Chapter 147: การปราบปราม
Chapter 147: การปราบปราม
หลังจากที่พวกเขาออกมาจากเมืองโดดเดี่ยว ผู้เล่นก็มาถึงค่ายอัศวินในเวลาไม่นาน หลังจากที่ฆ่าราชาแมงป่องแห่งความมืด มานัสไปนั้นทั้งกลุ่มก็ไม่ได้พบกับศัตรูเพิ่มเติม
สำหรับการเดินทางที่เหลือ ผู้เล่นก็ไม่กล้าที่จะมองไปยังหวังหยู่ด้วยอารมณ์ในทางลบอีกต่อไป ในเกมไหนๆก็ตาม อำนาจนั้นก็คือสิ่งที่ถูกต้อง ไม่มีใครกล้าที่จะไม่นับถือสัตว์ประหลาดแบบหวังหยู่
เพียงแค่พวกเขามาถึงค่ายอัศวิน หวังหยู่ก็รีบสวมผ้าคลุมไหล่ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจว่าแต้มคุณธรรมของฝ่ายแสงนั้นจะมีผลกระทบกับเมืองแห่งบาปไหม แต่แต้มแห่งแสง -200 นั้นก็จะส่งผลให้กับค่ายฝ่ายแสงอย่างแน่นอน
เมื่อพวกเขามาถึงค่ายอย่างปลอดภัย ผู้เล่นก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อพวกเขาได้ยินการแจ้งเตือนระบบมาอย่างฉับพลัน
{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้กระตุ้นเควสลับ “เสียงกระซิบของราชาปีศาจ” : ช่วยกองกำลังแห่งความมืดในการขโมยไอเทม “วิญญาณนักฆ่า” รางวัลเควส : ทำเควสเลื่อนระดับอาชีพสำเร็จในทันที แต้มคุณธรรมฝ่ายมืดเพิ่มขึ้น + 100 ได้รับรางวัลพิเศษจากราชาปีศาจ}
“….”
เมื่อเห็นข้อความนี้ ผู้เล่นก็รู้สึกขัดแย้งอย่างช่วยไม่ได้
แต้มคุณธรรมของฝ่าย 100 แต้มและรางวัลพิเศษจากราชาปีศาจนั้นไม่ได้ต่างไปจากคำพูดปากเปล่า รางวัลพิเศษนั้นก็คือรางวัลแบบสุ่มและผู้เล่นก็รู้ดีว่า 99% ของรางวัลพวกนี้นั้นจะเป็นขยะ แต้มคุณธรรมของฝ่ายมืด 100 แต้ม ก็ไม่ได้เป็นที่ดึงดูดด้วยเช่นกัน สิ่งเดียวที่ดึงดูดพวกเขานั้นก็คือการทำเควสเลื่อนระดับสำเร็จในทันที
เควสเลื่อนระดับ 20 นั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากมากในความเป็นจริง ในความเป็นจริงแล้ว มันค่อนข้างที่จะธรรมดาอย่างไม่น่าเชื่อ เควสของมันก็แค่น่าเบื่ออย่างไม่น่าเชื่อ มันเป็นเควสต่อเนื่องและมียี่สิบส่วนที่จะต้องทำให้สำเร็จ!
นอกจากนี้ ทุกระดับของเควสเลื่อนระดับนั้นอยู่ในเมืองที่แตกต่างออกไป! ทุกระดับนั้นเกี่ยวข้องกับภารกิจแบบการขนส่งเสบียงหรือหาสัตว์ที่สูญหายไป นอกจากนี้แล้ว ถ้าผู้เล่นคนไหนทำภารกิจล้มเหลวในระดับไหน พวกเขาก็จะต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่จุดเริ่มต้น มันต้องใช้เวลาอย่างต่ำสองถึงสามวัน จึงจะทำเควสเลื่อนระดับอาชีพสำเร็จได้
การคุมคามของหวังหยู่นั้นทำให้สูญเสียมากกว่าผู้เล่นสองร้อยกว่าคนรวมกันเสียอีก ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงแค่ชายคนเดียว ผู้เล่นทั้งหมดนั้นก็หวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อเผชิญหน้ากับเขา
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมทุกคนถึงจ้องมาที่ผม?”
พร้อมกับสัมผัสที่ดีของหวังหยู่นั้น เขาก็สัมผัสถึงบรรยากาศของผู้เล่นรอบข้างนั้นไม่เป็นมิตรกับเขา
หมิงตู่ก็ส่งรูปภาพแจ้งเตือนระบบไปอย่างเนิบนาบกับหวังหยู่และหาว “นายเห็นนี่ไหม? ระบบพยายามที่จะเปลี่ยนให้พวกเรานั้นปะทะกันเอง…”
“…”หวังหยู่สามารถทำได้เพียงจ้องไปยังผู้เล่นรอบข้างและหลังจากนั้นก็ชี้ไปยังเอกรังสีรุ่งอรุณและคนอื่นและก็พูดขึ้น “ถ้าเควสของผมนั้นคือการปกป้องพวกเขาทั้งสี่แล้วละก็ ผมก็จะส่งไอเทมให้กับนาย แต่พูดอย่างซื่อสัตย์แล้ว เควสของผมก็จะต้องขโมยมันด้วยเช่นกัน…”
“นั่นมันยอดเยี่ยม! ตั้งแต่ที่มันเป็นแบบนี้ หลังจากนี้พวกเราก็แค่ขโมยไอเทมและส่งมันให้กับฝ่ายมืดด้วยกัน!”ผู้เล่นตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของเขา
“เอ่อ…ผมจะต้องใช้มันเอง…ผมจะไม่ส่งมันให้กับฝ่ายมืด…”
“ใช้มันเพื่อตัวเอง…”พวกเขาพึมพำอย่างเงียบงัน ไม่สำคัญว่ามันคืออะไร เควสของหวังหยู่นั้นก็ไม่ได้อยู่กับฝั่งไหนเลย
“ฮึ่ม! ฉนัคิดว่าพวกนายยังคงตกตะลึงกับตัวเลือกที่ปลอดภัยนี่ มันเป็นแค่เควสเลื่อนระดับอาชีพ! มันอาจจะน่าเบื่อ แต่มันก็ไม่ได้ยาก แต่ถ้าทุกคนต้องการที่จะเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นแล้วละก็ อย่าโทษฉันว่าไม่เตือนนายละกัน!”หมิงตู่พ่นเสียงฮึดฮัดออกมา
พร้อมกันนั้นเอง หมิงตู่ก็เลือกตัวเลือกปฏิเสธลงอย่างสบายๆ
ความตั้งใจของหมิงตู่นั้นชัดเจนอย่างมากและทำให้ผู้เล่นกลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง ถ้าพวกเขาล้มเหลวที่นี่ ถ้างั้นพวกเขาก็จะต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง…
ถึงแม้คำพูดของหมิงตู่จะช่วยให้ผู้เล่นกลับมาได้สติ ความรู้สึกต่อเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว วิธีที่เขาพูดและน้ำเสียงของเขานั้นเป็นการโอ้อวดอย่างไม่น่าเชื่อและทำให้คนอื่นรู้สึกไม่พอใจ
“ไอ้เหี้...มึงโม้อะไรอยู่? มึงคิดเหรอว่านิกายซวนเฉินของมึงไม่มีวันแพ้หน่ะ? มึงคิดเหรอว่าพวกเราสามร้อยคนจะจัดการพวกนายสองคนไม่ได้กัน?”นักรบตะโกนอย่างโกรธเคือง
มันเป็นการต่อต้านของพวกเขาเอง แต่นักรบพยามที่จะปลุกระดมผู้เล่นให้ต่อสู้กับพวกเขา!
สิ่งที่ทำให้หมิงตู่รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นไปอีกก็คือผู้เล่นอีกสองคนที่อยู่ข้างนักรบก็พยายามที่จะช่วยให้ปลุกระดมอีกด้วย
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของทั้งสามคน กำลังใจของผู้เล่นก็เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและพวกเขาก็จ้องไปที่หวังหยู่และหมิงตู่ด้วยเจตนาฆ่า ในจุดนี้นี่เอง พวกเขาพร้อมที่จะโจมตีได้ในทุกๆเมื่อ
เมื่อมองไปบนอกของผู้เล่นทั้งสามคน หมิงตู่ก็สังเกตว่าพวกเขานั้นมีตราเดียวกันกับที่ฝุ่นอันล่องลอยมี พร้อมกับการโบกคทาของเขา ลูกบอลไฟก็พุ่งเข้าใส่ทั้งสามคนและเปลี่ยนทั้งสามคนให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
“ฉันแนะนำว่าทุกคนควรที่จะพิจารณามันให้ดีๆนะ..”หมิงตู่ขู่
นี่คือความแตกต่างระหว่างหมิงตู่และหวังหยู่...ถ้ามันเป็นหวังหยู่ เขาจะพยายามที่แก้ไขปัญหาด้วยเหตุผลก่อน ถ้าการเจรจานั้นพังลง เขาก็จะต่อต้านมัน ในอีกทางหนึ่ง หมิงตู่นั้นฆ่าผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามที่เป็นปัญหากับเขาแบบตรงๆ...อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของวิธีการของเขานั้นชัดเจนมากกว่า
“อึ้ก…”
เมื่อเห็นการตายของผู้เล่นทั้งสามคน คนที่เหลือก็ใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว
ไอ้อันธพาลนี่มีพลังโจมตีเวทย์ที่สูงจนเขาสามารถฆ่านักรบได้โดยการโจมตีเพียงครั้งเดียว...และเขายังมีเวทย์หมู่อีกด้วย…พวกเขาไม่สามารถที่จะจัดการกับเขาได้และพวกเขายังคงกังวลกับชายที่โหดเหี้ยมราวกับปีศาจ หวังหยู่ที่อยู่ด้านหลังเขาอีก...แม้ว่าพวกเขาจะทำมันสำเร็จ การสูญเสียมันก็คงไม่น้อยด้วยเช่นกัน….
