บทที่ 72: สถานที่ปลอดภัย
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
====================
บทที่ 72: สถานที่ปลอดภัย
นอกเหนือจากความทนทานของระฆัง เหตุผลอื่นที่เจ้าอ้วนยังสามารถยืนอยู่ในการต่อสู้ได้คือการที่มันไม่ได้ตั้งใจจะป้องกันอย่างเดียว ถ้าหากทำเช่นนั้น เขาคงถูกสังหารไปนานแล้ว เมื่อผู้ฝึกตนทั้งสี่โจมตี พวกมันจะระมัดระวังสายฟ้าแห่งปฐพีศักดิ์สิทธิ์ พวกมันจึงใช้พลังเพียงหกในสิบเพื่อโจมตีและเก็บส่วนที่เหลือไว้ป้องกัน
แม้ความจริงพวกเขาจะสามารถป้องกันสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่พวกเขาไม่อาจป้องกันได้หากมันมีมากกว่าสองหรือสามลูก สายฟ้าแห่งปฐพีศักดิ์สิทธิ์สามารถป้องกันได้โดยง่าย เพราะลักษณะของมันสามารถมองเห็นได้อย่างโจ่งแจ้ง แต่ทุกสิ่งจะน่ารำคาญทันทีหากเป็นอสนีวารีขั้วลบ แม้ว่ามันจะอ่อนแอกว่า แต่รูปร่างของมันทั้งโปร่งใสและเงียบเชียบ หากพวกเขาประมาทเพียงนิดเดียวและถูกมันระเบิดใส่ใกล้ๆ มันไม่เพียงแต่ทำให้ตกใจแต่ยังสามารถทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาทั้งหมดจึงไม่กล้าที่จะประมาท
ในบรรดาผู้ฝึกตนทั้งสี่ คนที่ดูจะหมดหวังมากที่สุดคือผู้ฝึกตนที่เป็นหญิงสาว นั่นเป็นเพราะอุปกรณ์วิเศษของผู้ฝึกตนคนอื่นดูแข็งแกร่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทุกครั้งที่พวกเขาโจมตีออกมา จะเกิดความวุ่นวายขนาดใหญ่ก็จริงแต่ทว่าเจ้าอ้วนกลับป้องกันไว้ได้อย่างง่ายด้าย ลูกดอกปืนกลของนางไม่ได้มีอานุภาพรุนแรงนัก มันเน้นความคล่องตัวและว่องไวเสียมากกว่า
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับบุคคลที่มีโล่ขนาดยักษ์ไว้ปกป้องอย่างเช่นเจ้าอ้วน มันควรจะเป็นเวลาที่นางได้แสดงความสามารถโดยการใช้ลูกดอกปืนกลที่แสนว่องไวหลบเลี่ยงระฆังยักษ์ และพุ่งเข้าไปให้ถึงตัวของเจ้าอ้วน แต่ในความเป็นจริง สถานการณ์กลับตรงกันข้าม ในตอนนี้นางไม่กล้าแม้แต่จะปล่อยลูกดอกออกไปอีกครั้ง
เพราะว่าเจ้าอ้วนจับจุดอ่อนของลูกดอกปืนกลได้ ในขณะที่เขาเห็นว่านางกำลังจะทำการโจมตี เขาจะโยนลูกบอลสายฟ้าออกไปสามถึงห้าลูก
แม้ว่าลูกดอกปืนกลจะว่องไวเพียงใด แต่ความทนทานของมันไม่มากนัก แม้ว่ามันจะไม่เกรงกลัวต่อดาบบินทั่วไป แต่สำหรับลูกบอลสายฟ้าสามถึงห้าลูก มันไม่สามารถต้านทานได้ไหว
ในครั้งแรกที่นางโจมตี เจ้าอ้วนทำลายลูกดอกปืนกลของนางทันทีด้วยการใช้สายฟ้าแห่งปฐพีศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งการสูญเสียนี้มันมหาศาลนักสำหรับนาง มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะปรับแต่งลูกดอกขึ้นมาใหม่ และหลังจากที่ปรับแต่งลูกดอกเสร็จสิ้นแล้ว จะต้องเอาลูกดอกไปอาบจิตวิญญาณของผู้ใช้ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกันในยามโจมตีจะได้ดึงความสามารถออกมาได้อย่างเต็มที่ ลูกดอกทั้งสามคือความพยายามของนางตลอดสี่ถึงห้าปี แล้วจะไม่ให้นางรู้สึกเจ็บปวดได้อย่างไร? เนื่องจากตอนนี้นางมิได้ยืนอยู่เพียงผู้เดียว นางตัดสินใจเก็บลูกดอกไว้และใช้ดาบบินในการโจมตีแทน
เมื่อเป็นเช่นนั้น เพียงผู้ฝึกตนถอดใจไปแล้วหนึ่งคน ผู้ฝึกตนทั้งสามที่พยายามโจมตีเข้ามาก็ถูกป้องกันโดยระฆังยักษ์ ท้ายที่สุดผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิทั้งสี่คน ไม่สามารถทำอะไรเจ้าอ้วนได้เลย
อย่างไรก็ตาม ทั้งสี่ไม่ได้รู้สึกกังวลแต่อย่างใด เป็นเพราะพวกเขาเข้าใจแล้วว่าเจ้าอ้วนที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งนั้น มิอาจยืนอยู่ได้นานไปมากกว่านี้ เขาทั้งต้องรักษาความเร็วของดาบบินและยังต้องควบคุมระฆังยักษ์ให้ป้องกันการโจมตีต่าง ๆ แน่นอนว่าเขาจะต้องใช้ปราณจิตวิญญาณจำนวนมาก สำหรับผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นห้า เขาอาจจะยืนอยู่ได้มากที่สุดเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น และหลังจากนั้นจะต้องวิ่งต่อไปโดยไร้ปราณจิตวิญญาณ หากเมื่อถึงเวลานั้น ก็คือคราที่เจ้าอ้วนจะต้องร้องขอความเมตตาจากพวกเขาอย่างแน่นอน
แม้ว่าแผนการของพวกเขาจะดูสมบูรณ์แบบ แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น หลังจากผ่านไปแล้วสิบห้านาที เจ้าอ้วนก็ยังคงเป็นมังกรทะยานอยู่บนท้องนภาเฉกเช่นเดิม และหลังจากนั้นอีกสิบห้านาที เขาก็ยังคงต่อสู้ได้อย่างดุเดือด หลังจากนั้นผ่านไปสามสิบนาที เจ้าอ้วนก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิมที่พร้อมต่อสู้ตลอดเวลา สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทำให้ผู้ฝึกตนทั้งสี่ใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวขึ้นทุกนาที
ในขณะนี้เจ้าอ้วนยืดหน้าอกของเขาขึ้น พร้อมกับก้าวลงจากดาบอินทรีย์ทองพร้อมกับเดินไปรอบบนท้องฟ้า เขาไขว้มือซ้ายไว้ที่ด้านหลังที่กำบอลสายฟ้าแห่งปฐพีศักดิ์สิทธิ์ไว้สามลูกเพื่อเตรียมพร้อมที่จะปะทะ จากนั้นเขาสะบัดมือออกไป ทุกครั้งที่เขาสะบัดมือจะเกิดเสียงระเบิดขนาดใหญ่ ปรากฏเป็นลำแสงให้เห็นอย่างง่ายดาย
ในเวลาเดียวกัน ระฆังเหล็กดำที่ถูกโจมตีมาอย่างหนักหน่วง ในตอนนี้มันกลิ้งไปมารอบเจ้าอ้วนเพื่อป้องกันการโจมตีต่อไปอย่างแข็งแกร่ง
แม้ความจริงที่ว่าเสื้อผ้าของเจ้าอ้วนในตอนนี้จะไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้ว แต่ทว่ามันกลับทรงพลังมากกว่าสภาพที่ถูกมองเห็นด้วยตา ในตอนนี้ดูเหมือนกับว่าเจ้าอ้วนไม่ได้ถูกไล่ล่าอยู่ มันดูคล้ายกับว่าเขากำลังท่องเที่ยวชมนกชมไม้เสียมากกว่า
เจ้าอ้วนรู้สึกปลอดโปร่งอยู่ภายในหัวใจ เขาเป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นห้า เพียงแค่อาศัยการสะกดเวทมนตร์ ผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิทั้งสี่ก็มิอาจทำอะไรเขาได้ ถ้าหากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป คงไม่มีผู้ใดเชื่ออย่างแน่นอน
เขาคิดกับตนเอง ‘เนื่องจากข้ามีวารีแห่งองค์ประกอบทั้งห้าเพื่อเติมเต็มปราณจิตวิญญาณของตนเอง แน่นอนว่าเจ้าสิ่งนี้ทำให้ข้ายังยืนอยู่ตรงนี้ได้! อาจจะครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมง หรืออาจจะมากกว่านั้น ข้าคงจะไปถึงสำนักเสวียนเทียนได้อย่างแน่นอน! ฮ่าฮ่า เมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าจะบอกให้พวกเจ้ารู้ว่าทำไมดอกไม้จึงต้องเป็นสีแดง!”
เมื่อมองเห็นว่าเจ้าอ้วนกำลังผ่อนคลาย ผู้ฝึกตนที่กำลังไล่ล่าเขาพลันบังเกิดความโกรธเกรี้ยวอย่างสมบูรณ์ ผู้ฝึกตนที่ขี่หลังเสือดาวบ่นออกมาอย่างเหลืออด “นายท่าน เราไม่สามารถทำแบบนี้ต่อไปได้! อุปกรณ์วิเศษของเจ้าก้อนไขมันนั่นแข็งแกร่ง และยังมีสายฟ้าแห่งปฐพีศักดิ์สิทธิ์อีก ราวกับมันยังมีปราณจิตวิญญาณที่เหลือล้น เช่นนี้แล้วระดับของมันจะเป็นเพียงเซียนเทียนขั้นห้าได้อย่างไร? มันอาจอยู่ระดับปฐมภูมิที่ปกปิดขั้นของตนเอง!”
“อืม ศิษย์ระดับเซียนเทียนมิอาจมีปราณจิตวิญญาณที่เหลือล้นเช่นนี้ มันควบคุมระฆังเพื่อป้องกันการโจมตีของพวกเราอีกทั้งยังควบคุมความเร็วของดาบบินมาเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว แม้ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิก็คงมิอาจยืนหยัดได้เช่นนี้เมื่อถูกล้อมโดยผู้ที่มีระดับสูงกว่าถึงสี่คน! แล้วอีกทั้งท่าทางที่ผ่อนคลายของมันอีก คล้ายกับว่ากำลังเล่นกับเราอยู่!” ผู้ฝึกตนที่เป็นหญิงสาวกล่าวออกมาอย่างหงุดหงิด
“พี่ชายอาวุโส ตอนนี้ข้าเหลือปราณจิตวิญญาณเพียงสามในสิบเท่านั้น ถ้าหากเราต้องการจะไปต่อ ก่อนที่เจ้าอ้วนจะตายตกไป ข้าเกรงว่าข้าคงจะตายก่อนมัน!” ผู้ฝึกตนที่นั่งอยู่บนอินทรีย์ทองขมวดคิ้วแน่นพร้อมกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าเราควรจะใช้สิ่งนั้นดีหรือไม่?”