Chapter 136: เมืองแห่งบาป
Chapter 136: เมืองแห่งบาป
หลังจากออกมาจากมินิดันเจี้ยน ความผิดหวังของซุสก็ไม่สามารถเทียบได้ เขานั้นเป็นบอสช่วงท้ายเกม และเขานั้นไม่ได้แตะแม้กระทั่งเส้นผมของหวังหยู่...
“ท่านลอร์ดนักล่ามังกร ผมรู้สึกโดนโกงโคตรๆ…”ซุสบ่นพึมพำ มันกลับกลายเป็นว่าเขานั้นรู้สึกถึงการแข่งขันกับคู่ต่อสู้ด้วยเช่นกัน
“มันแค่ฟลุคหน่า…แผนของคุณนั้นค่อนข้างชาญฉลาด แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ…”หวังหยู่หัวเราะเบาๆออกมา
หวังหยู่เข้าใจถึงความแข็งแกร่งของตัวเองเป็นอย่างดีและคิดว่าความแข็งแกร่งของซุสนั้นสูงมากด้วยเช่นกัน ถ้าเขานั้นไม่ได้ลังเลก่อนหน้านี้ละก็หวังหยู่อาจจะไม่ชนะก็ได้
เมื่อซุสนั้นลดระดับตัวเขาลงเหลือระดับ 35 เขาก็ลดพลังชีวิตและมานาให้ต่ำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อมั่นใจว่าเขาอยู่ในระดับที่ดีที่สุดก่อนที่จะเริ่มต่อสู้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับนักต่อสู้ที่อ่อนแอที่สุดนั้นมันไม่จำเป็นที่จะต้องทำแบบนั้น
ในจุดนี้ หวังหยู่มีพลังชีวิตประมาณหนึ่งพันหน่วย แม้กระทั่งการโจมตีธรรมดาของซุสนั้นก็เพียงพอที่จะฆ่าเขาแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในระดับที่สองก็ตามที การโจมตีมั่วซั่วก็เพียงพอที่จะฆ่าหวังหยู่แล้ว!
“อ๊า….ผมนี่โง่เง่าจริงๆ…ทางที่ดีท่านไม่ควรที่จะบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้!”ซุสบ่น การแสดงออกของเขานั้นซีดเซียวมาก
ในสุดท้ายแล้ว เขานั้นก็ยังเป็นหนึ่งในบอสช่วงท้ายเกม แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพที่อ่อนแอลงมา การถูกฆ่าโดยผู้เล่นที่มีระดับต่ำกว่าเขา 15 ระดับนั้นก็ยังเป็นเรื่องที่น่าอายสำหรับเขา
“ผมจะได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้ไหม?”หวังหยู่ถามพร้อมกับรอยยิ้มอันชั่วร้าย ถึงแม้ว่าหวังหยู่นั้นจะเป็นคนที่มีจิตใจกว้างขวาง เขานั้นก็ใช้เวลาจำนวนมากอยู่กับสมาชิกคนอื่นของนิกายซวนเฉินและเริ่มที่จะคิดเหมือนกับพวกเขา…
{แจ้งเตือนระบบ : +50 ความคุ้นเคยกับเผ่าพันธุ์ไททัน ไททันจะปฏิบัติกับคุณดั่งเพื่อน!}
“แค่นี้นี่นะ? ไม่ใช่ว่านายเป็นบอสช่วงท้ายเกมงั้นเหรอ?”หวังหยู่ถามอย่างผิดหวัง
“มันมีใครบางคนมองดูพวกเราอยู่…”ซุสยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้
“อึ้ก…”บอสตัวนี้รู้กระทั่งว่ามีใครบางคนกำลังจับตาดูเขาอยู่....สติปัญญาของมันนั้นไม่สามารถที่จะดูถูกได้จริงๆ..
“ก็ได้ ถ้างั้น ส่งไอเทมเควสมาให้ผมเถอะ…”หวังหยู่ถอนหายใจ
ไม่สำคัญว่าซุสนั้นโหดมากแค่ไหน เขาก็ยังเป็นเพียงแค่เอไอ ถ้านักออกแบบเกมค้นพบว่าเขาทำลายกฏ พวกเขาก็จะลบล้างตัวตนเขาทิ้งไป…
“ขอบคุณมาก ท่านนักล่ามังกรอันทรงเกียรติ”ซุสหัวเราะเบาๆแล้วเขาก็เอาค้อนโยเนียนร์และหัวใจแห่งไททันออกมา
{หัวใจแห่งไททัน} : ไอเทมเควส หัวใจตนแรกของไททันที่ยังคงเต้นอยู่อย่างแข็งแกร่ง แม้ว่ามันจะตายไปแล้ว
{ค้อนโยเนียร์ (ค้อน)(ตำนาน)}
พลังโจมตีกายภาพ : 1780 – 3310
พลังโจมตีเวทย์มนต์ : 1780 – 3310
+181 ความแข็งแกร่ง
+272 ความอดทน
+90 ระเบิด
+152 กระจาย
ผลกระทบ :
[การตัดสินแห่งสายฟ้า] (ใช้งาน) : ทำความเสียหาย 250% ของพลังโจมตีเวทย์ผู้ใช้ ทำความเสียหายเวทย์ใส่ศัตรูทั้งหมดในรัศมีห้าเมตรรอบตัวผู้ใช้
[จิตวิญญาณสายฟ้า] (ติดตัว) : การโจมตีธรรมดานั้นจะทำความเสียหายสายฟ้าและทำให้เป้าหมายนั้นชาเป็นระยะเวลาสักครู่หนึ่ง
[พลังกระแทกแห่งสายฟ้า] (ใช้งาน) : ปิดกั้นผู้ใช้เป็นเวลาสามวินาทีและเทเลพอร์ตผู้ใช้ไปยังตำแหน่งไหนก็ได้ในรัศมีสิบสองเมตรของตำแหน่งเดิมของผู้ใช้
[ความกราดเกรี้ยวแห่งสรวงสวรรค์] (ใช้งาน) : เรียกสายฟ้าลงมาโจมตีใส่ศัตรูที่อยู่ในพื้นที่สี่เมตรรอบตัวผู้ใช้ ทำความเสียหายเท่ากับพลังโจมตีเวทย์ของผู้ใช้ 250 % และทำความเสียหายเป็นเวทย์
[แรงสั่นสะเทือนอันล้างผลาญ] (ใช้งาน) : ทุบค้อนศักดิ์สิทธิ์ลงบนพื้นดินและทำความเสียหาย 300% ของพลังโจมตีกายภาพของผู้ใช้ และทำความเสียหายกายภาพกับศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในระยะสองเมตรรอบตัวผู้ใช้
[ค้อนแห่งไกอา] (ใช้งาน) : เก็บพลังไว้สามวินาทีและหลังจากนั้นก็ทำความเสียหายกายภาพเท่ากับ 350% ของผู้ใช้ และทำความเสียหายกาพใส่ศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่สิบเมตรรอบตัวผู้ใช้
ความต้องการของระดับ: 1
ความต้องการของอาชีพ: ทุกอาชีพ
“เหี้..! มันเป็นอาวุธระดับตำนาน!”เมื่อเขาเห็นค่าสถานะของค้อนโยเนียร์ หวังหยู่ก็เริ่มสั่นสะท้าน ถึงแม้ว่าหวังหยู่จะไม่สามารถประเมินคุณภาพของอุปกรณ์ของตัวเองได้ เขาก็จะสนใจมันเมื่อเขาเห็นระดับของมัน
ถึงแม้ว่าฟ้าร้องของช่างตีเหล็กศักดิ์สิทธิ์ซิมบ้าและค้อนโยเนียร์นั้นจะเป็นค้อนเหมือนกันทั้งคู่ ความแตกต่างของมันก็เหมือนกับฟ้ากับเหว…ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่น่าประทับใจมากกว่าค้อนนี่ก็คือเทียที่ต้องการใช้อาวุธระดับตำนานใช้สำหรับตีเหล็ก….
