Chapter 151: เมืองแห่งความมืด
Chapter 151: เมืองแห่งความมืด
ในช่วงเวลาไม่กี่วินาที ผู้เล่นคนอื่นก็มาถึงด้านหน้านิกายซวนเฉิน…
รัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นก็รีบให้ผีตั้งแถว เมื่อเขาเยาะเย้ยฝูงชน “คุณสุภาพบุรุษ คุณกำลังพยายามที่จะทำอะไรอยู่? ถนนนั้นถูกปิดกั้นไว้แล้ว!”
“นิกายซวนเฉิน?”ฝูงชนจ้องพวกเขาอย่างมึนงงอย่างไม่เชื่อ
แม้ว่าผู้เล่นพวกนี้จะจดจำไร้ความกลัวและคนที่เหลือไม่ได้ พวกเขาก็รู้ว่าใครคือหมิงตู่ ตั้งแต่ที่คนมาใหม่นั้นสวมตราเดียวกันกับเขา มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่พวกเขานั้นจะมาจากกิลด์เดียวกัน
ยังไงซะ ข่าวลือและเรื่องราวที่พวกเขาได้อ่านเกี่ยวกับเรื่องราวอันน่ามหัศจรรย์ที่นิกายซวนเฉินทำมา สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ได้เจอพวกเขาเป็นตัวเป็นตน แต่ใครจะไปคิดว่านิกายซวนเฉินอันเป็นตำนานเช่นนั้นจะเป็นแหล่งรวมตัวของพวกอันธพาล…
“พวกนายควรที่จะจำฉันได้! ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งในโลกอันไร้ที่เปรียบ! หมาแบบพวกนายไม่ควรปิดกั้นเส้นทางของพวกเรา!”วีรบุรุษแห่งสรวงสวรรค์พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
บางทีปัญหานี้จะทำงานได้กับผู้เล่นคนอื่น แต่มันไม่มีประสิทธิภาพอะไรกับนิกายซวนเฉิน พวกเขานั้นไม่ได้เห็นพวกเขาในสายตาเลยด้วยซ้ำ!
หลังจากที่เล่นกับหวังหยู่มาเป็นเวลานาน พวกเขาก็ไม่ได้พิจารณาคนอื่นว่าเป็น ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ อีกเลย…
“โลกอันไร้ที่เปรียบคือเหี้..ไรวะ?”
“ใครจะไปรู้จักกัน ฉันไม่เคยได้ยินชื่อพวกเขามาก่อนเลย...เพียงแค่ชื่อมันก็เหมือนกับซ่องแล้ว!”นิกายซวนเฉินเยาะเย้ยเสียงดัง ไม่ไว้หน้าวีรบุรุษแห่งสรวงสวรรค์แม้แต่นิดเดียว
“ไอ้สารเลวหน้าด้าน! หลบไป! มิฉะนั้น อย่าโทษพวกเราที่จะใช้กำลัง…”วีรบุรุษแห่งสรวงสวรรค์ขู่คำรามอย่างโกรธเคือง หลังจากที่ได้ยินการล้อเลียนของนิกายซวนเฉิน เขาก็ไม่สามารถระงับความกราดเกรี้ยวของเขาไว้ได้
“ปัง!”
ก่อนที่เขาจะพูดเสร็จ ขุนนางครอทก็ใช้งาน [พุ่งเข้าชน] และกระแทกเขาอย่างรุนแรงและผลักเขากระเด็นออกไป ในขณะที่ความทระนงตัวทำให้เขาสะดุดล้มลงไปบนพื้น
โบซอนและดาบน้ำแข็งก็รีบร่วมมือกัน ในเวลาไม่กี่วินาที วีรบุรุษแห่งสรวงสวรรค์ก็ถูกเปลี่ยนกลายเป็นแสงสีขาวไป..
“…”
ฝูงชนพูดไม่ออก...พวกนี้คือผู้เชี่ยวชาญจากนิกายซวนเฉินจริงๆงั้นเหรอ? กลุ่มที่อยู่ด้านหน้าพวกเขาก็ไม่ได้แตกต่างออกไปจากกลุ่มสารเลว
“เหี้...อะไรวะ!”ผู้เล่นบางคนที่อยู่ที่นี่นั้นเป็นเพื่อนกับวีรบุรุษแห่
งสรวงสวรรค์ พวกเขาจะใจเย็นลงได้ยังไง หลังจากที่พวกเขาเห็นเพื่อนถูกฆ่า? ผู้เล่นพวกนี้นั้นก็พุ่งเข้าใส่เพื่อที่จะล้างแค้นให้กับเขา แต่พวกเขานั้นก็ติดอยู่ใน [บิดเบือน] และหลังจากนั้นก็โดนเผาไหม้ด้วยเสาเพลิง
ผู้เล่นคนอื่นนั้นเพ่งไปที่ฉากนั้นและไม่กล้าที่จะขยับแม้แต่นิ้วเดียว....สกิลควบคุมสถานะผิดปกติ เวทย์หมู่...ถ้าพวกเขาต้องการที่จะใช้กำลังผ่านนิกายซวนเฉินไป มันก็จะต้องจ่ายด้วยราคาที่แพงอย่างแน่นอน
ไร้ความกลัวก้าวออกมาข้างหน้า และพูดเหมือนกับว่าเขารู้ว่าผู้เล่นพวกนี้คิดอะไรอยู่ “ทำไมนายไม่คิดให้มันดีๆหน่อยละ? แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้มีผู้เล่นจำนวนมากอยู่กับพวกเรา มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเราที่จะฆ่าผู้เล่นนับหลายสิบคนแบบพวกนาย ตั้งแต่ที่มันไม่ได้มีข้อขัดแย็งระหว่างพวกเรา ทำไมพวกนายไม่หลบหนีไปซะละ? สุดท้ายแล้ว คุณสุภาพบุรุษทั้งหลายก็ทำเควสเสร็จแล้ว มันจะมีประโยชน์อะไรที่จะทิ้งชีวิตไปแบบนั้นกัน? บางทีการตายเพียงหนึ่งครั้งสำหรับพวกนายนั้นไม่ได้มากอะไร แต่นายคิดเหรอว่าพวกนายจะสามารถเผชิญหน้ากับความกราดเกรี้ยวของกระทิงเหล็กที่นายไปยั่วยุพวกเขาหน่ะ?”
มันไม่สงสัยเลยว่าทำไมไร้ความกลัวนั้นเป็นเจ้ากลยุทธ์ของนิกายซวนเฉิน เขาจัดการไล่ฝูงชนออกไปในเวลาไม่กี่วินาที
การโดนไล่ล่าโดยกระทิงเหล็กนั้น.....เป็นบางสิ่งที่ไม่มีใครต้องการ..
ตัวตนแบบเขาที่สามารถจัดการบอสได้ด้วยตัวเอง แม้ว่าผู้เล่นที่อยู่ในตอนนี้สามารถที่จะพิจารณาว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงในแต่ละเมืองของพวกเขา ก็ไม่มีใครที่กล้าที่จะพูดว่าพวกเขาสามารถที่จะจัดการหวังหยู่ได้ในการต่อสู้...เพียงแค่ความคิดที่หวังหยู่ล่าพวกเขาลงมันก็ทำให้พวกเขาเสียวสันหลังวาป
“เอ่อ ถ้างั้นเอางี้เป็นไง....พวกเราจะไม่ไล่ตามปัญหานี้อีกแล้ว! พวกเราจะไปทำเควสของพวกเราให้เสร็จ!”ผู้เล่นประกาศก่อนที่จะล่าถอย..
เมื่อเห็นใครบางคนที่ยอมแพ้ก่อน ผู้เล่นมากขึ้นเรื่อยๆก็จากไป แม้กระทั่งผู้เล่นที่หัวร้อนและดื้อรั้นก็หลบหนีไป ภายใต้การจ้องมองของนิกายซวนเฉินอีกด้วย
แม้กระทั่งหน้ากากแห่งการปกปิดมันก็ไม่สามารถที่จะหลอกผู้เล่นคนอื่นได้ มันสามารถที่จะใช้หลอกได้เพียงแค่ NPC….หวังหยู่ก็รีบหลบหนีการไล่ล่าของอัศวินและหลบหนีออกไปอย่างปลอดภัย
“กระทิงเหล็ก ปลอดภัยหรือยัง?”สมาชิกของนิกายซวนเฉินถามอย่างกังวล หลังจากที่ฝูงชนกระจายตัวออกไป
“ใช่! ผมอยู่บนเรือเหาะแล้วในตอนนี้ พวกนายไม่ควรที่จะกลับไปยังเมืองอันโดดเดี่ยว ที่นั่นมีผู้เล่นจำนวนมากกำลังมองหาพวกนายอยู่”หวังหยู่ตอบกลับ
“มองหาพวกเรางั้นเหรอ? นายมั่นใจนะว่าพวกเขาไม่ได้มองหาลุงกระทิงอยู่หน่ะ?”ความทระนงถาม
“พวกเรานั้นยั่วยุผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดใน {REBIRTH} เพียงแค่หนึ่งการโจมตี! แน่นอนว่าพวกเขานั้นกำลังมองหาพวกเราอยู่!”
