Chapter 129: หลบหนีจากเมืองวาติกัน
Chapter 129: หลบหนีจากเมืองวาติกัน
ยามเมือง...
หวังหยู่จ้องอย่างว่างเปล่าใส่ยามที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขา...หวังหยู่รู้อย่างชัดเจนว่าพวกนี้น่าจะเป็นยามเมือง...
ยามเมืองในเมืองรัตติกาลนั้นปฏิบัติกับเขาอย่างนับถือเหมือนท่านเจ้าเมือง แต่ในเมืองวาติกัน ยามเมืองนั้นไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากการได้เลือดเขา มันเป็นความแตกต่างที่อย่างมากที่เขาได้รับ
ยามเมืองวาติกันพุ่งเข้าใส่หวังหยู่ พยายามที่จะฆ่าเขาเมื่อเขาเห็นหวังหยู่ในสายตา มันเป็นที่เด่นชัดว่ามันจะไม่มีผู้เล่นคนอื่นที่สามารถหลบหมัดสังหารจากยามเมืองได้แบบหวังหยู่
หวังหยู่กลิ้งอย่างสิ้นหวัง หลบ กระโดดและแม้กระทั่งคลานไปยังรูปแบบเทเลพอร์ต แต่สิ่งที่ทำให้เขากราดเกรี้ยวมากที่สุดคือข้อความที่เขาได้รับ เมื่อเขาไปถึง “คุณมีแต้มคุณธรรมไม่เพียงพอในการใช้งานรูปแบบเทเลพอร์ต..”
“เหี้…!”หวังหยู่ตะโกนอย่างโกรธแค้น เมื่อเขาเหลือบไปเห็นฝูงยามพุ่งมาหาเขา
ยามเมืองนั้นพุ่งมาหาหวังหยู่อย่างเป็นระบบ เมื่อพวกเขามีการร่วมมือในการจู่โจมที่ดี มันผลักดันให้หวังหยู่หลบหนีอีกครั้งหนึ่ง ในครั้งนี้ หวังหยู่กลิ้งไปที่ที่หยางนัวยืนอยู่
“ทำไมพวกมันถึงไม่โจมตีเธอกัน?”หวังหยู่บ่น เมื่อเขาหลบห่าฝนการโจมตีที่เข้ามาอย่างเร่งรีบ
“ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะหน้ากากที่ฉันสวมอยู่ มันซ่อนตัวตนของฉัน!”
“โอ้? ผมว่าผมคิดแผนที่จะช่วยพวกเราทั้งคู่ได้แล้ว!”หวังหยู่หัวเราะอย่างชั่วร้าย
“แผนอะไรเหรอ?”หยางนัวถามอย่างสงสัย
“มาที่นี่หน่อย!”หวังหยู่ตะโกน เมื่อเขาหลบหอกของยามเมืองก่อนที่จะพุ่งเข้าหาหยางนัว
หยางนัวก็เชื่อฟังหวังหยู่เป็นอย่างดีแล้วเธอก็เดินเข้าไปหา
หวังหยู่ฉีกยิ้มแล้วเขาก็ยืดไปถอดหน้ากากของหยางนัวออกก่อนที่จะฟาดเธอจนกลายเป็นแสงสีขาวด้วยมืออีกข้างหนึ่ง
{หน้ากากแห่งการปกปิด (เครื่องประดับพิเศษ)(เงิน)}
พลังป้องกันกายภาพ : 12-24
การต้านทานเวทย์ : 12-24
สกิล
[ปกปิด](ติดตัว) : ตัวตนของผู้ใช้จะถูกซ่อนโดยผู้เล่นคนอื่น
[ซ่อนตัว](ติดตัว) : เมื่ออยู่ในการต่อสู้หรือเมื่อผู้เล่นพยายามที่จะดึงดูดผู้เล่นคนอื่น ผู้เล่นคนอื่นจะไม่สามารถตรวจจบผู้เล่นได้
ความต้องการของอาชีพ : ทุกอาชีพ
ความต้องการของระดับ : 1
“เฮะ เฮะ มันค่อนข้างที่เป็นอุปกรณ์ที่พิเศษจริงๆด้วย…”หวังหยู่หัวเราะแล้วเขาก็สวมหน้ากาก
ไอเทมนี้สามารถที่จะระบุว่าเป็นไอเท็มพิเศษได้นอกจากอุปกรณ์ที่มีระดับปกติธรรมดา อัตราการดรอปใน {REBIRTH} นั้นมีต่ำมาก แม้ว่าไร้ความกลัวจะมีแว่นตาระดับพิเศษที่ทำให้เขานั้นมีวิสัยทัศน์เพิ่มขึ้น + 15 มันก็สามารถทนได้ที่ใส่แค่บางวัน เนื่องจากเขาหวาดกลัวที่สมาชิกกิลด์คนอื่นจะพยายามเอามันไปจากเขา
เครื่องประดับพิเศษระดับเงินนั้นมีค่ามากกว่าอุปกรณ์ระดับทองอย่างแน่นอน....ใครจะไปคิดว่าหยางนัวนั้นมีอุปกรณ์ที่ดีขนาดนี้กัน
แม้กระทั่ง หลังจากที่สวมหน้ากาก ยามเมืองก็ไม่หยุดโจมตีหวังหยู่ แต่หวังหยู่ก็ไม่ได้ประหลาดใจ สุดท้ายแล้วเขาก็ยังไม่ได้ออกจากการต่อสู้ มันจึงไม่มีทางที่ยามเมืองนั้นจะหยุดโจมตีเขา
แต่หวังหยู่ก็รีบพุ่งถอยหลังเข้าไปในรูปแบบเทเลพอร์ตและเลือกสถานที่เทเลพอร์ตแบบสุ่มๆก่อนที่จะออกจากเกม..
แต่มันไม่มีทางที่หวังหยู่สามารถเล่นเกมต่อได้ สุดท้ายแล้วเขาก็ได้ยินเสียงทุบมาจากประตูหน้า..
“ใครกัน? เดี๋ยวก่อนนะ..”
หวังหยู่ได้ยินเสียงของมู่จี่เซียนในตอนที่เขานั้นถอดหมวก เธอนั้นเดินออกมาจากห้องครัวและกำลังเดินไปยังประตูหน้า
หวังหยู่รีบพุ่งไปที่ประตู และหยุดภรรยาของเขาไม่ให้เปิดประตู แล้วเขาก็พูดขึ้น “ที่รัก...อย่าเปิดประตู…”
“หื้ม?”มู่จี่เซียนมองไปที่หวังหยู่ด้วยท่าทางที่สับสน
“พี่เซียน เปิดประตู!”หยางนัวตะโกนอย่างโกรธเคืองจากอีกฝั่งหนึ่งของประตู
มู่จี่เซียนก็ยื่นมือไปเปิดประตู เธอก็หัวเราะแล้วพูด “มันเป็นนัวน้อยนี่เอง...และฉันก็มัวแต่สงสัยว่าเป็นใคร เธอกินข้าวมาหรือยัง? เธอต้องการร่วมมื้ออาหารของพวกเราไหม...”
หวังหยู่ “…”
“พี่เซียน!”หยางนัวทักทายมู่จี่เซียน แล้วเธอก็พุ่งเข้ามาในบ้านและจ้องอย่าเกรี้ยวกราดใส่หวังหยู่ แล้วเธอก็พูดขึ้น “ฉันมาที่นี่เพื่อ มาหาพี่หยู่…”
“เฮ้อ...”หวังหยู่ถอนหายใจ เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเธอ เขาก็ส่ายหัวอย่างเงียบงัน
หวังหยู่นั้นไม่มีทางเลือกจริงๆแต่ต้องฆ่าหยางนัวตรงนั้น หยางนัวจะเสียค่าประสบการณ์เพียงแค่ 10% ถ้าเธอตาย แต่หวังหยู่ตายนั้นจะดรอปไอเทมเควสและทั้งคู่จะต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่
“ฉันจะฆ่ามึง ไอ้สารเลว!!!”หยางนัวเดินผ่านมู่จี่เซียนแล้วเธอก็ซัดหมัดเข้าใส่หวังหยู่
หวังหยู่บิดเอวและสวนทิศทางการโจมตีของหยางนัวและส่งเธอกระเด็นขึ้นไปบนโซฟา...
“นายกล้าที่จะต้านทาน!!!”หยางนัวตะโกนอย่างโกรธเคืองแล้วเธอก็เด้งเข้าใส่หวังหยู่อีกครั้ง และก็จับไปที่ไหล่ของหวังหยู่และก็ฟาดใส่หลังของเขาด้วยมืออีกข้างของเธอ
นี่คือท่าที่ถูกเรียกว่า ‘คู่นกนางแอ่น’ นี่คือเทคนิคสำคัญของตระกูลหวัง และมันก็เป็นศิลปะการต่อสู้ที่หยางนัวนั้นใช้มากที่สุด ไม่ว่าคนธรรมดาคนไหนที่ได้รับการโจมตีนี้ไปก็โดนการโจมตีเพียงหมัดเดียวจนถูกฆ่า...มันเป็นเรื่องที่เด่นชัดว่าสาวน้อยนั้นโกรธมากแค่ไหนกับสิ่งที่หวังหยู่ได้ทำ
พูดตามจริงแล้วหยางนัวสามารถที่จะหลบหนีได้อย่างปลอดภัยของเมืองวาติกันด้วยตัวของเธอ เธอเพียงแค่อยู่รอ เนื่องจากว่าเธอติดหนี้หวังหยู่ แต่หวังหยู่ก็ฆ่าเธออย่างหน้าด้านและขโมยหน้ากากของเธอไป...แล้วหญิงสาวที่โดนตามใจหยางนัวจะอดทนกับการโดนลบหลู่แบบนี้ได้ยังไง?
“เฮ้ หยุดลงมือหนักได้แล้ว!”หวังหยู่ตะโกนอย่างไม่รีรอแล้วเขาก็คว้าไปที่เอวของหยางนัวและจับเธอพลิกลงบนโซฟา
มู่จี่เซียนก็ยืนอย่างอึดอัดอยู่หน้าประตูแล้วเธอก็มองไปยังผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ทั้งสองคน แล้วก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไรดี..
“เลิกวุ่นวายได้แล้ว! หรือไม่งั้นฉันจะต่อยแล้วนะ!”หวังหยู่เตือนอย่างตึงเครียด
“ไอ้ขยะเอ้ย!”หยางนัวตะโกนอย่างโกรธเคืองเมื่อเธอนั่งอยู่บนพื้นและเริ่มต้นที่จะร้องไห้ เธอรู้อย่างชัดเจนว่าเธอไม่ใช่คู่มือของหวังหยู่
“เกิดอะไรขึ้น?”มู่จี่เซียนมองไปที่การแสดงออกอันเศร้าโคกของหยางนัว แล้วเธอก็เดินไปหาหวังหยู่และดึงหูเธอ “พูด! คุณไปทำอะไรกับเธอมา? เลิกทำตัวเด็กและขอโทษเธอซะ!”
ในสายตาของมู่จี่เซียน มันไม่สำคัญว่าใครเป็นเริ่มต้นการทะเลาะ แต่มันเป็นเรื่องที่ผิดของผู้ชายที่จะยกหมัดใส่หญิงสาว
“…”หวังหยู่มองเจื่อนๆไปที่มู่จี่เซียนก่อนเขาจะตอบคำถามเธอ “มันไม่ได้มากอะไรซักหน่อย พวกเรานั้นพึ่งทำเควสกันมา...มันก็เป็นแค่เกม ทำไมเธอจะต้องจริงจังกับมันด้วย…”
“ไอ้ขยะเปียก!”หยางนัวตะโกน ก่อนที่เธอจะอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดให้มู่จี่เซียนฟัง
“ใครจะไปคิดว่าคุณจะกลายเป็นอันธพาลไปแล้ว! มันจะไม่มีมื้อค่ำสำหรับคุณในคืนนี้!”มู่จี่เซียนจ้องไปที่หวังหยู่แล้วเธอดุอย่างเย็นชาใส่เขา
“ไม่ มันจะต้องไม่เป็นแบบนั้น…ผมผิดไปแล้ว…”
“ฉันไม่ใช่คนที่ควรที่เธอจะพูด...”มู่จี่เซียนตอบกลับ
หยางนัวยิ้มบางๆ เมื่อเธอเห็นหวังหยู่โดนตำหนิโดยมู่จี่เซียน มันไม่ใช่ทุกวันที่เธอสามารถเห็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญระดับสูงในโลกถูกผลักเข้าสู่สถานการณ์อันเสียเปรียบ
หยางนัวหัวเราะ เมื่อเห็นการแสดงออกที่ละอายใจบนใบหน้าของหวังหยู่แล้วเธอก็พูด “ลืมมันไปซะ...ตั้งแต่ที่พวกเราจัดการทำเควสนี้ให้เสร็จ มันเป็นค่าประสบการณ์เพียงแค่สิบเปอร์เซ็นต์ แต่เรื่องธนู...”
“เธอสามารถเอามันไปได้! แต่ผมต้องการเอาหน้ากากแทน!”หวังหยู่เรียกร้อง หน้ากากนั้นจะช่วยเขาอย่างมากในการทำให้เขาทำเควสที่เหลือให้สำเร็จ
“นี่มัน…”หยางนัวลังเล “แต่มันให้มาโดยผู้แนะนำอาชีพของฉัน...ลืมมันไปซะ มันค่อนข้างดีมากในการแลกเปลี่ยนอุปกรณ์ระดับเงินกับระดับอัคนี นายสามารถเอาหน้ากากนั่นไปได้!”
“ผู้แนะนำอาชีพให้หน้ากากเธอมางั้นเหรอ?”หวังหยู่ตกใจ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้แนะนำอาชีพของหยางนัวนั้นก็ไม่ได้แตกต่างไปจากกุ๊ยไร้ค่าที่พยายามจะโกงเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก..
“แน่นอน! เมื่อทำเควสนี้เสร็จ เขาจะอัพเกรดอุปกณ์ให้กับฉันอีกด้วย!”หยางนัวตอบกลับอย่างพึงพอใจ