Chapter 145: ผู้เชี่ยวชาญนักดาบคู่ กระทิงเหล็ก
Chapter 145: ผู้เชี่ยวชาญนักดาบคู่ กระทิงเหล็ก
มันเป็นความรู้ธรรมดาทั่วไปที่ดาบนั้นจะลื่นไหลและลึกซึ้ง ในขณะที่กระบี่นั้นจะดุร้ายและกำราบยิ่งกว่า
ในศิลปะการต่อสู้ของจีน ความแข็งแกร่ง เทคนิค และความเร็วนั้นเป็นสิ่งที่สวนทางกัในแต่ละทาง
ผลประโยชน์ที่ดีที่สุดในการต่อสู้ด้วยมือเปล่านั้นก็คือความเร็วและความยืดหยุ่น เนื่องจากผลประโยชน์นี้ นักสู้มือเปล่านั้นก็สามารถที่จะใช้เทคนิคมากมายที่จะจับหรือต่อสู้ระยะใกล้กับคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้ พูดตามปกติแล้ว สไตล์การต่อสู้มือเปล่านั้นเหมาะสมในการจัดการกับคนที่เน้นความเร็วหรือพื้นฐานเทคนิคการต่อสู้ แม้ว่าพวกเขาจะใช้อาวุธก็ตาม มันมีศิลปะการต่อสู้ที่เจาะจงไปกับนักต่อสู้มือเปล่าในการจัดการกับคู่ต่อสู้ติดอาวุธอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อผเชิญหน้าคู่ต่อสู้ที่ใช้สไตล์การต่อสู้ที่ใช้กำลังเป็นพื้นฐานแล้ว ถ้าอย่างงั้นศิลปะการต่อสู้มือเปล่านั้นก็จะไม่ทรงพลัง…
ตามปกติแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าตัวเอง มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่มันพยายามจะเอาชนะเขาด้วยความเร็ว อย่างไรก็ตาม บอสแบบราชาแมงป่องแห่งความมืด มานัสนั้นมีทั้งกำลังและความเร็ว หวังหยู่นั้นไม่มีโอกาสที่จะจับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว! พร้อมกับการโดนกดดันด้วยค่าสถานะที่แตกต่างกันของพวกเขา ไม่ว่าหวังหยู่จะมีความสามารถมากแค่ไหน มันก็เหตุผลเดียวที่จะตามมา ถ้าเขาพยายามที่จะปลดอาวุธของมานัส นั้นก็คือความตาย!
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น หวังหยู่ก็เอาอาวุธของตัวเขาออกมา
อย่างไรก็ตาม อาวุธที่เขาเลือกไม่ใช่ถุงมือ แต่มันเป็นดาบคู่!
พูดให้ชัดเจนยิ่งกว่าก็คือ กริชและดาบมือเดียว
อาวุธสองชิ้นนี้นั้นหวังหยู่ซื้อมันมาจากร้านเทียในเมืองไททัน อาวุธทั้งสองชิ้นนั้นไม่ได้แตกต่างไปจากระดับขยะ มีเพียงสิ่งเดียวที่พิเศษนั้นก็คืออาวุธทั้งสองชิ้นนี้นั้นยาวมากและมีที่จับที่โค้งซึ่งมันเกือบเป็นรูปกากบาท
ถึงแม้ว่สอาวุธทั้งสองชิ้นนั้นถูกแยกขายออกมา หวังหยู่ก็รู้ว่ามันหมายถึงให้ใช้เป็นคู่ เขานั้นเคยเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ดาบคู่ที่คล้ายคลึงกับอาวุธแบบนี้มาก่อน พวกมันเป็นที่รู้จักกันดีในชื่ออวารี่เบลด และมันเป็นเส้นทางที่แปลกแยกออกไปของดาบ ดาบยาวนั้นหมายถึงการโจมตีและดาบสั้นนั้นมีไว้เพื่อป้องกันและศิลปะการต่อสู้นี้นั้นโฟกัสอย่างมากที่เทคนิค
เนื่องจากว่าที่จับและการผสมผสานของดาบคู่ พวกมันก็จะมีประสิทธิภาพอย่างมากในการจัดการกับคู่ต่อสู้ที่มีความเร็วและพลังมากกว่าตัวผู้ใช้ ถึงแม้ว่านักต่อสู้สามารถที่จะใช้อาวุธคู่ได้ แต่ระบบก็จะไม่ช่วยเหลือใครก็ตามที่ใช้ศิลปะการต่อสู้ ในโลกความเป็นจริง มันมีคนเพียงสามคนที่สามารถใช้ศิลปะการต่อสู้นี้ได้และหวังหยู่ก็พึ่งจะเป็นหนึ่งในพวกเขา
มันไม่ใช่ว่าหวังหยู่นั้นพยายามที่จะโอ้อวดความสามารถของเขา มันเพียงแค่ว่าเขานั้นไม่มีตัวเลือกอื่น ถึงแม้ว่าพลองยาวนั้นจะมีระยะโจมตีที่ไกล มันก็เป็นอาวุธที่ไว้ป้องกันและมีประโยชน์ในการบล็อคมากกว่า เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่สามารถฟื้นฟูแขนของมันได้ มันก็ไร้ประโยชน์
เมื่อบอสที่เป็นตัวละครตะวันตก มานัสนั้นก็ไม่รู้ว่าหวังหยู่กำลังพยายามที่จะทำอะไรและมันก็ฟันเข้าใส่เขาแบบง่ายๆ เมื่อเขานั้นกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่
พร้อมกับการบิดข้อมือ ที่จับของดาบยาวนั้นก็กันตัวใบกระบี่ของมานัส ตแหน่งของหวังหยู่นั้นก็อยู่ด้านข้างของมานัสและเขาก็แทงกริชเข้าไปในหัวใจของเขา
-1014
สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเกม.... แม้ว่าเขาจะฟันลงไปบนขั้วหัวใจของบอส อย่างมากมันก็จะเป็นคริติคอลฮิต พร้อมกับค่าสถานะอันเลวร้ายของอาวุธทั้งสองชิ้นมันก็ทำความเสียหายได้เท่านี้นั้นก็เท่ากับปาฏิหารย์แล้ว
มันก็ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด มานัสก็เหวี่ยงกระบี่เข้าใส่หลังส่วนล่างของหวังหยู่ หวังหยู่ก็ฟันกริชด้านล่างของมัน และปะทะเข้ากับกระบี่ของมานัสอีกครั้งหนึ่งและหลังจากนั้นก็ฟันไปที่ลำคอของมันด้วยดาบ
-1245
หลังจากที่โดนฟันไปสองครั้งติดๆกันโดยปราศจากที่มันแตะต้องหวังหยู่ไม่ได้เลยนั้น มานัสก็กระโดดถอยหลังและเรียกทรายออกมากลางอากาศและหายตัวไป
เมื่อเห็นดังนี้ หวังหยู่ก็หัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาฟันอย่างสบายๆตรงทิศสิบนาฬิกาและกระบี่ก็ปรากฏขึ้นมาระหว่างที่จับของดาบ โดยปราศจากการหยุดยั้ง หวังหยู่ก็ร่าย [เทพเจ้าเหยียบย่ำ] และเปิดเผยมานัสออกมา
โดยปราศจากการให้มานัสได้ขยับตัว หวังหยู่ก็ฟันเข้าที่หัวใจและลำคอของมันอีกครั้ง
-1014
-1125
....
“ไอ้บัดซบที่น่ารังเกียจ! ฉันจะแขวนหัวนายด้วยกระบี่ของฉันไว้เป็นรางวัล!!!”มานัสร้องออกมาและ กระบี่ก็ลอยเข้ามาในมือของเขาและเขาก็เข้าปะทะกับหวังหยู่อีกครั้ง
ถึงแม้ว่าการโจมตีของอาวุธทั้งสองชิ้นนั้นไม่ได้สูง ความสามารถของหวังหยู่ต่อพวกมันนั้นเป็นเรื่องจริง ในตอนแรกที่เขานั้นโดนกดดันอยู่นั้น พร้อมกับดาบคู่นี้ หวังหยู่ก็สามารถที่จะป้องกันและตอบโต้มานัสได้
ตั้งแต่ที่หวังหยู่เข้าปะทะกับมานัส เขานั้นก็ไม่ได้มีเวลาที่จะบัฟให้โจรทะเลทรายแห่งความมืดหรือจะทำให้พวกมันเกิดขึ้นใหม่
ภายใต้การโจมตีที่ผสมผสานกันของผู้เชี่ยวชาญสามร้อยคน โจรทะลทรายแห่งความมืดนั้นก็เกือบที่จะถูกกวาดล้างทั้งหมดในเวลาเพียงไม่นาน ตั้งแต่ที่ความกดดันที่พวกเขามีนั้นหายไป ผู้เล่นพวกนี้ก็เริ่มให้ความสนใจการต่อสู้ระหว่างหวังหยู่และมานัส
“มึงล้อฉันเล่นใช่ไหม?! ไม่ใช่ไอ้หมอนั่นวิ่งหนีไปงั้นเหรอ?”
เมื่อหวังหยู่หลบหนีจากวงล้อมก่อนหน้านี้ ผู้เล่นก็คิดว่าเขานั้นเอาไอเทมไปป้องกัน ไม่มีใครพิจารณาเลยว่าเขาจะวิ่งไปสู้กับบอสด้วยตัวคนเดียว…
“ดังนั้นนั่นคือเหตุผลว่าทำไมมอนสเตอร์มันถึงอ่อนแอขึ้น...ไม่สงสัยเลยที่เขานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่ง…”
แม้ว่าพวกเขาะจไม่ได้พูดว่าหวังหยู่นั้นจะชนะหรือพ่ายแพ้การต่อสู้ ความจริงที่เขานั้นมีความกล้าที่จะท้าทายบอสระดับทองด้วยตัวคนเดียวมันก็มากพอที่จะทำให้ผู้เล่นทุกคนนั้นถอนหายใจอย่างชื่นชมเขา ถึงแม้ว่าผู้เล่นพวกนี้จะเป็นผู้ระดับสูงกันทั้งหมด มันก็ไม่มีใครที่มีความกล้าที่จะทำแบบเดียวกันนี้
“เฮ้.....มันแค่ฉันที่เห็นว่าบอสมันเหมือนสู้ไม่ได้หรือเปล่า?”