ผู้เล่นพวกนี้เพียงแค่แคร์เกี่ยวกับผลประโยชน์ส่วนตัวของพวกเขา ถ้าเควสนี้มีอัตราสำเร็จ 90% ถ้างั้นพวกเขาก็จะเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์แบบนี้ ความสำเร็จของมันแทบจะไม่มี ถ้างั้นการทำมันก็ไม่ได้ต่างไปจากเรื่องตลก!
เมื่อคิดดังนี้ ผู้เล่นก็ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ลืมมันไปละกัน…พวกเราปฏิเสธที่จะทำเควสนี้…”
“ขอบคุณมาก ทุกคน!”เอกรังสีรุ่งอรุณและคนที่เหลือก้มหัวลงอย่างเต็มไปด้วยอารมณ์ ปัญหานี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเควสของพวกเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ในตอนนี้ผู้เล่นก็ได้ปฏิเสธเสียงกระซิบของราชาปีศาจ สุดท้ายแล้วพวกเขาก็สามารถที่จะผ่อนคลายลงได้
“นี่มัน…เป็นเรื่องธรรมชาติ…”คนอื่นนั้นอาย พวกเขาไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมาเลย
“พี่หมิงตู่ พี่กระทิง ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือมากๆครับ!”
“ผมทำเพื่อตัวผมเอง ไม่จำเป็นที่จะต้องขอบคุณผม”หวังหยู่ไอออกมาเบาๆ
“ฉันก็ไม่จำเป็นต้องได้การขอบคุณเปล่าๆแบบนี้! นายควรที่จะจ่ายค่าทดแทนมาให้ฉันที่ยอมให้กับเควสที่ล้ำค่านี้เถอะ!”หมิงตู่หัวเราะอย่างชั่วร้าย
“แน่นอนครับ!”เอกรังสีรุ่งอรุณกัดฟันยิ้ม
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เอกรังสีรุ่งอรุณก็สาปแช่งลับหลัง “ไอ้เย็...แม่! ฉันจะระมัดระวังให้มากขึ้นเมื่อฉันคุยกับไอ้ขยะนี่ในอนาคต!”
พร้อมกันนั้นเอง ภารกิจคุ้มกันสุดท้ายก็สิ้นสุดลงและเอกรังสีรุ่งอรุณและคนอื่นก็นำกลุ่มเข้าไปในค่ายอัศวิน
อาติคัสนั้นเป็นผู้นำของค่ายอัศวินและเป็นผู้บังคับบัญชาที่ยึดมั่นในกฏระเบียบอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ในเต็นท์ของเขาเองนั้น เขาก็สวมเสื้อผ้าธรรมดาโดยปราศจากชุดเกราะหรืออาวุธของเขา เมื่อเห็นดังนี้ มันก็ทำให้หวังหยู่มีความมั่นใจในการขโมยวิญญาณนักฆ่ามากยิ่งขึ้น
“สรรเสริญท่านลอร์ดซะ! มันเป็นความรุ่งโรจน์ที่แท้จริงที่ผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์และมีศรัทธาแบบนายอยู่!”
เมื่อเขาเอาขวดจากเอกรังสีรุ่งอรุณไป อาติคัสนั้นก็พูดประโยคออกมาไม่กี่ประโยคเกี่ยวกับการบูชาท่านลอร์ด เมื่อเขาได้รับขวด แสงสีขาวก็ล่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าและเป็นสัญญาณว่าเควสได้สำเร็จลุล่วง
หมิงตู่ก็ส่งสัญญาณให้กับหวังหยู่ที่ซึ่งพัยกหน้าและพุ่งเข้าใส่อาติคัส เขาก็ยกหมัดของเขาขึ้นและหวังหยู่ก็ซัดหมัดเข้าใส่ใบหน้าของอาติคัสอย่างหนักหน่วง และทำให้เขามึนงงจนเกือบที่จะล้มลงกระแทกกับพื้น