใส่กำแพง และปักพวกมันเข้าไปในกำแพง
“พวกเราไม่รู้ว่าเขาทำมันได้ยังไง พวกเราเป็นแค่เป้าหมายของเขา..”ชายทั้งสามคนตอบกลับอย่างซื่อสัตย์
“การทำลายสามทิศทาง! เด็กคนนี้นี่เจ้าเล่ห์จริงๆ..พวกนายจำหน้าตาของเขาได้ไหม?”
“พวกเราจำได้! เขาสูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร มีร่างกายที่บึกบัน เขามีหน้าตาหล่อเหลา คิ้วที่หนาและดวงตาที่โต! และมีหญิงสาวที่สวยงามหลบอยู่ด้านหลังเขา!”
“หญิงสาว? หน้าตาเธอเป็นยังไง?”คำอธิบายของชายทั้งสี่นั้นอธิบายถึงหวังหยู่ มีเพียงสิ่งเดียวที่ชายแก่จำไม่ได้ก็คือหญิงสาวที่พวกเขาพูดถึง
“ตาโต จมูกโด่งและใบหน้ารูปไข่…”ชายที่มีรอยแผลเป็นบนหน้าผากรื้อฟื้น อย่างไรก็ตาม ความทรงจำของเขานั้นก็จำกัดอย่างมาก ตั้งแต่ที่เขาเห็นใบหน้าเธอเพียงแค่ครั้งเดียว
ผู้ตรวจการหลิ่วเอาสมุดวาดภาพออกมา และวาดรูปร่างของมู่จี่เซียนตามที่ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าอธิบาย
“เธอมีหน้าตาแบบนี้ใช่ไหม?”
“คางของเธอนั้นไม่ได้แหลม แต่ค่อนข้างสวยครับ!”ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าตอบกลับ
“ไม่เลวเลย รสนิยมของเขายังคงผ่านอยู่! สิ่งที่พวกเราจำเป็นจะต้องรู้ก็คือชื่อของเธอ!”เฒ่าหวังแสดงความคิดเห็น หลังจากที่ผู้ตรวจการหลิ่วแก้ภาพของเขา
“แน่นอนครับ!”
ผู้ตรวจการหลิ่วก็เก็บสมุดวาดภาพและจากเฒ่าหวังทันทีที่เขาได้รับคำแนะนำ “พาพวกเขาไป พวกเขานั้นกล้าดียังไงที่พยายามปล้นธนาคารในช่วงปีใหม่เช่นนี้! ถ้าฉันเด็กกว่านี้สักสี่สิบปีแล้วละก็ ฉันคงตีพวกมันจนตายแล้วละ!”
“มาสเตอร์ นี่คือเรื่องทั้งหมดงั้นเหรอครับ มันทำให้ท่านยุ่งในช่วงปีใหม่มากขนาดนี้ ใครบางคนทรยศตระกูลหวังทางเหนืองั้นเหรอครับ?”ผู้บังคับบัญชาหลู่ถาม เมื่อทุกคนจากไป
“เฮ้อ..”เฒ่าหวังถอนหายใจออกมา “เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ นายคิดเหรอว่าคนทรยศจะเป็นที่สนใจของฉันมากขนาดนี้? มันเกี่ยวกับหลานชายที่ล้ำค่าของฉันต่างหาก!”
“มีอะไรเกิดขึ้นกับนายน้อยคนรองงั้นเหรอครับ?”
“แม้ว่านายน้อยคนรองนั้นจะเป็นตัวสร้างปัญหา แต่อารมณ์ของเขาก็ยังคงยอมรับได้ มันเกี่ยวกับนายน้อยคนโตต่างหาก…”เฒ่าหวังส่ายหัว
“นายน้อยคนโต? มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”ผู้บังคับบัญชาหลู่อ้าปากค้าง “นายน้อยคนโตนั้นยึดมั่นกับศิลปะการต่อสู้อยู่เสมอมา! และเขาไม่เคยสร้างปัญหาให้กับใครเลยด้วยซ้ำ”
“มันเป็นเพราะฉันเอง! ฉันนั้นพึงพอใจกับสถานะของตระกูลหวัง ดังนั้นฉันจึงทุ่มเวลาทุกอย่างและพลังงานทุกอย่างเพื่อเลี้ยงดูเด็กคนนั้น สิ่งที่พวกเราสอนเขาทั้งหมดนั้นก็มีแค่ศิลปะการต่อสู้และไม่มีสิ่งอื่นใดอีกเลย…แต่เมื่อคิดว่าเขาวิ่งหนีออกไปจากบ้านเพียงแค่ผู้หญิงนี่มัน!”
“เอ่อ...”รอยสีดำก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้บังคับบัญชาหลู่
เมื่อทั้งคู่นั้นกำลังพูดคุยกันอยู่นั้นเอง ผู้ตรวจการหลิ่วก็วิ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับเอกสารขนาดใหญ่ในมือของเขา
“เกิดอะไรขึ้น? นายพบอะไรงั้นเหรอ?”
“ผมพบมันแล้ว! ผู้หญิงคนนั้นถูกเรียกว่ามู่จี่เซียนและสามีของเธอนั้นถูกเรียกว่าหวังหยู่ พวกเขานั้นแต่งงานกันเมื่อครึ่งปีก่อนและในตอนนี้อาศัยอยู่ในแถบอ่าวแสงจันทร์ครับ”
“นั่นมันเร็วมาก!”เฒ่าหวังประหลาดใจอย่างมาก เขาไม่ได้คาดคิดว่าตำรวจนั้นจะได้ข้อมูลมาเร็วขนาดนี้
“มันไม่ใช่เพียงแค่ท่านครับ ท่านหยางนัวนั้นก็มาหาผมก่อนหน้านี้เพื่อถามเกี่ยวกับพื้นหลังของผู้หญิงคนนี้ด้วยเช่นกัน เธอนั้นยังอาศัยอยู่อพาร์ทเมนต์ฝั่งตรงข้ามที่ให้ผมช่วยหาให้…”ผู้ตรวจการหลิ่วหัวเราะ
“หญิงสาวจากตระกูลหวัง?”เฒ่าหวังอ้าปากค้าง “เหี้... นี่มันค่อนข้างวุ่นวายแล้ว…”
“ให้ผมสืบเสาะต่อไหมครับท่าน?”
“ลืมมันไปซะ ปัญหาของชายหนุ่มนั้นก็ควรที่จะแก้ไขด้วยตัวของเขาเอง มันจะเป็นเรื่องดีที่สุดถ้าพวกเราไม่ได้ไปข้องเกี่ยว”เฒ่าหวังหัวเราะ