ตอนที่แล้วChapter 137: พบเพื่อนเก่าในเมืองที่ต่างออกไป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 139: เควสที่ขัดแย้ง

Chapter 138: ไอ้อันธพาลที่น่ารังเกียจ


Chapter 138: ไอ้อันธพาลที่น่ารังเกียจ

“มึงคือใครวะ…”ทุกคนที่อยู่ที่นี่นั้นมีระดับ 20 ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นผู้เชี่ยวชาญกันทั้งหมด เมื่อเห็นหมิงตู่ทำตัวไม่มีเหตุผล นักธนูก็หันกลับมาด่าเขา

“ตึ้ง!”ก่อนที่นักธนูอันน่าสงสารจะพูดจบประโยค แสงสายฟ้าก็ฟาดเข้าใส่นักธนูและเปลี่ยนเขากลายเป็นเถ้าถ่านในทันที

“ไปทางนี้เถอะ เฒ่ากระทิง…”หมิงตู่ทำท่าให้กับหวังหยู่ให้เดินมา

เมื่อเห็นฉากนี้ หวังหยู่ก็สั่นอย่างช่วยไม่ได้ ดังนั้นนี่คือเหตุผลที่หมิงตู่นั้นทำเควสล่าค่าหัวอยู่ตลอดๆ....พร้อมกับนิสัยของเขาที่จะเพิ่มแต้มสังหารในทุกๆอย่าง มิฉะนั้นละก็...

การโจมตีเพียงหนึ่งครั้งของหมิงตู่ทำให้ผู้เล่นที่อยู่ในคิวมึนงงกันทั้งหมด

ผู้เล่นทุกที่อยู่ในฐานทัพค่ายนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในทางของตัวเอง ตั้งแต่ที่พวกเขานั้นเป็นคนกลุ่มแรกที่มาถึงระดับ 20 ไม่สำคัญว่าพวกเขานั้นมาจากไหน พวกเขานั้นก็เป็นสัตว์ประหลาดที่อยู่ระดับสูงในบอร์ดจัดอันดับในเมืองและเขตของพวกเขา บางคนของพวกเขานั้นเป็นอันธพาลในเมืองของตัวเองอีกด้วย แต่เมื่อพวกเขาพบการกระทำอันไร้เหตุผลของหวังหยู่นั้น

ทำให้ผู้เล่นพวกนี้ตกตะลึงมากที่สุดก็คือพลังโจมตีเวทย์มนต์อันสูงส่งของหมิงตู่ แม้ว่านักธนูนั้นจะเป็นอาชีพที่มีพลังชีวิตที่ต่ำ เขาก็ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ 20 ความจริงที่หมิงตู่นั้นมีพลังโจมตีที่เพียงพอในการฆ่าเขาเพียงการโจมตีครั้งเดียวนั้นน่าหวาดหวั่นมาก

เมื่อหวังหยู่พบกับหมิงตู่ในโรงเตี๊ยมก่อนหน้านี้ เขานั้นปลดผ้าคลุมของเขาออก ในจุดนี้นี่เอง ตราหยินหยางบนหน้าอกก็เป็นที่ดึงดูดสายตาอย่างมาก

“นิกายซวนเฉิน!”ผู้เล่นล้อมรอบหน้าซีดลงในทันที เมื่อพวกเขาตระหนักได้ว่ากิลด์ที่หวังหยู่และหมิงตู่นั้นอยู่คือกิลด์ไหน ถ้านักต่อสู้ที่อยู่ด้านหน้าพวกเขานั้นเป็นเทพเจ้ากระทิงเหล็กละ??? ผู้เล่นพวกนี้ที่จ้องไปที่หวังหยู่ก่อนหน้านี้รีบก้มหัวของพวกเขาลงด้วยความหวาดกลัว เมื่อคิดว่าเขานั้นยั่วยุหวังหยู่เข้า

ผู้เล่นที่แข็งแกร่งนั้นเข้าใจถึงแนวคิดที่เป็นการสงวนตัวเองมากกว่าคนอื่น ถึงแม้ว่าความสำเร็จส่วนใหญ่ของนิกายซวนเฉินนั้นจะปรากฏขึ้นในเว็บบอร์ด แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่ยืนยันข่าวลือในตอนนี้ สิ่งที่พวกเขารู้อย่างแน่นอนก็คือพลังโจมตีเวทย์ของหมิงตู่นั้นสูงอย่างมาก

หลังจากเดินผ่านผู้เล่นส่วนมากแล้ว หวังหยู่และหมิงตู่ก็พบว่าพวกเขานั้นอยู่ด้านหน้าของนักเวทย์กฏหมายฮูเบิร์ต ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อผู้เล่นสี่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังฮูเบิร์ต เห็นหวังหยู่เข้า พวกเขาก็มีการแสดงออกที่กราดเกรี้ยวขึ้นกันทั้งหมด

“เด็กๆที่น่ารักของฉัน ในที่สุดนายก็มาถึง! แผ่นดินแม่จำเป็นต้องการความช่วยเหลือของนาย!”ฮูเบิร์ตร้องโหยหวนอย่างเว่อวังเมื่อเขาเห็นหมิงตู่

“ท่านลอร์ดฮูเบิร์ตอันทรงเกียรติ มีอะไรให้ผมรับใช้ท่านหรือไม่ครับ?”หมิงตู่อ่านสคริปต์อย่างเชื่อฟัง

“มันไม่ใช่การรับใช้ฉัน แต่มันเป็นการรับใช้แผ่นดินแม่ต่างหาก! ฉันเพียงแค่ต้องการคำขอให้นายช่วยส่งเสบียงไปยังแถวหน้า อย่างไรก็ตาม มันมีการโจมตีเกิดขึ้นกับมหาโบสถ์ในเมืองวาติกันเมื่อวานนี้! พวกเราเชื่อว่ามันเกิดจากกองกำลังแห่งความมืด ด้วยเหตุนี้นี่เอง โบถส์แห่งแสงจึงสั่งให้พวกเราทั้งสี่ส่งไอเทมไปยังค่ายอัศวินค่ายหนึ่ง นายต้องการที่จะช่วยเหลือพวกเราไหม?”

“ลอร์ดฮูเบิร์ต กองกำลังที่แถวหน้านั้นกำลังเสี่ยงชีวิตของพวกเขาเพื่อประชาชนของประเทศชาติอันยิ่งใหญ่ของพวกเรา! แล้วผมจะหลบหนีอย่างขายขี้หน้าจากการช่วยพวกเขาได้ยังไงกัน? ได้โปรด ให้ผมส่งเสบียงไปยังแถวหน้าด้วยเถอะครับ!”หมิงตู่ประกาศอย่างเต็มไปด้วยอารมณ์

เควสทั้งคู่นั้นเป็นเควสคุ้มครองกันทั้งคู่อย่างไรก็ตาม หมิงตู่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าการช่วยเหลือโบสถ์แห่งแสงนั้นจะปลอดภัยหรือให้ผลประโยชน์กับเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการที่จะรับมัน

“เด็กที่น่ารักของฉัน ฉันเข้าใจว่านายนั้นมีเจตนาที่ดี อย่างไรก็ตาม เควสของโบสถ์แห่งแสงในครั้งนี้มันไม่ได้เล็กเลย! มันมีรางวัลเพิ่มเติมถ้านายทำเควสของมันได้สำเร็จ!”ฮูเบิร์ตหัวเราะเบาๆ

“โอ้? โบถส์แห่งแสงนั้นเป็นผู้ติดตามของพระเจ้าที่แท้จริง ดังนั้นการช่วยเหลือพวกเขานั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ....ท่านลอร์ดนั้นเป็นท่านผู้นำที่ยอดเยี่ยม…”หมิงตู่ตอบกลับอย่างหน้าด้าน

เมื่อเห็นการพูดคุยของหมิงตู่กับฮูเบิร์ตมันก็ทำให้หวังหยู่เจ็บปวดอย่างแท้จริง หวังหยู่คิดว่าเขานั้นรู้วิธีจัดการกับ NPC อยู่เสมอๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เห็นการกระทำของหมิงตู่แล้ว ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าผู้เล่นที่ ‘แท้จริง’ นั้นเป็นยังไง

หวังหยู่สามารถทำได้เพียงมั่นใจว่าเขานั้นไม่ได้โดนโกงโดย NPC ในอีกทางหนึ่ง หมิงตู่สามารถที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าหลังจากที่เกิดการต่อรองขึ้น....มันจะต้องมีคนที่สูงยิ่งกว่าอยู่ในโลกเสมอๆ...

หลังจากหมิงตู่รับเควสได้สำเร็จ เขาและหวังหยู่ก็เดินไปด้านหน้าผู้เล่นทั้งสี่คน การแสดงออกบนใบหน้าของผู้เล่นทั้งสี่คนนั้นน่าเกลียดอย่างไม่น่าเชื่อและเหมือนกับว่าพวกเขาต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะพูดมันออกมา

ผู้เล่นทั้งสี่คนนี้ก็คือสี่ลูกบอลศักดิ์สิทธิ์ของเมืองวาติกัน เนื่องจากว่ากิลด์รากจักรพรรดิไม่สามารถที่จะจับกุมหวังหยู่ได้ ผู้เล่นทั้งสี่ก็ถูกส่งมาที่นี่เพื่อทำเควสชดเชยเป็นบทลงโทษ

เมื่อพวกเขาทั้งสี่คนเห็นหวังหยู่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะกราดเกรี้ยวอย่างมาก มันก็ไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาสามารถทำได้ พวกเขานั้นไม่ได้มีกิลด์อยู่กับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงยืนก้มอย่างหวาดกลัวที่จะเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญแบบหวังหยู่

เมื่อถูกจ้องโดยผู้เล่นทั้งสี่อย่างฉับพลันก็ทำให้หวังหยู่รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยและเขาก็ถามขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “พวกนายทั้งสี่คน...ผมเคยรู้จักพวกนายมาก่อนหรือเปล่า?”

ทันทีที่หวังหยู่พูดคำนั้นออกมา ทั้งสี่ก็เกือบจะร้องไห้ออกมาและก็คิดอย่างเงียบงัน “ไอ้เย็..แม่มึงเอ้ย! มึงไม่สามารถที่จะจดจำศัตรูของมึงได้ด้วยเรอะ??”

“ใช่...พวกนายทั้งสี่นั้นมีหน้าตาคุ้นๆจังแหะ…”ตั้งแต่ที่เขาไม่รู้ว่าทั้งสี่คนนั้นมีท่าทางเศร้าโศรกมากขึ้นทำไมกันนั้นเอง หวังหยู่ก็พึมพำ

“คุ้นๆ….”เมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ พวกเขาทั้งสี่คนก็รู้สึกเหมือนกับหัวใจของพวกเขานั้นถูกฉีกกระชากและเริ่มที่จะร้องไห้ออกมาด้วยความกราดเกรี้ยว

ถึงแม้ว่าทั้งสี่คนจะพิจารณาหวังหยู่ว่าเป็นศัตรูของพวกเขา เขาก็จำพวกเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ...

“ทำไมพวกนายร้องไห้ออกมากัน? พวกเราเคยพบกันมาก่อนงั้นเหรอ?”

“พวกเราเคยพบกันมาก่อน! มันเกิดขึ้นเมื่อวานในเมืองวาติกัน…”เอกรังสีรุ่งอรุณกัดฟันพูดออกมา

“โอ้! โอเค ผมจำได้แล้ว! ผมเคยฆ่านายมาก่อน!”หวังหยู่ตอบกลับหลังจากจ้องไปที่เอกรังสีรุ่งอรุณอยู่หลายนาที เมื่อมองไปอีกสามคน หวังหยู่ก็พูดต่อ “ผมก็เคยฆ่าพวกนายสามคนมาก่อนด้วยเช่นกัน!”

“…”ทั้งสี่คนและหมิงตู่ก็เกิดความสงสัยว่าหวังหยู่นั้นเคยเรียนวิธีการพูดคุยกับผู้คนมาก่อนหรือเปล่ากันแน่

“เฒ่ากระทิง มือนายเปื้อนเลือดขนาดไหนกันแน่? พวกเราพึ่งจะพบกับตัวตลกสี่คนและพวกเขานั้นก็วิญญาณแทบจะหลุดไปแล้ว….”หมิงตู่ล้อเล่น

“พวกเขานั้นเป็นคนนำกิลด์ทั้งกิลด์มาล้อมรอบผมเมื่อวานนี้!”หวังหยู่พยายามที่จะป้องกันตัวเอง

“มันเป็นแบบนี้นี่เอง!”หมิงตู่หัวเราะแล้วเขาก็จ้องไปที่คนทั้งสี่ ในสายตาของเขาแล้ว พวกเขาทั้งสี่ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากซากศพ

เมื่อทั้งสี่คนได้ยินหวังหยู่นำเรื่องเก่ามาพูด พวกเขาก็ตื่นตระหนกจนถึงจุดที่พวกเขาหลบอยู่ด้านหลังของฮูเบิร์ต ทุกคนในพวกเขานั้นเคยได้ลิ้มรสหมัดและพลองยาวของหวังหยู่เมื่อวานนี้มาแล้ว สำหรับคนธรรมดาแบบพวกเขาแล้ว ศิลปะการต่อสู้ของหวังหยู่นั้นทำให้เกิดเงาขึ้นในหัวใจของพวกเขาแล้ว

“เทพเจ้ากระทิงเหล็กที่ยอดเยี่ยม พวกเราแค่มาทำเควสของพวกเรา...พวกเราไม่ได้ยั่วยุคุณจริงๆ…”เอกรังสีรุ่งอรุณพูดติดอ่าง

“โอ้ ผมรู้! พูดตามจริงแล้ว ผมไม่ได้สนใจมันเลยแม้แต่น้อย!”หวังหยู่โบกมืออย่างไม่ใส่ใจเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขานั้นไม่ได้สนใจอุบัติเหตุเมื่อวานนี้ในหัวใจของเขา ถ้ามันไม่ใช่เพราะการช่วยเหลือของกิลด์รากจักรพรรดิ หวังหยู่ก็ไม่สามารถที่จะหลบหนีได้อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม การแสดงออกที่เฉยเมยของหวังหยู่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ยิ่งทำให้เอกรังสีรุ่งอรุณกังวลมากขึ้นไปอีก ในช่วงเวลานี้ในโลก การช่วยผู้หญิงแก่ข้ามถนนนั้นก็สามารถที่จะทำให้คนนั้นถูกแบล็คเมล์และโดนกรรโชกทรัพย์ได้แล้ว! นอกจากนี้ เอกรังสีรุ่งอรุณก็ไม่เชื่อว่าหวังหยู่นั้นจะปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ และเขาก็ระแวงตัวอย่างมาก

“เหอะ พวกนายวางใจได้! น้องกระทิงนั้นเป็นชายที่พูดแล้วไม่คืนคำ! อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่นายจำเป็นต้องใช้การช่วยเหลือของฉันในการทำเควสให้สำเร็จ นายก็ควรที่จะเตรียมตัวมีสิ่งเพิ่มเติมบางอย่าง..”หมิงตู่หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย

“ไม่ใช่ว่าเควสของนายก็เป็นเควสระดับ 20งั้นเหรอ? ระบบก็ให้รางวัลกับนายแล้วนะ…”นายน้อยปักกิ่งตะโกนอย่างโกรธเคือง

“มันอาจจะเป็นเรื่องจริง แต่ถ้าฉันตัดสินใจที่จะสร้างปัญหาละ? ยังไงมันก็เป็นแค่เกมๆหนึ่ง ฉันมาที่นี่เพื่อเล่นสนุกอยู่แล้ว! ใช่ไหม น้องกระทิง?”หมิงตู่พูดต่อ

หวังหยู่ก็จ้องกลับไปที่หมิงตู่อย่างเงียบงันกลับไป เขารู้ว่าในครั้งนี้ ทั้งสี่คน สุดท้ายแล้วพวกเขาก็จะต้องจ่ายให้กับหมิงตู่อยู่ดี..

หมิงตู่และไร้ความกลัวนั้นเป็นคนที่แตกต่างออกไปเมื่อพวกเขานั้นหลอกผู้คน ไร้ความกลัวนั้นมีแผนที่เปิดกว้างมากมายเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูและก็ผลักดันพวกเขาให้ยอมรับเงื่อนไข ไม่ว่ามันจะเป็นยังไงก็ตาม

ในอีกทางหนึ่ง หมิงตู่นั้นเป็นยิ่งกว่าเศษขยะที่น่ารังเกียจเสียอีก....ไม่สำคัญว่ามันจะมีเล่ห์เหลี่ยมและหน้าด้านกับการกระทำที่เขาทำเท่าไหร่ ตราบเท่าที่มันมีผลประโยชน์มาข้องเกี่ยว เขาก็ยังคงทำมันอีก

“ไอ้หน้าด้าน…”

“คิ คิ คิ! ชมฉันให้มากกว่านี้! ฮ่าๆๆๆ!”หมิงตู่หัวเราะออมกาอย่างชั่วร้าย ระดับการด่านี้มันไร้ประโยชน์มากสำหรับเขา…

หลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เอกรังสีรุ่งอรุณก็ตอบกลับอย่างมั่นใจ “ก็ได้ ถ้างั้น! ตราบเท่าที่ภารกิจของเราสำเร็จ หลังจากนั้นพวกเราก็จะให้พวกนายคนละ 100 ทอง!”ถึงแม้ว่าทั้งสี่คนนั้นจะขาดแคลนในหลายๆสิ่ง สิ่งที่พวกเขาไม่ขาดนั้นก็คือเงิน! ร้านมือสองนั้นมีเงินหมื่นทองขายไว้อยู่ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องเล็กน้อยในการใช้เงินจริงแลกเปลี่ยนเพื่อมัน

“เฮะ เฮะ เฮะ...ฉันชอบที่จะต่อรองกับคนฉลาดแบบนาย!”หมิงตู่ยิ้ม

“ลืมมันไปซะ นายไม่จำเป็นต้องจ่ายให้ผม!”หวังหยู่พูดขึ้นมาอย่างฉับพลัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด