ตอนที่ 266 หินศักดิ์สิทธิ์
เพียงเมื่อหลิน ฮวงพร้อมจะขยับตัว เขาก็ได้รับการแจ้งเตือนจากเสี่ยว เฮย
“ตรวจพบการวิวัฒนาการของการ์ดที่ข้องเกี่ยวกับเมล็ดพันธ์ชีวิต ท่านต้องการจะเชื่อโยงการ์ดเมล็ดพันธ์ชีวิตกับการ์ดมอนสเตอร์ที่ข้องเกี่ยวหรือไม่?”
“ฉันจะได้ประโยชน์อะไรจากการเชื่อมโยง?”หลิน ฮวงถามทันที
“หลังจากการเชื่อมต่อ หากระดับความหายากของการ์ดมอนสเตอร์เลื่อนขึ้น ความหายากที่ข้องเกี่ยวกับเมล็ดพันธ์ชีวิตก็จะเลื่อนขึ้นตามโดยอัตโนมัติ”
หลิน ฮวงคิดเกี่ยวกับมัน ภายในเมล็ดพันธ์ชีวิตทั้ง4ที่เขามี มีเพียงเขตแดนระวังภัยที่ข้องเกี่ยวกับอสูรดาบตาเดียวรวมถึงความเร็วแห่งฑูตสวรรค์ที่ข้องเกี่ยวกับเนฟิลิก การวิวัฒนาการของการ์ดที่เสี่ยว เฮยตรวจพบต้องเป็นเซียนดาบไร้ปราณีที่วิวัฒนาการมาจากอสูรดาบตาเดียว
“มีผลข้างเคียงจากการเชื่อมโยงไหม?”หลิน ฮวงถามเพราะเขากลัวว่าเสี่ยว เฮยจะล่อลวงเขา เขาระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงคุณสมบัติใหม่
“ไม่มีผลข้างเคียงใด หลังจากการเชื่อมโยง ความหายากของการ์ดมอนสเตอร์และการ์ดเมล็ดพันธ์ชีวิตจะคงเดิมและจะไม่มีผลกระทบใดๆ หากท่านต้องการ ท่านสามารถลบการเชื่อมโยงได้ตลอดเวลา”
“เอาละ งั้นก็เชื่อมโยงเซียนดาบไร้ปราณีและเนฟิลิก”หลิน ฮวงโล่งใจ
“การเชื่อมโยงการ์ดมอนสเตอร์-เนฟิลิกและการ์ดเมล็ดพันธ์ชีวิต-ความเร็วแห่งฑูตสวรรค์เสร็จสิ้น!”
“การเชื่อมโยงการ์ดมอนสเตอร์-เซียนดาบไร้ปราณีและเมล็ดพันธ์ชีวิต-เขตแดนระวังภัยเสร็จสิ้น!”
“ความหายากของการ์ดเมล็ดพันธ์ชีวิต-เขตแดนระวังภัยและการ์ดมอนสเตอร์-เซียนดาบไร้ปราณีไม่ตรงกัน กำลังอัพเกรดเมล็ดพันธ์ชีวิต-เขตแดนระวังภัย....”
“ขอแสดงความยินดีด้วย เมล็ดพันธีวิต-วงกลมระวังภัย(หายาก)ได้เปลี่ยนเป็นเขตแดนระวังภัย(สุดยอด)”
“เขตแดนระวังภัย(สุดยอด) : เปลี่ยนพื้นที่ในรัศมี100เมตรให้เป็นเขตแดนเฉพาะผู้ใช้ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวเพื่อโจมตี”
หลิน ฮวงมีความสุขเมื่อเห็นเมล็ดพันธ์ชีวิตที่วิวัฒนาการจากวงกลมระวังภัย
“พรสวรรค์เขตแดน?!”(อันเก่าจะเป็นวงกลมระวังภัยนะครับ พอวิวัฒนาการแล้วจึงเป็นเขตแดน แอดขออภัยด้วยครับ)
แม้กระทั่งผู้หลุดพ้น ทักษะลับเขตแดนก็ยังหาได้ยากมาก มันเป็นบางสิ่งที่ควรค่าแก่การฉลองเมื่อผู้คนได้รับทักษะเขตแดนก่อนที่จะไปถึงระดับหลุดพ้น หลิน ฮวงหยิบเอาการ์ดเมล็ดพันธ์ชีวิตสีฟ้าออกมาและเก็บมันไปหลังจากที่มองรายละเอียด ในขณะเดียวกัน เนฟฟิลิกที่ยืนข้างเขาก็รออย่างอดทน แม้ว่าเธอจะเป็นมอนสเตอร์อัญเชิญของหลิน ฮวง เธอก็ไม่อาจเห็นการ์ดที่หลิน ฮวงกำลังถืออยู่ เมื่อเห็นว่าหลิน ฮวงยังคงยืนนิ่ง เธอก็ยืนรอคอยเขา เมื่อหลิน ฮวงหลุดออกจากห้วงความคิด เขาก็พยักหน้าให้เนฟิลิกที่ยืนข้างเขา
“ไปกันเถอะ!”
…
ก่อนหน้านี้ หลิน ฮวงทำได้เพียงมองไปรอบๆมิติด้านใต้ทะเลสาบพร้อมกับเจ้าแดง ด้วยเนฟิลิก หลิน ฮวงจึงไม่กังวลว่าเขาจะถูกอสูรแสงดาวกลุ้มลุม ในที่สุดเขาก็สามารถสำรวจพื้นที่ได้ สิ่งแรกที่เนฟิลิกพาหลิน ฮวงไปคือสถานที่ที่หินยักษ์ดำตั้งอยู่ เมื่ออสูรแสงดาวสังเกตเห็นหลิน ฮวง พวกมันก็เตรียมพร้อมจะสู้กับเขาแต่ด้วยคำสั่งของเนฟิลิก อสูรแสงดาวทั้งหมดจึงล่าถอยไป
หลิน ฮวงเริ่มสังเกตดูหินยักษ์ดำใกล้ๆ หินยักษ์สูงกว่า10เมตร ด้านใต้หินถูกฝังลึกลงไปในพื้นดินและไม่มีใครรู้ว่ามันลึกแค่ไหน หลิน ฮวงต้องการจะเก็บหินไปเพื่อวิจัยแต่เขาก็ล้มเหลวที่จะเก็บมันไว้ในช่องเก็บของเขา เขาพยายามจะยกมันแต่มันก็ไม่แม้แต่จะขยับ หินมีผิวสัมผัสที่แปลก มันไม่คล้ายกับหินแต่เหมือนกับโลหะมากกว่า
หลังจากที่ล้มเหลว หลิน ฮวงก็อัญเชิญมอนสเตอร์ที่มีพละกำลังมากที่สุดอย่างไทแรนด์ออกมา แขนที่บาดเจ็บของไทแรนด์ได้หายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ไทแรนด์!มาดูกันว่าแกจะสามารถแบกหินนี้ได้ไหม!”หลิน ฮวงสั่งไทแรนด์ขณะที่ชี้ไปยังหินยักษ์
ไทแรนด์โอบแขนของมันรอบหินและเริ่มออกแรงยก มันใช้กล้ามเนื้อทั้งหมดที่มันมีขณะที่เส้นเลือดปูดขึ้นบนคอและหน้าผากมัน แต่หินก็แทบจะไม่ขยับ
เมื่อเห็นเช่นนั้น หลิน ฮวงก็รู้ว่าต้องมีบางสิ่งเกี่ยวกับหินก้อนนี้ หลังจากที่เรียกไทแรนด์กลับ หลิน ฮวงก็ถามเนฟิลิก
“แกใช้หินนี่เพื่อกลายพันธ์?”
เนฟิลิกพยักหน้า
“หินนี่มีประโยชน์เฉพาะอสูรแสงดาวหรือมันมีผลกับมอนสเตอร์อื่นเช่นกัน?”หลิน ฮวงถามอีกครั้ง
เนฟิลิกส่ายหัว
“แกหมายความว่ามันไม่มีผลหรือแกไม่รู้?”หลิน ฮวงไม่เข้าใจ ดังนั้น เขาจึงอัญเชิญเจ้าแดงมาตีความหมาย
หลังจากการสื่อสารสักพัก เจ้าแดงก็เริ่มเขียนบนกระดาน
“หินนี่คือหินศักดิ์สิทธิ์สำหรับมอนสเตอร์ประเภทวิญญาณ การแผ่รังสีคือแหล่งพลังงานที่ทำให้พวกมันวิวัฒนาการ แต่ทว่า กระบวนการวิวัฒนาการจะช้ามากเพราะเธอใช้เวลากว่า100ปีเพื่อบรรลุการกลายพันธ์ครั้งที่สอง”
“นั่นช้ามาก”หลิน ฮวงขมวดคิ้วกับสิ่งที่ได้อ่านแต่ในไม่ช้า เขาก็คิดถึงคำถามอื่น
“หากเธออยู่ต่อไป งั้นเธอก็จะสามารถกลายพันธ์ครั้งที่สามได้?”
