Chapter 155: ฝ่ายและเพื่อน
Chapter 155: ฝ่ายและเพื่อน
“ปุ…”
เมื่อหวังหยู่ตกลงจากพลองยาว เขานั้นเหลือพลังชีวิตเพียงแค่ 50% แม้กระทั่ง [ระลอกคลื่น] ที่เขาร่ายไปนั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วย [เปลวเพลิงแห่งเนเธอร์] ของคาร์เมอร์
เมื่อมองไปยังเปลวเพลิงที่คลุ้มคลั่งที่กำลังล้อมรอบเขาแล้ว หวังหยู่ก็รีบหล่นลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว เขาก็หลบ [เปลวเพลิงแห่งเนเธอร์] อย่างฉิวเฉียด
คาร์เมอร์นั้นมีความสูงพอๆกันกับมนุษย์ธรรมดา ซึ่งมันทำให้ [เปลวเพลิงแห่งเนเธอร์] ที่มาจากมันนั้นประมาณระดับเอว หวังหยู่ก็หลบมันได้อย่างฉิวเฉียดอีกครั้ง
“ฉันถูก!”
หวังหยู่ยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อเขาเห็นพลังชีวิตของเขานั้นมันลดลงแบบไม่ต่อเนื่อง….
หวังหยู่ก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้น และปล่อย [ระลอกเพลิง] ในมือขวาและ [ฝ่ามือพลังวอยด์] ในมือซ้าย และจับคาร์เมอร์ไว้ให้โดน [ระลอกคลื่น] แทน..
“เคร๊ง!”
บ่วงกับดักอันลึกลับก็ใช้งานอีกครั้ง และกักขังคาร์เมอร์ไว้อีกครั้งหนึ่ง ไม่เพียงแต่ [การพุ่งเข้าชนของจิตวิญญาณ] และ [เปลวเพลิงแห่งเนเธอร์] ก็หายไปอย่างฉับพลัน แม้กระทั่ง [เสียงกรีดร้องจากนรก] นั้นก็หยุดกรีดร้องลงมาอย่างฉับพลัน
..
หวังหยู่ก็รีบใช้ท่าโจมตีอันน่ารังเกียจ และก็ใช้ประโยชน์จากสภาพกักขังของคาร์เมอร์
เพียงแค่สามนาทีนั้นจะสิ้นสุดลง หวังหยู่ก็ใช้ [ฝ่ามือพลังวอยด์] และก็ผลักคาร์เมอร์เข้าใส่บ่วงกับดักอันลึกลับอีกอันหนึ่ง….
พร้อมกับเวลาที่เหลือแค่เพียงประมาณ 6 นาทีนั้น สุดท้ายแล้วหวังหยู่ก็ฆ่าคาร์เมอร์ได้! เมื่อทำเควสของเขาเสร็จลง คาร์เมอร์นั้นก็เปลี่ยนกลายเป็นลูกบอลหมอกสีดำ และกลับไปยังแท่นบูชาที่เขามา
เมื่อหวังหยู่เก็บกระดูกนรกไว้ในช่องเก็บของของเขา มันก็มีเสียงถล่มที่ดังขึ้นมาจากดันเจี้ยนฝังศพ และก็ขว้างเขาออกมาและส่งเขาเข้าไปห้องบูชาแห่งความมืดตรงๆ
{แจ้งเตือนระบบ : คุณทำเควส ‘ความปรารถนาของลอร์ดปีศาจ’ สำเร็จ ความยากของเควสระดับ : A อัตราสำเร็จ 100%}
{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้รับกระดูกนรก}
{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้รับแต้มคุณธรรม +100 แต้มจากฝ่ายมืด คุณได้รับความเคารพบูชาจากคนจำนวนมากของฝ่ายมืด}
หวังหยู่ก็ฉลองอย่างเงียบงัน แล้วเขาก็ชื่นชมกระดูกนรกในช่องเก็บของของเขา มันจบแล้ว เควสไร้สาระนี่มันจบแล้ว…
สองวัน เขาใช้เวลาสองวันในการทำเควสที่เป็นไปได้ที่เกือบทำให้เขาบ้าคลั่งไปแล้ว…
เมื่อหวังหยู่จะจากไป อัครสาวกดเวย์นก็ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันด้านหน้าเขา “ท่านไม่ได้ทรยศความคาดหวังของฉัน! ท่านผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้อันเลื่องลือ คุณได้ผ่านการทดสอบของบรรพบุรุษ”
“มันก็แค่ฟลุ๊คครับ!”หวังหยู่ถอนหายใจ ถ้าเขานั้นไม่ได้เสี่ยงโชคที่จะหลบ [เปลวเพลิงแห่งเนเธอร์] โดยการนอนหมอบกับพื้นดิน เขาก็คงทำเควสนี้ไม่สำเร็จ
“ไม่ใช่ว่าโชคนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของความแข็งแกร่งด้วยเช่นกันงั้นเหรอ?”ดเวย์นหัวเราะเบาๆ “ท่านผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้อันเลื่องลือ ห้องบูชาแห่งความมืดนั้นขาดชายที่มีความสามารถแบบท่าน คุณมีเจตนาที่จะทำงานให้กับห้องบูชาแห่งความมืดไหมครับ?”