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หวังหยู่ก็ลองพยายามที่จะสวมมันดู
{แจ้งเตือนระบบ : คุณไม่สามารถสวมไอเทมเควสได้}
“อ๊า...มันน่าเศร้าอะไรเช่นนี้…”พร้อมกับการถอนหายใจออกมาเบาๆ หวังหยู่ก็เก็บค้อนโยเนียร์ลงในช่องเก็บของของเขา หลังจากบอกลาซุส หวังหยู่ก็เดินไปร้านช่างตีเหล็ก
“ท่านนักล่ามังกรผู้ยอดเยี่ยม ท่านสามารถยืมค้อนโยเนียร์มาได้ไหม?”เทียร้องเสียงแหลมออกมาอย่างตื่นเต้น เมื่อหวังหยู่นำมันออกมาและยื่นให้เขา
“ใช่…”หวังหยู่ไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี ถ้าค้อนโยเนียนร์ไม่ใช่ไอเทมเควส เขาคงขโมยมันไปแล้ว แม้ว่ามันจะหมายถึงเผ่าไททันทั้งเผ่านั้นจะไล่ล่าเขาไปตลอดกาลก็ตาม
เทียก็รีบหยิบหนังสือออกมาจากโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆและยื่นมันให้กับหวังหยู่และพูด “มันอย่างกับเป็นปาฏิหารย์! การปรับแต่งนั้นเป็นสกิลลับของเผ่าไททันของพวกเรา ความจริงที่ท่านเรียนรู้มันนั้นจะต้องเป็นความต้องการของผู้สร้างอย่างแน่นอน! ตั้งแต่ที่ท่านช่วยผม ดังนั้นผมก็จะให้สิ่งที่ดีที่สุดของผม ผลไม้ของการวิจัยของผม!”
เมื่อหวังหยู่ได้รับหนังสือ ถึงแม้ว่าเขาจะยิ้ม เขาก็ไม่ได้มีความสุขแม้แต่นิดเดียว
เขานั้นให้อาวุธระดับพระเจ้าเพื่อไดอารี่อะนะ? นี่มันไม่คุ้มค่าเลยแม้แต่นิดเดียว..
{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้เข้าใจศาสตร์การปรับแต่งของช่างตีเหล็กเทีย [การปรับแต่งระดับต่ำ] ได้อัพเกรดกลายเป็น [การปรับแต่งระดับกลาง]}
[การปรับแต่งระดับกลาง] : มีโอกาส 50% ในการสร้างอุปกรณ์ระดับสูง
“เฮ้อ..อย่างน้อยมันก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย…”ถึงแม้ว่าหวังหยู่จะเศร้าที่สูญเสียค้อนโยเนียร์ไปก็ตาม เขานั้นก็พึงพอใจกับ [การปรับแต่งระดับกลาง] อย่างมาก ไม่สำคัญว่าอาวุธนั้นจะเทพมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถที่จะใช้มันได้อยู่ดี
ในเวลานั้นเอง หวังหยู่ก็ทำเควสของเขาเสร็จไป 3/5 ส่วนแล้ว เขาเหลือเพียงแค่อีกสองเมืองให้ไปตรวจสอบ เมืองแห่งบาปและเมืองฮาเดส
เมืองฮาเดสนั้นเป็นหนึ่งในเมืองที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายมืด ดังนั้นมันจึงเป็นพันธมิตรกับผู้เล่นที่เป็นศัตรูกับฝ่ายแสงแบบหวังหยู่ ด้วยเหตุนี้นี่เอง หวังหยู่จึงเลือกไปที่เมืองแห่งบาปก่อน
เมืองแห่งบาปนั้นถูกพิจารณาว่าเป็นเมืองหนึ่งที่ล้างผู้คนแบบเมืองไททันและเป็นฝ่ายเป็นกลาง มันตั้งอยู่ตรงกลางของทั้งทวีปและมันก็แตกต่างจากเมืองอื่นอย่างสิ้นเชิง
เกมนี้ถูกแบ่งออกเป็น 15เขต และอีก 5 นั้นขึ้นอยู่กับแต่ละฝ่าย เมืองในเขตพวกนี้นั้นปกติแล้วจะมีผู้เล่นที่ไม่มีความกล้าที่มาจากฝ่ายที่คล้ายคลึงกันเพื่อมาฆ่ากันและกัน มันคือที่ในการลบล้างแต้มสังหารผู้เล่น
วิธีที่เร็วที่สุดในการลบล้างแต้มสังหารผู้เล่นนั้นก็คือทำเควสล่าค่าหัวให้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่ไม่มีใครเป็นผู้เชี่ยวชาญ เมื่อมันเกิดสงครามกิลด์หรือข้อพิพาทขึ้น อาชีพที่บอบบางนั้นค่อนข้างที่จะง่ายมากในการฆ่า..ในสถานการณ์เช่นนี้ มันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับใครบางคนที่มีแต้มสังหารจำนวนมาก
ผู้เล่นที่ได้แต้มสังหารจำนวนมากนั้นจะเลือกที่จะหาที่กำบังมาแอบในเมืองแห่งบาป
เหตุผลหลักนั้นก็คือเมืองแห่งบาปนั้นไม่มียาม ตั้งแต่ที่มันเป็นแถวแรกสุดของสงครามระหว่างฝ่ายแสงและฝ่ายมืด ผู้เล่นที่มายังเมืองนี้ก็สามารถที่จะเลือกทำเควสสำเร็จ สำหรับ NPC อย่างไรก็ตาม รางวัลจากการทำเควสเสร็จนั้นก็จะเป็นการลบล้างแต้มสังหาร แต่มันก็ยังน้อยกว่าเควสล่าค่าหัวธรรมดา
แน่นอนว่าผู้เล่นที่มีแต้มสังหารจำนวนมากนั้นก็ไม่ได้ใจดีด้วยเช่นกัน ผู้เล่นเดี่ยวที่ก้าวเข้ามาในเมืองนี้นั้นสังหารคนจำนวนมากโดยปราศจากการรอให้ผู้เล่นพวกนี้มาสังหารพวกเขา ผู้เล่นแบบหวังหยู่ที่สวมอุปกรณ์ที่ปกคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบเขานั้นก็เป็นพวกที่ชอบลอบโจมตี ก่อนที่เขาจะได้เดินออกจากเรือบินได้ห้าเมตร ผู้เล่นสามคนก็พยายามที่จะปล้นหวังหยู่แล้ว! แน่นอนว่า ชะตากรรมของไอ้พวกโง่ที่น่าสงสารนี้นั้นก็สามารถที่จะจินตนาการได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเห็นแบบนี้ หวังหยู่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เมืองที่ทรุดโทรมแบบนี้ที่ไม่มียามนั้นช่างไร้กฏจริงๆ..
ตั้งแต่ที่โรงเตี๊ยมนั้นเป็นสถานที่ที่ดีในการรวบรวมข้อมูล หวังหยู่ก็ตัดสินใจที่จะไปที่นั่นก่อนเป็นอย่างแรก อย่างไรก็ตาม ก่อนที่หวังหยู่จะนั่งลง ประตูของโรงเตี๊ยมก็กระเด็นเปิดออกมาอย่างรุนแรง
นักเวทย์ที่มีหน้าตาน่าเกลียดที่สวมผล้าคลุมสีดำยืนตะโกนอย่างหยิ่งยโส “เควสล่าค่าหัว! ใครที่ไม่เกี่ยว ไสหัวออกไปซะ!...”