บทที่ 140 จดหมายเชิญฉบับหนึ่ง (อ่านฟรี)
โหวห่ายเทาตกลง ส่วนหลี่ซื่อโหยวค่อนข้างลังเล เพราะพวกเขาต้องรับผิดชอบในด้านการผลิต เมื่อใดก็ตามที่ผลิตภัณฑ์นี้ขายไม่ออกโรงงานของพวกเขาต้องขาดทุน แม้ว่าเฝิงหยู่ลงทุนเองก็จะสูญเสียเงิน แต่เขาไม่สามารถห้ามเฝิงหยู่ผู้ร่ำรวยมั่งคั่งได้หรอก เพราะแค่เครื่องพ่นไอน้ำทำกำไรให้เฝิงหยู่มหาศาลสักแค่ไหน?
ความลังเลของหลี่ซื่อโหยวทำให้เฝิงหยู่มีความสุข แต่เขาต้องแสดงท่าทางว่าตัวเองได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ: "ผู้จัดการหลี่ครับ ผมรู้ว่าคุณกังวลเกี่ยวกับอะไร เอาอย่างนี้ละกันครับ ทางผมจะออกเงินในการปรับอุปกรณ์การผลิตของคุณ และข้อตกลงนี้เป็นข้อตกลง OEM** เมื่อผลิตได้หนึ่งเครื่องจะจ่ายให้โรงงานของคุณ30หยวน เช่นนี้จะได้เป็นการรับประกันว่าพวกคุณจะมีผลตอบแทนแน่ๆ. "
เฝิวหยู่กล่าวเช่นนี้ทำให้หลี่ซื่อโหยวสับสนยิ่งกว่าเดิม ทุกครั้งที่เฝิงหยู่ให้โรงงานของพวกเขาผลิตสินค้าแบบOME ในท้ายที่สุดเฝิงหยู่จะสามารถทำเงินได้มากมาย แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเขาสามารถมองเห็นประโยชน์ บางทีก็เป็นสินค้าต้นทุนมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงนัก บางทีก็ขายสู่ท้องตลาดจนเต็ม แต่ดูดูแล้วพัดลมไร้ใบพัดไม่น่าจะขายดี?
เฉกเช่นตู้เย็นยี่ห้อไท่หัว ไม่กี่วันที่ผ่านมาพึ่งจะขายสต็อกสุดท้ายจนหมดไม่ใช่เหรอ? แต่เขาไม่ทราบว่าเฝิงหยู่ได้กำไรงาจากตู้เย็น เขาคิดเพียงแค่ว่าเฝิงหยู่ต้องเคยล้มเหลวมาบ้าง เขาจึงเลือกรับเหมาผลิตดีกว่าเพื่อรับประกันว่าจะได้เงินมาบ้างก็ยังดี
หลี่ซื่อโหยวเลือกที่จะรับเหมาOEM เฝิงหยู่หันหน้าไปยิ้มเริงร่ากับหลี่ห่ายเทา: "ผู้จัดการโหว พัดลมไร้ใบพัดนี่มีความเสี่ยงตลาดเป็นอย่างมาก ผมเป็นนักลงทุน อาจจะไม่สามารถถอนทุนคืนจากการลงทุน ในเมื่อผู้จัดการหลี่เลือก OEM จึงได้ค่ารับเหมาแน่ๆ ฉะนั้นความเสี่ยงจึงตกมาอยู่กับผมอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นโรงงานปิงเฟยคงไม่สามารถเพลิดเพลินกับอัตราส่วนโบนัส แต่จะขอเปลี่ยนเป็นโบนัสคงที่ นั่นคือทุกครั้งที่ขายพัดลมไร้ใบพัดผมจ่ายเงินให้โรงงานปิงเฟยของคุณสิบหยวน การวิจัยและการผลิตนี้ผมจะเป็นผู้ลงทุนเอง ส่วนผลสัมฤทธิ์ และการจดทะเบียนสิทธิบัตรยังคงเป็นของผม ข้อตกลงนี้ผู้จัดการโหวตกลงไหมครับ? "
(อัตราส่วนโบนัส ขายมากได้ส่วนแบ่งมาก ขายน้อยได้ส่วนแบ่งน้อย / โบนัสคงที่ ส่วนแบ่งคงที่ ไม่ว่าจะขายได้เท่าไหร่ ก็จะได้ส่วนแบ่งตามที่ระบุในสัญญา)
ในใจของเฝิงหยู่กำลังร่ำร้อง รีบตอบตกลงสิ ตอบตกลงเร็วๆ
ยุคหลังจากนี้ ราคาขายในตลาดของพัดลมไร้ใบพัดยี่ห้อเฟิงหยู่นี้อยู่ที่ 500 เหรียญสหรัฐ แต่ต้นทุนการผลิตแค่ 20 เหรียญสหรัฐ คิดดูสิว่าได้กำไรเท่าไหร่?
แม้ว่าหลังจากที่มีการประกาศราคาต้นทุนแล้ว ราคาขายจะลดลงจาก500 เหรียญสหรัฐเหลือ100 เหรียญสหรัฐ จนสุดท้ายก็ลดลงเหลือประมาณ 30 เหรียญสหรัฐ แต่ก่อนหน้าได้กวาดกำไรหลายล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากนั้นสินค้าจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด บริษัทผู้ผลิตได้ผลกำไรหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ
การวิจัยและการทดสอบจริงของอีกฝ่ายต้องจ่ายเงินสักเท่าใดเชียว? คงไม่กี่ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นเพียงการทดสอบมุมเอียงและมุมเกลียวของพัดลม
เฝิงหยู่ไม่รู้ว่ามุมเกลียวเป็นจำนวนเท่าไหร่ แต่มุมเอียงของหัวพัดลมเขาจดจำได้ชัดเจนว่าเท่ากับ16องศา ในชีวิตครั้งก่อนตอนไปนั่งดื่มกับเพื่อเขาเคยพนันกับเพื่อนครั้งหนึ่ง ซึ่งมันเขียนไว้ชัดเจนในเว็บป๋ายตู้
(Baidu คล้ายๆกับกูเกิ้ล+พันทิป)
โรงงานปิงเฟยมีเทคโนโลยีที่จำเป็นทั้งสอง แต่ขนาดค่อนข้างใหญ่ ต้องทำให้มีขนาดเล็กลง พลังงานต้องลดลงตามลําดับ เป็นแค่พัดลมเครื่องหนึ่งไม่ได้ใช้สำหรับเครื่องยนต์ ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทางทหารจึงไม่จำเป็นต้องแข็งแรงขนาดนั้น
พอได้ฟังคำพูดของเฝิงหยู่ โหวห่ายเทาก็พูดว่า: "ผู้จัดการเฝิง พูดอย่างนี้ได้ยังไง? ครั้งก่อนเราก็ร่วมมือกันดีไม่ใช่เหรอ เธอก็น่าจะเห็นความสามารถในการวิจัยของโรงงานเรา ครั้งก่อนสร้างผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็ว ทำไมครั้งนี้ถึงเปลี่ยนเป็นโบนัสคงที่ละ?"
เฝิงหยู่จึงพูดขัดขึ้นมา "ผมจะมอบหมายโรงงานปิงเฟยทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนี้ ผมขอซื้อขาด ผมจะจ่ายให้ 1 ล้านหยวน พอไหมครับ? ถ้าไม่เพียงพอผมจะเพิ่มเป็น2 ล้าน หรือคุณลองบอกจำนวนที่ต้องการมา คุณไม่ต้องการที่จะเสี่ยง แต่ยังต้องการจะแบ่งกำไร เป็นไปได้เหรอครับ? แม้ว่าโรงงานของคุณจะมีเทคโนโลยี แต่อย่าลืมว่าเมืองปิงของเรามีโรงงานใหญ่และมีมหาวิทยาลัยอีกสองแห่งที่มีเทคโนโลยีเหล่านี้ด้วยเช่นกัน! "
ความร่วมมือครั้งแรกเป็นประโยชน์ร่วมกัน ถ้าสองโรงงานใหญ่ยินดีที่จะให้ความร่วมมือเข่นนี้ไปตลอด เฝิงหยู่ก็จะไม่ปฏิเสธ แต่พวกเขาไม่มองการณ์ไกล ต้องการเพียงผลประโยชน์ไปฟรีๆ เฝิงหยู่จะยอมได้อย่างไร?
"ราคาต่อหนึ่งเครื่องไม่ควรได้แค่สิบหยวน โรงงานเครื่องยนต์ยังได้ตั้ง30หยวน!"
"หรือพวกคุณลงทุนเครื่องจักรการผลิตและพนักงานมาผลิต ผมจึงจะให้คุณ30หยวนเหมือนๆกัน " ไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้นแต่อยากได้เงินไปเปล่าๆ แล้วยังบ่นว่าน้อย? ถ้ายังพูดไม่เข้าหูเดี่ยวจะไม่ได้อะไรเลย
ถ้าเฝิงหยู่ไม่หวังอยากได้เทคโนโลยีรถยนต์ของโรงงานปิงเฟย เฝิงหยู่คงยุติความร่วมมือกับโรงงานปิงเฟยไปแล้ว
ตอนนี้หลี่ซื่อโหยวพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจว่า: "ผู้จัดการโหว สิบหยวนไม่ถือว่าน้อยนะ คนงานของเราทำงานเหนื่อยจะเป็นจะตายยังได้แค่30หยวน ทั้งยังต้องจัดการสายการผลิต การขัดสีเครื่องจักร นี่ยังไม่รวมค่าจ้างคนงานเลยนะ."
"15หยวนละกัน เรารับประกันว่าครั้งนี้เสร็จสิ้นการวิจัยจนเป็นผลิตภัณฑ์ให้เร็วกว่าครั้งก่อน 15หยวนไม่ถือเยอะเกินไปหรอกนะ เธอขาย 10,000 เครื่อง เราจะได้แค่150,000หยวน ทั้งที่โรงงานของเราต้องใช้วิศวกรผู้เชี่ยวชาญหลายคนมาทำงานนี้ ซึ่งอาจจะส่งผลร้ายแรงต่อคำสั่งของเครื่องมือทางทหาร พวกเราต้องทุ่มทุนไม่น้อยเหมือนกัน"
เฝิงหยู่เหลือบมองโหวห่ายเทาอย่างดูแคลน วิศวกรผู้เชี่ยวชาญ? ทำราวกับว่าการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของพวกนายฉันยังไม่ได้ให้เงินสักแดงเดียว! รายงานก่อนหน้านี้คิดว่าฉันยังไม่ได้ดูหรือ ค่าจ้างของวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากโรงงานของคุณได้ถึงหกเท่า! เงินที่เกินมาหายไปไหนผมไม่เคยถามสักคำไม่ใช่เหรอ
“15หยวน? 12หยวนละกันครับ โรงงานพลาสติกมีต้นทุนสูงมาก คุณคิดว่าพัดลมที่ผมต้องการสร้างได้ง่ายขนาดนั่นเหรอครับ? รู้ไหมครับว่าต้นทุนของผมตั้งเท่าไร? ในอนาคตกำไรไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ หรือถ้าเกิดล้มเหลว ผมจะขาดทุนสักเท่าไหร่?”
สุดท้ายก็ตกลงกันที่13หยวน เฝ้งหยู่ในหัวใจเปี่ยมความสุข แม้ว่าหลังจากที่วิจัยและพัฒนาพัดลมไร้ใบพัดได้แล้ว แต่ยอดขายในประเทศไม่ค่อยดีนัก แต่ในยุโรปและอเมริกามีตลาดแน่นอน ยุโรปและอเมริกามีประชากรประมาณร้อยล้าน ตามการคาดคะเนน่าจะขายได้ประมาณ 1 ล้านเครื่อง การคำนวณราคาขาย 100 เหรียญสหรัฐต่อเครื่อง ก็คิดเป็นกำไรครึ่งหนึ่ง เท่ากับ50ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เฝิงหยู่คำนวณจากราคาที่ต่ำที่สุด ยังไม่ได้คำนวณยอดขายในประเทศ การวิจัยผลิตภัณฑ์มีแผนเบื้องต้นที่เฝิงหยู่ได้ให้ข้อมูลไว้ ภายในหนึ่งปีน่าจะประสบความสำเร็จ? ส่วนเรื่องการลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนา เฝิงหยู่คิดว่า 12 ล้านหยวนอาจจะเพียงพอแล้ว คงไม่เกิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
ด้วยเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรอย่างน้อยๆ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ นี่ควรค่าแก่การลงทุนไม่ใช่เหรอ?
นอกจากนี้หลักการของพัดลมไร้ใบพัดนี้ในอนาคตยังสามารถพัฒนาเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทั่วประเทศ เช่น เครื่องเป่ามือให้แห้ง! กำไรนี้อย่างน้อยๆก็เกินกว่าหนึ่งร้อยล้านเหรียญสหรัฐ!
หลังจากโรงงานเครื่องยนต์และโรงงานปิงเฟยลงลายเซ็นในสัญญาเสร็จสมบูรณ์ เฝิงหยู่ก็จ่าย500,000หยวนให้โรงงานปิงเฟยเป็นค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา และสัญญากับโหวห่ายเทาเป็นการส่วนตัวว่าหากสามารถดำเนินการเสร็จสิ้นปีนี้ เขาจะจ่ายโบนัสให้อีกไม่ต่ำกว่า 200,000 หยวน!
เมื่อการเจรจาเสร็จสิ้นเฝิงหยู่ก็กลับไปใช้ชีวิตที่โรงเรียน การสอบปลายภาคใกล้เข้ามาแล้ว เขาไม่อยากถูกที่บ้านลงโทษเพราะปัญหาเรื่องคะแนนสอบหรอกนะ
แต่ในเวลานี้ เมืองปิงได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง เป็นจดหมายเชิญจากสหภาพโซเวียต ผู้ส่งมาคือ "มหาวิทยาลัย Lomonosov (มหาวิทยาลัยมอสโคว์ในปัจจุบัน)ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกในมอสโคว์ เป็นถึงมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอันดับที่สิบของโลก หากต้องการการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ ควรส่งไปที่มหาวิทยาลัยสิ อย่างเช่น มหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมแห่งเมืองปิง, หรือมหาลัยด้านวิศวกรรมที่มีชื่อเสียงในเมืองจีน ทำไมต้องส่งจดหมายเชิญมายังโรงเรียนมัธยมเมืองปิงด้วย?
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย :
ผู้ผลิตอุปกรณ์ตามแบบฐาน (OEM) มีอยู่สองประเภทด้วยกันคือ:
รับจ้างผลิตตามแบบฐาน หมายถึง การที่บริษัทโออีเอ็มถูกว่าจ้างจากเจ้าของแบบฐาน(ผู้ถือสิทธิบัตรในแบบฐาน)หรือเจ้าของแบรนด์(ผู้ถือลิขสิทธิในแบรนด์) ให้ผลิตสินค้าตามแบบหรือความต้องการของผู้ว่าจ้าง สินค้าจะถูกวางจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้าตามที่ผู้ว่าจ้างกำหนด
ผลิตจำหน่ายเองตามแบบฐาน หมายถึง เมื่อบริษัทโออีเอ็มได้แบบฐานมาอยู่ในมือ หรือทำการศึกษาสินค้านั้นๆจนเข้าใจถึงแบบฐาน ก็อาจทำการผลิตสินค้านั้นออกวางจำหน่ายเอง
..........................................