เพียงเวลาไม่นาน ผู้เล่นมากขึ้นๆเรื่อยก็ตระหนักได้ว่าหวังหยู่นั้นไม่ได้แค่ล่อบอส เขานั้นกดดันมันและมีความตั้งใจที่จะสังหารมันด้วยตัวคนเดียวอีกด้วย!
ทุกคนในพวกเขานั้นเห็นความอ่อนตัวและพริ้วไหวของการโจมตีของหวังหยู่ พวกมันทั้งมีมุมที่หลากหลายทั้งความสูงและมุมและทุกการโจมตีนั้นทำความเสียหายมากกว่าหนึ่งพันหน่วยต่อมานัส!
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของหวังหยู่แล้ว มานัสก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเด็กน้อยที่ไร้พลัง ไม่สำคัญว่าเขาพยายามที่จะฟันกระบี่เข้าใส่หวังหยู่ต่อกี่ครั้ง ร่างกายของเขานั้นก็ถูกฟันเข้าใส่อย่างซ้ำๆ แม้ว่าเขาจะพยายามหลบหนีด้วย [การปกปิดแห่งทราย] สุดท้ายแล้วเขาก็ยังโดนฟันโดยหวังหยู่อยู่ดี
“ข่าวลือนั้นเป็นเรื่องจริง.....เขานั้นกำลังเล่นกับบอสอยู่!”
ผู้เล่นรอบๆนั้นไม่กล้าที่จะเชื่อในสายตาของพวกเขาเอง ทุกคนที่อยู่ที่นี่นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงพร้อมกับอุปกรณ์ระดับสูงด้วยกันทั้งหมด ถ้ามันเป็นการโซโลบอสเล็กๆแล้วละก็มันจะไม่เป็นข้อสงสัยกับพวกเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดนั้นก็ยากที่จะยอมรับกับสิ่งที่หวังหยู่กำลังทำอยู่
นี่มันเป็นบอสระดับทองนะ! แล้วมันจะอ่อนแอได้ยังไงกัน???
คนที่เคยคิดว่าชื่อเสียงของหวังหยู่นั้นเป็นเรื่องโม้ ก็พบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับกับฉากที่เกิดขึ้นด้านหน้าพวกเขา ทำไมใครบางคนที่แข็งแกร่งถึงเป็นองค์รักษ์กัน?
วีรบุรุษแห่งสรวงสวรรค์นั้นก็เป็นผู้เล่นที่ใช้โหมดอิสระและมีระดับที่สูงกว่าคนทั่วไป อย่างไรก็ตามไม่งั้นเขานั้นจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของโลกอันไร้ที่เปรียบได้ยังไงกัน?
เนื่องจากเรื่องนี้ เขาจึงหยิ่งยโสและโอหังอย่างมาก สำหรับเขา มันมีผู้เล่นเพียงแค่สามประเภทในเกม ผู้เชี่ยวชาญ ผู้เล่นธรรมดา และขยะ!
เขานั้นเคยคิดว่าหวังหยู่นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถสู้กับเขาได้อย่างเท่าเทียม อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ยินว่าหวังหยู่นั้นเป็นองค์รักษ์ของเอกรังสีรุ่งอรุณ เขาก็รีบสันนิษฐานทันทีว่าหวังหยู่นั้นเป็นขยะ
แต่ในตอนนี้ หลังจากที่เห็นการกระทำของหวังหยู่ วีรบุรุษแห่งสรวงสวรรค์ก็เข้าใจว่าเขานั้นไม่ได้แตกต่างไปจากกบในบ่อน้ำ พวกเขานั้นไม่มีความเหมาะสมในการเป็นคู่ต่อสู้ให้กับหวังหยู่เลยแม้แต่นิดเดียว
“ดังนั้นกระทิงเหล็กก็เป็นนักดาบคู่นี่เอง!”
“ถูกแล้ว! กระทิงเหล็กนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญนักดาบคู่! ไม่เลวเลยไอ้เด็กน้อย! นายนี่มันไว้ใจได้จริงๆ!”หมิงตู่ชื่นชมเสียงดัง
“โอ้! นักดาบคู่! นักดาบคู่!”ผู้เล่นคนหนึ่งพูดอย่างตื่นเต้น
ตามที่มีการทดสอบมานั้น เมื่อมนุษย์นั้นตกตะลึง พวกเขาก็จะทำสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไปเพื่ออะไร เมื่อได้ยินผู้เล่นคนนั้นตะโกนขึ้นมา คนรอบข้างก็เริ่มที่จะตะโกนออกมาด้วยเช่นกันในเวลาเพียงไม่นาน
ในเวลานั้นเอง หวังหยู่ก็กระโดดถอยหลังอย่างฉับพลันและตะโกน “พวกนายจ้องอะไรกัน? บอสกำลังจะอยู่ในโหมดคลั่งแล้วในไม่ช้า!”