ตอนที่ 251 เราต้องสู้
“สมาชิกของวิหารนักบุญ?”ดู่ เฟิงขมวดคิ้วทันที ดู่ เฟิงเงียบไปสักพัก จากนั้นเขาก็สั่ง“อี้ เผิง บอกให้คนอื่นกลับมา”อี้ เผิงเดินออกไปทันที เหลียง เฉียนดูเป็นกังวลมาก
“หัวหน้า เราควรจะไปไหม?” ดู่ เฟิงส่ายหัว“ไม่ เหล่านักบุญล้วนมีวิธีคิดที่แปลกประหลาด ตั้งแต่ที่พวกเขาพบเรา พวกเขาจะเลือกจัดการเราหากเราพยายามจะหลบหนีพวกเขา จากนั้น พวกเขาจะสร้างปัญหาให้เธอ พวกเราควรจะปฏิบัติต่อพวกเขาให้เป็นเหมือนผู้ที่สัญจรผ่านไปมา”
ในไม่ช้า อี้ เผิงก็กลับมาพร้อมกับอีกสามคน
“นักบุญทั้งสองควรจะเป็นคนที่ลงมือสังหารหมู่ในเมืองลั่วซี พวกเขาได้ฆ่าล้างตระกูลทั้งหมดเพราะมีคนๆหนึ่งไปแสดงความคิดเห็นในเครือข่ายว่าสมาชิกของวิหารนักบุญเป็นเพียงกลุ่มคนบ้า”ต้วน หยางตะโกนเมื่อเขาได้ยินจากอี้ เผิงว่าสมาชิกของวิหารนักบุญกำลังมาทางพวกเขา“พี่ชายดู่ คุณบอกให้เรามาที่นี่ พวกเรากำลังจะร่วมมือกันฆ่าพวกเขา?”
“ฉันได้ดูวิดิโอสดของเหตุการณ์ที่นายกล่าวถึง ทั้งสองอยู่ในระดับทอง ดังนั้นเราจึงไม่อาจจัดการพวกเขาได้ ดังนั้น อย่าทำอะไรทั้งนั้น ไม่อย่างนั้น เราจะต้องตายกันที่นี่”ดู่ เฟิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังและเตือนพวกเขา“นับจากนี้ไป พวกเธอทั้ง5 จงทำตัวเหมือนเป็นคนโง่และอย่าพูดอะไรทั้งนั้น ฉันจะตอบคำถามทุกคำถามของพวกเขาเอง เข้าใจไหม?” “ครับ หัวหน้า!”อี้ เผิงตอบขณะที่คนอื่นๆต่างก็พยักหน้า
“อี้ เผิง!”ดู่ เฟิงหันมาจ้องเขา จากนั้นอี้เผิงก็ปิดปากและพยักหน้า
“เอาละ ไปตั้งเต็นท์กันซะและทำราวกับพวกเขาเป็นเพียงนักเดินทางปกติ พยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติเข้าไว้”ดู่ เฟิงสั่งทั้ง5
หลังจากที่พวกเขาตั้งเต็นท์เสร็จ นักบุญทั้งสองก็มาถึง พวกเขากำลังขี่สิงโตแสงศักดิ์สิทธิ์ สิงโตแสงศักดิ์สิทธิ์มีสีขาว และอยู่ในระดับทอง มันใหญ่กว่าสิงโตบนโลกมาก ไหล่ของมันสูงกว่าสามเมตรและกรงเล็บมันก็ใหญ่เท่ากับใบหน้าของคน สิ่งที่แตกต่างที่สุดระหว่างสิงโตแสงศักดิ์สิทธิ์และสิงโตทั่วไปไม่ใช่ขนาดของพวกมันแต่เป็นปีกสีขาว คู่ใหญ่ด้านหลังมัน พวกมันมักจะเก็บซ่อนปีกพวกมันเอาไว้ และจะเหยียดออกเมื่อพวกมันจะบิน
ความเร็วในการบินของมันสูงมาก แต่ทว่า มันก็ยังมีจุดอ่อนในด้านระยะทางการบิน มันเป็นสัญลักษณ์ของสมาชิกสำรองแห่งวิหารนักบุญเนื่องจากสมาชิกสำรองเกือบทุกคนจะมีพวกมันในการครอบครอง
แม้ว่าทั้งสองจะสวมชุดคลุมสีขาว แต่ก็ยังเห็นได้ว่าทั้งคู่นั้นผอม อย่างไรก็ตาม พวกเขานั้นสูงกว่า1.85เมตร
มีกากเขนสีดำบนใบหน้าพวกเขาและรอยกางเขนก็ยาวแตะถึงปลายจมูกพวกเขา แม้ว่ากางเขนจะปกคลุมถึงครึ่งใบหน้า แต่ก็ยังสามารถระบุอายุของพวกเขาได้ ชายหนุ่มมีอายุประมาณ20ปีและมีใบหน้าที่เกลี้ยงเกลา ส่วนชายที่แก่กว่ามีอายุประมาณ25ปี ด้วยหนวดเคราที่ตัดสั้นและผิวสีเหลือง
“เป็นที่นี่?”ชายเคราสั้นหันไปถามเพื่อนเขา
ชายหนุ่มเหลือบมองแผนที่และพยักหน้า“พิกัดแสดงให้เห็นว่าปฏิกิริยาเกิดขึ้นที่นี่”จากนั้นเขาก็เงยหน้า เห็นดู่ เฟิงและกลุ่มของเขาในเต็นท์“มีคนอยู่ที่นี่....”
ชายเคราสั้นขมวดคิ้ว“บอกให้พวกมันออกไป ไม่อย่างนั้น ก็ฆ่าให้หมด!”
จากนั้นชายหนุ่มก็ลงจากหลังสิงโตและเรียกเก็บมัน เขายืนอยู่ในทรายและตะโกนใส่ดู่ เฟิงและพวกของเขา“ทุกคนที่อยู่ในเต็นท์ แกมีเวลาสามนาทีที่จะออกไป หากแกยังอยู่ที่นี่หลังจากสามนาที งั้นพวกแกทั้งหมดก็จะได้อยู่ที่นี่ไปตลอดกาล!”
เมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งที่ชายคนนั้นกล่าว สีหน้าของพวกเขาก็ดำมืด แต่ทว่า ดู่ เฟิงก็ยังฝืนยิ้มและเดินออกจากเต็นท์
“ใจเย็นก่อน เราจะออกไปเดี๋ยวนี้!”ทันทีที่เขาพูดจบ ดู่ เฟิงและพวกเขาก็เก็บเต็นท์ทันที เตรียมที่จะออกไป
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบใจ ดู่ เฟิงก็ยังทำท่าให้พวกเขาออกไป พวกเขาอัญเชิญหมาป่ายักษ์เพื่อที่จะเดินทาง
“หยุด!”จู่ๆชายเคราสั้นก็ตะโกนขึ้น
“ไปกันเถอะ!”ดู่ เฟิงทำราวกับว่าเขาไม่ได้ยินอะไร
“ฉันบอกให้แกหยุด ไม่ได้ยินรึไง?”ชายเคราสั้นกระโดดลงจากหลังสิงโตและปรากฏตัวด้านหน้าพวกเขา ปิดกั้นเส้นทางด้านหน้าเอาไว้
ชายหนุ่มเองก็ขยับตัวมาขวางด้านหลังพวกเขาเอาไว้เช่นกัน
“ผมขอโทษ ที่นี่มีเสียงดัง ผมจึงไม่ได้ยิน มีอะไรให้ผมช่วยงั้นหรอ?”หัวใจของดู่ เฟิงดำดิ่งทันทีแต่เขาก็ยังถามด้วยรอยยิ้ม
“ผู้ชายสามารถออกไปได้แต่ผู้หญิงต้องอยู่ที่นี่ พวกเราต้องการนำเธอกลับไปเครื่องบูชา”ชายเคราสั้นตวัดสายตามองเหลียง เฉียน
“ไม่ ท่านไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ท่านต้องเลือกคนอื่นไปแทน”ดู่ เฟิงปฏิเสธด้วยหัวใจที่หนักแน่น
“เหล่านักบุญ ฉันคิดว่าพวกท่านกำลังมองหาสาวพรหมจรรย์เป็นเครื่องบูชา แต่ทว่า ฉันได้แต่งงานแล้ว เขาคือสามีของฉัน”เหลียง เฉียนกล่าวพลางชี้ไปที่ดู่ เฟิงที่ยืนข้างเธอ
อี้ เผิงและคนอื่นตกใจเมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งที่เหลียง เฉียนกล่าว แม้กระทั่งดู่ เฟิงก็ยังตกใจ“สาวน้อย เธอเป็นคนฉลาด”ชายเคราสั้นยิ้มหลังจากได้ยินสิ่งที่เธอกล่าว“ไม่ว่าเธอจะบริสุทธิ์หรือไม่ เราก็ได้ระบุมันจากกลิ่นอายที่ปล่อยออกจากร่างเธอ เธอคือหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว?ขยะครึ่งล่างของสามีเธอไร้ประโยชน์หรือไง?”
“ไม่ว่ามันจะไร้ประโยชน์หรือไม่ มันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของท่าน ท่านนักบุญ เธอได้แต่งงานแล้วและเธอก็เป็นผู้หญิงของผม บางทีพระเจ้าของท่านอาจไม่ต้องการหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว”ดู่ เฟิงไร้หนทางและทำได้เพียงเน้นย้ำว่าเธอแต่งงานแล้ว
ขณะที่ชายเคราสั้นยังคงลังเล ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังก็กล่าว“เกา หยาง หากเธอแต่งงานแล้วจริงๆ มันก็ไม่สำคัญว่าเธอจะบริสุทธิ์หรือไม่ เธอไม่อาจเป็นเครื่องบูชาได้”
“มู่ ปิง พวกเขาอาจจะกำลังโกหก หญิงสาวไม่ต้องการเป็นเครื่องบูชา นั่นคือเหตุผลที่เธอโกหก”
“ท่านคิดว่าฉันกำลังโกหก?”เหลียง เฉียนยิ้มเมื่อเธอได้ยิน จากนั้นเธอก็กระโดดไปบนหมาป่าของดู่ เฟิง
“ที่รัก ให้ฉันได้กอดคุณจากด้านหน้า”เหลียง เฉียนหน้าแดงขณะที่เธอพูดจาหวานใส่ดู่ เฟิง
ดู่ เฟิงตะลึง เขาไม่รู้ว่าเหลียง เฉียนต้องการจะทำอะไร แต่เขาก็ยังคงหันไปและทำในสิ่งที่เธอร้องขอ
หลังจากที่เหลียง เฉียนนั่งคร่อมหน้าดู่ เฟิง เธอก็จูบเขา
ดู่ เฟิงตกใจ จากนั้นเขาก็รู้ว่าเธอต้องการจะทำอะไร เขาหลับตาและจูบเธอ หลังจากนั้นสักพัก เธอก็สอดแทรกลิ้นของเธอมาในปากเขา ดู่ เฟิงลังเลแต่ก็ยอมรับมัน
ทั้งคู่จูบกันอยู่นานก่อนที่พวกเขาจุหยุด ทุกคนตกใจและแม้กระทั่งดู่ เฟิงก็ยังเขินอาย
“เป็นยังไง?มันพอที่จะพิสูจน์ถึงการแต่งงานของเราไหม?หรือท่านต้องการมากกว่านี้?”เหลียง เฉียนหันหน้ากลับมา เหลือบมอง เกา หยาง
“เกา หยาง เพื่อความปลอดภัย มันจะดีกว่าหากเรามองหาเครื่องบูชาอื่น”มู่ ปิงที่เฝ้าดูจากด้านหลังเชื่อพวกเขา
เกา หยางเหลือบมองคนอื่น พยักหน้าหลังจากที่เงียบอยู่สักพัก “เอาละ ไปได้แล้ว”
“ไปกันเถอะ!”ดู่ เฟิงบอกให้กลุ่มของเขาเดินทางทันที
หลังจากที่เดินอยู่สักพัก มู่ ปิงก็ตะโกนด้วยความยินดี“เกา หยาง ฉันพบมันแล้ว มันอยู่ที่นี่!”
