ตอนที่แล้วตอนที่ 120 ความลับของภาพภูเขาและแม่น้ำ (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 122 คำตอบที่แท้จริง (FREE)

ตอนที่ 121 ผู้ชนะ (FREE)


ความเร็วของแสงพวกนั้นเร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน? ในเวลาอันสั้น ทั่วทั้งลานประลองก็เต็มไปด้วยแสงสว่างสีขาว

เหล่าผู้ทดสอบและผู้คุมสอบต่างตั้งตัวไม่ทัน

ในช่วงที่ผ่านมาพวกเขาทั้งหมดกำลังจดจ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ อย่างไม่วางตา  อย่างไรก็ตาม ในชั่วพริบตาเดียวทุกอย่างก็พลันเป็นสีขาวโพลน

ราวกับน้ำนม

แต่วีของนมนั้นให้ความรู้สึกสบยตานุ่มนวล แต่แสงสีขาวที่เห็นตรงนี้สว่างจนทิ่มแทงตา

พวกเขาถูกครอบงำด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรว

"อา !!!"

"อ่า ... อา..อา ... "

"ดวงตาของข้า!"

 

ไม่นานผู้คนภายในมิตพิเศษก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย

เพราะไม่มีใครเห็นสิ่งใด ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น วิสัยทัศน์ของพวกเขาทั้งหมดถูกบดบังด้วยความขาวโพลน ราวกับตาได้บอดลง

"อา, ข้ามองอะไรไม่เห็นเลย, ข้าตาบอด!? ทำไมข้าถึงมองไม่เห็น!"

"นี่มันเรื่องอะไรกัน?!"

ความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่่สุดของมนุษย์คืออะไรกัน?

มันคืออันตรายจากสิ่งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ดังนั้นหลังจากที่ทุกคนไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ ทุกคนต่างเริ่มกรีดร้องโหยหวนออกมาอย่างหวาดกลัว สถานการณ์เริ่มแย่ลงมากขึ้น ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายนั้นเอง ผู้ทดสอบบางคนก็ได้ใช้สันชาตญาณลุกจากเก้าอี้เตรียมจะวิ่งหนีไป

แต่ทว่ากลับสะดุดล้มทับเพื่อนที่อยู่ข้างๆแทน

"โอ๊ย ใครกันที่เหยียบใบหน้าของข้าอยู่!"

"เจ็บปวดเหลือเกิน"

เสียงกรีดร้องที่โหยหวนรวมเข้ากับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนั้นราวกับตอนนี้เป็นวันสิ้นโลกยังไงยังงั้น

 

พวกเขารอจนกว่าจะมองเห็นอีกครั้ง

หลังจากนั้นไม่มีใครรู้ว่านานแค่ไหน กว่าที่ความขาวโพลนจะค่อยๆคลายออกแล้วแล้วมีจุดสีเขียวๆโผล่ขึ้นมาแทน เมื่อสีเขียวค่อยๆเผยออกมาแทนที่สีขาวโพลนทัศนยภาพโดยรอบก็เริ่มเปลี่ยนจากความสับสนวุ่นวายเป็นบางอย่างที่ชัดเจน ...

ในเวลาต่อมา โลกทั้งใบก็กลับคืนสู่ดวงตาของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม ...

หลังจากวิสัยทัศน์ของทุกคนฟื้นตัวขึ้น

ฉากที่เกิดขึ้นบนลานประลองเป็นทำให้พวกเขาต้องตกอยู่ท่ามกลางตกใจอีกครั้ง  เพราะนอกเหนือจาก ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีใครอยู่ในลานประลองเลย

"เหยียน ซิว อยู่ที่ไหน?! เหยียน ซิว อยู่ที่ไหน? "

ฟาง เจิ้งจือ ยืนอยู่อย่างอดทนบนลานประลอง หลังจากได้ยินคำพูดของพวกเขา ฟาง เจิ้งจือ ชี้ไปทางขวามือ เหยียน ซิว นั่งอยู่บนพื้นดินข้างนอก

 

"เหยียน ซิว อยู่นอกลานประลอง?!"

"เกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกอย่างถึงสว่างจ้าเช่นนั้น?"

"พลังของแสงนั้นคืออะไร ทรงพลังยิ่งกว่าแสงจากดวงอาทิตย์เสียอีก!"

หลังจากที่ทุกคนเห็นว่า เหยียน ซิว ออกนอกลานประลองไปแล้วต่างก็พากันตกใจมากยิ่งขึ้น ไม่มีใครสนใจเลยว่า ใครที่เหยียบบนใบหน้าของใคร เพราะว่าพวกเขามัวแต่กังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า

 

วิสัยทัศน์ของฮันฉางเฟิงก็กลับมาในตอนนี้ ในฐานะที่เป็นหัวหน้าผู้คุมสอบของโรงเรียนหลวง การฝึกฝนของเขาจึงต่างกับบุคคลธรรมดาทั่วไปอย่างสิ้นเชิง

ตัวอย่างเช่นแม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นสิ่งต่างในตอนนั้น แต่เขาก็นิ่งเฉยอย่างมีสติ

นี่เป็นเรื่องบ้าอะไรกัน...

แม้ว่าเขาจะไม่สามารถมองเห็นได้ ปต่ยังคงได้ยินเสียงรอบๆ หากมีอันตรายเกิดขึ้นรอบตัวเขาจริงล่ะก็ ด้วยความสามารถของเขาจะรับรู้ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ นี้ยังเป็นมิติพิเศษที่เดิม!

แต่เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เขาก็ไม่อาจหยุดยั้งความตกใจได้

 

"ข้ายังมีอีกวิชาหนึ่งที่ข้าจะใช้?"

ฮัน ฉางเฟิง นึกถึงคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ ที่พูดกับ เหยียน ซิว ในตอนนั้นขึ้นมา

วิชาหนึ่ง?

นี่เป็นวิชาที่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ใช้มันมาตลอด?

ช่างลึกลับ ภายในหัวใจของเขาเริ่มเกิดความสับสน ถ้าแสงสีขาวนั้นคือวิชาของ ฟาง เจิ้งจือ แล้วเขาทำมันได้อย่างไร?

ความสามารถในการ ...

เป็นไปไม่ได้! ไม่ใช่ว่า ฟาง เจิ้งจือ อยู่แค่ในระดับผนวกดารา แม้แต่บางคนในระดับสะท้อนสวรรค์ก็ยังไม่สามารถบรรลุสิ่งนี้ได้! นั้นหมายความว่ามีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว มันคือสมบัติ ฟาง เจิ้งจือ ต้องแอบซ่อนสมบัติที่น่ากลัวไว้ในร่างของเขาเป็นแน่!

เมื่อกี้นี้มันคือคืออะไร?

"ข้าบอกให้เจ้าดูให้ดี เจ้าก็ตั้งใจดูจริงๆ...ระเบิดแฟลช ข้าเชื่อว่ายังไม่เคยมีใครเห็นมันมาก่อน" ฟาง เจิ้งจือ ถูกจ้องมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจนับไม่ถ้วนและถอนหายใจเล็กน้อย  เขาแสร้งทำใบหน้าไร้เดียงสา

มันเป็นเทคโนโลยีด้านเคมีขั้นสูง

 

อย่างไรก็ตาม ...

มันเป็นเพียงแสงเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเทียบไม่ได้กับระเบิดที่ใช้กันในกองทัพทหารจากโลกที่เขาจากมา แต่แสงที่ทรงพลังอย่างน้อยก็ทำให้มองไม่เห็นได้ 2-3 นาที

ซึ่ง 2-3 นาทีในโลกนี้ สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง

เหยียน ซิว มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความซับซ้อน

ในความทรงจำของเขา คนที่จะสามารถสร้างแสงที่พลังจนทำให้คนตาบอดได้มีเพียงปู่ของเขาคนเดียวเท่านั้น

ฟาง เจิ้งจือ?

เขาทำมันได้ยังไง? เขาใช้อะไรกัน?

อันที่จริง เหยียน ซิว รู้สึกว่าเขาได้พยายามเต็มที่แล้ว ทันทีที่ระเบิดแฟลชทำงานเขาก็ได้ตระหนักถึงมันและสิ่งแรกที่เขาทำคือการใช้ เงาสายลม อย่างต่อเนื่อง

แต่ขาของเขาสะดุดบางอย่างแล้วกลิ้งออกไปนอกลานประลอง

"เจ้า... " จริงๆแล้ว เหยียน ซิว อยากจะถามอะไรบางอย่างกับ ฟาง เจิ้งจือ

แต่เมื่อกำลังจะพูดเขาก็กลืนมันกลับเข้าไป เพราะเขารู้ดีว่าวิชาบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิชาลับที่ทรงพลังเช่นนี้ก็ไม่สมควรเปิดเผยต่อหน้ากลุ่มคนจำนวนมาก

ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่การขยับปากของ เหยียน ซิว และเข้าใจถึงความคิดของเขาได้ในทันที

อย่างไรก็ตาม ...

เกี่ยวกับระเบิดแฟลช เขาพยายามหาวิธีอธิบายแล้ว สอนความรู้เกี่ยวกับวิชาเคมีให้กับ เหยียน ซิว ไม่ว่าจะคิดยังไงก็ดูไม่เหมาะเท่าไร หรือจะให้อธิบายเกี่ยวกับโลกอื่นที่เขาจากมาแทน?

"ข้ายินดีที่จะบอกเจ้า..แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้!" ฟาง เจิ้งจือ มองไปรอบๆเหล่าผู้เข้าทดสอบ

การแสดงออกของ เหยียน ซิว เปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วรอยยิ้มก็เริ่มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง เขาพ่ายแพ้ แต่อย่างไรก็ตามเขาได้พบกับสหายที่แท้จริงที่พร้อมจะบอกความลับกับเขาอย่างจริงใจ

"ตกลง" เหยียน ซิว พยักหน้ารับ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไปและไม่ได้พูดอะไรอีก

ผู้ทดสอบโดยรอบยังตกอยู่ในความตกใจ ทุกคนอยากรู้ว่าวิชานี้คืออะไรใจจะขาด แต่ก็รู้ดีว่า ฟาง เจิ้งจือ คงไม่ยอมปริปากพูดแน่

 

ด้านของทางผู้ตัดสิน ฮัน ฉางเฟิง มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความเงียบสงบ

ทั่วลานค่อยๆเงียบลง

ขุนนางฉินหันหน้าไปมอง ฮัน ฉางเฟิง

"ผู้อาวุโสฮัน...ถึงเวลาแล้วที่จะต้องประกาศชื่อผู้ชนะ?"

เสียงของขุนนางฉินไม่ได้ดังมากนักแต่ ฮัน ฉาง เฟิง ก็ได้ยินในสิ่งที่เขาพูด ทันใดนั้นเองเมื่อเขาหันมามอง เขาตกใจขึ้นในทันที

ฟาง เจิ้งจือ...

ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ชนะของการทดสอบการต่อสู้ แต่ยังได้เป็นผู้ชนะของการทดสอบด้านปัญญาด้วย แล้วนั้นหมายความว่า...เขาได้เป็นผู้ชนะของการทดสอบระดับเมืองหลวงในครั้งนี้!

 

 

ฮัน ฉางเฟิง ไม่อยากจะยอมรับความจริงเรื่องนี้

ในความเป็นจริง ก่อนการเริ่มต้นการทดสอบระดับเมืองหลวงครั้งนี้ ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถเป็นผู้ชนะของการทดสอบได้ แต่เขาก็ทำได้จริงๆ

 

ในด้านปัญญาเองกระดาษคำตอบของเขานั้นไร้ที่ติ

ไม่มีเหตุผลอื่นที่เขาจะไม่เป็นผู้ชนะการทดสอบครั้งนี้

 

อย่างไรก้ตามในการทดสอบการต่อสู้นั้นมีความแตกต่างอยู่

มีตัวแปรหลายอย่างในการทดสอบ นอกจากนี้ยังมี ฮั่ว คังกัง ผู้ที่บรรลุระดับผนวกดาราได้แล้วมาร่วมเข้าทดสอบด้วย เขาได้เตรียมการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องอันตรายขึ้น

เขาจึงเลือกที่จะใช้มิติพิเศษเพื่อให้เขาสามารถนำตัวผู้เข้าทดสอบออกมาได้ในกรณีฉุกเฉิน ...

แต่ในท้ายที่สุด?

อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะ ฟาง เจิ้งจือ จนมาถึงรอบนี้

 

"ข้า...คงต้องรบกวนเจ้าด้วย!" เสียงของ ฮัน ฉางเฟิง ค่อนข้างจะเจ็บปวดเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าผู้คุมสอบแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ตัดสินด้านล่างอีก

เขารู้ว่า นับแต่นี้เป็นต้นไปความสามารถของ ฟาง เจิ้งจือ คงไม่อาจปกปิดไว้ได้อีกแล้ว

ข่าวของ ฟาง เจิ้งจือ ต่องแพร่สะพัดไปทั่วดินแดนทะเลทรายทางเหนือยอ่างรวดเร็วแน่นอน ไมว่าจะเป็นเมืองหลวงอันดับ 1 ศาลาเต๋าสวรรค์ หรือแม้แต่เผ่าพันธุ์ปีศาจแน่นอน...

"กองตรวจการศักดิ์สิทธิ์คิดจะ... เห้อ..." ฮัน ฉางเฟิง ถอนหายใจออกมา

ขุนนางฉินเริ่มลุกขึ้นยืน ค่อยๆสวมเสื้อคลุมสีดำของเขาอย่างช้าๆ

จากนั้นก็มองไปที่เหล่าผู้เข้าทดสอบและมองไปยัง เหยียน ซิว

และในที่สุดก็มองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ที่ยืนอยู่บนลานประลอง

"บัดนี้ ในฐานะขุนนางของโรงเรียนหลวง ข้าผู้เป็นตัวแทนของผู้อาวุโสฮันขอประกาศผลของการทดสอบการต่อสู้ในรอบชิงชนะเลิศ!" เสียงของขุนนางฉินดูน่าเกรงขามยิ่ง

ประโยคหนึ่งที่ทำให้เหล่าผู้ทดสอบรู้สึกตกใจ  แต่ละคนจ้องมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ผู้ที่ยืนอยู่บนลานประลองแววตาของแต่ละคนเต็มไปด้วยความรู้สึกและอารมณ์

 

"ผู้ชนะของการทดสอบการต่อสู้ ฟาง เจิ้งจือ !"

"ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นผู้ชนะของการทดสอบด้านปัญญาอีกด้วย เพราะฉะนั้นเขาเป็นผู้ชนะของการทดสอบทั้งสองด้านของการทดสอบระดับเมืองหลวงในครั้งนี้!"

"ผู้ชนะของการทดสอบทั้งสองด้าน!"

เมื่อเสียงประกาศสะท้อนดังเข้าหูของเหล่าผู้เข้าทดสอบแววตาของพวกเขาต่างเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา

ผู้ชนะของการทดสอบทั้งสองของการทดสอบระดับเมืองหลวง!

ยิ่งไปกว่านั้น ...

 

คนที่ชนะนั้น...

เป็นแค่เด็กหนุ่มผู้มากจากหมู่บ้านเล็กๆ!

"นอกจากนี้ข้าจะขอประกาศอีกครั้งว่า  ข้าเชื่อว่าทุกคนคงจะได้ยินกันมาบ้างแล้ว ว่ากองตรวจการศักดิ์สิทธิ์แห่งทะเลทรายทางเหนือได้มอบรางวัลพิเศษให้ในการทดสอบครั้งนี้! " เสียงของขุนนางฉินดังออกมาอีกครั้งด้วยความตื่นเต้น

 

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด