บทที่ 129 การต่อสู้แบบเงียบๆระหว่างผู้หญิงทั้งสอง
บทที่ 129 การต่อสู้แบบเงียบๆระหว่างผู้หญิงทั้งสอง
แปล Tarhai
กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/1743836472377756/
ลงตอนที่ 1-200 ราคา 200 ลงทุกวัน วันละ 6-7 ตอน
ติดต่อที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100002039138559
อ่านบนเว็บอีกแห่ง
https://amnovel.com/cat.php?id=58
อะไรวะ ? เป็นลมไปอีกคนแล้ว ?
ฉิงเฟิงกลอกตา พูดไม่ออก หลินซู่เพิ่งจะเป็นลมไปและตอนนี้หลิวรูหยันก็ยังเป็นลมไปอีกคน
ทุกวันนี้อาการเป็นลมกำลังฮิตกันหรือไง? สาวสวยสองคนได้เป็นลมไปในช่วงเวลาสั้นๆติดๆกัน
ฉันเป็นลมไปด้วยอีกคนเลยดีไหม ? ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและคิดว่า "พวกคุณทั้งสองเป็นลม แต่ฉันนี่เป็นคนที่ต้องทนทุกข์ทรมาน"
ตั้งแต่ที่หลินซู่ได้เป็นลม ฉิงเฟิงรู้ว่าหลิวรูหยันก็เป็นลมเพราะความโกรธเหมือนกัน สมองของเธอปราศจากออกซิเจนไปเลี้ยง
เขารู้ว่าหลิวรูหยันเป็นลมเพราะหลินซู่ได้เรียกเธอว่าจิ้งจอกและวัวแก่ที่ต้องการกินหญ้าอ่อน เธอโกรธมากจนเธอหมดสติจากความโกรธ
การแสดงออกของหลินซู่เปลี่ยนไปเมื่อเธอเห็นว่าหลิวรูหยันเป็นลม เธอรีบวิ่งไปข้างๆหลิวรูหยัน
หลิวรูหยันหมดสติ หลินซู่ได้แก้แค้นเพื่อระบายความโกรธของเธอแล้วเธอก็โล่งใจ
แม้ว่าหลินซู่จะไม่พอใจกับหลิวรูหยันและแม้แต่เรียกเธอว่าวัวแก่ แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับหลิวรูหยัน บริษัท Ice Snow ก็จบสิ้น
หลิวรูหยันไม่เพียงแต่เป็นซีอีโอของบริษัทที่มีมูลค่ากว่าพันล้านเท่านั้น แต่เธอยังได้รับการสนับสนุนจากตระกูลหลิวในเมืองหลวงและมีความสัมพันธ์กันเป็นอย่างดี
ตัวหลินซู่เองนั้นไม่กลัวที่จะทำให้หลิวรูหยันโกรธ แต่เธอเกรงว่าบริษัท Ice Snow จะเผชิญหน้ากับการตอบโต้ ดังนั้นเธอจึงรีบวิ่งไปดูหลิวรูหยันเมื่อเห็นเธอเป็นลม
"ทำไมคุณถึงยืนอยู่ตรงนั้น? ปลุกเธอให้ตื่นขึ้นเร็วเข้า"
หลินซู่เหลือบมองอย่างรวดเร็วที่ฉิงเฟิงและกล่าวอย่างกังวลใจ
เธอกังวลและกลัวมาก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับหลิวรูหยันที่นี่ พวกเขาจะไม่อาจปัดความรับผิดชอบได้
ฉิงเฟิงพูดไม่ออกเมื่อเขาเห็นท่าทางกระวนกระวายของหลินซู่ "คุณเป็นคนที่ยั่วยุให้หลิวรูหยันโกรธจนหมดสติเองแต่ตอนนี้คุณต้องการให้ฉันช่วยเธอ ทำไมฉันถึงต้องเจ็บปวดอยู่คนเดียว ? " ฉิงเฟิงคิดอย่างมืดมน
อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้เหตุผลที่หลินซู่กังวล หลิวรูหยันไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา เธอได้รับการสนับสนุนจากบริษัทหลิว
ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับหลิวรูหยัน ความวุ่นวายจะกระจายไปทั่วเมืองทะเลตะวัน ไม่มีใครสามารถทนรับผลกระทบได้
ฉิงเฟิงมาที่ด้านข้างหลิวรูหยันและค่อยๆกดจุดให้เธอ
ใบหน้าของหลิวรูหยันละเอียดอ่อนและเรียบเนียนเหมือนหยกคุณภาพสูง มันรู้สึกดีมากที่ได้สัมผัส
แต่หลินซู่อยู่ข้างๆเขาดังนั้นฉิงเฟิงจึงไม่กล้าเอาเปรียบหลิวรูหยันต่อหน้าเธอ เขาจึงมุ่งความสนใจไปที่การกดจุดได้เท่านั้น
ครู่หนึ่ง หลิวรูหยันค่อยๆเปิดตาขึ้น ใบหน้าที่เย้ายวนใจของเธอดูมืดมน
หลิวรูหยันรู้สึกเสียใจมาก
เธอไม่เคยคิดว่า เธอจะถูกหลินซู่ทำให้โกรธมากจนเป็นลม มัน... น่าอายมาก
เธอเป็นอัจฉริยะ แต่เธอจะโมโหหลินซู่มากจนเป็นลมไปได้อย่างไร ?
ในที่สุดเธอก็เข้าใจความรู้สึกของหลินซู่ มันรู้สึกแย่มากกับการที่โกรธมากจนสติหลุดแล้วเป็นลมไป
ถ้าเป็นไปได้ เธอหวังว่าเธอจะไม่เป็นลมอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าหลินซู่ มันน่าอายอย่างมาก
แต่หลังจากการต่อสู้แบบเงียบๆเมื่อกี้ทำให้หลิวรูหยันได้เข้าใจว่า หลินซู่ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา เธอเป็นคนฉลาดพูด
หลิวรูหยันชอบการแข่งขัน ยิ่งฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งเท่าไร เธอก็ยิ่งมีพลังมากขึ้นเท่านั้น
ในขณะนี้เธอได้จำแนกหลินซู่เป็น 'ศัตรู'ของเธอ แต่ไม่เชิงเป็น'คู่แข่งความรัก'อีกด้วย
เธอเป็นเทพธิดาที่มีเสน่ห์ร้อนแรงของเมืองทะเลตะวันออก, หลินซู่เป็นเทพธิดาน้ำแข็ง ไฟและน้ำแข็งไม่สามารถรวมกันได้ พวกเธอต้องสู้กันตลอดไป
"มิสหลิว คุณโอเคมั้ย?"
หลินซู่เทน้ำให้หลิวรูหยันและถามด้วยความห่วงใย
"ขอบคุณ ฉันโอเค ขอบคุณสำหรับความห่วงใย"
หลิวรูหยันจิบน้ำจากถ้วยและพูดด้วยรอยยิ้ม
เธอรู้ว่าหลินซู่เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่ง เธอต้องรับมืออย่างช้าๆ
ผู้หญิงทั้งสองคนมีรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเธอและดูเหมือนเป็นเพื่อนกันแต่ในความเป็นจริงพวกเธอกำลังต่อสู้กันอย่างลับๆ
แม้ว่าทั้งสองคำกล่าวว่ากังวลแต่พวกเธอมีลักษณะที่เย็นยะเยือกในสายตาของพวกเธอ
"ซีอีโอหลิน ฉันจะกลับแล้ว ฉิงเฟิงไปส่งฉันหน่อย"
หลิวรูหยันไม่ต้องการจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป เธอขอให้ฉิงเฟิงออกไปส่งเธอ
"มิสหลิว ฉันจะไปส่งคุณเอง"
หลินซู่ยิ้มและพูดกับหลิวรูหยัน
ไม่มีทางที่เธอจะปล่อยให้ฉิงเฟิงไปส่งหลิวรูหยัน เธอยังคงจำได้อย่างชัดเจนว่าหลิวรูหยันได้จูบฉิงเฟิงครั้งที่แล้วที่เขาไปส่งเธอ
หลินซู่จะไม่ยอมทำผิดพลาดเหมือนเดิม
ผู้หญิงทั้งสองคนนี้ฉลาดมากและพวกเธอไม่ได้กล่าวถึงเรื่องเป็นลมอีกเลย หลังจากที่ทั้งสองได้เป็นลมไปและไม่ต้องการที่จะนำเรื่องน่าอายขึ้นมาพูดแต่ทั้งคู่กำลังวางแผนกับคนฝ่ายในใจ
"ก็ได้ งั้นก็ขอบคุณ ประธานหลิน"
หลิวรูหยันฝ่ามือของเธอออกมาและจับมือของหลินซู่ไว้ เธอกำมือเธอเล็กน้อยขณะที่ส่ายเพื่ออยากจะข่มขู่หลินซู่
มีรอยยิ้มที่บางๆบนใบหน้าที่เย้ายวนใจของเธอ แต่รอยยิ้มนั้นดูเฟค
"เป็นเกียรติของฉันอย่างยิ่งที่ได้ไปส่งมิสหลิว"
หลินซู่ยิ้มและกำมือของเธอด้วย เธอไม่เต็มใจที่จะให้เธอเหนือกว่า
มือหลิวรูหยันและหลินซู่อยู่ด้วยกันและทั้งสองคนก็ปฏิเสธที่จะยอมแพ้ พวกเธอยังคงเพิ่มพลังกับการบีบมืออีกฝ่าย
ในขณะที่หยดเหงื่อปรากฏบนใบหน้าของพวกเธอ มือของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นสีขาวและสั่นเทา อย่างไรก็ตามทั้งคู่ยังคงยึดมั่นอยู่กับมือของอีกฝ่ายและไม่ยอมปล่อยมือ
การต่อสู้กันอย่างเงียบๆระหว่างผู้หญิงนั้นน่ากลัวมาก ฉิงเฟิงกลอกตาของเขาและพูดไม่ออก
เขารู้ว่าถ้าเรื่องนี้ดำเนินต่อไป ทั้งคู่จะหมดสติไปอีกครั้ง
"ประธาน ปล่อยมือเถอะ ถ้าพวกคุณยังคงสู้กันต่อ เลือดจะไม่ไหลเวียนมันไม่ดีสำหรับร่างกาย"
ฉิงเฟิงเดินไปข้างหน้าหลินซู่และขอให้เธอปล่อยมือ
"ทำไมฉันต้องปล่อยมือ เธอสิควรจะต้องเป็นคนปล่อย"
หลินซู่จ้องไปที่ฉิงเฟิงและพูดขึ้น น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและทำให้ฉิงเฟิงพูดไม่ออกอีกครั้ง
เอาล่ะๆ ถ้าคุณปฏิเสธจะปล่อยมือ งั้นฉันก็บอกหลิวรูหยันให้ปล่อยมือแทน
"มิสหลิว โปรดปล่อยมือเถอะ คุณจะหมดสติไปอีกครั้งถ้ายังไม่ปล่อย"
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดอย่างหมดหนทาง
"หืม ทำไมฉันจะต้องเป็นคนที่ปล่อยมือก่อน? เธอควรจะเป็นคนปล่อย"
หลิวรูหยันยิ้มอย่างยั่วยวนใจและไม่ยอมปล่อยมือ
ฉากแปลกๆปรากฏขึ้นภายในออฟฟิศ หลินซู่แล้วหลิวรูหยันบีบมือกันด้วยพลังและตั้งใจจะทำให้อีกฝ่ายร้องขอความเมตตา
โชคดีที่ทั้งสองคนมีพื้นฐานการศึกษาสูง ถ้าพวกเธอเป็นผู้หญิงปากร้าย พวกเธอคงจะเริ่มข่วนหน้าอีกฝ่ายไปแล้ว
ฉิงเฟิงหมดคำพูดและเริ่มหงุดหงิด เมื่อเขาเห็นการต่อสู้แบบเงียบๆระหว่างทั้งสองคนนี้ ทั้งคู่ปฏิเสธที่จะปล่อยมือ
เขารู้ว่าเขาต้องหยุดการต่อสู้ของพวกเธอ ไม่งั้นพวกเธอเป็นลมกันอีกครั้งแน่
ในฐานะชายคนเดียวที่อยู่ใกล้ชิดพวกเธอ ฉิงเฟิงมีหน้าที่แยกคนทั้งสองออก