เจ้าแดงสื่อสารกับเนฟิลิกอีกครั้งก่อนที่จะเขียนบนกระดาน
“ใช่ เธอสามารถแต่มันจะใช้เวลากว่า200ปี มีอสูรแสงดาวเพียงตัวเดียวที่สามารถกลายพันธ์ครั้งที่สามได้เมื่อหลายสิบปีก่อนและจากไป มันอยู่ในสถานที่นี้มานานกว่า360ปี”
“หากนั่นเป็นจริง งั้นหินนี่ก็ไร้ประโยชน์...มันได้ผลกับมอนสเตอร์ประเภทวิญญาณเท่านั้นและมันยังต้องใช้เวลากว่า300ปีเพื่อบ่มเพาะมอนสเตอร์ให้กลายพันธ์สามครั้ง....”
300ปีไม่ได้นานสำหรับมอนสเตอร์ประเภทวิญญษณ แต่ทว่า สำหรับผู้ควบคุมเช่นหลิน ฮวง มันนานมาก
“เสี่ยว เฮย แกคิดยังไงเกี่ยวกับหินนี้?”หลิน ฮวงถามเสี่ยว เฮย
“หินก้อนนี่ปกคลุมไปด้วยพลังวิญญาณลึกลับ ข้าถูกจำกัดสิทธิ์โดยระดับอำนาจของท่าน ดังนั้น ข้าจึงไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับหินนี้ได้”
“ฉันไม่สามารถนำหินนี่ไปเพื่อวิจัยได้และแม้กระทั่งเสี่ยว เฮยก็ยังไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับมันได้....”เมื่อได้ยินสิ่งที่เสี่ยว เฮยกล่าว หลิน ฮวงก็ล้มเลิกความคิด
“พาฉันไปดูสถานที่อื่น”
ขณะที่เขาสั่งเนฟิลิก เจ้าแดงก็เริ่มสื่อสารกับเธอและไม่นาน มันก็เริ่มเขียนบนกระดานอีกครั้ง
“มิตินี้กว้างใหญ่มาก เธออาศัยอยู่ที่นี่มากว่า100ปีและได้สำรวจทั่วทั้งพื้นที่อยู่หลายครั้ง นอกจากพืชพรรณแล้ว ไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับสถานที่นี้เลย”
“งั้นก็ช่างมันเถอะ”หลิน ฮวงไม่ได้สงสัยในสิ่งที่เนฟิลิกกล่าว
“ฉันควรจะใช้สถานที่นี้เป็นที่สำหรับอัพเกรดการ์ดของฉัน หากมีการ์ดที่ต้องผ่านการกลายพันธ์ ฉันจะมาที่นี่ ส่วนหินก้อนนี้ ฉันจะให้เสี่ยว เฮยช่วยเหลือฉันทันทีเมื่อระดับอำนาจของฉันเลื่อนขึ้นในอนาคต เนื่องจากพื้นที่นี้ไม่ถูกค้นพบโดยใครอื่นมาหลายร้อยปี งั้นก็คงจะไม่มีใครพบสถานที่นี้ได้ในอนาคตอันใกล้นี้...”หลิน ฮวงคิดกับตัวเขา
เขาคิดว่าเขาจะทำอะไรกับพื้นที่แยกนี้และหินศักดิ์สิทธิ์ แต่เนื่องจากทางเข้ามิติยังไม่ถูกพบและไม่มีทางที่จะขยับหินศักดิ์สิทธิ์ได้ เขาจึงปล่อยมันไป
“ไปกันเถอะ”หลังจากที่เรียกเจ้าแดงกลับ หลิน ฮวงก็อัญเชิญอินทรีอเล็กซานเดรี้ยนและบินตามหลังเนฟิลิกไป