บทที่ 150 ผู้หญิงในโรงหนัง
บทที่ 150 ผู้หญิงในโรงหนัง
แปล Tarhai
กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/1743836472377756/
ลงตอนที่ 1-200 ราคา 200 ลงทุกวัน วันละ 6-7 ตอน
ติดต่อที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100002039138559
อ่านบนเว็บ
https://amnovel.com/cat.php?id=58
https://www.thai-novel.com/?page_id=220202&preview=true
"พวกเราจะทำยังไงดี ? โทรเรียกตำรวจเถอะ"
รูหยันพยายามดึงโทรศัพท์ออกมาและโทรหาตำรวจด้วยความกังวล เมื่อเธอเห็นนักเลงผมเหลืองชักมีดทหารของเขาออกมา
เธอเริ่มเสียใจที่ขอให้ฉิงเฟิงออกมาดูหนังในตอนนี้ เธอจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับฉิงเฟิง
"ไม่ต้องเรียกตำรวจหรอก แค่ตบพังค์ขี้ก้างคนหนึ่ง ง่ายเหมือนปอกกล้วย" ฉิงเฟิงจับมือรูหยันและส่งสัญญาณบอกเธอ
นักเลงคนนี้ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อเขาเลย เขาสามารถเตะตูดมันกระเด็นได้โดยการขยับขาไปเตะทีเดียว
"ไอ้เปี้ยก แกบอกว่าฉันกระจอกเหมือนปอกกล้วย แกต้องการจะตาย?" นักเลงผมเหลืองใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวหลังจากที่เขาได้ยินที่ฉิงเฟิงพูด
จากนั้นนักเลงผมเหลืองก็คว้ามีดของเขาไปพุ่งที่ฉิงเฟิงด้วยเสียงคำราม
มีดที่น่ากลัวนี้อาจเป็นอันตรายถ้ามันสร้างบาดแผลให้ฉิงเฟิง
ปัง !
ฉิงเฟิงเหยียดขาขวาออกไปอย่างรวดเร็วอย่างกับสายฟ้าและเตะเข้าที่ท้องของนักเลงผมเหลือง เขากระเด็นออกไปไกลหลายเมตรและล้มลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง
แค่ก แค่ก
นักเลงผมเหลืองพ่นเลือดออกมาจากปากและหมดสติไป
"ว้าว!" รูหยันประทับใจฉิงเฟิงและมองเขาอย่างประหลาดใจ
ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ! คนที่อยู่รอบ ๆ ตกใจและมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยปากของพวกเขาที่อ้ากว้าง
บอกตามตรงว่า นักเลงผมเหลืองคนนี้เป็นอันธพาลที่รู้จักกันดีในท้องถนนและเป็นที่รู้จักของทุกคนที่แวะเวียนเข้ามาในโรงหนังแห่งนี้
เขาสู้กับคนมาเป็นจำนวนมากและไม่มีใครสู้เขาได้เลย แต่ตอนนี้เขาถูกเตะโดยฉิงเฟิงและแม้กระทั่งสลบไป ทุกคนสบายใจเพราะในที่สุดเขาก็ได้รับการลงโทษที่เขาสมควรได้รับ
"หนังเริ่มแล้ว นั่งลงดูกัน" ฉิงเฟิงจับมือรูหยันและพาเธอไปนั่งที่ที่นั่ง
มือเล็กๆของรูหยันนุ่มนวลมากและมันรู้สึกสบายที่ได้จับจริงๆ ฉิงเฟิงได้รับผลกระทบอย่างมากจากเรื่องนี้
วันนี้รูหยันดูแปลกๆเล็กน้อย ตั้งแต่ที่เจอกันเธอดีกับฉิงเฟิงมากและปล่อยให้เขาจับมือเธอด้วย
หนังเรื่องนี้ชื่อ "Zombie From the Mountain (ซอมบี้จากภูเขา)" มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนหลายคนอัญเชิญวิญญาณออกมาในขณะที่พวกเขาตั้งแคมป์กันข้างนอกและถูกหลอกหลอนในป่า
ผู้ชายมักชอบดูหนังสยองขวัญเพราะมันดูน่าตื่นเต้น แต่ในทางกลับกันสาวๆมักจะไม่ชอบหนังประเภทนี้เพราะกลัว
อ๊า ......
รูหยันกรีดร้องเมื่อเธอเห็นผีบนจอ หน้าของเธอซีดและเธออิงแขนของฉิงเฟิง
"ฉันกลัวจัง" รูหยันกล่าว แต่ตาเธอก็ยังคงมองบนจอ
ผู้หญิงก็เป็นผู้หญิงวันยังค่ำ พวกเธอจะไม่หยุดดูหนังสยองขวัญแม้ว่าพวกเธอจะรู้ว่ามันน่ากลัว
"ไม่ต้องกลัวฉันอยู่ตรงนี้" ฉิงเฟิงยิ้มขณะที่โอบรูหยันไว้ในอ้อมแขน
เขาชอบดูหนัง โดยเฉพาะหนังสยองขวัญ เนื่องจากผู้หญิงมักจะซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขาตามสัญชาตญาณ เวลาพวกเธอกลัว
กลิ่นหอมมากๆและก็นุ่มมาก!
ฉิงเฟิงกำลังเพลิดเพลินกับการสูดกลิ่นหอมจากรูหยันและโอบเอวน้อยๆของเธอไว้
เรือนร่างของเธออ่อนนุ่มราวกับว่าเธอทำมาจากน้ำ ซึ่งให้ความรู้สึกที่ดีมากเวลาสัมผัส
วันนี้รูหยันดูแปลกๆไปมาก เพราะแม้เธอจะรู้ว่าฉิงเฟิงกำลังฉวยโอกาสจากเธอ แต่เธอก็ปล่อยให้เขาทำตามต้องการและไม่โกรธอะไรเลยสักนิด
ฉิงเฟิงจึงพอใจและเริ่มได้ใจหลังจากที่เห็นรูหยันไม่ขัดขืน เขาขยับมือลงจากหลังเลื่อนลงไปที่สะโพกของเธอ
รูหยันมีก้นที่เนียนนุ่มและราบเรียบซึ่งฉิงเฟิงชอบสัมผัสมันมาก
ฉิงเฟิงยังคงเคลื่อนไหวมือของเขาไปตามเรือนร่างของรูหยัน รูหยันก็ดูเหมือนจะมีปฏิกิริยาเช่นกัน เธอเปิดริมฝีปากเล็กน้อยและหอบหายใจอย่างหนักขณะที่เหงื่อออกบนใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของเธอ
พวกเขาทั้งสองกำลังหวานชื่นกันในโรงหนังขณะที่ทุกคนจดจ่ออยู่กับการดูหนังบนจอและไม่ได้รู้ถึงสิ่งที่พวกเขากำลังทำกันอยู่ในขณะนี้
"ไอ้นรก, แกกล้าที่จะอัดฉัน คุณตายแน่ๆ" นักเลงผมเหลืองก็ตื่นขึ้นและมองไปที่ฉิงเฟิงเมื่อเขาเห็นว่าฉิงเฟิงกำลังฉวยโอกาสกับรูหยันอยู่
เขารู้ว่าไม่สามารถสู้ฉิงเฟิงได้ จึงตัดสินใจที่จะไปบอกบอสของเขาให้มาจัดการ
ถ้าผู้ชายคนหนึ่งเข้าโรงหนังกับผู้หญิงของเขา พวกเขามักจะทำเรื่องฉวยโอกาสมากกว่าการดูหนัง
นี่คือสิ่งที่ฉิงเฟิงและรูหยันกำลังทำอยู่จริงๆ มีแม้กระทั่งบางคู่ที่เปิดกว้างมากกว่าพวกเขาและไปมีเซ็กส์กันตามมุม
สังคมปัจจุบันเปิดกว้างเกินไป โรงหนังกลายเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับคู่รัก
สองชั่วโมงต่อมา
หลังจากหนังเรื่องนี้จบ ฉิงเฟิงก็ได้ฉวยโอกาสจากรูหยันอย่างเต็มที่ เขาได้สัมผัสทุกที่บนเรือนร่างของเธอ
ฉันเป็นสุภาพบุรุษนะ ไม่ได้มีใครบังคับให้คุณเข้ามาซุกในอ้อมแขนของฉันนี่นา ฉิงเฟิงหาข้ออ้างให้ตัวเอง
หือ ?
หนังจบแล้ว ?
รูหยันยังอยากดูมากกว่านี้ แต่เนื่องจากหลายๆคนเริ่มออก เธอก็เตรียมจะเดินออกด้วย
เธอรู้ดีว่าฉิงเฟิงทำอะไรกับเธอบ้างแม้ว่าเธอจะไม่อยากยอมรับมัน เพราะผู้หญิงมักจะขี้อายกับเรื่องแบบนี้ แต่เธอก็ปล่อยให้ฉิงเฟิงฉวยโอกาสจากเธอในแบบฉบับของเธอเอง
* โครกคราก
เสียงท้องร้องของรูหยัน เธอสัมผัสท้องขณะที่กำลังขมวดคิ้ว
"ฉันหิวมากไปหาอะไรกินกันเถอะ" รูหยันกล่าวเบาๆ กับฉิงเฟิงขณะที่จับแขนของเขา
"ได้เลย" ฉิงเฟิงก็รู้สึกหิวอยู่บ้าง พวกเขาทั้งคู่เดินไปที่ร้านอาหารด้านข้าง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาถูกคนกลุ่มหนึ่งขวางทางไว้ขณะที่พวกเขาเพิ่งจะเดินออกมา
หัวหน้ากลุ่มเป็นผู้ชายที่ร่างกายใหญ่โต คนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาก็คือนักเลงผมเหลืองที่ถูกฉิงเฟิงเตะจบสลบไปในโรงหนัง นอกจากพวกเขาแล้ว ก็มีอีก 10 คนที่ยืนอยู่ข้างหลังหัวหน้ากลุ่ม
"พี่เฉียง เขานี่แหละที่เป็นคนอัดฉัน พี่ต้องแก้แค้นให้ฉันนะ !" นักเลงผมเหลืองคนนั้นร่ำร้องและเต็มไปด้วยน้ำตาขณะที่ชี้ไปที่ฉิงเฟิง
พี่เฉียงขมวดคิ้วของเขาและจ้องมองไปหลังจากที่ได้ยินนักเลงผมเหลืองพูด
แต่ในขณะที่พี่เฉียงกำลังจะเดินหน้าต่อไป เขาก็แข็งค้างในทันทีและเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อเขาเห็นฉิงเฟิง
ปะ ปีศาจ !
ปีศาจคนนี้อีกแล้ว !
พี่เฉียงเริ่มตัวสั่นเพราะเขาไม่มีวันลืมว่าลูกพี่ฮูเปียวของเขาโดนชายตรงหน้าคนนี้อัดจนเละเป็นโจ๊กขนาดไหน
ฮูเปียวเป็นเจ้าของบาร์ Zero-Degree และพี่เฉียงคนนี้เป็นลูกน้องของเขา พวกเขาเคยสู้กับฉิงเฟิงมาก่อน แต่พวกเขาก็ถูกฉิงเฟิงอัดจนเละด้วยตัวคนเดียว
"ละ ... ลูกพี่ใหญ่ ผมไม่ทราบว่าเป็นคุณอยู่ที่นี่ ผมต้องขอโทษด้วย!"
พี่เฉียงเดินไปหาฉิงเฟิงและเริ่มพูดตะกุกตะกักขณะที่โค้งตัวคำนับ
เขาพูดด้วยความสุภาพมากๆ ซึ่งฟังแล้วดูเหมือนจะเลียแข้งเลียขา เพราะเขาไม่ต้องการทำให้ฉิงเฟิงโกรธ
"หึ ลูกน้องของนายบอกว่า เขาจะหาคนมาอัดฉันใช่ไหม ?
ฉิงเฟิงยิ้มอย่างแดกดันขณะที่มองไปที่พี่เฉียง
"ลูกพี่ใหญ่ มันเป็นความผิดของผมเองที่ผมไม่ได้สอนเขาให้ดี"
พี่เฉียงรู้สึกกลัวมาก ใบหน้าของเขาซีดเผือดและเขาก็ยังคงขอโทษฉิงเฟิง เมื่อได้ยินว่าเขาพูดอะไร
เขารู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของฉิงเฟิงดี ไม่ต้องพูดถึงตัวเขาเอง ต่อให้คนของเขาทั้งหมดรวมกันก็ทำอะไรฉิงเฟิงไม่ได้