Chapter 144: กระบี่ที่แปลกประหลาด
Chapter 144: กระบี่ที่แปลกประหลาด
เมื่อมองไปยังทิศที่หวังหยู่ชี้ เอกรังสีรุ่งอรุณก็เห็นมานัสควงกระบี่ของเขาและทำให้แสงสีทองร่ายรำไปทั่ว แสงเหล่านี้นั้นทำให้เกิดกระแสเล็กๆขึ้นมาซึ่งล้อมรอบทรายและเปลี่ยนร่างพวกมันให้กลายเป็นโจรทะเลทรายแห่งความมืด
ตั้งแต่ที่ผู้เล่นคนอื่นนั้นอยู่ในการต่อสู้กันทั้งหมด พวกเขานั้นก็ไม่ได้มีเวลามากมายเท่ากับหวังหยู่ในการสักงเกตสถานการณ์รอบข้างพวกเขา นอกจากนี้ พร้อมกับรูปร่างที่เล็กของมานัสแล้ว มีเพียงแค่ใครบางคนแบบหวังหยู่ที่สามารถเห็นเขาได้หลัง
“เชี่ยเอ้ย! ไอ้บอสหน้าด้าน!”เอกรังสีรุ่งอรุณร้องออกมา
มันกลับกลายเป็นว่าโจรทะเลทรายแห่งความมืดนั้นถูกสร้างขึ้นมาจากทราย ในทะเลทรายแบบนี้มันก็ไม่ใช่ว่ามีพวกเขานับไม่ถ้วนงั้นเหรอ?
ในยุคที่ไม่มีใครมีสกิลหมู่ ผู้เล่นก็สามารถที่จะสู้กับมอนสเตอร์ได้ทีละตัว เนื่องจากเรื่องนี้ มันก็ไม่มีใครสามารถที่จะพุ่งไปด้านหน้าและหยุดมานัสได้ ในอัตรานี้ มันเป็นเพียงแค่เวลาก่อนที่ผู้เล่นนั้นจะถูกจำนวนมอนสเตอร์มหาศาลรุมล้อมจนพ่ายแพ้
เมื่อเห็นสถานการณ์ นายน้อยปักกิ่งและคนอื่นก็ถามขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “พวกเราควรที่จะทำอะไรดีในตอนนี้?”
หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เอกรังสีรุ่งอรุณก็ตอบกลับ “ส่งหน่วยแยกออกไปจัดการกับเขา”
“นายคิดเหรอว่าพวกเขาจะไปถึง?”หวังหยู่ชี้ไปที่จำนวนของพวกมันและถามขึ้น
“…”เมื่อตระหนักถึงความจริงที่หวังหยู่ได้บอกกล่าวไป เอกรังสีรุ่งอรุณก็หมดคำพูด
จำนวนของโจรทะเลทรายแห่งความมืดนั้นค่อยๆเพิ่มขึ้นและการล้อมรอบผู้เล่นก็เริ่มที่จะแน่นหนาขึ้น พวกเขาไม่สามารถที่จะออกจากวงล้อมนี้ไปได้ ถ้างั้นผู้เล่นสิบคนก็มีปัญหามากเช่นเดียวกัน!
“ถ้างั้น พวกเราควรที่จะทำยังไงดี พี่กระทิง?”
เมื่อเหลือบตามองไปที่มานัสอีกครั้ง หวังหยู่ตอบกลับ “ดูแลตัวเองละ ผมจะไปจัดการกับเขาเอง!”
“หื้อ? เพียงแค่พี่อะนะ? พี่มั่นใจใช่ไหม?”ทั้งสี่อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง
ราชาแมงป่องแห่งความมืด มานัสนั้นเป็นบอสระดับทอง ปกติแล้ว มันจะต้องใช้ทีมของผู้เชี่ยวชาญยี่สิบถึงสามสิบคนในการจัดการเขาลง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าหวังหยู่นั้นมีความสามารถอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขาก็ยังคงรู้สึกว่ามันมีความต่างชั้นของเขากับบอสระดับทอง
“แน่นอน! ผมหมายถึงว่าผมเคยสังหารเทวดาแห่งการตัดสินมาด้วยตัวเอง จำได้ไหมละ?”หวังหยู่หัวเราะเบาๆ
เมื่อจำได้ว่าหวังหยู่นั้นจัดการสังหารบอสระดับทองอีกตนหนึ่งด้วยตัวเพียงคนเดียว เมื่อวานนี้ ทั้งสี่คนก็สามารถทำได้เพียงเก็บความกังวลเอาไว้และพูด “ถ้างั้น ได้โปรดระวังตัวด้วยครับพี่!”
พร้อมกับการพยักหน้าเบาๆ หวังหยู่ก็วิ่งเข้าหาผู้เล่นคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หมิงตู่ที่ยืนอยู่
“อั๊ยหย่า เฒ่ากระทิง นายมาทำอะไรที่นี่กัน? ฉันคิดว่านายจะหลบอยู่ด้านหลังจนกระทั่งสงครามนี้จบลงเสียอีก…”หมิงตู่ล้อเลียน
“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว เปิดทางให้ผมซะ!”หวังหยู่รีบพูดขัด
เมื่อยกคทาของเขาลง หมิงตู่ก็ป้องกันสายตัวเองจากแสงแดดและตรวจสอบจำนวนโจรทะเลทรายแห่งความมืดที่เข้ามาใกล้
“พวกมันมีขนาดนั้น [การเคลื่อนย้ายแห่งพระอาทิตย์ตกดิน] ของนายจะเพียงพอไหม?”เขาถามขึ้น
“ผมสามารถลองทำได้!”
“ก็ได้ถ้างั้น! อย่าตายละกัน!”หลังจากที่เขาพูด หมิงตู่ก็หันกลับไปหาผู้เล่นคนอื่นและตะโกน “หลีกทางหน่อย! หลบไปด้านข้างซะ!”
เมื่อผู้เล่นรอบข้างเห็นนิกายซวนเฉิน พวกเขาก็รีบหลีกทางให้พวกเขาทั้งคู่
หมิงตู่นั้นเป็นคนบ้าที่ฟันหลังคนอื่นที่ฆ่าคนอื่นโดยไม่กระพริบตา ไม่มีใครต้องการที่จะไปขวางทางเขา ยิ่งไปกว่านี้ นักเวทย์ที่เดินไปแนวหน้านั้นก็การันตีที่จะตายอย่างแน่นอน ตั้งแต่ที่ผู้เล่นทุกคนต้องการที่จะส่งเขาไปยังจุดเกิดให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้แล้ว พวกเขาก็ไม่คิดที่จะปิดกั้นเส้นทางเขาเลยแม้แต่น้อย
หลังจากก้าวไปด้านหน้า หมิงตู่ก็หลบอยู่ด้านหลังผู้พิทักษ์และถามหวังหยู่ “นายพร้อมหรือยัง?”
“พร้อมแล้ว!”
“ลุกขึ้น! [เพลิงนรก]!”หมิงตู่ตะโกน ทันใดนั้น คทาของเขาก็ปลดปล่อยแสงสีแดงออกมาและกำแพงแห่งเปลวเพลิงก็ระเบิดตัวขึ้นและมันก็ปกคลุมไปห้าเมตรด้านหน้าเขา
การร่ายเวทย์นั้นไม่จำเป็นที่ผู้เล่นจะต้องตะโกนเสียงดัง มันเป็นเพียงแค่หมิงตู่ต้องการที่จะโอ้อวดเท่านั้น
ตั้งแต่ที่หมิงตู่สามารถที่จะตะโกนเสียงดังได้อย่างมั่นใจ ผลกระทบของสกิลของเขานี้มันก็ไม่ได้เล็กน้อยด้วยเช่นกัน เพียงแค่เวทย์เพียงหนึ่งบทก็สามารถกวาดล้างกองกำลังโจรทะเลทรายแห่งความมืดได้ไปหนึ่งส่วน
“เวทย์หมู่!!”เมื่อเห็นเวทย์มนต์ของเขา ผู้เล่นคนอื่นก็อ้าปากค้าง
ไม่ว่าจะเป็นสกิลหมู่แบบไหนนั้นมันก็หาได้ยากมากก่อนที่จะถึงระดับ 30 ตามที่คาดไว้นักเวทย์สูงสุดของนิกายซวนเฉินนั้นมีเวทย์หมู่!
สิ่งที่ทำให้พวกเขาหงุดหงิดมากที่สุดก็คือเขาไม่ได้ใข้สกิลนี้ก่อนหน้านี้ แม้กระทั่งพวกเขาจะถูกล้อมรอบไปแล้วก็ตาม!
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หวังหยู่พุ่งผ่านเปลวเพลิงและใช้งาน [หมัดกระแทก] เพื่อทำทำให้เขาเข้าใกล้โจรทะเลทรายแห่งความมืด
ไม่สำคัญว่าโจรทะเลทรายแห่งความมืดนั้นอ่อนแอมากแค่ไหน พวกมันก็ยังคงเป็นมอนสเตอร์ชั้นยอดระดับ 25! กันทั้งหมด พวกมันก็ยังสามารถที่จะฆ่านักต่อสู้ตัวเล็กๆที่ไร้ประโยชน์แบบเขาด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว!
ในวินาทีต่อ หวังหยู่ก็กระโดดขึ้นกลางอากาศและเหยียบเข้าที่หัวของโจรทะเลทรายแห่งความมืด หลังจากนั้นเขาก็วิ่งต่อไปโดยการเหยียบหัวของโจรทะเลทรายแห่งความมืดด้วย [เหยี่ยวเหยียบย่ำ] และร่าย [ระลอกคลื่น] เพื่อส่งตัวเขาเองขึ้นสูงแล้วเมื่อเขากำลังจะล่วงหล่นลงพื้น เขาก็ใช้ [การเคลื่อนย้ายแห่งพระอาทิตย์ตกดิน] และเทเลพอร์ตไปด้านหลังของกองทัพ
“นี่มัน....เป็นหนังแอคชั่นเหรอไงกัน???”
ผู้เล่นที่พึ่งเห็นสิ่งที่หวังหยู่พึ่งทำไปรู้สึกเหมือนกับว่าลูกตาของเขาจะหลุดออกมาจากเบ้า
ถึงแม้ว่าหวังหยู่จะไม่ได้มีสกิลที่โดดเด่น สิ่งที่เขาทำก็ตกตะลึงมากกว่า [เพลิงนรก] ของหมิงตู่เสียอีก
ผู้เล่นคนไหนก็สามารถที่จะเรียนสกิลหมู่ได้หรือเมื่อพวกเขามีระดับสูงเพียงพอ แต่ในอีกทางหนึ่ง สิ่งที่หวังหยู่ทำไปนั้นไม่ใช่บางสิ่งที่ทุกคนใน {REBIRTH} สามารถที่จะเลียนแบบได้
การเคลื่อนที่ของหวังหยู่นั้นทั้งพลิ้วไหวและลื่นไหลเหมือนกับเมฆที่กำลังลอยอยู่บนฟ้า ความเงียบสงบและความเป็นธรรมชาติของเขา เมื่อกำลังทำคอมโบอยู่นั้นทำให้ผู้เล่นประหลาดใจมากยิ่งขึ้นไปอีก
นักต่อสู้คนอื่นที่อยู่ในเควสนั้นก็ประทับใจกันอย่างมาก เมื่อพวกเขาเห็นนักต่อสู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริง พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะหยุดตัวของพวกเขาไม่ให้กรีดร้องและส่งเสียงเชียร์ได้
ดังนั้นนั่นก็คือนักต่อสู้ที่แท้จริง..
หลังจากที่หวังหยู่ลงด้านหลังกองทัพโจรทะเลทรายแห่งความมืด ราชาแมงป่องแห่งความมืดก็สังเกตเขาพบ เขาก็รีบหยุดเรียกสมุนเพิ่มและฟันเข้าใส่หวังหยู่แทน
มานัสนั้นเป็นบอสประเภทคล่องแคล่ว ดังนั้นคาวมเร็วของเขาจึงเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแค่การฟันเพียงหนึ่งก็แทบจะทำให้หวังหยู่หลบไม่พ้น!
เมื่อเผชิญหน้ากับการฟันกระบี่อย่างต่อเนื่อง หวังหยู่ก็สามารถทำได้เพียงแค่ล่าถอยครั้งแล้วครั้งเล่า
กระบี่ของมานัสนั้นธรรมดาเป็นอย่างมาก พวกมันมีไว้แค่ฟัน สับ กวาด และตัด ถึงแม้ว่าพวกมันจะดูธรรมดาก็ตามที ในการต่อสู้จริงแล้ว พวกมันมีประสิทธิภาพอย่างมาก
สำหรับผู้เล่นธรรมดาทั่วไป การโจมตีพวกนี้นั้นจะทำให้พวกเขาตายอย่างน่าอนาถ อย่างไรก็ตามสำหรับผู้เชี่ยวชาญแบบหวังหยู่แล้ว พวกมันนั้นตื้นเผินและหยาบเกินไป
เหตุผลเดียวที่หวังหยู่ถูกกดดันนั้นก็คือความแตกต่างทางด้านความเร็วระหว่างเขากับมันอย่างเห็นได้ชัด มานัสนั้นสามารถที่จะพึ่งค่าคล่องแคล่วของมันเพื่อบุกโจมตีได้
เมื่อเป็นบอสระดับทอง ค่าสถานะทั้งหมดของราชาแมงป่องแห่งความมืด มานัสนั้นก็สูง ไม่ใช่แค่ค่าความคล่องแคล่ว
ถึงแม้ว่าหวังหยู่นั้นกำลังจะถูกกดดันอยู่และสามารถที่จะทำเพียงได้แค่ป้องกัน เขาก็มีการแสดงออกที่ผ่อนคลายและเงียบสงบอยู่บนใบหน้าของเขา
หลังจากการแลกเปลี่ยนการต่อสู้ไม่กี่ครั้ง มานัสก็ใช้มือซ้ายสับเข้าที่ด้านข้างของหวังหยู่
นี่คือช่วงเวลาที่หวังหยู่กำลังเฝ้ารออยู่!
เขาก็รีบโจมตีเข้าไปในทันที หวังหยู่ก็ใช้มือซ้ายเปลี่ยนทิศทางการสับของมานัสไปยังมือขวาของตัวเขาเอง! แล้วหวังหยู่ก็จับไปที่มือขวาด้วยมือซ้ายของเขาและผลักเข้าหาตัวเขาเอง
อย่างไรก็ตาม แสงสีดำก็สว่างวาบในดวงตาของมานัสและเขาก็หลุดพ้นการจับกุมของหวังหยู่ ในขณะที่เขาก็ถอยหลังออกไป พร้อมกับการเปล่งแสงของกระบี่ พายุทรายเล็กๆก็ล้อมรอบไปที่มานัสและมือขวาของเขานั้นก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
“โอ้? ดังนั้นมันเป็นเพราะว่ากระบี่ของนายนี่เอง!”หวังหยู่พึมพำกับตัวเอง เมื่อเขาดึงอาวุธที่แตกต่างกันสองอย่างออกมาจากช่องเก็บของ