Chapter 154: ใช้เวลาทุกวินาที
Chapter 154: ใช้เวลาทุกวินาที
เมื่อหวังหยู่เข้าไปในพื้นที่หลักของพื้นที่ฝังศพ เขาก็ได้รับการแจ้งเตือน ‘กำลังเรียก จากแท่นบูชา’ มันทำให้เขาระวังตัวอย่างมากเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในแท่นบูชา และคิดว่าเขาจะต้องสู้กับปีศาจโครงกระดูก
เมื่อนักธนูและนักรบถูกฆ่า หวังหยู่ก็รีบหันเหความสนใจไปยังอัศวินโครงกระดูกที่นอนอยู่บนพื้น
เมื่อพวกมันเปลี่ยนกลายเป็นหมอกสีดำและเข้าไปในแท่นบูชา แท่นบูชาก็สว่างวาบ สัญลักษณ์บนแท่นบูชาก็ค่อยๆหายไปและมันก็มีเสียงกรีดร้องจากส่วนลึกของนรกที่อยู่ในพื้นที่ฝังศพ และมันก็มีแสงสีเขียวสว่างลอยออกมาจากแท่นบูชา
{จิตวิญญาณพยาบาท (ระดับ 5)}
พลังชีวิต : 1000
มานา : 1000
สกิล : [การเน่าสลายของจิตวิญญาณ]
เพียงแค่หวังหยู่จะฟาดจิตวิญญาณพยาบาทให้มันตายลง มันก็มีเสียงดังก้องมาจากแท่นบูชา แท่นบูชาก็ค่อยๆพังทลายลง และเปิดเผยโครงกระดูกขนาดใหญ่ด้านใต้มัน
ในขณะที่หวังหยู่กำลังสันนิษฐานว่าชุดกระดูกนั้นคืออะไร จิตวิญญาณพยาบาทก็ลอยเข้าไปด้านในมัน
“กระดูกนรก!”หวังหยู่อุทาน และก็ก้าวเพื่อที่จะไปเอามัน
แต่หวังหยู่รู้สึกว่าร่างกายของเขาแข็งค้างขึ้น…เขานั้นสูญเสียการควบคุมแขนของเขา และก็ขว้างกระดูกนรกลงบนพื้น...
“หื้อ?”หวังหยู่ก้มตัวไปมอง และเก็บกระดูกนรกอีกครั้ง แต่มันก็เรื่องแบบเดียวกันขึ้น แต่ครั้งนี้ หวังหยู่สามารถที่จะรู้สึกถึงเจตนาฆ่าอันถาโถมมายังเขา
หวังหยู่ก็หันกลับไป มันน่าตื่นตระหนกจนเขาก้าวถอยหลังไปสองก้าว…
จิตวิญญาณพยาบาทตัวเล็กนั้นบินไปรอบๆก่อนที่จะขยายขนาดขึ้น…จากขนาดเท่าลูกบอลนั้นกลายเป็นมอนสเตอร์ที่ใหญ่กว่านักรบโครงกระดูกปีศาจ 30% เสียอีก
หวังหยู่จับพลองยาวและขว้างมันใส่จิตวิญญาณพยาบาท มันก็ยังคงยืนอย่างนิ่งเฉย และปล่อยให้พลองยาวของหวังหยู่นั้นพุ่งผ่านไปโดยไม่ได้ทำความเสียหายแม้แต่นิดเดียว
จิตวิญญาณลอยขึ้นจากพื้นดินสูง ดังนั้นหวังหยู่จึงโจมตีมันไม่ได้
หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที จิตวิญญาณพยาบาทนั้นก็แปลงร่างเสร็จสมบูรณ์ และมันก็เปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์มนุษย์สีเขียว
{จิตวิญญาณนิจนิรันดร์ คาร์เมอร์ (ระดับ 35)(บอสทอง)(ชั้นยอด)}
พลังชีวิต : 200000
มานา : 500000
สกิล : [การพุ่งเข้าชนของจิตวิญญาณ] [เสียงกรีดร้องจากนรก] [เปลวเพลิงแห่งเนเธอร์]
หวังหยู่ถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง เมื่อคิดว่าจิตวิญญาณตัวกระจ้อยนั้นเปลี่ยนร่างกลายเป็นบอสระดับทอง นักออกแบบเกมนั้นช่างโหดเหี้ยม และใช้ประโยชน์จากการทำให้ผู้เล่นนั้นเข้าสู่โลกแห่งความสิ้นหวัง
“ฮ่าๆๆ!”คาร์เมอร์หัวเราะออกมา เมื่อร่างกายของเขาสร้างเสร็จแล้ว “ดังนั้นนายก็คือคนที่ต้องการรบกวนการหลับไหลของท่านลอร์ดปีศาจงั้นเหรอ?”
“ผมแค่ต้องการกระดูกนรก คุณสามารถที่จะนอนต่อได้..”หวังหยู่ตอบกลับเจื่อนๆ แล้วเขาก็จ้องไปที่กระดูกนรก
“ฮ่าๆ!”คาร์เมอร์หัวเราะอย่างเย็นชา แล้วเขาก็ยืดมือออกไปซ่อนกระดูกนรกและก็หันกลับไปตะโกนใส่หวังหยู่ “ไอ้มนุษย์ที่โง่เขลา! นายจะต้องจ่ายราคาสำหรับความโลภนี้! [การพุ่งเข้าชนของจิตวิญญาณ]
เปลวเพลิงสองลูกก็ปรากฏขึ้นบนฟากฟ้าที่ว่างเปล่า เหมือนกันกับว่ามันเป็นเปลวเพลิงที่ล่วงหล่นจากฟากฟ้า
หวังหยู่นั้นก็ใช้เจ็ดก้าวดวงดาวอย่างระมัดระวังและหลบหลีกภูติผีก่อนที่จะมาอยู่ด้านหน้าคาร์เมอร์ หวังหยู่ก็ยกพลองยาวของเขาขึ้น..และฟาดเข้าใส่คาร์เมอร์อย่างรุนแรง
“ตุ๊บ..”
-1145
คาร์เมอร์ก็ถอยหลังออกไป รูปร่างของเขานั้นมืดลงเล็กน้อย…
หลังจากนั้นหวังหยู่ก็ตระหนักได้ว่า แม้ว่าคาร์เมอร์นั้นจะใช้ร่างกายจิตวิญญาณ เขาก็ไม่ได้เป็นอมตะกับการโจมตีกายภาพ…
“ไอ้มนุษย์ที่น่ารังเกียจ กล้าที่จะทำร้ายฉันงั้นเหรอ?”คาร์เมอร์คำรามอย่างดังก้อง เสียงของมันแสบสะเทือนไปทั่วพื้นที่ฝังศพ คำว่า ‘น่าหวาดหวั่น’ ปรากฏขึ้นบนหัวของหวังหยู่ และทำให้เขาสูญเสียการควบคุม และวิ่งหนีออกจากคาร์เมอร์….
หวังหยู่ก็วิ่งไปในใจกลางภูติผีสีฟ้าอย่างไม่ได้สมัครใจ และทำให้เขาเกือบเสียชีวิตไป
โชคดีที่สถานะหวาดผวานั้นอยู่เพียงแค่สามวินาที เพียงแค่หวังหยู่กลับมาควบคุมตัวเองได้อีกครั้ง เขาก็รีบหลบ[การพุ่งเข้าชนของจิตวิญญาณ] และกลิ้งไปด้านข้างของแผนที่
มันแปลกมากที่คาร์เมอร์ไม่ได้ไล่ตาม แต่เพียงแค่ลอยอยู่ที่ๆเดิม
“ประหลาด!”หวังหยู่พึมพำกับตัวเอง บอสทุกตัวที่หวังหยู่เคยสู้มานั้นจะไล่ล่าจัดการเขาให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่บอสตัวนี้นั้นลอยอย่างไม่แยแสอะไร เหมือนกับว่ามันไม่สนใจตัวตนของหวังหยู่เลยแม้แต่นิดเดียว เขาไม่สนใจการต่อสู้นี้เลยงั้นเหรอ?
ไม่ว่าคาร์เมอร์จะสนใจการต่อสู้ของพวกเขาหรือไม่ แต่บอสนั้นถือกระดูกนรกไว้แน่น
หวังหยู่ก็กล้าที่จะพุ่งเข้าไปในระยะโจมตีของ [การพุ่งเข้าชนของจิตวิญญาณ] และใช้งาน [ฝ่ามือพลังวอยด์] เพื่อที่จะขโมยกระดูกนรกจากคาร์เมอร์ และมืออีกข้างก็ขว้าง [ระลอกคลื่น] เข้าใส่
-1752
-2450
หวังหยู่ก็วนไปรอบๆ และส่ง [ระลอกคลื่น] ใส่คาร์เมอร์อีกครั้ง
-2241
หลังจากที่ขว้างสกิลทั้งสามสำเร็จ หวังหยู่ก็รีบหยุดและหลบหนีไปที่มุมเดิมอีกครั้งหนึ่ง
“ไอมนุษย์ผู้โง่เขลา!’คาร์เมอร์สาปแช่งเสียงดังก้อง และก็เรียกภูติผีสีฟ้ามาล้อมรอบเขาอีกครั้งหนึ่ง
“นี่มัน…ค่อนข้างน่าหงุดหงิด…”หวังหยู่พึมพำอย่างช่วยไม่ได้ต่อสกิลของคาร์เมอร์
ระยะการโจมตีของหวังหยู่เพียงแค่สามเมตร แต่บอสตัวนี้นั้นมีระยะการโจมตีที่ดีมาก ไม่เพียงแต่เขานั้นมี [การพุ่งเข้าชนของจิตวิญญาณ] ไม่มีสิ้นสุด เขาก็ยังมี [เสียงกรีดร้องจากนรก] เพื่อผลักให้หวังหยู่ได้รับความเสียหายจาก [การพุ่งเข้าชนของจิตวิญญาณ]
ถ้าเขานั้นมีเพียงแค่ [การพุ่งเข้าชนของจิตวิญญาณ] หวังหยู่ก็สามารถที่จะหาทางเข้าไปใกล้ได้ แต่พร้อมกับ [เปลวเพลิงแห่งเนธอร์] ที่ล่วงหล่นจากฟากฟ้า มันก็ไม่มีทางที่จะหลบการโจมตีของคาร์เมอร์ได้เลย!
แม้ว่าคาร์เมอร์จะยั่วยุเขาอย่างหยิ่งยโส มันก็ยังคงลอยอยู่ที่เดิม เหมือนกับว่าไม่มีเจตนาที่จะโจมตีหวังหยู่
หวังหยู่มองไปที่เวลาของเควส มันเหลือเพียงแค่ยี่สิบห้านาที ระบบนั้นขโมยเวลาไปจากเขางั้นเหรอ???
แม้ว่ามันจะเป็นแบบนั้น หวังหยู่ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย บอสตัวนี้ต้านทานการโจมตีกายภาพอย่างมากและพลังโจมตีทางเวทย์ของหวังหยู่ก็น้อย เมื่อเวลากำลังหมดลงไป หวังหยู่ก็สามารถทำได้เพียงอดทนถึงความตายที่จะเข้ามาหาอย่างเดียวงั้นเหรอ?
เพียงแค่หวังหยู่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น คาร์เมอร์ก็ร่าย [การพุ่งเข้าชนของจิตวิญญาณ] ขึ้นมาในตำแหน่งของหวังหยู่อย่างฉับพลัน และพวกมันก็พุ่งเข้าใส่เขา
“มีบางสิ่งไม่ถูกต้อง!”หวังหยู่หลบการลอบโจมตีของคาร์เมอร์อย่างฉิวเฉียด และสังเกตรอบข้างอย่างระมัดระวังว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
หลังจากที่ได้เห็นสกิลมาสักพักหนึ่ง หวังหยู่ก็เข้าใจระยะสกิล [การพุ่งเข้าชนของจิตวิญญาณ] ของคาร์เมอร์อย่างคร่าวๆ แม้ว่าคาร์เมอร์นั้นจะพยายามที่จะโจมตี เขาก็ไม่สามารถที่จะโจมตีหวังหยู่ได้เลย เนื่องจากความเร็วเคลื่อนที่อันเชื่องช้าของเขา
“ฮ่าๆๆ! นายช้าเหมือนกับเต่าเลย!”หวังหยู่เยาะเย้ยแล้วเขาก้หยิบเอากล่องเล็กๆออกมาจากช่องเก็บของ
{บ่วงกับดักลึกลับ : ศัตรูจะถูกกักขังไม่ให้ขยับเป็นเวลาสี่สิบห้าวินาที และไม่สามารถที่จะใช้สกิลต่อได้อีกสามนาที}
นี่เป็นบางสิ่งที่หวังหยู่ได้มาในเมืองวายุ แต่เขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องใช้มันจนกระทั่งตอนนี้
มันไม่ใช่ว่าหวังหยู่ไม่ต้องการที่จะใช้มัน แต่ไอเทมชิ้นนี้จะต้องใช้เวลา 30 วินาทีในการทำให้มันทำงาน มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่บอสจะตกลงไปในกับดักเช่นนี้
ซุสนั่นเป็นตัวตนสุดยอดของเกม 30 วินาทีนั้นมากเพียงพอที่จะฆ่าหวังหยู่ และกับดักเล็กๆนี้ก็ไร้ประโยชน์เมื่อเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งอันสมบูรณ์ของเขา
แต่มันไม่ใช่ในกรณีของคาร์เมอร์ มันไม่มีการโจมตีกายภาพและมันก็มีความเร็วการเคลื่อนที่ที่ช้ามาก เมื่อมันติดกับดัก มันก็เหมือนกับเป็ดที่ไม่สามารถบินได้!
หวังหยู่ก็เอาบ่วงกับดักลึกลับออกมา และเขาก็เดินเข้าไปในระยะการโจมตีของ [การพุ่งเข้าชนของจิตวิญญาณ] ในขณะที่กลิ้งผ่านระลอกการโจมตีจากคาร์เมอร์ หวังหยู่ก็วางบ่วงกับดักลึกลับอย่างระมัดระวังบนเส้นทางที่เขาคาดว่าคาร์เมอร์จะเดินทางผ่าน
บอสโหมดอิสระนั้นชาญฉลาดอย่างมาก ถ้าหวังหยู่วางมันอย่างเปิดเผยแล้ว มันไม่มีทางที่คาร์เมอร์จะติดกับดัก ในตอนนี้เขาก็ไม่มีความมั่นใจเลยที่เขาสามารถทำให้คาร์เมอร์ติดอยู่ในกับดักได้ เขาสามารถที่จะเสี่ยงดวงได้โดยใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ...
หลังจากวางกับดัก หวังหยู่ก็กลิ้งออกไป และยั่วยุให้คาร์เมอร์มายังที่ที่เขาเคยอยู่
30
29
...
3
2
1
“เคร๊ง!”
เสียงดังก็ดังออกมา และแสงทั้งหกเส้นก็ลอยออกมา และทำให้คาร์เมอร์ติดกับดักอยู่ด้านในนั้น..
{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้ใช้งาน บ่วงกับดักอันลึกลับ}
หลังจากนั้น ภูติสีฟ้าจาก [การพุ่งเข้าชนของจิตวิญญาณ] ก็ไม่ล่วงหล่นลง แม้ว่า [เปลวเพลิงแห่งเนเธอร์] ที่ล้อมรอบคาร์เมอร์ก็หายไป เหลือเพียงแค่คาร์เมอร์ไว้
“ฉันมีเวลาแค่สามนาที!”หวังหยู่ตะโกน แล้วเขาก็พุ่งเข้าใส่และส่ง [ระลอกคลื่น] เข้าหาคาร์เมอร์
แม้ว่าอาชีพผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้นั้นจะมีการโจมตีกายภาพและเวทย์มนต์ หวังหยู่ก็เป็นคนเดียวที่เน้นพลังโจมตีกายภาพ ด้วยเหตุนี้นี่เอง เขาจึงมีสกิลเพียงแค่สามสกิลที่ทำความเสียหายทางเวทย์
คาร์เมอร์นั้นมีการต้านทานที่สูงต่อการโจมตีกายภาพ…
ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ทั้งสามสกิลนี้นั้นมีคูลดาวน์ หวังหยู่สามารถที่จะลดพลังชีวิตของคาร์เมอร์ได้เพียงครึ่งเดียว ในเวลาสามนาที…
เมื่อสามนาทีผ่านไป ผลกระทบจากบ่วงกับดักอันลึกลับก็หายไป คาร์เมอร์ก็ได้รับอิสระ หลังจากที่โดนทำร้ายอย่างดุร้ายจากหวังหยู่ คาร์เมอร์ก็ตัดสินใจที่จะหลบหนีไปยังอีกทิศหนึ่ง
“เหี้..! หน้าด้านขนาดนี้ได้ยังไงกัน!”หวังหยู่ตะโกนอย่างโกรธเคือง แล้วเขาก็ไล่ตามคาร์เมอร์
แม้ว่าคาร์เมอร์นั้นจะมีความเร็วเคลื่อนที่อันน่าสลด หวังหยู่ก็ไม่สามารถที่จะไล่ตามเขาได้ทัน หลังจากที่ล้อมรอบเขาไปสองรอบ หวังหยู่ก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถที่จะตามคาร์เมอร์ได้ทัน
มันมีเวลาเพียงแค่สิบกว่านาทีก่อนที่เควสจะล้มเหลว…เขาจะล้มเหลวจริงๆงั้นเหรอ?
“เหี้..เอ้ย! ฉันจะยอมเสี่ยงละกัน!’
หวังหยู่กัดฟันและพุ่งเข้าใส่คาร์เมอร์อีกครั้ง มันก็รีบโบกมือ เมื่อมันเห็นหวังหยู่พุ่งเข้าใส่มัน และร่าย [การพุ่งเข้าชนของจิตวิญญาณ] อีกครั้งหนึ่ง…
หวังหยู่ก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าคาร์เมอร์ แล้วเขาก็ยืนอยู่อย่างสมดุลด้านบนของพลองยาว
คาร์เมอร์ก็กรีดร้องและใช้ [เสียงกรีดร้องจากนรก]
คำว่า ‘น่าหวาดหวั่น’ ปรากฏขึ้นบนหัวของหวังหยู่อีกครั้งหนึ่ง
หลังจากคำว่า ‘น่าหวาดหวั่น’ ปรากฏขึ้น หวังหยู่ก็สูญเสียการควบคุมร่างกายของเขา และล่วงหล่นจากพลองยาวของเขา
หวังหยู่ก็ตกลงไปในการระยะการโจมตีของ [เปลวเพลิงแห่งเนเธอร์]…