ตอนที่ 45 มันไม่ใช่ปัญหา
ตอนที่ 45 มันไม่ใช่ปัญหา
"โทรศัพท์ของเธอมันสนุกขนาดนั้นเลย? เธอหัวเราะกับมันทุกวันซ่อนอะไรไว้รึเปล่า?"
ต้มตุ๋นเทียนรู้สึกเบื่อมากเมื่อเขาเห็นหลินฟ่ามองโทรศัพท์แล้วหัวเราะจึงทำให้เขาสงสัยเล็กน้อย
หลินฟ่านมองเขาแล้วถาม "คุณไม่มีโทรศัพท์หรือ?"
หลินฟ่านพูดไม่ออกเมื่อเขาเห็นต้มตุ๋นเทียนหยิบโทรศัพท์โนเกียมาจากกระเป๋า หลินฟ่านจึงกลับไปสนใจโทรศัพท์ของเขาต่อ
คอมเมนต์บน Weibo ทำให้หลินฟ่านอารมณ์ดีราวกับว่าเขาตกปลามาเป็นเวลานานและตอนนี้เหยื่อกำลังมาติดเบ็ดตัวแล้วตัวเล่า
แฟนคลับของเขาบน Wiebo เพิ่มขึ้นมาเป็น 1.2 ล้านคนแล้ว
จากนั้นหลินฟ่านเห็นชายหนุ่มที่แลดูมีพิรุธอยู่นอกร้าน
"น้องชายมานั่งข้างในก่อนไหม?" ต้มตุ๋นเทียนไม่รอให้หลินฟ่านตัดสินใจเขารีบใช้โอกาสนี้เชิญลูกค้าเข้ามา
"เธอจะเอาชาหรือน้ำเปล่า?"
ลู่สือยี่ทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อยจากการต้อนรับของต้มตุ๋นเทียน เขากล่าว "ไม่ๆ..."
"น้องชายมองจากใบหน้าของคุณ ดูเหมือนคุณจะมีปัญหาด้านความรักนะ"
ลู่สือยี่รู้สึกกระวนกระวายใจและเขาต้องการออกจากที่นี่แต่เมื่อเขาได้ยินประโยคนี้เขาก็นั่งลงและฟังอย่างตั้งใจ
หลินฟ่านหัวเราะในใจและยกถ้วยชาขึ้น เขากล่าว "ฉันรู้ถึงชีวิตในอดีตและปัจจุบันของคุณ"
ลู่สือยี่เป็นนักเรียนจากโรงเรียนใกล้ๆ เร็วๆนี้เขากำลังมีปัญหาเนื่องจากเขาทะเลาะกับแฟน
การทะเลาะกันของคู่รักมันเป็นเรื่องปกติและมันง่ายต่อการแก้ไขเพียงแค่หยอดคำหวานๆนิดๆหน่อยๆก็พอ แต่คราวนี้มันเป็นปัญหาใหญ่
"อาจารย์หลินทำนายให้ผมที ผมจะบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง" ลู่สือยี่ต้องการที่จะหาใครสักคนมารับฟังเรื่องนี้
"ไม่เป็นไร ฉันไม่จำเป็นฟังมันหากจะทำนายให้คุณ" หลินฟ่านยิ้มอย่างลึกลับ
"โอเค"
ลู่สือยี่ตะลึงท่าทีสงสัยปรากฏบนใบหน้าของเขา
หลินฟ่านไอเล็กน้อยก่อนจะกล่าว "แฟนของคุณชื่อลู๋ย่าเจี๋ย"
"ว้าว! อาจารย์หลินคุณบอกชื่อแฟนของผมได้!" ลู่สือยี่ตะลึง
"ไม่ ไม่ใช่แฟนของคุณ แต่เป็นอดีตแฟนหวังว่าคุณจะจำมันไว้" หลินฟ่านกล่าว
ลู่สือยี่ก้มศีรษะลงอย่างเชื่องช้าเขาไม่สามารถโต้แย้งได้
"เหตุผลสำหรับเรื่องนี้คือคุณใจแคบเกินไป เรื่องนี้..." หลินฟ่านกำลังพูดแต่ลู่สือยี่หยุดเขา
"อาจารย์หลินอย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย คุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมผมควรจะทำยังไงดี? ผมสำนึกผิดแล้วและผมก็รู้ว่าผมขี้ระแวงเกินไป ผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเธอ เขาแค่ถามความเห็นของเธอตอนเขาซื้อรองเท้าแต่ผมไม่สบายใจเท่าไหร่ดังนั้น..."
ลู่สือยี่รู้สึกเสียใจมากหากเขามีกล่องแพนโดร่าเขาจะกระโดดลงไปเพื่อย้อนเวลากลับและหยุดการระแวงของเขาในครั้งนั้น
หลินฟ่านไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะกลายเป็นกูรูด้านความรัก ชายหนุ่มขอโทษหลายครั้งแต่เธอก็ยังไม่ยกโทษให้มันอาจเกิดขึ้นมากกว่าครั้งหรือสองครั้ง
"คุณไม่ต้องพูดอะไรอีก ฉันรู้ทุกอย่างจากการมองดูคุณ ฉันบอกได้ว่าสายใยระหว่างพวกคุณทั้งสองยังไม่สิ้นสุด ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับคุณ" หลินฟ่านกล่าวอย่างใจเย็น
"ผมควรทำยังไง?" ลู่สือยี่ถามด้วยความเร่งรีบ
จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงคนขายแผงลอยผลไม้ด้านนอก
"เถ้าแก่ ฉันขอทุเรียนสองลูก"
"รับทราบ"
.....
ลู่สือยี่เห็นฉากนี้และเข้าใจในที่สุด เขาตบหน้าอกตัวเองแล้วพูด "อาจารย์หลินผมเข้าใจแล้ว ผมไม่ได้คิดถึงมันได้ยังไงนะ? แฟนของผมชอบทุเรียนและผมจะซื้อทุเรียนไปสองลูกเพื่อขอโทษเธอและเธออาจจะยกโทษให้ผม ขอบคุณมากครับอาจารย์หลิน ขอบคุณครับ"
หลินฟ่านงงงวยแต่เขายังคงโบกมือให้และกล่าว "นี่ไม่ได้เอามาทาน แต่มันเอามาให้คุณใช้คุกเข่า"
(ผู้แปล : ประมาณว่าคุกเข่าบนเปลือกทุเรียนครับ)
ลู่สือยี่รู้สึกมึนเมื่อได้ยินหลินฟ่านกล่าว เขาแตะลงบนหนามของทุเรียนแล้วรีบหดมือ มันเจ็บ...
"ฉันช่วยแก้ปัญหาของคุณแล้ว ไม่ว่าผลงานจะเป็นยังไงตอนนี้มันขึ้นอยู่กับคุณ"
หลินฟ่านได้เห็นทั้งชีวิตของลู่สือยี่แล้ว วิธีการขอโทษแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาในอนาคต แม้ว่าจะดำเนินการล่วงหน้าแต่มันก็ไม่ได้ทำร้ายเขา
"อาจารย์ผมเข้าใจแล้ว ค่าปรึกษาเท่าไหร่ครับ?" ลู่สือยี่ถามอย่างหนักแน่น
"โชคชะตาพาคุณมาถึงที่นี่ คุณคิดว่าคุณค่าของมันมีเท่าไหร่? ทุกอย่างเพียงขึ้นอยู่กับความรู้สึกของคุณ" หลินฟ่านกล่าวราวกับว่าเขาไม่สนใจเรื่องเงิน
ลู่สือยี่หยิบเงินสองร้อยเหรียญมาจากกระเป๋าสตางค์แต่เมื่อเขาเห็นอาจารย์หลินขมวดคิ้วเขาจึงนึกถึงคำพูดของอาจารย์หลินอีกครั้ง
"ให้มากที่สุดหากคิดว่ามันคุ้มค่า..."
"หากใช้เงินเพื่อวัดความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับแฟนมันจะต้องล้ำค่าอย่างยิ่ง"
จากนั้นลู่สือยี่ได้เทเงินทั้งหมดออกมาและเก็บเงินสองเหรียญไว้สำหรับขึ้นรถเมล์สาธารณะ แต่หลังจากเขาคิดสักพักเขาก็ปล่อยมันไปไม่เก็บไว้แม้แต่เหรียญเดียว
"อาจารย์ตราบเท่าที่เธออภัยให้ผมเงินพวกนี้ไม่มีค่าทั้งนั้น ผมให้ทั้งหมดแก่คุณ" ลู่สือยี่กล่าวด้วยความมุ่งมั่น
"มันไม่จำเป็นขนาดนั้นอย่างน้อยคุณควรเก็บค่าโดยสารของคุณเอาไว้" หลินฟ่านผลักเงินห้าเหรียญให้เขา
"มันไม่จำเป็นครับอาจารย์" ลู่สือยี่ตอบ
"เอาล่ะ ไปเถอะ" หลินฟ่านรู้สึกว่ามันไร้ประโยชน์หากจะเถียงกันเรื่องเงิน เขาจึงเก็บเงินทั้งหมดและโบกมือให้
หลังจากลู่สือยี่ออกไป
"เชี่ย เธอเอาไปทั้งหมดจริงๆ" ต้มตุ๋นเทียนกล่าวด้วยความไม่เชื่อ เขาไม่คาดคิดเลยว่าหลินฟ่านจะเลวร้ายกว่าตัวเขาซะอีก
"มันเป็นเรื่องปกติ หากเขาไม่ได้คำแนะนำของฉันเขาจะเสียแฟนของเขาไป จากนั้นเขาจะใช้เงินทั้งหมดไปกับเหล้าเพื่อลบความเศร้าของเขาสุดท้ายเขาจะหยุดลงที่โรงพยาบาล ความจริงเขาต้องจ่ายมากกว่านี้ด้วยซ้ำเพราะถ้าเขาหาแฟนใหม่เขาจะใช้จ่ายมากขึ้น นี่ฉันอุส่าช่วยเขาประหยัดเงินนะ" หลินฟ่านพูดแบบตาไม่กระพริบ
ต้มตุ๋นเทียนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ชั่วครู่และเห็นด้วยกับคำพูดของหลินฟ่าน มันขยายความรู้ของเขา
ในขณะเดียวกันบนเครื่องบินที่กำลังลงจอด...
ชายที่มีผิวบอบบางสวมแว่นกันแดดกำลังรู้สึกกังวล
ชายคนนี้คือหยางเสี่ยวเหลียงที่หล่อเหลาผู้มีฐานแฟนคลับขนาดใหญ่ในวงการบันเทิง
เขาเคยเป็นส่วนหนึ่งของวงบอยแบนด์แต่ตอนนี้เขาถอนตัวออกมา ด้วยรูปลักษณ์ที่ดีของเขา เขาจึงเป็นเจ้าของหัวใจของผู้หญิงจำนวนมาก ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนสาวๆนับไม่ถ้วนก็จะตามเขาไปมันคือแฟนคลับผู้ภักดีของเขา
เขาแสดงหนังไม่กี่เรื่องที่ใช้ทักษะเพียงน้อยนิด เขาเพียงแค่จำบทและไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องการแสดง
ในโลกภายนอกเขามีชื่อเล่นว่า 'คนพิการที่หล่อเหลา'
แต่สำหรับแฟนๆของเขา พวกเธอต่างปกป้องทักษะการแสดงของเขา พวกเธอเชื่อว่าเขาเล่นมันได้ดี
ในตอนนี้หยางเสี่ยวเหลียงรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย เขาหันไปหาตัวแทนและพูด "อาจารย์หลินบน Weibo ทำนายว่าฉันจะถูกทำร้ายและจบลงที่โรงพยาบาล" ในตอนแรกหยางเสี่ยวเหลียงไม่เชื่อ แต่หลังจากที่เห็นว่าการทำนายทั้งหมดเป็นความจริงเขารู้สึกกลัวเล็กน้อย
"เหลียงเหลียงไม่ต้องกังวลทุกอย่างมันเพียงเรื่องหลอกลวง"
"เมื่อคุณออกจากสนามบินผู้จัดงานได้ส่งบอดี้การ์ดมาเป็นจำนวนมากเพื่อความปลอดภัยและจะไม่อนุญาตให้ทุกคนเข้าใกล้" ตัวแทนกล่าว
"มันเยี่ยมมาก..." หยางเสี่ยวเหลียงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ถ้าเขายังถูกทุบตีอีกมันคงเป็นเรื่องน่ากลัวน่าดู
ในสนามบิน
แฟนคลับขนาดใหญ่มารวมตัวกันพวกเธอต่างถือป้ายไฟและร้องตะโกน
"เหลียงเหลียง"
"เหลียงเหลียง"
แฟนคลับบางส่วนถึงกับคุกเข่าลงและร้องไห้แสดงถึงความสุขหลังจากได้เห็นไอดอลที่ชื่นชอบของพวกเธอ 'เหลียงเหลียง'
หยางเสี่ยวเหลียงชอบบรรยากาศแบบนี้ นี่แหละมันคือการต้อนรับของซุปเปอร์สตาร์
แม้แต่ซุปเปอร์สตาร์ที่ยิ่งใหญ่บางคนก็ไม่สามารถเทียบกับเขาได้