ตอนที่แล้วตอนที่ 90 ผลไม้ (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 92 ตอบออกมาอย่างใสซื่อ (FREE)

ตอนที่ 91 คำถามที่ยากจนเกินไป (FREE)


"ก๊องง!" เสียงดังกังวานไปทั่ว มันเป็นสัญญาณว่าการทดสอบด้านปัญญาได้เริ่มขึ้นแล้ว

กระดาษสอบถูกแจกจ่ายออกไปอย่างรวดเร็ว เหล่านักปราชญ์ได้เริ่มอ่านคำถามอย่างคร่าว ๆ ในทันที เมื่อได้อ่าน....สีหน้าของพวกเขาก็แสดงรอยยิ้มที่ขมขี่นออกมาในทันที

ย..ยาก…

มันช่างยากเหลือเกิน!

มีแม้แต่คำศัพท์ที่ใช้ภาษาจากต่างแดน... นักปราชญ์ส่วนใหญ่ได้อ่านข้ามบทนี้ไป เนื่องจากแม้ว่าจะมีใครที่สามารถอ่านมันออก ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็แค่อ่านมันเท่านั้น

 

ในตอนนั้นเอง ฟาง เจิ้งจือ ได้เห็นถึงเนื้อหาที่เป็นโหราศาสตร์ของจีนในข้อสอบ หากไม่มีตัวเลขกำกับหรือคำอธิบายประกอบ การที่จะเข้าใจมันได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก

เพียงแค่กล่าวถึงเรื่องยิบย่อยของการใช้โหราศาสตร์ มันก็ทำให้ผู้คนงุนงงกันแล้ว

แต่มันก็ไม่สามารถขัดขวางเขาได้ หลังจากที่ความพยายามจากรุ่นสู่รุ่น พวกเขาได้ใช้คำศัพท์ที่ฟังง่ายและมีความหมายของตัวมัน จนมันกลายเป็นสิ่งที่สวยงามเอามาก ๆ

นอกเหนือจากเรื่องของโหราศาสตร์แล้ว ในข้อสอบมันยังมีเรื่องกลศึกสามก๊กอีกด้วย ทั้งเรื่องของประเด็นหลักของความยุติธรรมและยังมีเรื่องของขนบธรรมเนียมที่แตกต่าง

ในกระดาษสอบใบนี้ หากเทียบกับการทดสอบระดับมณฆลแล้วล่ะก็ มันต่างกันราวฟ้ากับเหว นอกจากนี้คำถามยังเป็นเรื่องที่กว้างมาก การที่จะโกงหรือคัดลอกคำตอบเข้ามาในห้องสอบนั้นแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลย

 

เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้เห็นเขาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ต่อให้ หลี่ จ้วงฉือ จะใส่ร้าย ฟาง เจิ้งจือ ได้สำเร็จจริง จาย หยงเฟิง ก็ไม่สามารถให้ลอกข้อสอบได้หรอก

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้คำตอบที่สมบูรณ์กับเขาได้

ทำไม จาย หยงเฟิง ถึงยอมเสี่ยงที่จะให้ หลี่ จ้วงฉือ ลอกกันนะ?

ฟาง เจิ้งจือ เลิกคิดเรื่องอื่น ๆ แล้วเริ่มตอบคำถามอย่างรวดเร็ว  บทสรุปของกลศึกสามก๊กได้ถูกจัดทำแล้วจำแนกไว้ตามหมวดหมู่โดยคนรุ่นก่อน กลยุทธ์ชนะศึก, กลยุทธ์ยามพ่าย, กลยุทธ์เผชิญศึก, กลยุทธ์เข้าตี และอื่น ๆ กลยุทธ์ที่ชาญฉลาดเหล่านี้ ฟาง เจิ้งจิ้ง เขาได้เรียนรู้เรื่องพวกนี้เมื่อนานมาแล้ว

นักปราชญ์รอบ ๆ เกาหัวของตัวเองอย่างกระวนกระวาย ฟาง เจิ้งจือ กลับทำข้อสอบด้วยความสุข แล้วเริ่มเผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้าของเขา ราวกับว่าเขากำลังคัดลอกบทเรียนที่เคยเรียนมา

 

"เขาดูเก่งกาจมาก?!"

"คำถามที่ยากปานนั้นกลับแสดงท่าทีแบบนั้นออกมาได้?"

"นี่มันยังไม่ยากเกินไปอีกหรือ?"

นักปราชญ์รอบ ๆ ไม่เชื่อในสายตาของตัวเอง  แต่พวเขาก็ตระหนักได้ว่า ฟาง เจิ้งจือ เป็นผู้ที่ชนะการแข่งขันทั้งสองจากการทดสอบระดับมณฑลของเมืองฮวายอัน มันก็คงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา

ถึงแม้ว่าพวเขาจะเริ่มสงสัย แต่ก็ไม่มีใครเชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ กำลังเขียนแต่เรื่องทั่ว ๆ ไป

ดังนั้น ...

เหล่านักปราชญ์เริ่มรู้สึกกดดันมากยิ่งขึ้น ในตอนแรกที่กระวนกระวายอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ ทำข้อสอบอย่างราบรื่น และตระหนักได้ว่าผู้ที่จะผ่านการทดสอบนั้นมีจำนวนที่จำกัด ความเครียดก็ทวีคูณมากยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ

"ข้าต้องผ่าน!"

"รางวัลของการทดสอบระดับเมืองหลวงจะเป็นของคนใดคนหนึ่งเท่านั้น!"

เมื่อเหล่านักปราชญ์ตระหนักถึงรางวัลพิเศษในการทดสอบระดับเมืองหลวง พวกเขาก็ไม่สามารถยอมแพ้ได้ ต่างคนต่างเริ่มสงบลงและเริ่มวิเคราะห์อย่างจริงจัง

เเต่ทว่า...

คำถามของการทดสอบระดับเมืองหลวงเป็นเรื่องที่ยากจนเกินไป!

ฟาง เจิ้งจื้อ ตวัดปากกาขีดเขียนคำตอบได้อย่างรวดเร็ว เขาเพียงแค่กวาดตามองแล้วตอบคำถามลงไป มันเป็นความรู้สึกที่สบาย ๆ ราวกับว่าเป็นนักศึกษาที่ศึกษาด้านวรรณกรรมแข่งตอบคำถามกับเด็กนักเรียนมัธยมปลายอยู่

มันเป็นเหมือนการกลั่นแกล้ง

แต่ในการกลั่นแกล้งครั้งนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด?

 

ในขณะที่เขากำลังตอบคำถามอย่างราบรื่น ก็ได้เจอกับข้อที่เป็นคำถามแปลก ๆ มันเขียนถึงบทที่ 27 ของกฎหมายแห่งเต๋าและคำสอนลับทั้งหก คำถามไม่ได้ยากมากนัก

ที่จริงแล้ว คำสอนลับทั้งหกนั้นเป็นสิ่งที่เหล่าแม่ทัพ นายพล ในโลกเก่าของเขาจำเป็นที่จะตองอ่านมัน

การทดสอบกฎแห่งเต๋าเน้นเรื่องที่เป็นกลยุทธ์ทางทหารและเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ง่าย

อย่างไรก็ตามเมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้อ่าน เขาเคยจำแนกกลยุทธ์พวกนั้นออกตามชื่อและหัวข้อต่าง ๆ เมื่อเขาได้อ่าน คำสอนลับทั้งหก เขาก็แยกพวกมันออกเป็นหกส่วนและตั้งชื่อหัวข้อในแต่ละส่วน

อย่างเช่น ยุทธศาสตร์พลเรือน, ยุทธศาสตร์มังกร, ยุทธศาสตร์สิงห์, ยุทธศาสตร์ราชสีห์, ยุทธศาสตร์สุนัข มันไม่ได้หมายว่าเขาอ่านผ่าน ๆ แต่เขาอ่านมันอยู่บ่อยครั้งจนทำให้สามารถจำแนกมันได้และจดจำมันได้ขึ้นใจ

 

ถึงอย่างนั้น...

แต่สิ่งที่เป็นปัญหา...

บทไหนกันล่ะ บทไหนกันที่เป็นบทที่ 27?!

ฟาง เจิ้งจือ หยุดเขียนและพยายามนึกอย่างสุดความสามารถในตอนที่เขาอ่านคำสอนลับทั้งหก เขานึกอยู่ประมาณสิบห้านาที แต่ก็ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับบทที่ 27 ปรากฎขึ้นในหัวเขาเลย

เขากำลังจะเสียคะแนน?!

ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่กระดาษแผ่นหลัง มีคำถามอยู่อีกประมาณสองสามข้อ แต่ก็ไม่มีข้อไหนที่ทำให้เขาต้องคิดหนัก

 

เมื่อตอนที่เขาเคยเป็นนักศึกษา อาจารย์ได้สอนเทคนิกในการทำข้อสอบให้

หากเจอคำถามที่ไม่สามารถตอบได้หรือไม่มั่นใจล่ะก็ให้ปล่อยทิ้งว่างไว้ก่อน!

ฟาง เจิ้งจือ ตัดสินใจจะทำข้อสอบที่ด้านหลังก่อน

เขาเริ่มทำข้อสอบที่อยู่ด้านหลังก่อนจนเสร็จ จากนั้นก็กลับมาทำข้อที่ปล่อยว่างเอาไว้ซึ่งก็คือข้อที่ถามถึง บทที่ 27 นั่นเอง

"ปล่อยว่างเอาไว้! นั้นเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักการของข้า! "

ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถปล่อยว่างไว้ได้ เขาไม่รู้ว่าจะเสียคะแนนไปเท่าไหร่ มันไม่ใช่เรื่องดี

 

ต่อให้เขา....

เขียนคำสอนลับทั้งหกลงไปได้?

แต่เขาก็คงไม่ได้รับคะแนนอยู่ดี ต่อให้จำเนื้อหาได้ทั้งหมด แล้วยังไงละ ถ้าเขียนเนื้อหาลงไปอย่างเดียว มันจะเรียกเป็นการทำข้อสอบได้ยังไง ข้าจะทำยังไงดี!?

ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าเขาควรจะแอบมองคนข้าง ๆ

ห้องสอบที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ มันต้องมีสักคนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับบทที่ 27 อยู่เป็นแน่? เขาไม่คิดจะถามอะไรมากมายเพียงแค่ได้เห็นประโยคสั้นๆ ทุกอย่างก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายดาย

ฟาง เจิ้งจือ เริ่มคิดขึ้นมา

 

เขาเบิกตากว้างแล้วเหลือบมองสุดกำลัง ยืดคอมากที่สุดเท่าที่จะยืดได้

แต่น่าเสียดายยิ่ง ที่รอบด้านของเขารอบล้อมไปด้วยกระดานไม้อย่างสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าระยะห่างของกระดานไม้จะอยู่ห่างเพียงแค่กำปั้นเดียว แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ยากในการมองซ้ายมองขวา

ด้านหน้ายิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ทุกคนรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากแค่ไหนที่จะมองเห็นคำตอบของคนข้างหน้าได้

ถึงจะเข้าไปใกล้ด้านหลังก็ยังไม่สามารถมองเห็นกระดาษคำตอบได้เลย

 

เอาล่ะ...!

"ข้ายอมแพ้!"

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ ในบางครั้งเขาก็มีความรู็สึกผิดหวัง

แต่เได้ขาก็ยังไม่สามารถยอมรับ ยอมแพ้ก่อนที่เวลาจะหมดมันเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะทำ ดังนั้นเขาจึงยังคงกวาดสายตาไปทั่วถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็นอะไรก็ตาม ยังคงกวาดตามองทั่ว ...

 

และเขาก็ได้เห็นใครบางคนที่อยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกันกับเขา

เป็นเจ้าอ้วนที่สวมชุดผ้าปัก เขาดูเป็นกังวลอย่างมาก เหงื่อจากหน้าผากอันอ้วนท้วมไหลออกมาเป็นหยดจนสามารถมองเห็นได้ ดวงตาเปิดกว้างมองซ้ายมองขวา

ทางด้านขวามือ มีผู้เข้าสอบอีกคนกำลังยกกระดาษคำตอบของเขาขึ้นมาพอที่เด็กอ้วนที่นั่งอยู่ข้างๆ พอจะมองเห็นได้

"โกง?" ฟาง เจิ้งจือ เปิดปากพูดอย่างพึมพำ ตามด้วยรอยยิ้ม

เขาไม่ได้คิดจะร้องเรียนเจ้าอ้วนนั่น สิบปีของการศึกษามาอย่างหนักหน่วงนั้นไม่ใช่เรื่องตลก

ไม่เกี่ยวกับข้า ปล่อยมันไปเถอะ

แต่ในขณะที่เขากำลังคิดเขาก็หันไปสังเกตุเห็นผู้คุมที่กำลังเดินตระเวนไปมาอยู่  และทันใดนั้นเองผู้คุมก็มองไปทางเด็กอ้วนนั่น

ในทางกลับกัน เจ้าอ้วนนั่นยังคงยืดคออย่างไม่หยุดยั้งโดยที่ไม่ได้รู้สึกตัวอะไรเลย

"พวกเขาคงถูกจับได้แน่นอน ... " ฟาง เจิ้งจือ สายหัวเล็กน้อยด้วยความเศร้า ในขณะที่เขากำลังรู้สึกเศร้าแทนเจ้าพวกนั้น ก่อนที่จะออกจากห้องสอบ ทันใดนั้นเองดวงตาเขาก็เปิดกว้างขึ้น

รอเดี๋ยวก่อนนะ!

ข้านึกออกแล้ว

 

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด