ตอนที่แล้วบทที่ 148 นวดให้ภรรยา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 150 ผู้หญิงในโรงหนัง

บทที่ 149 เดทดูหนังกับรูหยัน


บทที่ 149 เดทดูหนังกับรูหยัน

แปล Tarhai

กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/1743836472377756/

ลงตอนที่ 1-200 ราคา 200 ลงทุกวัน วันละ 6-7 ตอน

ติดต่อที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100002039138559

อ่านบนเว็บ

https://amnovel.com/cat.php?id=58

https://www.thai-novel.com/?page_id=220202&preview=true

 

"แล้ว  คุณจะลงโทษฉันยังไง ?" ฉิงเฟิงรู้สึกกลัวเล็กน้อย

แต่เขาแกล้งทำเป็นว่ากลัว เขาไม่ได้กลัวอะไรรูหยันเลยสักนิด เพียงแค่รำคาญเล่ห์เหลี่ยมของเธอเล็กน้อย

เขาถูกหลินซู่เข้าใจผิดครั้งใหญ่ตั้งแต่ตอนที่เขาถูกจับได้ว่าไปซื้อผ้าอนามัยและเอาไปให้ผู้หญิงถึงห้องน้ำหญิง

ดังนั้น ฉิงเฟิงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเมื่อได้ยินว่ารูหยันกำลังจะลงโทษเขา

ฉิงเฟิงจึงตัดสินใจที่จะคนเริ่มก่อนและหาทางพลิกกระดานซะเอง

"พี่สาว ถ้าคุณโกรธจริงๆคุณตีก้นฉันได้เลยเพื่อระบายความขุ่นเคืองของคุณ แต่คุณต้องอ่อนโยนจริงๆนะ..." ฉิงเฟิงกล่าวอย่างหดหู่

เขาตัดสินใจที่จะมอบครั้งแรกให้กับเธอเพื่อทำให้ความโกรธของเธอดลง

"หึ ! ไอ้บ้า !” รูหยันหน้าแดง

เธอต้องการที่จะลงโทษเขา แต่ตอนนี้เธอกลับกลายเป็นคนที่ถูกล้อเลียน ไม่ต้องพูดถึงแพลนก่อนหน้า แต่เธออยากจะทุบตีเขาซะตอนนี้เลย

"ฉันจะหยิกความบ้าออกจากตัวคุณ !" เพื่อปล่อยความโกรธของเธอ รูหยันเอื้อมมือไปที่ไหล่ของฉิงเฟิงและหยิกเขา

"ช่วยด้วย ! ฆาตกร!" ฉิงเฟิงวิ่งหนีไปข้างหน้าในขณะที่ร้องตะโกน

"ตูดหมึก ! หยุดตรงนี้ ฉันจะฆ่าคุณ !" รูหยันวิ่งไล่เขามาจากข้างหลังด้วยเรือนร่างที่งดงามของเธอ

พวกเขาล้อเล่นกันและวิ่งไล่จับกันที่หน้าโรงหนังยังกับคู่รักหวานแหววซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้อื่นโดยรอบ

ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด สาวสวยและหนุ่มหล่อก็มักจะดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี

ฉิงเฟิงซื้อตั๋วหนังสองใบในราคาหนึ่งร้อยหยวน ที่นั่งหมายเลข 8 และ 9 ในแถวแรก

ที่นั่งแถวแรกที่ดีที่สุดเนื่องจากอยู่ใกล้กับหน้าจอมากที่สุด นอกจากนี้ที่นั่ง 8 และ 9 ยังอยู่ตรงกลางจอซึ่งเป็นที่นั่งที่ดีที่สุดในโรง

หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยผู้คนในขณะนี้  ซึ่งก็หมายความว่าหนังกำลังจะเริ่ม

"อืมม มีคนนั่งอยู่ที่นั่งของเรา?"

ฉิงเฟิงและรูหยันพบว่าที่นั่งของพวกเขาถูกจับจองโดยนักเลงผมสีเหลือง เมื่อพวกเขามาถึง

นักเลงคนนี้ได้ย้อมผมสีเหลือง เจาะหูและมีรอยสักบนไหล่ของเขา

"ขอโทษนะพวก นี่เป็นที่นั่งของฉัน" ฉิงเฟิงพูดกับนักเลงผมเหลืองที่นั่งอยู่ทางซ้ายของเขา

"ไอ้น้อง นายไม่รู้หรือว่าฉันเป็นบอสใหญ่ในโรงหนังออสการ์นี่ ? ฉันแสดงความเคารพต่อนายโดยการนั่งที่นั่งของนายไง" นักเลงผมเหลืองจ้องไปที่ฉิงเฟิงด้วยความรังเกียจและไม่สนใจเขา

ชายผมเหลืองคนนี้เป็นอันธพาลในโรงหนังแห่งนี้ หลายๆคนถูกเขารังแกและพยายามที่จะหลีกเลี่ยงเขาเพราะเขาเป็นนักเลง

เยสเข้ ! โคตรงาม !

ขณะที่เขายกศีรษะขึ้น นักเลงผมเหลืองก็น้ำลายไหลตั้งแต่ที่เขาเห็นหลิวรูหยัน

"นี่เป็นที่นั่งของเรา โปรดลุกไปหนังกำลังจะเริ่มแล้ว"

รูหยันจ้องมองที่นักเลงผมเหลืองด้วยความโกรธ

เธอโกรธและรำคาญนักเลงผมสีเหลืองคนนี้มากๆ

คนสวย ฉันมีที่นั่งให้คุณ มานี่มานี่"

นักเลงผมเหลืองยิ้มให้รูหยันและชี้ไปที่ที่นั่งข้างๆเขาขณะมองจ้องเธอ

ยัยแม่ไก่คนนี้เด็ดชิบ สวยชิบหาย ! ฉันโชคดีแล้ววันนี้! นักเลงผมเหลืองคิดในใจของเขา การหยอกล้อสาวงามและการกลั่นแกล้งแมงดาเป็นสิ่งที่เขาโปรดปรานที่สุด เขาเป็นคนงี่เง่า

"ไอ้หัวเหลือง ฉันจะพูดอีกครั้งเดียว นี่คือที่นั่งของฉันออกไปเดี๋ยวนี้" ฉิงเฟิงพูดอย่างเย็นชากับนักเลงขณะที่ขมวดคิ้วของเขา

ฉิงเฟิงโกรธมากเพราะนักเลงผมเหลืองคนนี้ไม่เพียงแต่แย่งที่นั่งของเขาแต่เขายังหยอกล้อหลิวรูหยันอีก

ฉิงเฟิงมีกฎของเขา เขาไม่เคยรังแกคนที่อ่อนแอกว่า

ตราบเท่าที่คนๆนั้นไม่มาลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของเขา เขาก็จะไม่สนใจเท่าไร นี่คือหลักการของเขา เขาตัดสินใจที่จะให้โอกาสนักเลงผมเหลืองคนนี้ก่อนที่จะซัดเขา

"ไอ้น้อง ฉันนั่งที่ของนายก็ถือเป็นเกียรติแล้ว ทิ้งผู้หญิงไว้ที่นี่แล้วไสหัวไป"

นักเลงผมเหลืองลุกขึ้นยืนจากที่นั่งและเดินไปหาฉิงเฟิงขณะที่แสยะยิ้ม

ผู้คนเริ่มก้าวถอยหลังเมื่อพวกเขาตระหนักได้ว่ากำลังจะมีการต่อสู้เริ่มขึ้น นักเลงผมเหลืองคนนี้มีชื่อเสียงในโรงหนังแห่งนี้และทุกคนต่างก็หวาดกลัวเขา

"วันนี้ไม่ต้องดูแล้ว เราออกไปกันเถอะ"

รูหยันเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจและพูดกับฉิงเฟิง เพราะเธอกังวลว่าเขาจะถูกทำร้าย

(คือ...ที่ผ่านๆมาเจ๊ไม่ได้รู้เลยใช่มั้ยว่าผัวเจ๊เก่งแค่ไหน ชวนหนีตลอด)

"ไม่ต้องห่วงหรอก ก็แค่เด็กพังค์ขี้ก้างคนเดียว ฉันจัดการกับมันได้" ฉิงเฟิงกล่าวอย่างช้าๆโดยแทบไม่สนใจนักเลงผมเหลืองคนนี้เลย

F*ck ! แกกล้าดียังไงมาหักหน้าฉัน ! นักเลงผมเหลืองโกรธมากที่ถูกฉิงเฟิงทำให้อับอายขายหน้า

ฮึ่ม !

นักเลงหัวเหลืองเหวี่ยงหมัดออกไปและพยายามจะชกฉิงเฟิงขณะที่ร้องคำราม

"ระวัง !" รูหยันร้องตะโกนบอกฉิงเฟิงขณะที่ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปเมื่อเธอเห็นชายผมเหลืองกำลังจะชกเขา

แม้ว่าเธอจะเห็นฉิงเฟิงต่อสู้มาแล้วหลายครั้ง แต่เธอก็ยังห่วงใยเขาอยู่ดีและไม่ต้องการให้เขาได้รับบาดเจ็บ

ขณะที่ฉิงเฟิงกำลังเผชิญหน้ากับหมัดที่กำลังพุ่งเข้ามา เขาก็ยิ้มให้กับรูหยันและจับข้อมือของนักเลงผมเหลือง

"ไอ้เวร ปล่อยมือฉัน !" นักเลงผมเหลืองพูดอย่างคุกคามหลังจากข้อมือของเขาถูกฉิงเฟิงยึดไว้

"นายจะชกฉันเหรอ ?" ฉิงเฟิงยิ้มขณะที่บิดข้อมือของนักเลงผมเหลืองเล็กน้อย  ทำให้เขาเจ็บจนร้องแทบคลั่ง

"ไอ้เวร ปล่อยมือฉันแล้วอยู่เฉยๆให้ฉันชกซะดีๆ ไม่งั้นแกตายแน่" นักเลงผมหลืองเริ่มข่มขู่ฉิงเฟิงอย่างโกรธเกรี้ยว

ยังกล้าพูดหมาๆกับฉัน !

ยังพยายามพูดขู่ฉัน !

ฉิงเฟิงเริ่มหัวเราะเยาะนักเลงผมเหลืองเนื่องจากเขาไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่

ปัง!

ฉิงเฟิงตบหน้านักเลงผมเหลืองอย่างแรงจนแม้แต่ฟันบางส่วนยังหลุดออกมา

"F*ck ! แกตบฉัน !?" นักเลงผมเหลืองจ้องมองที่ฉิงเฟิงด้วยความโกรธในขณะที่กุมหน้าบวมๆของเขา

เขาเป็นนักเลงที่รู้จักกันดีในพื้นที่นี้ เขาจะเสียชื่อถ้าเขาไม่ทำอะไรสักอย่างเมื่อเขาถูกคนๆหนึ่งตบหน้าต่อหน้าผู้คนมากมาย

นอกเหนือจากพลังแล้วชื่อเสียงถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการดำรงชีวิตในสังคมนี้

ฟึ่บ!

นักเลงผมเหลืองเอามีดทหารออกมา ใบมีดยาวยี่สิบซม.ก็โผล่ขึ้นออกมาจากการกดด้วยนิ้วอย่างง่ายๆ

ใบมีดแหลมคมที่ส่องประกายภายใต้แสงที่น่าหวาดกลัว

มีดประเภทนี้จะทำให้เจ็บปวดจนแทบตาย เมื่อมันแทงเข้าสู่อวัยวะที่สำคัญของมนุษย์เช่น หัวใจ

"พี่ชาย เห็นแก่ฉันโปรดวางอาวุธลง"

เมื่อยามรักษาความปลอดภัยมาถึง เขาก็เริ่มพูดคุยกับนักเลงผมเหลืองเป็นอย่างดี

ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้จะสูงประมาณ 5 ฟุต 11 แต่เขาก็ยังพูดคุยกับเหล่านักเลงอย่างสุภาพ

เขาไม่กลัวพวกอันธพาลเลย แต่สิ่งที่เขาหวาดกลัวก็คือพื้นหลังหรือเบื้องหลังของพวกเขา เขาไม่กล้าที่จะหาเรื่องใส่ตัว

"ไสหัวไป !" นักเลงตะโกนใส่ยามรักษาความปลอดภัยในขณะที่จ้องมองเขา

ในฐานะที่เป็นนักเลงในพื้นที่นี้ เขาย่อมไม่สนใจเรื่องที่ยามรักษาความปลอดภัยพูดอยู่แล้ว

"พี่ชาย ถึงคุณจะสามารถเอาชนะเขาได้แต่ฉันก็จะตกงานถ้าคุณฆ่าเขาด้วยมีดนี้ ขอร้องละจบๆกันไปเถอะ ถือว่าฉันขอ!"

ยามรักษาความปลอดภัยเริ่มโน้มน้าวนักเลงเพราะเขารู้ว่า เขาไม่สามารถปล่อยให้มีใครตายในโรงหนังได้

"ถ้าแกกล้าที่จะหยุดฉัน ฉันจะแทงแกก่อน จะลองไหม ห๊า ?" นักเลงยกมีดของเขาไปที่ยามรักษาความปลอดภัยในขณะที่พูดอย่างเย็นชา

ยามรักษาความปลอดภัยก็ตกใจและก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวหลังจากได้ยินที่นักเลงพูด เขาหยุดที่จะสนใจเรื่องของคนอื่นแล้ว ยังไงชีวิตของเขาก็สำคัญกว่า

"ไอ้เปื๊อก , แกกล้าตบฉัน วันนี้ฉันจะฆ่าแก !" นักเลงเริ่มเดินเข้าใกล้ฉิงเฟิงด้วยมีดทหารในมือของเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด