บทที่ 141 ภรรยาตกตะลึง
บทที่ 141 ภรรยาตกตะลึง
แปล Tarhai
กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/1743836472377756/
ลงตอนที่ 1-200 ราคา 200 ลงทุกวัน วันละ 6-7 ตอน
ติดต่อที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100002039138559
อ่านบนเว็บ
https://amnovel.com/cat.php?id=58
https://www.thai-novel.com/?page_id=220202&preview=true
"ไหน ลองโชว์เงินในบัญชีของคุณหน่อยสิ ถ้าคุณกล้าน่ะนะ" เฉินเทียนหัวกล่าวด้วยความรังเกียจขณะที่ริมฝีปากของเขากระตุก
เขาคิดว่าชายหนุ่มข้างหน้ากำลังโม้ เขามีเงินถึง 20 ล้านหยวนในบัญชีธนาคารของเขา แต่ชายหนุ่มกลับบอกว่ามันน้อยมาก คนหนุ่มสาวสมัยนี้ช่างหยิ่งยโส
"อยากเห็น เดี๋ยวเอาให้ดู" ฉิงเฟิงยิ้มเบาๆและป้อนข้อมูลธนาคารของเขาลงในโน๊ตบุ๊ค
ทุกคนต่างตะลึงเมื่อเห็นเงินภายในบัญชีธนาคารของฉิงเฟิง
ตัวเลขต่อท้ายของบัญชีธนาคารทำให้ตาของพวกเขาสะตุก คนส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นเงินจำนวนมากขนาดนี้มาก่อนในชีวิตของพวกเขา
บางคนขยี้ตาของพวกเขาและคิดว่าพวกเขากำลังฝันหรือตาของพวกเขาเบลอ แต่เงินจำนวนนี้เป็นของจริง
" 150 ล้านหยวน!" เฉินเทียนหัวอ้าปากกว้างเมื่อเขาเห็นจำนวนเงินในบัญชีธนาคารของฉิงเฟิง เขาตะลึง
150 ล้านหยวน นี่มันเป็นเงินเป็นจำนวนมาก! มันพอที่จะซื้อห้างเทียนหัวทั้งห้าง!
เขาทำงานหนักมาหลายปีและอยู่ในวัยสี่สิบแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ร่ำรวยเท่าเด็กหนุ่มคนนี้ นี่เป็นระเบิดลูกใหญ่ของเขา
ใบหน้าของเฉินเทียนหัวกลายเป็นซีดและเหงื่อเย็นปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขา คนที่มีเงินถึง 150 ล้านหยวนในบัญชีธนาคารต้องมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยสุด ๆ หรือไม่ก็มีคอนเนคชั่นที่ดีมาก
เขารู้ในทันทีว่า ไม่ว่าชายหนุ่มคนนี้จะเป็นใครก็ไม่ใช่คนที่เขาควรจะแหย่
"ที่รัก ทำไมคุณมีเงินมากขนาดนี้?" ใบหน้าสวยงามของหลินซู่เต็มไปด้วยความตกใจ เธออ้าปากค้างเมื่อเห็นเงินในบัญชีธนาคารของฉิงเฟิง
เธอเป็นภรรยาของฉิงเฟิงและรู้จักฉิงเฟิงเป็นอย่างดี ไม่กี่วันก่อนฉิงเฟิงยังขอเงินเธอกินข้าวอยู่เลย เขาไปเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหนในช่วงสั้นๆ ?
เธอคิดไม่ออกและเต็มไปด้วยคำถาม
"ไม่มีข้อคัดค้านใดๆแล้วใช่ไหม ถ้าฉันจะขอให้เฉินหยางแก้ผ้าวิ่ง?" ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่มองไปที่เฉินเทียนหัว
"ก็ได้ ในเมื่อเฉินหยางแพ้ เขาก็ต้องแก้ผ้าวิ่ง" เฉินเทียนหัวพยักหน้าและถอยหลังไป
เฉินเทียนหัวเริ่มจากการเป็นคนเก็บขยะในชนบทและกลายเป็นบอสใหญ่ของห้างเทียนหัว เขาเป็นคนฉลาดและรู้ว่าเขาไม่สามารถทำอะไรกับชายหนุ่มตรงหน้าได้ สัญชาตญาณบอกให้เขาถอย
เฉินเทียนหัวเป็นบอสใหญ่ของห้างเทียนหัว ทุกคนตะลึงกับการที่เขาจะถอยให้แก่ฉิงเฟิง
มีประกายในแววตาของผู้หญิงบางคน พวกเธอต้องการที่จะตะครุบฉิงเฟิง ชายหนุ่มหล่อเหลาคนนี้เป็นคนรวยจริงๆ เฉินหยางไม่มีอะไรเทียบกับฉิงเฟิงได้เลย
หมาป่าที่แสร้งทำเป็นแกะ เฉินหยางคิดถึงวลีนี้ ใบหน้าของเขาก็ซีดลง เขารู้ว่าชายหนุ่มข้างหน้าไม่ใช่คนธรรมดาแล้ว
"เฉินหยาง ผู้แพ้ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ไปแก้ผ้าวิ่งซะ" ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่เขาเหลือบมองอย่างหนาวเย็นไปที่เฉินหยาง
น้องชาย คุณรวยมาก คุณมีเงินในบัญชีตั้ง 150 ล้านหยวน ทำไมคุณต้องแกล้งฉันด้วย ใบหน้าของเฉินหยางจืดชืดและมีความเสียใจเกิดขึ้นในดวงตาของเขา เขาเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการกระทำของเขา
"สลัดผลไม้ที่คุณทำนั้นอร่อยมากและคุณก็มีเงินมากมายในบัญชีธนาคาร คนจนอย่างฉันจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?" เฉินหยางคิดอย่างหดหู่
"ปรากฎว่าคนที่จนคือฉันเอง" เฉินหยางรู้สึกอายมาก ตอนแรกเขาต้องการจะอวดรวยต่อหน้าฉิงเฟิง
ทรัพย์สินทั้งหมดของเขามีมูลค่าเพียงไม่กี่ล้านหยวน เขาจะเปรียบเทียบกับฉิงเฟิงด้อย่างไร? มันน่าอายเกินไป
ไม่มีทางที่เขาจะปฏิเสธการเดิมพันได้เนื่องจากเรื่องนี้เปิดเผยในที่สาธารณะไปแล้ว
เฉินหยางฉีกเสื้อผ้าท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะของทุกคน เขาเริ่มวิ่งรอบๆ ห้างสรรพสินค้า
ทุกคนที่อยู่ในห้างมองเฉินหยางด้วยความรังเกียจ
ทุกคนที่ทำงานในห้างไม่ชอบเฉินหยาง ชายคนนี้มักจะเจ้าชู้กับสาวงามของห้าง รวมทั้งภรรยาของพนักงานหลายคน แต่ทุกคนก็ไม่กล้าบ่นเพราะเขาเป็นหลานชายของบอสใหญ่
แต่วันนี้เฉินหยางถูกบังคับให้แก้ผ้าวิ่ง มีหลายคนๆมีความยินดี
"ไปกันเถอะ"
ฉิงเฟิงยิ้มเบาๆ และออกจากร้านสลัดผลไม้พร้อมกับหลินซู่ เขาจากไปท่ามกลางกลุ่มคนที่แสดงอาการชื่นชมใบหน้าของพวกเขา
ฉิงเฟิงรู้ว่าหลังจากวันนี้ชื่อเสียงของเฉินหยางภายในห้างสรรพสินค้าจะถูกทำลาย เขาจะไม่มีวันโงหัวได้อีก มันเป็นไปได้มากว่าลุงของเขาจะไล่เขาออก เพราะห้างไม่ต้องการตัวตลกที่แก้ผ้าวิ่งในห้าง มันส่งผลต่อชื่อเสียงของห้าง
หลินซู่ขับรถและทั้งสองก็มาถึงบ้านในเวลาไม่นาน
ภายในห้องนั่งเล่น
หลินซู่นั่งอยู่บนโซฟาและดวงตาของเธอก็กระพริบ เธอเปิดปากไม่กี่ครั้งและจ้องมองราวกับว่าเธอมีเรื่องอยากจะถาม
"ภรรยา คุณอยากถามอะไรก็ถามมาสิ" ฉิงเฟิงยิ้มและพูดขึ้น
"คุณมีเงิน 150 ล้านหยวนในบัญชีได้อย่างไร?" หลินซู่ตะลึงและดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน
บริษัท Ice Snow มีมูลค่าสูงสุด 300 ล้านหยวน แต่ฉิงเฟิงมีเงินในบัญชีธนาคารของเขาอยู่ที่ 150 ล้านหยวน นั่นคือครึ่งหนึ่งของมูลค่าบริษัท เธอจะไม่ตกใจได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้น มูลค่าทรัพย์สินจำนวนมากของบริษัทเป็นทรัพย์สินถาวร เช่น ตึกออฟฟิศ หยกดิบ โต๊ะทำงาน สิ่งเหล่านี้มีมูลค่าประมาณ 200 ล้านหยวน
มีสินทรัพย์หมุนเวียนเพียง 100 ล้านหยวนในบัญชีธนาคารของบริษัท
กล่าวได้ว่า ฉิงเฟิงมีสินทรัพย์สภาพคล่องมากกว่าบริษัท Ice Snow ซะอีก
"ภรรยา ฉันได้เงินมาจากการพบหยกจักรพรรดิที่ตลาดพนันหิน ฉันขายมันไปและได้เงินมา150 ล้านหยวน" ฉิงเฟิงยิ้มและเล่าเหตุการณ์ให้เธอฟัง
หลินซู่เป็นภรรยาของเขา เขาไม่มีอะไรจะต้องปิดบัง
"คุณพบหยกจักรพรรดิจากการพนันหิน?" ดวงตาของหลินซู่ขยับขึ้นด้วยความตกใจ
บริษัท Ice Snow ทำงานเกี่ยวกับธุรกิจเครื่องประดับ ในฐานะซีอีโอของบริษัท แน่นอนว่าหลินซู่รู้คุณค่าของหยกจักรพรรดิหยกอย่างแน่นอน มันเป็นราชาของหยกทุกชนิดและหาได้ยากมากแม้แต่ในทั้งประเทศ
ขนตาของหลินซู่กระพริบ ดวงตาที่งดงามของเธอมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความแวววาว
หยกจักรพรรดิ... ที่รักของฉันเจอหยกจักรพรรดิ สามีของฉันยอดเยี่ยมมาก หลินซู่รู้สึกว่าเธอกำลังจะเป็นลมไปเพราะความสุข
เดี๋ยวสิ ไม่ ทันใดนั้นหลินซู่ก็ตระหนักว่าฉิงเฟิงพูดว่า เขาขายจักรพรรดิหยก
"ที่รัก คุณขายหยกจักรพรรดิไปให้ใคร?" ใบหน้าของหลินซู่เริ่มกระวนกระวายและเธอก็รีบถามว่าเขาขายหยกไปให้ใคร
หยกจักรพรรดิเป็นหยกที่ดีที่สุด เป็นที่ชื่นชอบของบริษัทเครื่องประดับและนักสะสมของโบราณ หากบริษัทของหลินซู่ได้หยกชิ้นนี้มา ชื่อเสียงและความแข็งแกร่งของ บริษัทจะดีขึ้นมาก
"ฉันขายให้หลิวรูหยันไปแล้ว" ฉิงเฟิงยิ้มเบาๆกล่าวโดยไม่ได้ระมัดระวัง
ถึงแม้หยกจักรพรรดิจะมีค่า แต่เขาก็ไม่สนใจอะไรมากนัก มันก็เป็นแค่หยกชิ้นหนึ่ง
"คุณ .. คุณ ... คุณทำให้ฉันโกรธมาก นี่คือหยกจักรพรรดิ ราชาแห่งหยกทั้งปวง" หลินซู่ยกนิ้วขึ้นและชี้ไปที่ฉิงเฟิง ร่างกายของเธอสั่นไปด้วยความโกรธ
เพราะเธอโกรธมากดังนั้นหน้าอกของหลินซู่จึงสั่นสะเทือนและกระเด้งขึ้นลงในลักษณะที่ชวนมอง แววตาของฉิงเฟิงเริ่มร้อนขึ้น เขาต้องการจะคว้าพวกมัน
ใบหน้าของหลินซู่ดูหงุดหงิดเมื่อเห็นสายตาของฉิงเฟิงที่จ้องหน้าอกเธอ เธอมองฉิงเฟิงอย่างขุ่นเคือง
"อย่ามอง คุณให้หยกจักรพรรดิกับนังจิ้งจอกหลิวรูหยัน ฉันโกรธมาก ไปคุกเข่าลงบนกระดานซักผ้า"
หลินซู่ตอบด้วยความโกรธขณะที่เอามือป้องหน้าอก ใบหน้าที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ
