ตอนที่ 172 เด็กๆที่น่าสงสาร
ตอนที่ 172 เด็กๆที่น่าสงสาร
แปล Tarhai
กลุ่ม 1 https://www.facebook.com/groups/1743836472377756/
ลงตอนที่ 1-200 ราคา 200 ลงทุกวัน วันละ 6-7 ตอน
กลุ่ม 2 https://www.facebook.com/groups/400760230327669/
ตอนที่ 201-300 ราคา 100 ลงทุกวัน วันละ 6-7 ตอน
ติดต่อที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100002039138559
อ่านบนเว็บ
https://amnovel.com/cat.php?id=58
https://www.thai-novel.com/?page_id=220202&preview=true
"เหยาเหยาน้อย ฉันเห็นด้วยอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่เธอพูด คนชั่วร้ายเหล่านี้สมควรตกนรก" ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่พยักหน้า
ฉิงเฟิงโกรธมากเมื่อเห็นเด็กๆในห้อง ในบรรดาเด็กเหล่านี้ เด็กที่อายุมากที่สุดน่าจะมีอายุประมาณสิบขวบและอายุน้อยที่สุดมีอายุเพียงแค่ 5 ~ 6 ขวบ อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส
เด็กๆควรจะเป็นอนาคตและความหวังของชาติ แต่ตอนนี้พวกเขาถูกนำมาค้ามนุษย์และแขนของเด็กสองสามคนถูกหักโดยคนชั่วร้ายเหล่านี้
มีผู้ชายมากกว่ายี่สิบคนอยู่ในห้องพวกเขาสูงใหญ่และดูแข็งแกร่ง พวกเขาบางคนถือปืนด้วย
เมิ่งเหยารู้ว่าตอนนี้สิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถทำได้คือการใช้สติปัญญาแทนการใช้กำลัง มิฉะนั้นพวกเขาจะทำให้เด็กๆต้องตกอยู่ในอันตราย การทำให้เด็กปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในขณะนี้
"ฉิงเฟิง พวกเราควรทำอย่างไรดี ?" เมิ่งเหยาถามเบาๆ ขณะที่ริมฝีปากสั่น
เธอรู้ว่ามีเพียงฉิงเฟิงเท่านั้น ที่จะสามารถหาทางออกในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายได้ นับตั้งแต่ที่เธอได้รับการช่วยเหลือจากเขา เมื่อตอนที่เธอถูกลักพาตัวโดยโจรปล้นธนาคารเมื่อครั้งที่ผ่านมา
ในความเห็นของเธอถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะเป็นคนกวนๆ ชอบหยอกล้อและชอบเอาเปรียบเธอ แต่เขาก็แข็งแกร่งทรงพลังมาก
"เหยาเหยาน้อย มันค่อนข้างง่าย พวกเราอัดสี่คนข้างหน้าเหล่านี้ก่อน และปลอมตัวด้วยชุดของพวกมัน จากนั้นเราก็สามารถเดินไปเดินมาได้" ฉิงเฟิงยิ้มขณะที่เขาได้สร้างกลยุทธ์ที่สมบูรณ์แบบ
ในความเป็นจริงมันจะไม่ยากเลยสำหรับฉิงเฟิง ที่จะเอาชนะคนเหล่านี้ สิ่งที่เขากลัวที่สุดคือการที่พวกมันอาจจะตกใจและทำร้ายพวกเด็กๆนั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่ได้ไปทุบตีพวกมันทันที
เหตุผลอีกอย่างก็คือเขาไม่ต้องการเปิดเผยความลับของเขาด้วย
เมื่อฉิงเฟิงและซูเมิ่งเหยากำลังคุยกันเรื่องการช่วยเหลือพวกเด็กๆ ขณะที่นั่งยองตัวอยู่ใต้หน้าต่าง ก็มีเสียงดังก็มาจากโรงอิฐ ประตูโลหะที่ล็อกอยู่ ถูกเตะเปิดออกโดยใครบางคนจากภายนอก
"เวรเอ้ย ใครกันที่เตะเปิดประตูเหล็ก" ฉิงเฟิงสบถ ขณะที่เขาเห็นประตูถูกเปิดออก
เขารู้ว่าคนร้ายทั้งสี่คนที่หน้าประตู และคนอื่นๆในห้องจะต้องได้รับการแจ้งเตือนเมื่อได้ยินเสียงดัง
เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ พวกอันธพาลทั้งสี่และคนอื่นๆทุกคนต่างลุกขึ้น พวกเขาตื่นตัวและคว้าอาวุธของพวกเขาทันที
เมื่อประตูถูกเปิดออก รถตำรวจสี่คันเข้ามา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่าสิบคนเดินออกจากรถ ตำรวจที่เป็นผู้นำเป็นชายร่างสูง แข็งแรง ชายคิ้วหนา ตาใหญ่และจมูกโด่งง ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาคนหนึ่ง
ชื่อของเขาคือจางเฟิง ซึ่งเป็นรองหัวหน้าทีมตำรวจอาญาในเมืองทะเลตะวันออก เขาพาเพื่อนลูกทีมของเขาตามมา ตั้งแต่ที่รู้ว่าซูเมิ่งเหยามาที่โรงอิฐ
จางเฟิงรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้เห็นคนร้ายสี่คนยืนอยู่หน้าประตู เขาเตะเปิดประตูทันที
เขารู้ว่าต้องมีบางอย่างแปลกๆในโรงอิฐนี้ เพราะปกติพวกอันธพาจะไม่ได้สุมหัวที่นี่
"พี่เฉียงเราถูกตำรวจจับแล้ว เราควรทำยังไงดีตอนนี้" ผู้ชายที่ดูบึกบึนคนหนึ่งถามชายคนวัยกลางคนที่ถือปืน
ชายวัยกลางคนทีมีร่างบึกบึนที่ล้อมรอบด้วยไปกลิ่นอายของความดุร้าย ชื่อของเขาคือเฉินเฉียงและเขาเป็นหัวหน้ากลุ่มคนกลุ่มนี้
"นายคิดว่าเราจะทำอะไรได้ละตอนนี้ จับเด็กๆไว้ไปเป็นตัวประกันและหนีไปจากที่นี่" เฉินเฉียงกล่าวในขณะที่จ้องมองคนไปที่เหล่าลูกน้อง
เขารู้ว่าไม่มีทางไหนแล้วเพราะตอนนี้พวกเขาถูกล้อมรอบไปด้วยกองกำลังตำรวจ พวกเขาสามารถหนีไปจากที่นี่ได้โดยใช้พวกเด็กๆเป็นตัวประกัน
"ฉิงเฟิง พวกเราจะทำอย่างไร พวกเขาจะเอาเด็กๆเป็นตัวประกัน" เมิ่งเหยาถามด้วยความกังวล ในขณะที่สีหน้าของเธอเปลี่ยนไป
เธอโกรธการกระทำโง่ๆของจางเฟิง ไอ้บ้าคนนี้เตะเปิดประตูทำไม? คุณไม่ตรวจสอบสถานการณ์ก่อนที่จะตัดสินใจเลยรึไง ?
"พวกเราจะทำอะไรได้ใช่ไหม หึ? แน่นอน พวกเราต้องช่วยพวกเด็กๆ " ฉิงเฟิงกล่าวด้วยความรังเกียจ
ปัง !
ฉิงเฟิงทุบหน้าต่างด้วยกำปั้นขวาของเขา และรีบเข้าไปในห้องด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า
วูบ ~
ฉิงเฟิงได้โยนก้อนหินหลายสิบก้อนที่เขาเตรียมไว้ล่วงหน้า ใส่พวกอันธพาล
อ้ากกก!
คนร้ายเหล่านั้นกรีดร้องและล้มลงไปกับพื้นขณะที่พวกเขาถูกหินปาใส่
ทักษะลับนี้เรียกว่า “อาวุธลับ” ซึ่งฉิงเฟิงแทบจะไม่ได้ใช้มัน นี่เป็นหนึ่งในไพ่ลับของเขา ที่ใช้มันเพื่อช่วยเด็กๆในวันนี้
ขณะที่เห็นลูกน้องหลายสิบคนที่อยู่ข้างๆเขาทั้งหมดถูกน็อคล้มลงไปบนพื้น
เฉินเฉียงก็แทบจะบ้าตามมาด้วยความหวาดกลัวที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา
ช่างเป็นอาวุธลับที่ทรงพลังมาก เขาไม่เคยเห็นใครมีความสามารถแบบนี้มาก่อนแม้ว่าเขาจะคลุกคลีในวงการมาหลายสิบปี ว่ากันว่าเฉพาะคนในนิกายถังในนวนิยายกำลังภายในเท่านั้นที่จะรู้วิธีใช้ทักษะประเภทนี้ และสามารถเอาชนะผู้คนจนลงไปกับพื้นได้เพียงการปาหินเล็กๆ
"อย่าเข้ามาใกล้นะ ไม่งั้นฉันจะยิง"
เฉินเฉียงเริ่มข่มขู่ฉิงเฟิงขณะที่ชี้ปืนไปที่เขา
อย่างไรก็ตาม ฉิงเฟิงแค่แสยะยิ้มบนใบหน้าเมื่อเผชิญหน้ากับการข่มขู่ดังกล่าว เขาขยับร่างกายเล็กน้อยและมาถึงตรงหน้าเฉินเฉียงในทันที เขาแย่งปืนของเฉินเฉียงมาในขณะที่เฉินเฉียงยังคงอยู่ในอาการตกใจ จากนั้นเขาก็ทุบปืนจนแหลกเป็นชิ้นๆ
ปัง !
ฉิงเฟิงเตะไปที่ท้องของเฉินเฉียงจนลอยกระเด็นไป เฉินเฉียงชนกับกำแพงและล้มลงที่พื้นหมดสติไป
ในฐานะหัวหน้าแก๊งของคนเหล่านี้ ชายคนนี้ก็ถือว่าแข็งแกร่ง แต่เขาก็เป็นได้แค่เศษขยะ เมื่อต้องมาสู้กับใครบางคนอย่างวูฟคิง , ลี่ฉิงเฟิง
"เขาทรงพลังมาก"
ในขณะที่เห็นฉิงเฟิงปิดจ็อบคนร้ายกลุ่มนี้ในเวลาไม่กี่วินาที ใบหน้าของซูเมิ่งเหยาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เธอรู้สึกได้ว่าฉิงเฟิงเป็นชายที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา เขาแข็งแกร่งมากกว่าอาจารย์ที่สถาบันตำรวจ
อาจกล่าวได้ว่าพละกำลังของฉิงเฟิงนั้น มีมากกว่าการรับรู้ของซูเมิ่งเหยาไปแล้ว บางทีคนเดียวที่สามารถสู้กับเขาได้คือราชาทหารที่ร่ำลือกันในทางแวดวงทหาร
ฉิงเฟิงเหลือบมองที่เฉินเฉียงด้วยความรังเกียจ ราวกับว่าเขารู้สึกอับอายแทนชายนี้ ที่คิดว่าปืนจะข่มขู่เขาได้ บอกตามตรง ปืนไม่มีค่าอะไรต่อหน้าฉิงเฟิง
"ยกมือขึ้น คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้"
เสียงที่ดุร้ายดังมาจากระยะไกล เมื่อคนๆนั้นเห็นฉิงเฟิงกำลังจะเปิดกรงและปล่อยให้พวกเด็กๆเป็นอิสระ
เขาคือจางเฟิง เขากำลังชี้ปืนไปที่ฉิงเฟิงพร้อมกับตำรวจอีก 10 นายที่อยู่ข้างหลังเขา พวกเขาวิ่งเข้ามาในห้องทันที หลังจากที่จับสี่คนที่หน้าประตูและเขาคิดว่าฉิงเฟิงเป็นส่วนหนึ่งของคนร้าย
ฉิงเฟิงโกรธเกรี้ยวมากเมื่อเห็นจางเฟิงที่โง่เขลาคนนี้ ชายคนนี้เพิ่งเตะเปิดประตูเสียงดังและทำให้พวกคนร้ายรู้ตัว ถ้าไม่มีฉิงเฟิงพวกเด็กๆอาจจะกลายเป็นตัวประกัน และได้รับบาดเจ็บมากขึ้น
"คุณตาบอดหรือไง? คุณไม่เห็นเหรอว่าฉันกำลังช่วยคน ทำไมคุณถึงชี้ปืนมาที่ฉัน?" ฉิงเฟิงถามอย่างโกรธเคืองขณะจ้องมองไปที่จางเฟิง
เขาโกรธมากที่จางเฟิงคนนี้ไม่เพียงแต่ไม่ขอบคุณเขาสำหรับการช่วยเหลือพวกเด็กๆ แต่เขาก็ยังชี้ปืนมาที่เขาอีก บ้าอะไรวะนี่ !