ตอนที่ 43 มีพลังมาก!
ตอนที่ 43 มีพลังมาก!
มีผู้คนจำนวนมากกำลังกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
คนที่กำลังเดินผ่านไปต่างตกใจกับฉากที่เห็นในร้าน นี่เป็นการถ่ายหนังใช่ไหม? เขาเอาชนะคนมากกว่าสิบคนด้วยตัวคนเดียวและไม่พูดถึงเรื่องที่เขาทำลายคนเหล่านั้นอย่างสมบูรณ์ในขณะที่ตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บ คนที่นอนอยู่บนพื้นต่างจับไปบนแขนหรือขาของพวกเขาและกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ต้มตุ๋นเทียนถอนหายใจเล็กน้อยและเอาบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าของวัยรุ่นที่ยังอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา เขาก้มศีรษะเล็กน้อยและจุดไฟใส่มันเบาๆ จากนั้นเขาก็สูบมันช้าๆและพ่นควันออกมา
"บุหรี่นี้รสชาติดี" ต้มตุ๋นเทียนปิดตาและพูดอย่างใจเย็น
"บัดซบ เขาเป็นเจ้าของมัน"
หลินฟ่านมองไปที่ต้มตุ๋นเทียนอย่างไม่เชื่อ เขาไม่รู้ว่าต้มตุ๋นเทียนมีด้านนี้อยู่ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้จริงๆ
โดยเฉพาะท่ายืนสูบบุหรี่ด้วยสีหน้าไม่แยแส เขาดูเหมือนผู้เชี่ยวชาญที่โดดเดี่ยว
"แก...พวกแก..." เจิ้งหว่านฉิงมองไปที่ฉากเบื้องหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา
"ฉันจะเอามันไปกับแก!"
เจิ้งหว่านฉิงหวาดกลัวมากและใบหน้าของเธอซีดเซียว แต่เธอพุ่งเข้าใส่หลินฟ่านด้วยท่าทางที่คุกคาม หลินฟ่านหงุดหงิดเล็กน้อยแต่เขาก็เงยหน้าขึ้นอย่างฉับพลันด้วยท่าทางที่โหดเหี้ยมและดูน่ากลัว
"สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร!" (ผู้แปล : มาจากนิยายของกิมย้ง)
*ปัง!*
"จำฉันไว้! ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่ามาดูถูกฉัน" หลินฟ่านกล่าวอย่างใจเย็น
ผู้แพ้อย่างเจิ้งหว่านฉิงนั่งอยู่บนพื้น สายตาที่ดูสับสนของเธอก็กลายเป็นความหวาดกลัว เธอเริ่มร้องไห้ เครื่องสำอางหนาเต๊อะของเธอเริ่มเลอะลงบนใบหน้าและตอนนี้เธอก็ดูเหมือนผี
"ตำรวจมาแล้ว..."
ฝูงชนโดยรอบตะโกนเสียงดัง
"ขอโทษ โปรดยกโทษให้ฉัน"
เมื่อตำรวจกำลังจะปรากฏตัว ต้มตุ๋นเทียนโยนบุหรี่ทิ้งไปทันทีจากนั้นเขาก็ล้มตัวลงบนพื้นและกรีดร้องออกมาขณะที่เขากอดต้นขาเอาไว้
"ช่วยด้วย! พวกมาเฟียตีฉัน!"
"ขาของฉันมือของฉันหัก...มันหักแล้ว..."
หลินฟ่านมองปฏิกิริยาของต้มตุ๋นเทียนและตะลึงอย่างสมบูรณ์ ราวกับว่าใบหน้าของเขามีคำว่า 'ความชื่นชม' เขียนไว้
"ฉันกลัว!"
จากนั้นหลินฟ่านก็ทำตาม เขานอนลงบนพื้นและแสร้งทำเป็นว่าได้รับบาดเจ็บ
"บัดซบ"
อู๋เป่าจิงมองสิ่งที่เกิดขึ้นและสบถอย่างหยาบคาย คนเหล่านี้ไร้มนุษยธรรมพวกเขาต่างหากที่ต้องร้องโอดครวญ มีอะไรผิดปกติกับพวกมัน?
หลิวเสี่ยวเทียนได้รับคำชมเชยจากหัวหน้าของเขาในวันนี้และเขากำลังอารมณ์ดี เขารีบมาที่นี่เมื่อได้ยินว่ามีการต่อสู้เกิดขึ้น เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเขาตกใจมาก เขาจึงรีบวิ่งไปข้างหน้าและถาม "เถ้าแก่น้อย เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?"
หลินฟ่านกำลังกรีดร้องและตะโกนแต่เมื่อเขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของหัวหน้าหลิว ทำให้เขามีความสุข
โอ้! ไม่เลวเป็นคนรู้จัก
"หัวหน้าหลิวคนผิดกฏหมายเหล่านี้มาหาผมที่ร้านและทำร้ายผมกับลูกจ้าง" หลินฟ่านสวมบทบาทเป็นผู้พูด
"เจ้าหน้าที่ตำรวจ คนเหล่านี้จองหองและอวดดี พวกมันหน้าด้านมาข่มขู่ชายชราเช่นฉันตอนกลางวันแสกๆ ในโลกนี้ยังมีกฏหมายอยู่หรือเปล่า?" ต้มตุ๋นเทียนตอบอย่างชาญฉลาดเพราะเขามีประสบการณ์มากมายในสถานการณ์เช่นนี้
หลิวเสี่ยวเทียนมองไปที่กลุ่มคนและรู้สึกงงงวยเช่นกัน เขาไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งเขาได้เห็นอู๋เป่าจิง
"อู๋เป่าจิง แกมาทำอะไรที่นี่? คราวนี้แกกำลังทำร้ายประชาชนบริสุทธิ์ในที่สาธารณะ แกตั้งใจกระตุ้นพวกเรา?" หลิวเสี่ยวเทียนคุ้นเคยกับอู๋เป่าจิง
เมื่อเขายังคงเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจเขารู้เรื่องชายคนนี้ อู๋เป่าจิงและคนของมันทำสิ่งเลวร้ายมากมาย ตอนนี้หลิวเสี่ยวเทียนกลายเป็นหัวหน้าทีมของกองกำลังตำรวจแล้ว เขาอยากจะสั่งสอนบทเรียนแก่พวกมัน
"หัวหน้าหลิว พวกเขาใส่ร้ายเรา..." อู๋เป่าจิงร้องไห้ พวกเรายังไม่ได้ตีพวกเขาแต่เป็นพวกเขาที่ทำร้ายเรา พวกเราไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้
"พวกแกไม่ต้องพูดอะไรอีก จับกุมพวกมันให้หมด" หลิวเสี่ยวเทียนโบกมือและเดินมาหาหลินฟ่าน "เถ้าแก่น้อยโปรดตามฉันมาพร้อมกับลูกจ้างของคุณ ไม่ต้องกังวลเราจะให้คำตอบที่น่าพอใจแน่นอน"
หลิวเสี่ยวเทียนยังคงสงสัยเรื่องที่เกิดขึ้นเล็กน้อย เขาสามารถบอกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ขึ้นอยู่กับการประเมิณอาการบาดเจ็บของพวกเขา แต่อู๋เป่าจิงเป็นหัวหน้าแก๊งใต้ดินนั่นเป็นความจริง
เสียงร้องไห้ของใครบางคนดังขึ้น วัยรุ่นที่ดูอวดดีที่โดนโจมตีโดยฝ่าเท้าไร้เงาของหลินฟ่าน ตอนนี้เขาแทบพูดไม่ได้เพราะใบหน้าที่บวมเปล่งของเขา เขาทำได้แค่ร้องไห้เท่านั้น
ณ สถานีตำรวจ
เรื่องนี้ถูกจัดการโดยหลิวเสี่ยวเทียน ผลลัพธ์ก็ถูกกำหนดออกมาอย่างรวดเร็ว อู๋เป่าจิงและแก๊งของเขาเป็นคนเริ่มการต่อสู้และได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ตำรวจยังพบมีดยาวและของมีคมจำนวนหกชิ้น สถานการณ์ดูร้ายแรง
หลินฟ่านไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆแต่มือและเท้าของต้มตุ๋นเทียนคลาดเคลื่อนอย่างลึกลับ เมื่อพวกเขาถามว่าต้องการดำเนินคดีต่อหรือไม่ อู๋เป่าจิงก็อ้อนวอนด้วยความกลัว
สำหรับเหตุการณ์นี้มันจบได้ด้วยการชดเชยเงินเป็นการส่วนตัว แต่หากพวกเขาดำเนินคดีต่อไปพวกเขาอาจถูกจำคุกเป็นเวลาสามเดือนถึงหนึ่งปี นอกจากนี้เขายังมีคดีตกค้างอีกจำนวนมากซึ่งมันจะทำให้เขาต้องรับโทษไปอีกนาน
แต่หลินฟ่านเป็นคนใจดี เขาไม่ได้ติดตามเรื่องนี้อีกและตั้งใจจะจบเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว
อันที่จริงมันเป็นหลิวเสี่ยวเทียนที่แนะนำให้หลินฟ่านเลือกให้มีการชดเชยเป็นการส่วนตัว เพราะอู๋เป่าจิงอยู่แถวนี้มาเป็นเวลานาน เขาสามารถหาคนที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือเขาได้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำสิ่งต่างๆเพื่อเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสองฝ่าย
สุดท้ายหลินฟ่านได้รับเงินสองหมื่นเหรียญและหลิวเสี่ยวเทียนยังลงโทษอู๋เป่าจิง มันเป็นคำเตือนที่มอบให้เขาเพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำอะไรเกินเลย
ในหัวใจของอู๋เป่าจิง เขารู้สึกว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ พวกเขาเป็นเจ้าทุกข์ชัดๆ แต่เพราะเขามีประวัติอาชญากรรมที่ไม่ดี
หลิวเสี่ยวเทียนส่งหลินฟ่านไปที่ประตูทางเข้าและกล่าว "เถ้าแก่น้อย เบื้องบนของฉันฝากฉันมาขอบคุณสำหรับประโยคที่คุณเขียนให้เขา"
"มันดีแล้ว หัวหน้าหลิวผมจะไปแล้ว ขอบคุณที่ช่วยเหลือพวกผมในวันนี้" หลินฟ่านตอบ
"หน้าที่ของฉันคือดูแลประชาชน อย่าพูดถึงมันเลย"
ขณะที่พวกเขากำลังเดินทางกลับ...
"ต้มตุ๋นเทียน คุณกล้าหาญมากทำไมคุณไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน?" หลินฟ่านรู้สึกตกใจกับความแข็งแกร่งของต้มตุ๋นเทียน
ก่อนหน้านี้หลินฟ่านเคยคำนวณโชคชะตาของต้มตุ๋นเทียนมาก่อนแต่เขาก็ไม่ได้สังเกตมัน
ตอนนี้หลินฟ่านคำนวณอีกครั้ง เขาตระหนักว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภายหลังของชีวิตเขา ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาไม่ได้สนใจมัน
"มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ" ต้มตุ๋นเทียนกล่าวอย่างใจเย็นและจากนั้นเขาก็เห็นธนบัตรสีแดงบนมือของหลินฟ่านเขากล่าว "วันนี้ฉันช่วยเธอไปมาก เธอเห็นสองหมื่น..."
ต้มตุ๋นเทียนถูมือไปมา เขาอธิบายว่าเขาทำงานอย่างหนักและเขาสมควรได้รับส่วนแบ่งของเงิน
"แน่นอน ถ้าไม่ใช่เพราะคุณฉันอาจจะตายวันนี้ แต่คุณก็เห็นตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเราต้องใช้เงินจำนวนมากในอนาคต ดังนั้นฉันจะ...ให้คุณสองพันเหรียญไปก่อน สำหรับเงินที่เหลือ ฉันจะรวมให้กับโบนัสปลายปีของคุณ" หลินฟ่านหยิบเงินสองพันเหรียญออกมาอย่างปวดร้าวและมอบมันให้ต้มตุ๋นเทียน
หลังจากให้เงินกับต้มตุ๋นเทียนแล้ว หลินฟ่านไม่ให้โอกาสต้มตุ๋นเทียนต่อรอง เขารีบเปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็ว
"ต้มตุ๋นเทียนเมื่อกี้คุณทำยังไงกับแขนขาของคุณ? มันเหลือเชื่อมาก"
"ฮ่าๆ มันเป็นเทคนิคเล็กน้อย"
"นั่น..."
"..."
ค่อยๆเดินต่อไปเรื่อยๆ หลินฟ่านมีความสุขที่เขาเปลี่ยนหัวข้อได้สำเร็จ