ดู่ เฟิงและคนอื่นหัวหน้ากลับไป พวกเขาเห็นมู่ ปิงกำลังเดินไปที่ต้นไม้แห้งเหี่ยว
“พวกเขากำลังทำอะไร?”ดู่ เฟิงขมวดคิ้ว
ด้านใต้ต้นไม้ มู่ ปิงและเกาหยางรีบนำอุปกรณ์ออกมาและเริ่มขุด
ดู่ เฟิงไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไปเมื่อเห็นภาพฉากที่ดูหมิ่นศาสนาต่อหน้าเขา
“หัวหน้า ปล่อยพวกเขาไป ฉันคิดว่าพวกเขากำลังมองหาบางสิ่ง พวกเราสามารถฝังผู้อาวุโสได้อีกครั้งหลังจากที่พวกนั้นจากไป”
“ฉันสามารถอดกลั้นได้ทุกอย่างแต่นั่นคือหลุมศพของสหายเก่าฉัน!ฉันเป็นไอขี้ขลาดเมื่อสองปีก่อน มองดูพวกเขาตายต่อหน้าต่อตา ฉันไม่อาจทนเห็นพวกเขาถูกกระทำเช่นนั้นและนิ่งเฉยได้....”ดวงตาของดู่ เฟิงเริ่มเปียกชื้น
“พวกเธอควรจะไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้!”ดู่ เฟิงทำสีหน้าเย็นชา เขาตั้งใจที่จะหยุดพวกนักบุญ
“พี่ชายดู๋ หากคุณไม่ไป พวกเราก็จะไม่ไปเช่นกัน!เราจะสู้กับพวกมันไปด้วยกัน!”อี้ เผิงตะโกน
พวกเขาไม่ต้องการจะเห็นดู่ เฟิงถูกฆ่าไปโดยไม่ทำอะไร
“ไม่ นายต้องไป!แม้ว่าฉันจะตาย พวกเธอก็ยังต้องสืบทอดกลุ่มเตียว เฟิงเอาไว้!”ดู่ เฟิงไม่ต้องการจะยุบกลุ่มเร็วนัก
“มันจะไม่จบตราบเท่าที่หนึ่งในพวกเรารอด ให้เหลียง เฉียนอยู่ที่นี่และพวกเราจะไปช่วยหัวหน้าสู้!”อี้ เผิงตะโกนและคนอื่นก็พยักหน้า เห็นด้วยกับเขา
เหลียง เฉียนส่ายหัวทันที“พี่ชายดู่ อย่าทิ้งฉันไว้ลำพัง ฉันต้องการจะสู้ไปกับทุกคน....”
จู่ๆดู่ เฟิงก็ยกมือขึ้นและสับคอเหลียง เฉียน ขณะที่ร่างของเธอล้มพับไป
“ฉันขอโทษ เฉียน เฉียน...ฉันรู้ว่าฉันเห็นแก่ตัวและมันก็ไม่ยุติธรรมกับเธอ แต่ฉันต้องทำเช่นนี้”จากนั้นเขาก็วางร่างของเหลียง เฉียนบนหลังหมาป่าและใส่เหรียญผนึกมอนสเตอร์เขาไว้ในกระเป๋าเธอ จากนั้นดู่ เฟิงก็เตะตูดหมาป่ายักษ์และกระโดดไปบนหมาป่าที่เหลียง เฉียนขี่ก่อนหน้า
หมาป่าที่ถูกเตะออกวิ่งในทันทีขณะที่ดู่ เฟิงขึ้นขี่หมาป่าของเหลียง เฉียนแทน
ทั้ง4คนที่เหลือต่างก็กลับขึ้นไปบนหลังหมาป่าเช่นกัน
“ทุกคน ขอบคุณนะ!”ดู่ เฟิงตะโกน กอดร่างหมาป่าและพุ่งกระโจนใส่ร่างของผู้บุกรุก
ภายใต้ดวงอาทิตย์แสนร้อนระอุ ทั้ง5ได้ขี่หมาป่ายักษ์ในทะเลทรายทองคำ พุ่งกระโจนไปทางต้นไม้ที่แห้งเหี่ยว.....