{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้รับการยอมรับจากดเวย์น คุณต้องการที่จะเข้าร่วมฝ่ายมืดหรือไม่?}
“ฝ่าย…ไม่ใช่ว่ามันเปิดหลังจากระดับ 25 งั้นเหรอ?”หวังหยู่ถามอย่างลังเล
“แต่คุณนั้นไม่ได้เหมือนกันกับผู้เล่นคนอื่น ผมสร้างข้อยกเว้นให้กับท่าน ท่านสามารถที่จะเข้าร่วมห้องบูชาแห่งความมืดตอนไหนก็ได้ตามที่ท่านปรารถนา”ดเวย์นยิ้มอย่างอบอุ่น
“เอ่อ…ผมจะคิดเกี่ยวกับมันอีกครั้งครับ…”
หวังหยู่มีความรู้คร่าวๆเกี่ยวกับการทำงานของฝ่าย หลังจากที่ได้ยินสมาชิกคนอื่นในนิกายซวนเฉินที่พูดคุยกันในเมืองมังกทะยานฟ้ามาก่อนหน้านี้
การเข้าร่วมฝ่ายนั้นจะให้ผู้เล่นได้บัฟที่ดีและแม้กระทั่งให้โอกาสพวกเขาในการเรียนสกิลที่หาไม่ได้ทั่วไปจากฝ่าย…สกิลที่หาไม่ได้ทั่วไปจากฝ่ายนั้นเป็นประเภทหนึ่ง ผุ้เล่นคนแรกๆที่เข้าร่วมฝ่ายจะได้รับผลประโยชน์มากอย่างมาก
ที่มันน่าล่อใจอย่างมากก็คือความจริงที่ว่าการฆ่าผู้เล่นจากฝ่ายตรงข้ามนั้นจะได้รับแต้มแบ่งปันจากฝ่าย แต้มของมันนั้นสามารถที่จะแลกเปลี่ยนอุปกรณ์ระดับสูงได้
อุปกรณ์ระดับสูง….สิ่งพวกนี้คือไอเทมล้ำค่าที่ผู้เล่นทุกคนปรารถนา
แต่หวังหยู่นั้นไม่ได้รีบในการเข้าร่วมฝ่ายใดๆ สุดท้ายแล้ว นิกายซวนเฉินนั้นเลือกตำแหน่งในเมืองรัตติกาลซึ่งมันเป็นพื้นที่ของฝ่ายแสง มันจึงเป็นเรื่องยาก ถ้าสมาชิกคนอื่นจะออกจากบ้านเกิดและเข้าร่วมกับหวังหยู่
“ทุกคนกำลังทำอะไรกันอยู่?”หวังหยู่ส่งข้อความในแชทกิลด์
“เหี้..! นายโดนไล่ล่าอีกแล้วเรอะ?”ทุกคนตอบกลับอย่างโกรธเคือง พวกเขานั้นคุ้นเคยไปกับความจริงที่หวังหยู่นั้นจะสร้างปัญหากับทุกๆที่ที่เขาไป ด้วยเหตุนี้นี่เองพวกเขาจึงสันนิษฐานว่าเขานั้นพาตัวเองเข้าสู่ปัญหาอีกครั้ง
“พวกนายกำลังพูดอะไรอยู่กัน? พวกนายคิดว่าสุภาพบุรุษแบบผมคนนี้จะเป็นผู้ชายที่เลวทรามงั้นเหรอ?”
“นายหมายถึงว่านายไม่ใช่?”ไร้ความกลัวเยาะเย้ย
“เกี่ยวกับเรื่องนี้…”หวังหยู่พูดไม่ออก ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกมา ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆมันก็เป็นหลักฐานที่เห็นได้อย่างชัดเจน
“ก็คือว่าผมนั้นมีแต้มคุณธรรมจากฝ่ายมืด 200แต้มในตอนนี้ อัคราสาวกดเวย์นนั้นก็ชวนผมเข้าร่วมฝ่ายมืด พวกนายคิดว่าผมควรที่จะทำยังไงดี?”
“อัครสาวกชวนนายงั้นเหรอ?? ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”รัศมีฤดูใบไม้ผลิถาม
เมื่อเป็นผู้เล่นเบต้าเทสต์ รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็สามารถที่จะเข้าร่วมฝ่ายได้หลังจากระดับ 25 และเขาจำเป็นที่จะต้องทำเควสน่าเบื่อจำนวนมากก่อน
ในช่วงเวลาสองเดือนของเบต้าเทสต์ ผู้เล่นส่วนมากนั้นพยายามที่จะเลื่อนระดับและท้าทายบอสและดันเจี้ยน มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะมีใครเสียเวลาทำเควสเหล่านี้
แม้กระทั่งผู้มากประสบการณ์แบบรัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นก็ไม่เคยได้ยินกรณีที่อัครสาวกมาชวนผู้เล่นเข้าฝ่ายเป็นการส่วนตัวแบบนี้มาก่อน
“ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมยืนอยู่ด้านข้างเขาในตอนนี้ ถ้าพวกนายไม่เชื่อผมจริงๆแล้วละก็ ผมสามารถที่จะพาเขามาทักทายพวกนายได้”
“เอ่อ…”ทุกคนนั้นรู้ว่าหวังหยู่ไม่ใช่คนที่จะพยายามโกหกกับพวกเขา แต่สถานการณ์นี้มันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับ ผู้คนนั้นจะเหนื่อยล้ากับการพยายามที่จะเข้าร่วมฝ่าย แต่ไอ้โง่นี่ใช้วิธีการบางอย่างจนได้รับการเชิญชวนเข้าร่วม…. ความเหลื่อมล้ำของมันนั้นมากเกินไป
“ถามเขาว่า เขาจะให้ผลประโยชน์อะไรกับพวกเรา!!”หมิงตู่ตอบกลับอย่างตื่นเต้น
“นั่นไม่ค่อยดีเลย..”หวังหยู่ลังเลมากที่จะทำแบบนั้น เขาจะสามารชดใช้ความใจกว้างของท่านอัครสาวกต่อการกระทำแบบนี้ได้ยังไง? ไม่เพียงแต่เขานั้นจะคิดว่าท่านอัคราสาวกอาจจะยอมรับเขาเข้าไปแบบนี้ แต่จะให้ผลประโยชน์กับคนอื่นด้วยอีกเหรอ??
“ชิ ตั้งแต่ที่เขาให้ข้อเสนอกับนายมาง่ายๆแบบนี้ ทำไมนายไม่รับไปละ?”สมาชิกคนอื่นของนิกายซวนเฉินแนะนำ
“…..”
NPC ตนนี้นั้นเป็นเอไอที่พัฒนาอย่างมาก ดเวย์นสามารถที่จะบอกได้คร่าวๆว่าหวังหยู่คิดอะไรอยู่ เพียงแค่การดูการแสดงออกของเขา แล้วเขาก็หัวเราะขึ้นแล้วเขาก็พูด “ผ่อนคลายหน่า เมื่อท่านเป็นคนแรกที่เข้าร่วมฝ่ายมืด และเป็นใครบางคนที่ผมเชิญเป็นการส่วนตัว ท่านสามารถที่จะเลือกสกิลที่หาไม่ได้ทั่วไปและชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับอาชีพของท่านได้!”
“เขาพูดว่าเขาจะให้สกิลที่หาไม่ได้ทั่วไปและชิ้นส่วนอุปกรณ์กับผมด้วยละ!”หวังหยู่รีบส่งข้อความอย่างตื่นเต้นไปยังกิลด์
“เหี้...อะไรวะ! เข้าร่วมฝ่ายเขาวะ! ไอเทมจากฝ่ายพวกนี้นั้นเป็นอุปกรณ์ระดับอัคนีเป็นอย่างต่ำ!”หมิงตู่รีบตอบกลับ
“ก็ได้ ถ้างั้น!”หวังหยู่หันไปหาดเวย์นแล้วเขาก็พูดขึ้น “ผมยอมรับครับ!”
การแสดงออกของดเวย์นแข็งทื่อขึ้นหลังจากที่หวังหยู่ตอบตกลง และเขาก็เตือนอย่างตึงเครียด “ท่านจะต้องคิดเกี่ยวกับมันดีๆ เมื่อท่านเข้าร่วมฝ่ายมืด เพื่อนทุกคนของท่านที่อยู่ฝ่ายแสงนั้นจะกลายเป็นศัตรูของท่านในทันที ท่านจะต้องฆ่าพวกเขาทันทีที่ท่านพบวกเขา!”
“โอ้? รอแปปหนึ่งนะครับ!”หวังหยู่รีบส่ายหัวและรีบส่งข้อความไปหาเพื่อนร่วมกิลด์ของเขา “พวกนายต้องการที่จะเข้าร่วมฝ่ายมืดด้วยไหม?”
“พวกเราไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น ฉันคิดว่าไร้ความกลัวไม่สามารถที่จะเข้าร่วมฝ่ายมืดได้ ตั้งแต่ที่เขาเป็นนักบวชที่เป็นคนรับใช้ของเทพเจ้า”
“ถูกแล้ว!’ไร้ความกลัวตอบกลับอย่างไม่แยแสอะไร”และพวกเราก็มีดินแดนอยู่ที่นี่ ฉันไม่ได้มีแผนที่จะเข้าร่วมฝ่ายมืดเลย”
“ก็ได้! ถ้างั้นผมรู้แล้วว่าผมจะต้องทำอะไร!”หวังหยู่รีบปิดช่องแชทและหันกลับไปหาดเวย์นอีกครั้งหนึ่ง “ผมขอโทษด้วยครับ แต่ผมคิดว่าผมไม่สามารถที่จะยอมรับข้อเสนอของท่านได้!”
“นั่นมันน่าเศร้าอะไรเช่นนี้!”ดเวย์นถอนหายใจ “นี่คือข้อเสนอเพียงครั้งเดียวในชีวิต ถ้าท่านปฏิเสธมันในตอนนี้ ท่านก็ยังสามารถที่จะเข้าร่วมกับพวกเราได้ในอนาคต แต่จะเข้าร่วมได้เมื่อท่านถึงระดับ 25 และต้องทำภารกิจตามปกติ ท่านควรที่จะรู้ไว้ว่ายิ่งท่านเข้าร่วมเร็วมากเท่าไหร่ ผลประโยชน์ที่ท่านจะได้ก็เพิ่มมากขึ้น”
“ฮ่าๆ! ผมตัดสินใจแล้วครับ ขอบคุณสำหรับความหวังดีและความช่วยเหลือของท่านครับ ท่านอัครสาวก!”หวังหยู่โค้งตัวอย่างเคารพก่อนที่จะออกมาจากแท่นบูชาแห่งความมืด
แม้ว่าหวังหยู่นั้นจะใหม่กับโลกแห่งเกม เขานั้นก็ไม่ได้โง่ สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรสำหรับเขา
หวังหยู่นั้นแทบจะไม่มีเพื่อนคนอื่นเลย มันไม่มีจนกระทั่งเขานั้นพบผู้เล่นในนิกายซวนเฉินที่ทำให้เขานั้นรู้ความหมายของคำว่าเพื่อน แม้ว่าคนพวกนี้จะหน้าด้านและหยาบคาย พวกเขาก็ยังเป็นคนดี พวกเขานั้นไม่เคยทำให้หวังหยู่ตกต่ำและพวกเขานั้นพร้อมที่จะยื่นมือช่วย เมื่อหวังหยู่ต้องการความช่วยเหลือ แม้ว่าเขาจะไม่ยอมรับมัน หวังหยู่ก็ไม่เคยที่จะทิ้งเพื่อนเพื่อผลประโยชน์บางอย่างของเกม
เขาสามารถที่จะออกไปล่าเพื่อหาอุปกรณ์และสกิลได้เสมอๆ แต่เพื่อนนั้นเป็นเรื่องยากที่จะหาพบ...
ผู้เล่นจากนิกายซวนเฉินตกตะลึงอย่างมาก เมื่อพวกเขาได้ยินว่าหวังหยู่นั้นปฏิเสธคำเชิญชวนเข้าฝ่ายมืด
เมื่อพวกเขาถึงระดับ 25 และเริ่มที่จะทำเควสเข้าฝ่าย พวกเขานั้นก็จะตระหนักถึงการกระทำของพวกเขาได้ เนื่องจากว่าหลังจากที่พวกเขาทำเควสระดับ 20 เสร็จแล้ว ผู้เล่นก็จะได้โอกาสในการเลือกอาชีพของพวกเขาใหม่อีกครั้ง นั่นหมายความว่าไร้ความกลัวสามารถที่จะเลือกเป็นหมอผีได้…
เมื่อกลับไปยังเมืองรัตติกาล หวังหยู่ก็สังเกตว่ามันยังคงมีชีวิตชีวาเหมือนกับแต่ก่อน
เควสพิเศษของปีใหม่ยังคงมีอยู่ แต่เนื่องจากข่าวลือเกี่ยวกับพลุไฟนั้นถูกเผยแพร่ออกไป ผู้เล่นส่วนมากก็เลิกที่จะเก็บระดับและออกไปไล่ล่าหาเนียน หวังว่าจะหาเงินได้เพิ่มบางส่วน
ผู้เล่นที่แข็งแกร่งนั้นออกล่าเนียนเพื่อหาแต้ม ในขณะที่ผู้เล่นที่อ่อนแอนั้นล่าพวกมันเพื่อหาเงิน…ผู้เล่นพวกนี้นั้นทิ้งค่าประสบการณ์เพิ่มเติมที่ได้มาจากอีเวนต์นี้ไป
หวังหยู่เดินเล่นไปรอบๆถนนก่อนที่จะมาถึงตรอกที่ผู้ให้ข้อมูลเมาเละเทะอยู่ด้านใน แล้วก็เปิดขวดเหล้าและวางไว้ด้านข้างผู้ให้ข้อมูลของเขา
เพียงแค่หลังจากที่ได้กลิ่นอันหอมหวานของเหล้า ผู้ให้ข้อมูลก็ตอบกลับและจ้องไปที่หวังหยู่อย่างไม่อดทน “ฉันบอกนายแล้ว! ว่าเควสนี้ถูกสร้างมาจากเทพเจ้านักต่อสู้ด้วยตัวเอง! มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำเควสให้สำเร็จแบบที่นายคิด! นายไม่สามารถที่จะใช้ทางลัดเพื่อทำมันสำเร็จได้!”
“หื้อ? ผมสามารถที่จะใช้ทางลัดในการทำเควสอื่นได้ด้วยงั้นเหรอ?”หวังหยู่ถาม
“เอ่อ…แน่นอนว่าไม่! พูดมา! นายต้องการอะไร?”
“ผมมาที่นี่เพื่อส่งเควสให้สำเร็จ!’หวังหยู่ตอบกลับอย่างไม่แยแส