ตอนที่ 254 สืบทอด
หลังจากที่ฆ่านักบุญทั้งสองไป หลิน ฮวงก็กลับมาในเมืองด้วยอินทรีอเล็กซานเดรี้ยน
เขาไม่ได้จัดการกับศพทั้งสองเพราะเขารู้ว่ามอนสเตอร์ในทะเลทรายจะจัดการแทนเขา แม้ว่าศพของเกา หยางจะอยู่ในพื้นที่ที่พวกเขาได้พ่นยาขับไล่มอนสเตอร์ แต่ยาก็จะมีผลสูงสุดเพียงสามวัน ในทะเลทราย ที่มีลมแรงและทรายพัดแรงอยู่ตลอด ระยะเวลาของยาจะยิ่งสั้นลง
เมื่อมาถึงทางเข้าเมือง หลิน ฮวงก็เรียกอินทรีและเจ้าแดงกลับพร้อมกัน
หากเจ้าแดงไม่กลับเป็นการ์ด มันจะไม่สามารถผ่านทางเข้าเมืองได้
ทันทีที่หลิน ฮวงผ่านการตรวจสอบและเข้าสู่เมืองอุกกาบาต เขาก็อัญเชิญเจ้าแดงอีกครั้งทันที เจ้าแดงพันรอบแขนหลิน ฮวงและซ่อนตัวอยู่ในแขนเสื้อเขา มันถูกเรียกกลับไปไม่ถึง10วินาทีและถูกอัญเชิญอีกครั้งเพราะหลิน ฮวงกลัวว่าการสืบหาร่องรอยของอสูรแสงดาวจะล่าช้า
หลังจากที่เข้ามาในเมือง หลิน ฮวงก็ตรงไปที่สมาคมนักล่าก่อนและถามถึงเหลียง เฉียน
โดยปกติ สมาคมนักล่าจะไม่เปิดเผยข้อมูลนักล่าให้กับนักล่าคนอื่น แต่ทว่า หลังจากที่เหลียง เฉียนได้กลับมา เธอก็กล่าวถึงเย่ ซิวในรายงานก่อนหน้า นอกจากนี้ หลิน ฮวงยังรู้ชื่อและเบอร์ติดต่อของหัวหน้ากลุ่มเหลียง เฉียนอีกด้วย พวกเขาจะไม่มีทางเพิ่มเบอร์ติดต่อใครมั่วซั่วผ่านแหวนหัวใจจักรพรรดิ ดังนั้น สมาคมนักล่าแผนกทะเลทรายอุกกาบาตจึงให้ข้อมูลโรงแรมที่เหลียง เฉียนพักและเบอร์ห้องพักแก่หลิน ฮวง
“083021....”หลังจากนั้นสักพัก หลิน ฮวงก็พบโรงแรมที่เหลียง เฉียนกำลังพักอยู่ เมื่อขึ้นบันไดลอยไป หลิน ฮวงก็มาถึงชั้น83และในไม่ช้า เขาก็พบห้อฃ21
เขายืนอยู่ด้านหน้าประตูและกดกริ่ง
เมื่อเสียงกริ่งดัง เหลียง เฉียนก็รู้สึกแปลกเพราะเธอไม่มีเพื่อนในทะเลทรายอุกกาบาตและเธอยังไม่ได้เรียกการบริการอะไรทั้งนั้น
“มีข่าวมาจากสมาคมนักล่า?ทำไมพวกเขาจึงไม่ติดต่อฉันผ่านแหวนหัวใจจักรพรรดิ?”เหลียง เฉียนกังวล จากนั้นเธอก็เปิดใช้งานแหวนระดับทองที่เธอสวมและดาบยาวก็ปรากฏในมือเธอ เธอมองผ่านรูเพื่อดูว่าใครอยู่ที่หน้าประตู
เหลียง เฉียนตกใจเมื่อเธอเห็นว่าหลิน ฮวงกำลังยืนอยู่ที่ประตู เธอจึงเปิดประตูทันที
“คุณยังไม่ตาย?!”เธอคิดว่าหลิน ฮวงจะถูกฆ่าโดยเหล่านักบุญเพราะเขาช่วยเธอให้หนีมา
“แน่นอน ผมมีวิธีหลบหนีจากพวกเขา นอกจากนี้ หน่วยสนับสนุนของสมาคมนักล่ายังมาถึงทันเวลาและเราก็ฆ่าทั้งคู่ไปแล้ว”หลิน ฮวงโกหก
“เป็นความจริง?!”เหลียง เฉียนไม่เชื่อ
“แน่นอน ผมได้เก็บศพของดู่ เฟิงและเพื่อนคุณมาด้วย”หลิน ฮวงพยักหน้าและถาม“ผมขอเข้าไปได้ไหม?”
“อ๊ะ ฉันขอโทษ...”จากนั้นเหลียง เฉียนก็ตระหนักว่าเธอกำลังขวางไม่ให้หลิน ฮวงเข้าห้อง เธอจึงรีบเปิดประตูกว้างทันที
หลังจากที่เข้ามา เขาก็เหลือบมองพื้นห้องนั่งเล่นและถาม“ผมขอวางศพบนพื้นได้ไหม?แต่พวกเขาก็เริ่มมีกลิ่นแล้ว...”
เหลียง เฉียนตกใจอยู่สักพักและกล่าว“โปรอรอสักครู่”
จากนั้นเธอก็กวาดทุกสิ่งออกจากห้องนั่งเล่นโดยการนำเก้าอี้และโต๊ะไปไว้ข้างๆและเก็บพรม
และหลิน ฮวงก็นำศพทั้ง5ออกมา หยิบเอาชิ้นส่วนแรกของร่างพวกเขาออกมา ตามด้วยกะโหลกและส่วนอื่น ศพเน่าเปื่อยแล้ว มันจึงส่งกลิ่นเหม็น
อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่กลับไม่ได้หลีกเลี่ยงมัน
ดวงตาของเหลียง เฉียนเริ่มมีหยาดน้ำตาไหลออกมาเมื่อเห็นศพทั้ง5
“ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะทำอะไรต่อไป....”หัวของเหลียง เฉียนว่างเปล่า เธอรู้กระบวนการจริงๆแต่เธอไม่อาจจำมันได้ทั้งหมด
“คุณต้องไปหานักพยาธิวิทยาเพื่อให้ศีรษะของพวกเขากลับมารวมตัวกันก่อน จากนั้น ก็มองหาสถานที่ที่เหมาะสมแก่การฝังพวกเขา”หลิน ฮวงเตือน
“ใช่ ฉันควรจะใส่หัวกลับไปยังศพและฝังพวกเขา....”
“สมาคมนักล่ามีฝ่ายนิติเวชศาสตร์ที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้โดยเฉพาะ ผมจะไปกับคุณเอง”หลินฮวงรู้ว่าเหลียง เฉียนยังคงสับสนและบอบช้ำ เขาส่ายหัวและกล่าว“ผมจะเก็บพวกเขาไปก่อน”
หลิน ฮวงเก็บศพไปอีกครั้งและต้องการจะส่งพวกเขาให้เหลียง เฉียน แต่ทว่า เหลียง เฉียนยังไม่อาจทำใจได้และเธอก็ไม่อาจเก็บพวกเขาไว้กับตัวได้ในตอนนี้
“ฉันขอโทษ ศพเหล่านี้ทำให้ฉันนึกถึงภาพต่างๆ”เหลียง เฉียนสั่นและระเบิดน้ำตาออกมาอย่างไม่อาจควบคุมได้
หลิน ฮวงไม่ได้พูดอะไร เขาเดินไปหาเธอและพาเธอไปที่โซฟา
หลังจากที่นั่งกับเธออยู่สักพักจนเธอเริ่มสงบลง เขายืนขึ้นและเดินไปที่ครัว หาชาและทำให้เธอถ้วยหนึ่ง
เหลียง เฉียนรับถ้วยชามา อย่างไรก็ตาม เธอกลับไม่ดื่มมันเพราะเธอยังคงร้องไห้
หลิน ฮวงรออย่างอดทนข้างๆเธอ....
หลังจากนั้นประมาณ20นาที เหลียง เฉียนก็สงบลง เธอวางถ้วยชาที่เธอกำลังถืออยู่ลงและหลิน ฮวงก็ส่งกระดาษทิชชู่ให้เธอ
ดวงตาของเหลียง เฉียนแดงก่ำและเธอก็ขอโทษหลิน ฮวง“ฉันขอโทษ ที่ทำให้คุณต้องมาเสียเวลา”เธอรับทิชชู่มาและเช็ดน้ำตา
“ไม่เป็นไร หากผมเป็นคุณ ผมก็คงจะแบกรับไม่ไหวเช่นกัน มันจะดีกว่าหากคุณระบายอารมณ์ออกมาแทนที่จะกักเก็บมันเอาไว้”หลิน ฮวงปลอบเธอ“พักผ่อนซะเถอะและเราจะไปพบกับนักพยาธิวิทยาในวันพรุ่งนี้”
“มันจะดีกว่าหากเราไปกันในวันนี้ ฉันรู้ว่าคุณมีบางสิ่งที่ต้องทำ”อารมณ์ของเหลียง เฉียนกลับเป็นปกติเรียบร้อยแล้ว
“คุณแน่ใจนะ?”หลิน ฮวงถาม
“คะ น้ำตาของฉันไม่เหลือแล้ว”เหลียง เฉียนกล่าวล้อเล่น
“งั้นก็ไปกันเถอะ”หลิน ฮวงลุกขึ้นยืน
หลังจากที่ออกโรงแรมมา ทั้งคู่ก็ไปที่สมาคมนักล่าโดยการขึ้นขี่หมาป่าวิริเดี้ยน
จากนั้นหลิน ฮวงและเหลียง เฉียนก็ตรงไปยังห้องนิติเวชศาสตร์
คนที่รับผิดชอบในการเชื่อหัวคือชายที่สวมแว่นตากันแดด เขาสวมเสื้อคลุมสีขาวและหน้ากาก เขาดูแตกต่างจากเหลียง หยินที่หลิน ฮวงเคยพบก่อนหน้า
“นี่คือห้องปรับแต่งศพ การชันสูตรศพและการตรวจร่างกายจะถูกดำเนินในห้องถัดจากนี้”ชายสวมแว่นกันแดดกำลังเตรียมรายงานเมื่อเขาเห็นว่ามีเงาอยู่ด้านนอกห้องโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง
“พวกเรามาที่นี่เพื่อต่อศพ”หลิน ฮวงอธิบาย
ชายสวมแว่นกันแดดเงยหน้าขึ้นและมองทั้งสองคน“เข้ามาสิ”
“รอเดี๋ยวนะ ผมขอเวลาสัก5นาทีเพื่อทำรายงานนี้”ชายสวมแว่นกันแดดกล่าวขณะที่ทำงานของเขาต่อและไม่ได้สนใจทั้งคู่เลย
หลังจากนั้น5นาที ชายสวมแว่นกันแดดก็ดูเหมือนจะทำงานเสร็จแล้ว จากนั้นเขาก็ยืนขึ้นและกล่าว“มีกี่ศพ?”
“5”
“นำพวกเขาออกมา”จากนั้นชายสวมแว่นกันแดดก็นำตู้เก็บศพออกมา4อันและวางพวกเขาไว้ด้วยกันในตู้เก็บศพที่เขานำออกมา
และชายคนนั้นก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเขาเห็นศพ“ใครกันที่ทำเช่นนี้?ช่างอำมหิตนัก”
“วิหารนักบุญ”หลิน ฮวงตอบ
“คุณต้องรอข้างนอก ผมต้องใช้เวลาสักพัก”ชายคนนั้นหันมามองพวกเขา
“ตกลง”
เมื่อหลิน ฮวงกำลังจะออกไปพร้อมกับเหลียง เฉียน เขาก็ถาม“เอิ่ม....มันไม่ยากที่จะแยกแยะความแตกต่างระหว่างหัวพวกเขา แต่คุณจะมั่นใจได้ยังไงว่าคุณจะไม่ทำพลาด?”
“ผมมีวิธีของผม อย่ากังวล ผมไม่เคยทำพลาด”ชายคนนั้นตอบโดยไม่มีเจตนาที่จะอธิบาย
เนื่องจากเขาไม่ต้องการจะตอบคำถามเขา หลิน ฮวงจึงออกไปพร้อมกับเหลียง เฉียน
ทั้งคู่นั่งอยู่ที่ด้านนอกห้องนิติเวชศาสตร์อยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมงและในไม่ช้า ก็มีเสียงเรียกจากห้อง“เข้ามาได้แล้ว”
หลังจากที่เข้ามาในห้อง พวกเขาก็สามารถเห็นศพทั้ง5ที่ดูสมบูรณ์ ชายคนนั้นใช้ด้ายโปร่งใสซึ่งสามารถมองเห็นได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้ศพ ส่วนต่างๆของร่างกายที่เน่าเปื่อยก็ได้รับการแก้ไขเช่นกัน
ใบหน้าของเหลียง เฉียนเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเธอเห็นส่วนร่างของพวกเขาที่ดูสมบูรณ์ดี เธอหลบสายตาทันที
“น่าทึ่ง...”หลิน ฮวงประทับใจกับฝีมือของเขา“คุณจัดการกับส่วนที่เน่าเปื่อยได้ยังไง?ทำไมจึงไม่มีร่องรอยอะไรเลย?”
“ผมได้สกัดเซลล์ผิวหนังของพวกเขา จากนั้น เชื้อแบคทีเรียก็จะถูกนำมาใช้เพื่อที่จะสามารถงอกชั้นผิวหนังอื่นเพื่อรักษาบาดแผลได้ ผมได้ลบส่วนที่เน่าเปื่อยออกและเติมเต็มผิวหนังที่หนาขึ้น”เขาอธิบาย
อย่างน้อย ความรู้สึกของเหลียง เฉียนก็ไม่ได้รับผลกระทบอีกต่อไปเพราะศพของพวกเขานั้นดูดีแล้ว
“ผมได้ส่งสลิปค่าใช้จ่ายไปที่เคาน์เตอร์แล้ว หากไม่มีปัญหาอะไร คุณสามารถไปชำระเงินได้ที่นั่นและเก็บศพไปจากที่นี่ หากคุณมีคำขออื่น โปรดไปข้างหน้าและบอกพวกเขา ผมจะทำมันเพื่อคุณ”ชายคนนั้นยังคงมีใบหน้านิ่งเฉย
“ผมจะไปจ่ายเดี๋ยวนี้ รอผมอยู่ที่นี่นะ”
แน่นอน เหลียง เฉียนรู้ว่าเธอไม่อาจปล่อยให้หลิน ฮวงจ่ายแทนเธอได้และเธอก็ออกจากห้องไปทันที
หลังจากนั้นสักพัก เหลียง เฉียนก็กลับมาพร้อมกับใบหน้าที่เขินอาย
“ทำไมเร็วนัก?”หลิน ฮวงถาม
“ฉันมีเงินไม่พอ ขอฉันยืมคริสตัลชีวิตหน่อยได้ไหม?ฉันได้ใช้คริสตัลชีวิตไปทั้งหมดเมื่อฉันเปิดใช้งานสมบัติ”เหลียง เฉียนไม่กล้าสบตาหลิน ฮวง“ฉันจะคืนมันให้คุณโดยเร็วที่สุดหลังจากที่ล่ามอนสเตอร์ได้!”
“คุณต้องการคริสตัลชีวิตกี่ก้อน?”หลิน ฮวงถาม
“5”
หลิน ฮวงหยิบออกมาทันทีและส่งมันให้เหลียง เฉียน“คุณไม่ต้องคืนผมหรอก”
“ฉันจะคืน ขอบคุณ!”เหลียง เฉียนรับคริสตัลชีวิตมาและจากไปทันที
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เธอก็กลับมา “ฉันได้จ่ายเงินไปแล้ว ฉันขอรับศพไปเลยได้ไหม?”
“แน่นอน”ชายสวมแว่นพยักหน้าโดยไม่มองพวกเขา
จากนั้น เหลียง เฉียนก็เก็บศพไปอย่างระมัดระวัง มันดูเหมือนว่าศพที่สมบูรณ์ดีจะไม่ทำให้เธอนึกถึงภาพฉากที่เธอได้เห็น ดังนั้นเธอจึงดูสงบ
“คุณจะฝังพวกเขาที่ไหน?”หลิน ฮวงถามหลังจากที่เธอเก็บศพไป
“หัวหน้าบอกฉันว่าเขาอยากจะลงหลักปักแหล่งอยู่ที่เมืองเกรดA ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ฉันจะฝังพวกเขารวมถึงสิ่งของๆพวกเขาไว้ที่นั่น”เหลียง เฉียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“หลังจากนี้คุณจะทำอะไร?”หลิน ฮวงถามอีกครั้ง
“ฉันจะก่อตั้งกลุ่มเตียว เฟิงขึ้นใหม่และสืบทอดเจตนารมณ์ พี่ชายดู่จะต้องมีความสุขหากเขากำลังมองฉันอยู่...”ในที่สุดเหลียง เฉียนก็คิดออกว่าเธอจะทำอะไรหลังจากนี้
“ขอให้เป็นไปด้วยดีนะ!”หลิน ฮวงยกกำปั้นเขา
“คุณก็เช่นกัน!”เหลียง เฉียนยกกำปั้นของเธอขึ้นเช่นกัน
ในขณะนั้นเอง เจ้าแดงที่อยู่ในแขนเสื้อหลิน ฮวงก็บิดตัวเล็กน้อย
“แกพบอสูรแสงดาวแล้ว?!”หลิน ฮวงสื่อสารกับเจ้าแดงผ่านความคิด
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเจ้าแดงกำลังพูดอะไร แต่หลิน ฮวงก็สามารถเข้าใจได้ว่านั่นคือการยืนยัน
ปล.เหลียง หยินเองก็เป็นนักพยาธิวิทยานะ แต่แผนกนิติเวชศาสตร์