ตอนที่ 91 คำถามที่ยากจนเกินไป (FREE)
"ก๊องง!" เสียงดังกังวานไปทั่ว มันเป็นสัญญาณว่าการทดสอบด้านปัญญาได้เริ่มขึ้นแล้ว
กระดาษสอบถูกแจกจ่ายออกไปอย่างรวดเร็ว เหล่านักปราชญ์ได้เริ่มอ่านคำถามอย่างคร่าว ๆ ในทันที เมื่อได้อ่าน....สีหน้าของพวกเขาก็แสดงรอยยิ้มที่ขมขี่นออกมาในทันที
ย..ยาก…
มันช่างยากเหลือเกิน!
มีแม้แต่คำศัพท์ที่ใช้ภาษาจากต่างแดน... นักปราชญ์ส่วนใหญ่ได้อ่านข้ามบทนี้ไป เนื่องจากแม้ว่าจะมีใครที่สามารถอ่านมันออก ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็แค่อ่านมันเท่านั้น
ในตอนนั้นเอง ฟาง เจิ้งจือ ได้เห็นถึงเนื้อหาที่เป็นโหราศาสตร์ของจีนในข้อสอบ หากไม่มีตัวเลขกำกับหรือคำอธิบายประกอบ การที่จะเข้าใจมันได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
เพียงแค่กล่าวถึงเรื่องยิบย่อยของการใช้โหราศาสตร์ มันก็ทำให้ผู้คนงุนงงกันแล้ว
แต่มันก็ไม่สามารถขัดขวางเขาได้ หลังจากที่ความพยายามจากรุ่นสู่รุ่น พวกเขาได้ใช้คำศัพท์ที่ฟังง่ายและมีความหมายของตัวมัน จนมันกลายเป็นสิ่งที่สวยงามเอามาก ๆ
นอกเหนือจากเรื่องของโหราศาสตร์แล้ว ในข้อสอบมันยังมีเรื่องกลศึกสามก๊กอีกด้วย ทั้งเรื่องของประเด็นหลักของความยุติธรรมและยังมีเรื่องของขนบธรรมเนียมที่แตกต่าง
ในกระดาษสอบใบนี้ หากเทียบกับการทดสอบระดับมณฆลแล้วล่ะก็ มันต่างกันราวฟ้ากับเหว นอกจากนี้คำถามยังเป็นเรื่องที่กว้างมาก การที่จะโกงหรือคัดลอกคำตอบเข้ามาในห้องสอบนั้นแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลย
เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้เห็นเขาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ต่อให้ หลี่ จ้วงฉือ จะใส่ร้าย ฟาง เจิ้งจือ ได้สำเร็จจริง จาย หยงเฟิง ก็ไม่สามารถให้ลอกข้อสอบได้หรอก
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้คำตอบที่สมบูรณ์กับเขาได้
ทำไม จาย หยงเฟิง ถึงยอมเสี่ยงที่จะให้ หลี่ จ้วงฉือ ลอกกันนะ?
ฟาง เจิ้งจือ เลิกคิดเรื่องอื่น ๆ แล้วเริ่มตอบคำถามอย่างรวดเร็ว บทสรุปของกลศึกสามก๊กได้ถูกจัดทำแล้วจำแนกไว้ตามหมวดหมู่โดยคนรุ่นก่อน กลยุทธ์ชนะศึก, กลยุทธ์ยามพ่าย, กลยุทธ์เผชิญศึก, กลยุทธ์เข้าตี และอื่น ๆ กลยุทธ์ที่ชาญฉลาดเหล่านี้ ฟาง เจิ้งจิ้ง เขาได้เรียนรู้เรื่องพวกนี้เมื่อนานมาแล้ว
นักปราชญ์รอบ ๆ เกาหัวของตัวเองอย่างกระวนกระวาย ฟาง เจิ้งจือ กลับทำข้อสอบด้วยความสุข แล้วเริ่มเผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้าของเขา ราวกับว่าเขากำลังคัดลอกบทเรียนที่เคยเรียนมา
"เขาดูเก่งกาจมาก?!"
"คำถามที่ยากปานนั้นกลับแสดงท่าทีแบบนั้นออกมาได้?"
"นี่มันยังไม่ยากเกินไปอีกหรือ?"
นักปราชญ์รอบ ๆ ไม่เชื่อในสายตาของตัวเอง แต่พวเขาก็ตระหนักได้ว่า ฟาง เจิ้งจือ เป็นผู้ที่ชนะการแข่งขันทั้งสองจากการทดสอบระดับมณฑลของเมืองฮวายอัน มันก็คงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา
ถึงแม้ว่าพวเขาจะเริ่มสงสัย แต่ก็ไม่มีใครเชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ กำลังเขียนแต่เรื่องทั่ว ๆ ไป
ดังนั้น ...
เหล่านักปราชญ์เริ่มรู้สึกกดดันมากยิ่งขึ้น ในตอนแรกที่กระวนกระวายอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ ทำข้อสอบอย่างราบรื่น และตระหนักได้ว่าผู้ที่จะผ่านการทดสอบนั้นมีจำนวนที่จำกัด ความเครียดก็ทวีคูณมากยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ
"ข้าต้องผ่าน!"
"รางวัลของการทดสอบระดับเมืองหลวงจะเป็นของคนใดคนหนึ่งเท่านั้น!"
เมื่อเหล่านักปราชญ์ตระหนักถึงรางวัลพิเศษในการทดสอบระดับเมืองหลวง พวกเขาก็ไม่สามารถยอมแพ้ได้ ต่างคนต่างเริ่มสงบลงและเริ่มวิเคราะห์อย่างจริงจัง
เเต่ทว่า...
คำถามของการทดสอบระดับเมืองหลวงเป็นเรื่องที่ยากจนเกินไป!
ฟาง เจิ้งจื้อ ตวัดปากกาขีดเขียนคำตอบได้อย่างรวดเร็ว เขาเพียงแค่กวาดตามองแล้วตอบคำถามลงไป มันเป็นความรู้สึกที่สบาย ๆ ราวกับว่าเป็นนักศึกษาที่ศึกษาด้านวรรณกรรมแข่งตอบคำถามกับเด็กนักเรียนมัธยมปลายอยู่
มันเป็นเหมือนการกลั่นแกล้ง
แต่ในการกลั่นแกล้งครั้งนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด?
ในขณะที่เขากำลังตอบคำถามอย่างราบรื่น ก็ได้เจอกับข้อที่เป็นคำถามแปลก ๆ มันเขียนถึงบทที่ 27 ของกฎหมายแห่งเต๋าและคำสอนลับทั้งหก คำถามไม่ได้ยากมากนัก
ที่จริงแล้ว คำสอนลับทั้งหกนั้นเป็นสิ่งที่เหล่าแม่ทัพ นายพล ในโลกเก่าของเขาจำเป็นที่จะตองอ่านมัน
การทดสอบกฎแห่งเต๋าเน้นเรื่องที่เป็นกลยุทธ์ทางทหารและเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ง่าย
อย่างไรก็ตามเมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้อ่าน เขาเคยจำแนกกลยุทธ์พวกนั้นออกตามชื่อและหัวข้อต่าง ๆ เมื่อเขาได้อ่าน คำสอนลับทั้งหก เขาก็แยกพวกมันออกเป็นหกส่วนและตั้งชื่อหัวข้อในแต่ละส่วน
อย่างเช่น ยุทธศาสตร์พลเรือน, ยุทธศาสตร์มังกร, ยุทธศาสตร์สิงห์, ยุทธศาสตร์ราชสีห์, ยุทธศาสตร์สุนัข มันไม่ได้หมายว่าเขาอ่านผ่าน ๆ แต่เขาอ่านมันอยู่บ่อยครั้งจนทำให้สามารถจำแนกมันได้และจดจำมันได้ขึ้นใจ
ถึงอย่างนั้น...
แต่สิ่งที่เป็นปัญหา...
บทไหนกันล่ะ บทไหนกันที่เป็นบทที่ 27?!
ฟาง เจิ้งจือ หยุดเขียนและพยายามนึกอย่างสุดความสามารถในตอนที่เขาอ่านคำสอนลับทั้งหก เขานึกอยู่ประมาณสิบห้านาที แต่ก็ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับบทที่ 27 ปรากฎขึ้นในหัวเขาเลย
เขากำลังจะเสียคะแนน?!
ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่กระดาษแผ่นหลัง มีคำถามอยู่อีกประมาณสองสามข้อ แต่ก็ไม่มีข้อไหนที่ทำให้เขาต้องคิดหนัก
เมื่อตอนที่เขาเคยเป็นนักศึกษา อาจารย์ได้สอนเทคนิกในการทำข้อสอบให้
หากเจอคำถามที่ไม่สามารถตอบได้หรือไม่มั่นใจล่ะก็ให้ปล่อยทิ้งว่างไว้ก่อน!
ฟาง เจิ้งจือ ตัดสินใจจะทำข้อสอบที่ด้านหลังก่อน
เขาเริ่มทำข้อสอบที่อยู่ด้านหลังก่อนจนเสร็จ จากนั้นก็กลับมาทำข้อที่ปล่อยว่างเอาไว้ซึ่งก็คือข้อที่ถามถึง บทที่ 27 นั่นเอง
"ปล่อยว่างเอาไว้! นั้นเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักการของข้า! "
ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถปล่อยว่างไว้ได้ เขาไม่รู้ว่าจะเสียคะแนนไปเท่าไหร่ มันไม่ใช่เรื่องดี
ต่อให้เขา....
เขียนคำสอนลับทั้งหกลงไปได้?
แต่เขาก็คงไม่ได้รับคะแนนอยู่ดี ต่อให้จำเนื้อหาได้ทั้งหมด แล้วยังไงละ ถ้าเขียนเนื้อหาลงไปอย่างเดียว มันจะเรียกเป็นการทำข้อสอบได้ยังไง ข้าจะทำยังไงดี!?
ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าเขาควรจะแอบมองคนข้าง ๆ
ห้องสอบที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ มันต้องมีสักคนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับบทที่ 27 อยู่เป็นแน่? เขาไม่คิดจะถามอะไรมากมายเพียงแค่ได้เห็นประโยคสั้นๆ ทุกอย่างก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายดาย
ฟาง เจิ้งจือ เริ่มคิดขึ้นมา
เขาเบิกตากว้างแล้วเหลือบมองสุดกำลัง ยืดคอมากที่สุดเท่าที่จะยืดได้
แต่น่าเสียดายยิ่ง ที่รอบด้านของเขารอบล้อมไปด้วยกระดานไม้อย่างสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าระยะห่างของกระดานไม้จะอยู่ห่างเพียงแค่กำปั้นเดียว แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ยากในการมองซ้ายมองขวา
ด้านหน้ายิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ทุกคนรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากแค่ไหนที่จะมองเห็นคำตอบของคนข้างหน้าได้
ถึงจะเข้าไปใกล้ด้านหลังก็ยังไม่สามารถมองเห็นกระดาษคำตอบได้เลย
เอาล่ะ...!
"ข้ายอมแพ้!"
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ ในบางครั้งเขาก็มีความรู็สึกผิดหวัง
แต่เได้ขาก็ยังไม่สามารถยอมรับ ยอมแพ้ก่อนที่เวลาจะหมดมันเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะทำ ดังนั้นเขาจึงยังคงกวาดสายตาไปทั่วถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็นอะไรก็ตาม ยังคงกวาดตามองทั่ว ...
และเขาก็ได้เห็นใครบางคนที่อยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกันกับเขา
เป็นเจ้าอ้วนที่สวมชุดผ้าปัก เขาดูเป็นกังวลอย่างมาก เหงื่อจากหน้าผากอันอ้วนท้วมไหลออกมาเป็นหยดจนสามารถมองเห็นได้ ดวงตาเปิดกว้างมองซ้ายมองขวา
ทางด้านขวามือ มีผู้เข้าสอบอีกคนกำลังยกกระดาษคำตอบของเขาขึ้นมาพอที่เด็กอ้วนที่นั่งอยู่ข้างๆ พอจะมองเห็นได้
"โกง?" ฟาง เจิ้งจือ เปิดปากพูดอย่างพึมพำ ตามด้วยรอยยิ้ม
เขาไม่ได้คิดจะร้องเรียนเจ้าอ้วนนั่น สิบปีของการศึกษามาอย่างหนักหน่วงนั้นไม่ใช่เรื่องตลก
ไม่เกี่ยวกับข้า ปล่อยมันไปเถอะ
แต่ในขณะที่เขากำลังคิดเขาก็หันไปสังเกตุเห็นผู้คุมที่กำลังเดินตระเวนไปมาอยู่ และทันใดนั้นเองผู้คุมก็มองไปทางเด็กอ้วนนั่น
ในทางกลับกัน เจ้าอ้วนนั่นยังคงยืดคออย่างไม่หยุดยั้งโดยที่ไม่ได้รู้สึกตัวอะไรเลย
"พวกเขาคงถูกจับได้แน่นอน ... " ฟาง เจิ้งจือ สายหัวเล็กน้อยด้วยความเศร้า ในขณะที่เขากำลังรู้สึกเศร้าแทนเจ้าพวกนั้น ก่อนที่จะออกจากห้องสอบ ทันใดนั้นเองดวงตาเขาก็เปิดกว้างขึ้น
รอเดี๋ยวก่อนนะ!
ข้านึกออกแล้ว
เพจหลัก : Double gate TH