“โอ้ ไม่นะ ฉันกลัวแล้ว! กระทิงเหล็กนายจะต้องจ่ายค่าสินไหมให้กับพวกเรา!”หมิงตู่เพิ่มเติมเข้าไป
“ถูกแล้ว! คนละร้อยเหรียญทองนี่โอเคไหม?”ดาบน้ำแข็หงัวเราะ
“ชิ เด็กน้อยที่ไม่รู้ว่าโลกมันทำงานยังไง! 100เหรียญทองต่อคนนั้นมันน้อยไป! 1000เหรียญทองสิถึงจะถูก!”รัศมีฤดูใบไม้ผลิโต้กลับ
“…”
แน่นอน ผู้เล่นจากนิกายซวนเฉินนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในการหลบหนีผู้ที่ไล่ตาม พวกเขานั้นก็มุ่งหน้าไปยังเมืองแห่งบาปทันทีหลังจากออกจากค่าย
จุดมุ่งหมายของหวังหยู่นั้นก็คือเควสของเขา เมืองฮาเดส...
เมืองฮาเดส หนึ่งในเมืองที่อยู่ภายใต้ฝ่ายมืด
ตามตำนานของ {REBIRTH} ฝ่ายมืดนั้นอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ขาดแคลนทัพรยากรในนรก แต่เพราะว่าการจะได้รับทรัพยากรมากขึ้นนั้น ห้องบูชาของความมืดก็นำพากองทัพบุกโลกมนุษย์ และโจมตีมนุษยชาติ มันคือจุดเริ่มต้นของ ‘การกลืนกินแห่งความมืด’
ห้องบูชาแห่งความมืดนั้นถูกนำโดยผู้เฒ่าทั้งเจ็ด ใครก็ตามที่อยู่ภายใต้การล้างบาปของท่าลอร์ดปีศาจ ภายใต้คำสั่งของผู้เฒ่าทั้งเจ็ดนั้นกองกำลังทางมือนั้นก็ควบคุมแผ่นดินไปกว่า 90% แล้ว
แต่ปีศาจและการทำให้สังคมนั้นเน่าเปื่อยนั้นเป็นทั่วนิจนิรันดร์ หลังจากวีรบุรุษหายตัวไปและเกิดการคอรัปชันในโบสถ์แห่งแสง มนุษย์ชาตินั้นก็ถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย...
เมืองฮาเดสนั้นเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฝ่ายมืด และมันก็ยังเป็นสถานที่พักผ่อนของผู้เฒ่าทั้งเจ็ดของห้องบูชาแห่งความมืด
ก่อนที่จะถึงระดับ 25 ผู้เล่นสามารถที่จะเดินทางท่องเที่ยวไปทั้งสองฝ่ายได้อย่างอิสระ แต่เมื่อพวกเขาถึงระดับ 25 ผู้เล่นจะต้องเลือกฝ่ายว่าจะพวกเขาต้องการที่จะเป็นพันธมิตรกับฝ่ายไหน ถ้าผู้เล่นจากฝ่ายแสงพยายามที่จะเข้าไปในเมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองของฝ่ายมืด พวกเขาก็จะถูกไล่ล่าและถูกสังหาร ไม่เพียงแต่ที่พวกเขาจะไม่สูญเสียอะไรจากการสังหารผู้เล่นฝ่ายแสง พวกเขายังได้แต้มคุณธรรมอีกด้วย…
พูดถึงเรื่องแต้มคุณธรรมแล้ว ในตอนนี้หวังหยู่ก็มีแต้มคุณธรรมฝ่ายมืดอยู่ 100แต้ม…