Chapter 289: ความสามารถในการสังหาร
Chapter 289: ความสามารถในการสังหาร
การกระทำของเจียงลู่ฉีนั้นเร็วเกินไป!
ผู้ชมนั้นก็ตามปฏิกิริยาไม่ทันเลยแม้แต่น้อย ในตอนแรก พวกเขาต้องการที่จะดูโชว์ที่ตลก แต่ในตอนนี้ พวกเขานั้นพูดไม่ออก เสียงปืนที่ลั่นออกมานั้นเกิดขึ้นมาฉับพลันมากเกินไป ดังนั้นผู้ชมจึงเริ่มที่จะกระวนกระวาย และพวกเขานั้นก็ดึงอาวุธออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เพิงเฟยพุ่งไปด้านหน้าพร้อมกับเสียงตะโกนอันดังก้องและเขาก็จับไปที่ชายหัวล้านในทันที ชายหัวล้านก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดและล่วงหล่นลงบนพื้น เจียงลู่ฉีนั้นก็ยิงไปที่ขาอ่อนด้วยปืนพกรุ่น 54 มือและขาอย่างละข้างของชายหัวล้านก็ใช้งานไม่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ ชะตากรรมอันน่าอนาถของเขานั้นเลวร้ายกว่าตายเสียอีก
“อ๊า! ขาฉัน!”ชายหัวล้านกรีดร้องออกมาอย่างไม่มีสิ้นสุด
เพิงเฟยนั้นช้าเกินไป ดังนั้นเขาจึงช่วยให้ชายหัวล้านหลบกระสุนไม่ได้ เขาจ้องไปที่เจียงลู่ฉีอย่างเย็นชาและพูด “เด็กน้อย นายมันโหดเหี้ยมเกินไป”
ที่จริงแล้ว เจียงลู่ฉีกำลังเล็งไปที่ไข่ของชายหัวล้านอยู่...
ผู้ชมผู้ชายที่เห็นแกนี้ก็กลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว เมื่อพวกเขาสามารถที่จะจินตนาการถึงความเจ็บปวดอันมากเกินจะทนได้ ถ้ามันถูกยิงเข้าใส่จุดสำคัญของเขาแบบนั้น
“เร็วมาก!”ซูฉางชิงตกตะลึง ถึงแม้ว่าเขาจะเคยเห็นความสามารถในการยิงปืนอันโดดเด่นของเจียงลู่ฉีมาก่อน เขาก็ไม่ได้รู้ว่าเจียงลู่ฉีนั้นมีความสามารถพิเศษอื่นอีกด้วย
ก่อนวันโลกาวินาศ นักแม่นปืนที่รวดเร็วที่สุดในโลกนั้นใช้เวลาเพียงแค่ 0.02 ในการลั่นไก ในขณะที่สายตาของเขาจะต้องใช้วเลา 0.1วินาทีในการปรับเข้ากับเป้าหมายของพวกเขา ในอีกความหมายหนึ่ง อีกฝั่งหนึ่งจะตายไปก่อนที่พวกเขาจะสามารถเห็นการเคลื่อนที่ของศัตรูของเขาเสียอีก มันเป็นความสามารถในการสังหารที่แท้จริง!
แม้ว่ามันจะมีผู้เชี่ยวชาญในกองทัพที่สามารถลั่นไกปืนได้เร็วกว่านักยิงปืนธรรมดาก็ตามที แต่ซูฉางชิงนั้นก็ไม่ได้คาดไว้ เนื่องจาก เขาคิดว่าความสามารถพิเศษของเจียงลู่ฉีนั้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนรูปร่างเครื่องจักรเสียมากกว่า...
“ฉันเปลี่ยนความคิดแล้ว วันนี้ ฉันจะทำให้นายรู้สึกเสียใจที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้...”ในตอนแรก เพิงเฟยนั้นไม่ได้วางเจียงลู่ฉีไว้ในสายตา แต่เขาก็ไม่ได้คาดคิดว่าชายคนนี้นั้นจะทำให้ชื่อเสียงของทีมเขาเสียหายในเวลาน้อยกว่าหนึ่งนาที
เจียงลู่ฉีเพียงแค่จ้องไปยังเพิงเฟยโดยไม่แยแสและพูดขึ้น “เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว นายเป็นคนต่อไป เริ่มต้นได้แล้ว”เจียงลู่ฉีก็ยังคงยืนอยู่เฉยๆ และมันก็เหมือนกับว่าเขานั้นกำลังคุยกับสุนัขอยู่ เขานั้นแม้กระทั่งถามให้เพิงเฟยขยับตัวก่อนเลยด้วยซ้ำ
มันเป็นการจงใจยั่วยุใส่เพิงเฟย “ฉันจะฉีกนายเป็นชิ้นๆ!”
เพิงเฟยนั้นคำรามออกมาอย่างฉับพลัน และหลังจากนั้นเสื้อผ้าของเขาก็พริ้วไหวขึ้นไปทุกทิศทาง และเปิดเผยร่างกายสีทองแดงที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็น เขานั้นใช้ความสามารถพิเศษของเขา สายตาของเขานั้นเปลี่ยนกลายเป็นสีเหลืองเขียวและมันก็ปลดปล่อยความเย็นยะเยือกเหมือนกับสัตว์ป่า ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หนามอันยาวเฉียบก็โผล่ขึ้นมาจากร่างกายของเขา
ทุกคนนั้นประหลาดใจ เมื่อเห็นหนามยาวออกมาจากร่างกายของเขา หลี่ยู่ซินขมวดคิ้ว เนื่องจากเธอไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
เพิงเฟยนั้นก็กระโดดขึ้นกลางอากาศอย่างฉับพลันและยืดแขนไปจับหัวของเจียงลู่ฉี ถ้าคนธรรมดานั้นถูกจับโดยเพิงเฟย หัวของพวกเขานั้นก็จะเละเทะ จากการซัดฝ่ามือของเขา
หนามนั้นเป็นอาวุธที่ทรงพลังของเพิงเฟย ความเร็วของเขานั้นถึงจุดสูงสุด เขาต้องการที่จะรบกวนการยิงปืนอันแม่นยำของเจียงลู่ฉีและหลังจากนั้นก็ทรมาณเขาอย่างช้าๆ!
ในอีกทางหนึ่ง เจียงลู่ฉีนั้นก็ไม่ได้หวาดกลัวการจู่โจมของเพิงเฟย เขานั้นก็ใช้ความสามารถของเขาและการกระทำของเพิงเฟยนั้นก็เป็นฉากสโลว์โมชั่นในสายตาของเจียงลู่ฉี
ต้องขอบคุณการวิวัฒนาการความเร็วของเจียงลู่ฉี ปฏิกิริยาความเร็วของร่างกายของเขานั้นทรงพลัง ดังนั้นเขาสามารถที่จะหลบหลีกการโจมตีอันดุร้ายของเพิงเฟยได้
ความเร็วของเพิงเฟยนั้นน่าหวาดหวั่น ขั้นกลิ้งตัวอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับลูกบอลเหล็ก ถ้าใครบางคนแตะเขาแล้วละก็ พวกเขาก็จะเจ็บปวด และถ้าใครก็ตามที่โดนโจมตีจากการโจมตีเขาแล้วละก็ พวกเขาก็จะตาย ไม่สำคัญว่าจะโดนเขาทับตรงไหน มันก็จะเละเป็นชิ้นๆอยู่ดี
ผู้ชมบางคนนั้นก็กระโดดถอยหลัง เพื่อหลบหลีกการโจมตีอันดุเดือดของชายผู้บ้าคลั่ง เจียงลู่ฉีนั้นก็ยังไร้รอยขีดข่วนโดยไม่ได้คาดคิด! มันเป็นไปได้ยังไงกัน?
พวกเขาก็สามารถที่จะยอมรับความจริงกับปฏิกิริยาอันรวดเร็วที่โดดเด่นออกมาได้ เนื่องจากว่าเขาฝึกฝนมากับปืน แต่ทำไมเขาถึงมีความยืดหยุ่นขนาดนั้นกัน!?
ถึงแม้ว่าเพิงเฟยนั้นจะไล่เจียงลู่ฉีไปรอบๆเป็นเวลานาน เขาก็ไม่สามารถที่จะแตะเสื้อของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว! สุดท้ายแล้วเขานั้นก็กระแทกกับฝุ่นหรืออะไร มันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสบายตัวในการต่อสู้ด้วยวิธีนี้!
“มาดูกันเถอะว่านายจะหลบการโจมตีของฉันได้นานแค่ไหน!”เพิงเฟยคำรามและหลังจากนั้นหนามแหลมคมบนมือของเขาก็ขยายขึ้น! ความยาวของหนามนั้นเกือบจะครึ่งเมตรแล้ว! ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาก็ปลดปล่อยกลิ่นประหลาดๆออกมา
ซูฉางชิงที่ได้ดมมัน ทำให้เขามึนงงในทันที ดังนั้นเขาจึงรีบปิดปากและจมูก
สัตว์และแมลงหลากหลายตัวนั้นมีกลิ่นที่ลอยออกมาจากร่างกายของพวกเขา ซึ่งมันสามารถที่จะทำให้รู้สึกไม่ดีได้ ยกตัวอย่างเช่นสกั๊งค์ ฟังก์ชิ่นกลิ่นของมันไม่เพียงทำให้อากาสนั้นเหม็น แต่มันก็ยังทำให้ชาอีกด้วย
เพิงเฟยนั้นมีความสามารถแบบนี้ด้วย! กลิ่นที่ออกมาจากเหงื่อบนร่างกายของเขาแล้วนั้นทำให้มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ออกมา แต่มันก็ยังสามารถทำให้ผู้คนติดสถานะชาได้อีกด้วย! ผู้ชมรู้สึกว่าหัวของพวกเขานั้นปวดไปหมด ไม่ต้องพูดถึงเจียงลู่ฉีเลย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเพิงเฟยนั้นจะต่อยใส่เจียงลู่ฉี ชายหนุ่มก็ยังคงใจเย็นอยู่เหมือนกับว่าไม่มีอะไรที่เกิดขึ้น ในเวลาเดียวกันนั้นเอง มือของเจียงลู่ฉีก็จับไปที่หนามจากด้านข้าง ในขณะที่ปากกระบอกปืนของเขาก็เล็งไปที่เพิงเฟย และหลังจากนั้นเจียงลู่ฉีก็ลั่นไกปืน!
‘ปัง!’
เสียงลั่นปืนก็ดังขึ้นและเลือดก็สาดกระจายไปทั่วทุกแห่งหน!
เจียงลู่ฉีก็ยังคงใจเย็นอยู่ ในขณะที่ยังคงจับไปที่หนามแน่น เขาก็ลั่นไกปืนอย่างต่อเนื่อง!
‘ปัง! ปัง! ปัง!’
ตาของเจียงลู่ฉีไม่กระพริบเลยแม้แต่นิดเดียว!
ทุกคนนั้นตกตะลึงกับเสียงลั่นปืนอันดังก้องอย่างต่อเนื่อง!
สุดท้ายแล้ว เจียงลู่ฉีก็เตะใส่เพิงเฟยและส่งเขากระเด็นขึ้นกลางอากาศก่อนที่จะกระแทกลงบนพื้นดินอย่างรุนแรง
หนามของเพิงเฟยนั้นยังคงอยู่ในมือของเจียงลู่ฉี!
เขาเหลือบไปมองหนามและขว้างมันลงไปบนพื้นและพูดขึ้น “นายมันอ่อนแอเกินไป”