ตอนที่ 118 ภูเขาและแม่น้ำ (FREE)
ถึงแม้คำพูดนี้จะดูไร้สาระ แต่เมื่อคิดอย่างถี่ก้วนจะพบว่ามันเป็นคำพูดที่ชาญฉลาดมาก
ตัวอย่างเช่นเมื่อคนเราเต็มไปด้วยความสุข ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้า? ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
ความโศกเศร้า ความกลัวสูญเสีย กลัวไม่ได้รับความรัก...
เพื่อไม่ให้ต้องโศกเศร้าสูญเสียมากกว่าเดิมจึงต้องปกป้อง...
ความต้องการปกป้องนั้นเกิดจากความรัก ทั้งครอบครัวและสหาย มันเป็นการเสียสละด้วยความน่าชื่นชม! แต่ถ้าใครต้องการจะปกป้องตัวเองละก็ มันจะดูน่าอายหรือไม่? ภายใต้สถานการณ์ที่สัมผัสได้ถึงความตาย...
ด้วยสัญชาตญานของมนุษย์....
ทุกคนต้องดิ้นรนทุกวิถีทาง
...
เหยียน ซิว ไม่ได้พูดต่อไป เพราะ ฟาง เจิ้งจือ ทำให้เขาตกใจมากเกินไปแล้วในวันนี้ แม้แต่ความตกใจที่เคยเกิดขึ้นมาในชีวิตของเขาทั้งหมด ยังเทียบกับตอนนี้ไม่ได้แม้แต่น้อย
"ฆ่า!" เหยียน ซิว โบกพัดอีกครั้ง เทียบกับครั้งก่อนๆ ครั้งนี้เขาโบกติดต่อกัน 2 ครั้ง
คลื่นพลังเพลิงรูปจันทร์เสี้ยว 2 อันพุ่งไปทาง ฟาง เจิ้งจือ ราวกับรูปไม้กางเขน
"ฆ่า!" ฟาง เจิ้งจือ ก็เคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน ดาบหยกขาวฟันไปทาง เหยียน ซิว 2 ครั้ง
ทันใดนั้นคลื่นพลังสีขาวรูปจันทร์เสี้ยวคล้ายกับของ เหยียน ซิว ก็พุ่งออกไปปะทะกับคลื่นพลังของ เหยียน ซิว
"ตูม!"
เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง
ครั้งนี้ เหยียน ซิว ไม่ได้ถามอะไรอีกต่อไป เขาได้ตัดสินใจจะเปลี่ยนวิชาที่ใช้ต่อไป อย่างไรก็ตามไม่ว่า เหยียน ซิว จะเปลี่ยนวิชากี่ครั้ง เขาจะหยุดสักพักหนึ่งเพื่ออธิบายดวงดาวเต๋าที่ใช้สร้างวิชานั้นขึ้นมา
ในทางกลับกัน ฟาง เจิ้งจือ เต็มไปด้วยความยินดีที่จะขโมยและลอกเลียนวิชาของ เหยียน ซิว เช่นเดียวกัน ไม่ว่าเหยียน ซิว จะใช้วิธีไหนออกมา เขาก็จะหาวิธีเดียวกันหรือใกล้เคียงเพื่อป้องกันการโจมตีของ เหยียน ซิว
ยิ่ง ฟาง เจิ้งจือ เรียนรู้เท่าไหร่ การต่อสู้ของทั้งคู่ก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่มีการหยุดพักอีกต่อไปแล้ว
ต่อจากนี้ไปเป็นการต่อสู้เพื่อโจมตีอีกฝ่ายเท่านั้น!
ก่อนหน้านี้มันไม่เหมือนการต่อสู้แม้แต่น้อย ที่จริงแล้ว มันเหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนวิชากันมากกว่า
ผู้เข้าสอบรอบๆต่างนึ่งอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าการขโมยลอกเลียนแบบวิชา จะเกิดขึ้นอย่างเปิดเผยขนาดนี้?
ฮัน ฉางเฟิง นั่งพิงเก้าอี้ มุมปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ หรืออาจจะเรียกว่ายิ้มเจื่อนๆมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ยิ่งเวลาผ่านไปความตกใจยิ่งฝังรากลึกลงไปในจิตใจของเขา
"สัตว์ปประหลาด สัตว์ประหลาดชัดๆ!"
บนลานประลอง เหยียน ซิว และ ฟาง เจิ้งจือ กำลังใช้เงาสายลมอยู่เหมือนกัน พวกเขาต่างวิ่งพล่านไปทั่วลานประลองที่บางครั้งบนท้องฟ้าก็ปรากฎดวงอาทิตย์สีแดงขนาดใหญ่ขึ้นมา บางทีก็กลายเป็นฝน และบางครั้งก็กลายเป็นแท่งน้ำแข็งอันแหลมคมนับไม่ถ้วนที่ตกลงมาจากฟ้า
มันเป็นการต่อสู้ที่งดงามและดูสูงส่ง
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้เป็นกังวลอะไร เพราะเขาเชื่อในสิ่งหนึ่งเป็นอย่างมาก
การต่อสู้นั้นใครที่เหนื่อยก่อน คนนั้นจะเป็นผู้แพ้!
ในมิติพิเศษของ ฟาง เจิ้งจือ หมอกที่เป็นเหมือนแหล่งพลังนั้นมีอย่างแน่นหนา ไม่มีทางใช้หมดในเวลาสั้นๆแน่นอน การต่อสู้ในตอนนี้อาศัยเพียงการเลียนแบบเท่านั้น จึงไม่ได้กินพลังงานเขาเท่าไหร่
ถึงมันจะดูไร้ยางอาย แต่มันถือเป็นกลยุทธ์ที่โด่งดังมากในโลกที่เขาจากมา
ฟาง เจิ้งจือ ต่อสู้ด้วยความสุข และดูเหมือนว่ายิ่งสู้เขาก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ทันใดนั้น เหยียน ซิว ได้หยุดลง
กลยุทธ์ที่ ฟาง เจิ้งจือ ใช้คือ จะใช้วิชาออกมาเมื่ออีกฝั่งหนึ่งใช้ ถ้าศัตรูไม่ได้โจมตี เขาก็ไม่รู้ว่าจะใช้วิชาอะไรออกไปเช่นกัน
ดังนั้น ฟาง เจิ้งจือ จึงหยุดเช่นกัน
"ข้.." เหยียน ซิว ขยับปาก และพูดออกมาคำหนึ่งด้วยความลังเล
"ถ้าเจ้ายอมรับความพ่ายแพ้ ข้าก็ไม่ว่าอะไร" ฟาง เจิ้งจือ สามารถสัมผัสได้ว่า เหยียน ซิว เองก็เริ่มเหนื่อยเล็กน้อยเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงเดาประโยคที่ เหยียน ซิว จะพูดออกมา
"ข้าไม่สามารถเอาชนะเจ้าด้วยความยุติธรรมได้!" เหยียน ซิว มองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ที่ยืนงงอยู่ เขานึกว่าจะเดาความคิดของ เหยียน ซิว ถูกแล้วเสียอีก
ตอนนี้พวกเขาอยู่บนลานประลองถือเป็นศัตรูกัน
"หมายความว่าเจ้ายังมีวิชาโกงๆอยู่อีกงั้นหรือ?" ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มจางๆ
"พัดของข้า พัดภูเขาและแม่น้ำ สวรรค์และโลก มันควรจะใช้เพื่อจัดการศัตรู ไม่ใช่สหาย!" เหยียน ซิว กำพัดในมือแน่นขึ้น
"บนลานประลอง...พวกเราคือศัตรู!" ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ เหยียน ซิว
"แต่พัดนี้ดึงพลังมาจากภายนอกและมันไม่ใช่ของข้า" เหยียน ซิว พูดออกมาด้วยความลังเล
"พูดถึงดึงพลังมาจากภายนอก ข้าก็ยืมพลังมาจากเจ้าเช่นเดียวกัน"
"เพราะว่าที่นี่คือลานประลอง ถ้าไม่ใช่ในนี้ ข้าเชื่อว่าเจ้าก็มีวิธีต่อสู้เป็นของเจ้าเองและคงไม่จำเป็นที่จะต้องยืมพลังในการจัดการข้า"
"เจ้าพูดเองนี่ว่าที่นี่คือสนามประลอง ใส่มาให้เต็มที่เลย!" ฟาง เจิ้งจือ แค่รู้สึกว่าการประลองต่อให้เป็นเพื่อนก็ควรใช้พลังทั้งหมดที่ตัวเองมี เขาไม่คิดจะให้ เหยียน ซิว ยั้งมือให้
เพราะถ้าเป็นสหายกันย่อมเข้าใจอยู่แล้ว
เหยียน ซิว ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ อย่างเงียบๆ ท่าทีของเขาดูแปลกๆเล็กน้อยก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มจางๆปรากฎขึ้นมา
เหยียน ซิว ที่ไม่เคยยิ้มออกมาก่อนสักครั้ง ยิ้มออกมาอย่างจริงใจ เขารู้สึกผ่อนคลายไม่มีความตึงเครียดแม้แต่น้อย
จากนั้น เหยียน ซิว ค่อยๆยกพัดขึ้นมาช้าๆ
"พัดชิ้นนี้เป็นหนึ่งในสมบัติทั้ง 5 ของตระกูล เหยียน ความลับอันยิ่งใหญ่ที่สุดคือภาพวาดที่อยู่ด้านหน้าของพัด! ภาพนี้ถูกวาดโดยบรรพบุรุษของตระกูลเหยียน"
"นานมาแล้ว บรรพบุรุษของข้าได้ตกหลุมรักกับหญิงนางหนึ่ง"
"นางมาจากตระกูลที่โดดเด่น นางมีความเชี่ยวชาญด้านดนตรี หมากรุก ภาพวาด นางเป็นหญิงสาวที่มีพรสวรรค์เป็นอย่างมาก ในขณะที่บรรพบุรุษของเขาเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น"
"เพื่อที่จะไล่ตามหญิงนางนั้น บรรพบุรุษของข้าได้ร่ำเรียนอย่างหนักเพื่อที่จะแต่งบทกวีอันงดงามให้แก่นาง"
"นางเห็นถึงความจริงใจของบรรพบุรุษข้า แต่ตอนนั้นโลกกำลังอยู่ในความวุ่นวาย พวกเขายอมทำเพื่อประเทศชาติ!"
"บรรพบุรุษของข้าจึงตัดสินใจเข้ากองทัพ จากนายทหารต่ำต้อย ผ่านสมรภูมเปื้อนเลือดนับครั้งไม่ถ้วน จนในที่สุดชื่อเสียงของเขาก็ไม่มีใครมองข้ามอีก และชวยองค์จักรพรรดิในอดีตก่อตั้งอาณาจักรเซี่ยอันยิ่งใหญ่ขึ้นมา!"
"สุดท้ายบรรพบุรุษของข้าได้ตามหาหญิงนางนั้นอีกครั้ง แต่นางกลับตายจากไปเพราะโรคภัยเสียแล้ว นางรอเขาไม่หนีไปไหนยืนอยู่ริมหน้าต่างเสมอมา แต่สุดท้ายนางก็ทิ้งไว้เพียงพัดสีขาวและคำพูด 1 ข้อความ"
"ผมสีดำพลันเปลี่ยนเป็นขาวซีด ข้าจะรออย่างเงียบๆด้วยหัวใจของข้าให้ท่านมาเติมแต่งมันอีกครั้ง!"
"บรรพบุรุษของข้าเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ค่อยๆหยิบพู่กันขึ้นมาและค่อยๆวาดรูปภูเขาและแม่น้ำลงไป!"
เมื่อ เหยียน ซิว พูดถึงตรงนี้ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า รอยยิ้มของเขาพลันเป็นเป็นความเศ้ราหมองราวกับเขาเป็นบรรพบุรุษคนนั้นเอง
ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างได้ยินคำพูดของ เหยียน ซิว และตอบรับความโศกเศร้าของเขา
ทันใดนั้นบรรยากาศแห่งความโศกเศร้าถูกปล่อยออกมาจากพัด มันค่อยๆกระจายไปทั่วมิติพิเศษที่ใช้ในการทดสอบ
เหล่าคนอื่นๆที่นั่งอยู่ต่างได้รับผลกระทบของบรรยากาศ ร่างกายของพวกเขาทีละคน ทีละคน ค่อยๆสั่นสะท้าน ราวกับพวกเขากำลังร้องไห้
"ข้ารู้สึกแปลกๆ..."
"ข้าเช่นกัน!"
"ช่างแข็งแกร่งอะไรขนาดนี้! มันเป็นจิตวิญญานของพัด ภูเขาและแม่น้ำ สวรรค์ละพื้นโลก สมบัติของตระกูลเหยียน!" ฮัน ฉางเฟิง และผู้คุมสอบคนอื่นๆต่างสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ทรงพลัง พวกเขาต่างลุกขึ้นในทันที
ทุกคนต่างจ้องมองไปที่พัดในมือของ เหยียน ซิว
ฟาง เจิ้งจือ เองก็เช่นกัน!
เพจหลัก : Double gate TH