Chapter 126: ไม่ต้องกังวลไป การช่วยเหลือกำลังไปถึง
Chapter 126: ไม่ต้องกังวลไป การช่วยเหลือกำลังไปถึง
ความคิดของเอกรังสีรุ่งอรุณนั้นก็ยุ่งเหยิงไปมั่ว เมื่อเขาจ้องไปยังแจ้งเตือนระบบ...
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเควสแรก เมื่อมองไปยังมัน มันก็ให้ความรู้เขาถึงกราดเกรี้ยวและสิ้นหวังไปพร้อมๆกัน...
แจ้งเตือนระบบนั้นหมายถึงกิลด์รากจักรพรรดินั้นจะต้องจับกุมคนที่ฆ่าวิลลี่เพื่อฟื้นฟูแต้มคุณธรรมของเขา แต่ในอีกความหมายหนึ่ง นั่นก็หมายความว่าการตายของวิลลี่นั้นตำหนิเขา....
ระบบนั้นรู้อย่างเด่นชัดว่ามันกิลด์รากจักรพรรดินั้นเป็นผู้ถูกกล่าวหา แต่พวกเขาก็ยังคงทำให้พวกเขาเป็นแพะรับบาปและลงโทษพวกเขา....
แต่รางวัลจากการทำเควสที่สองนั้นน่าดึงดูดอย่างมาก ผู้เล่นทุกคนของกิลด์รากจักรพรรดินั้นตื่นเต้นอย่างมากและวิ่งไปยังโบสถ์แห่งแสง มันเป็นเควสทั่วไปสำหรับทุกคนในเมือง
แม้ว่าหวังหยู่และหยางนัวนั้นจะเป็นผู้คนที่มีไหวพริบอย่างมาก จำนวนผู้เล่นอันมากมายที่พวกเขาจะต้องจัดการด้วยนั้นเพิ่มความยากของเควส
เอกรังสีรุ่งอรุณก็พยายามปรับความคิดในทันที และพยายามที่จะฟื้นเกียรติยศของกิลด์ของเขา และก็ทิ้งสภาพอันน่าเศร้าของเขาไว้
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง มาสเตอร์ร่าเริงและมาสเตอร์สง่างามก็เข้ามาในเกมด้วยเช่นกัน ข่าวใหม่นี้ทำให้พวกเขานั้นกระตือรือร้นอย่างมาก
“พวกเราควรจะไปที่ไหนกันดี?”
เมื่อพวกเขาวิ่งออกมาจากโบสถ์แห่งแสงสว่าง หวังหยู่ก็สังเกตเห็น่วาถนนนั้นเต็มไปด้วยผู้เล่น เมื่อมองไปยังแผนที่ พวกเขาเป็นเพียงจุดสีเขียวเล็กๆสองจุดในทะเลสีแดง
ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้นั้นไม่ได้เป็นอมตะ ยิ่งไปกว่านั้น หยางนัวนั้นเป็นหญิงสาว เมื่อเธอจ้องไปยังฝูงศัตรูที่ค่อยๆเคลื่อนที่มาหาพวกเธออย่างช้าๆ หยางนัวก็ยอมแพ้อย่างไม่ได้ตั้งใจ และหันกลับไปหาหวังหยู่ที่เป็นความหวังสุดท้ายของเธอ
หยางนัวนั้นรู้อย่างชัดเจนถึงความแข็งแกร่งของหวังหยู่ แม้ว่าเธอนั้นจะช่วยหวังหยู่ในการฆ่าเทวดาแห่งการตัดสิน มันก็เป็นเรื่องที่เด่นชัดว่าหวังอยู่ก็สามารถฆ่ามันได้อย่างง่ายดายโดยปราศจากการช่วยเหลือของเธอ
“ผมคงไม่มีปัญหาถ้าผมหลบหนีไปเพียงคนเดียว....แต่ผมสงสัยว่าผมจะสามารถพาเธอไปด้วยได้ไหม…”หวังหยู่กระซิบ เมื่อเขามองไปรอบๆ
“นายจะไม่ทิ้งฉันไว้ที่นี่ใช่ไหม?”หยางนัวถามอย่างกังวล
“ไม่ใช่ในตอนนี้! ส่งก้อนหินศักดิ์สิทธิ์มาให้ฉัน!”หวังหยู่หัวเราะ
“อื้ม!”หยางนัวพยักหน้าแล้วเธอก็ส่งก้อนหินให้กับหวังหยู่ มันน่าจะปลอดภัยกว่าถ้าหวังหยู่เป็นคือถือมัน
หลังจากที่เก็บก้อนหินไว้ในช่องคลังของเขา หวังหยู่ก็ชี้ไปที่จุดที่เขาสันนิษฐานว่ามันเป็นจุดที่อ่อนแอของรูปแบบศัตรูและประกาศ “พวกเราจะฝ่าทางนั้นไป! ตามผมมา!”
หวังหยู่ก็ทะยานไปด้านหน้าและใช้ [หมัดกระแทก] เพื่อผลักเขาไปด้านหน้า
หยางนัวก็ทำตามในทันที และตามหวังหยู่อย่างใกล้ชิด
ฝูงชนนั้นก็หัวเราะเยาะกับทั้งคู่ เมื่อพวกเขาเห็นทั้งคู่พุ่งมาหาพวกเขา อย่างน้อยมันก็มีผู้เล่นหลายสิบคนอยู่ที่นี่ ชายคนนี้คิดว่าเขาจะสามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้งั้นเหรอ?
“โจมตี!”เสียงก็ดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน ผู้เล่นที่เป็นอาชีพโจมตีไกลทั้งหมดก็รีบเล็งไปยังหวังหยู่และร่ายสกิลและยิงลูกศรใส่พวกเขา
หวังหยู่นั้นจะพบความกดดันบ้าง ถ้าผู้เล่นพวกนี้มาจากกิลด์เดียวกันและมีการร่วมมือกันในการโจมตี
แต่ว่ากิลด์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองวาติกันนั้นยังคงติดอยู่ในจุดเกิด ผู้เล่นที่ล้อมรอบหวังหยู่และหยางนัวนั้นเป็นเพียงแค่กลุ่มคนที่โหยหาในความรุ่งโรจน์เท่านั้น
หวังหยู่นั้นก็ยืดมือออกไปทั้งสองข้าง และก็ขัดขวางลูกศรหลายสิบดอกที่ลอยมายังเขา และเขาก็ขว้างพวกมันกลับใส่คนที่โจมตีเขา และขัดขวางลูกบอลไฟและเวทย์มนต์น้ำแข็งแบบนั้น..
หยางนัวนั้นก็ยกธนูของเธอขึ้นและหาโอกาสในการยิงใส่พวกนักธนูแถวหลังและนักเวทย์ ในเวลาไม่กี่วินาทีพวกเขาก็กลายเป็นแสงสีขาวไป
ก่อนที่พวกเขาจะเตรียมการโจมตีระลอกสอง หวังหยู่ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขาแล้ว....
สำหรับผู้เชี่ยวชาญแบบหวังหยู่นั้นก็ไม่มีปัญหาในการสังหารแท็งค์อย่างเช่นนายน้อยปักกิ่ง แล้วคนอื่นจะต้านทานการโจมตีที่รุนแรงของเขาได้ยังไงกัน?
[บีบคอ] [เตะด้านข้าง] [หมัดกระแทก] [เข่าลอย]
มันไม่ได้ใช้เวลานานมากสำหรับหวังหยู่และหยางนัวในการกวาดล้างของผู้โจมตีพวกเขา
“เหี้...!”
แม้ว่าหลังจากที่เปิดเส้นทางของผู้เล่นพวกนี้แล้ว หวังหยู่ก็ยังไม่สามารถหลบหนีได้ เขาก็ยืนอยู่ที่นั่นและมึนงงอยู่อย่างนั้น
ผู้เล่น.....ทั่วทั้งถนนนั้นเต็มไปด้วยพวกเขา ไกลเท่าที่ตาสามารถมองเห็นได้...
แม้ว่าหวังหยู่จะเห็นสงครามของคนนับหมื่นระหว่างกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ติและเมืองรัตติกาลมาก่อนก็ตามที มันก็ไม่สามารถเทียบได้เลยกับผู้เล่นจำนวนมหาศาลที่เต็มไปทั่วทั้งถนนแบบนี้
หวังหยู่นั้นเคยได้ยินนิยายของผู้เชี่ยวชาญเพียงหนึ่งเดียวในการท้าทายกับกองทัพนับหมื่นคนมาก่อน แต่มันก็ไม่ได้ต่างไปจากนิยายปรัมปรา
จัดการฝูงชนด้วยตัวเพียงคนเดียวงั้นเหรอ? มันก็ไม่ได้มากไปกว่าความเพ้อฝันของคนบ้า...
ลืมไปเกี่ยวกับผู้เล่นนี้เลย หวังหยู่ก็จะลงแรงจำนวนมากในการฆ่าหมาป่านับพันตัว
เพื่อทำให้เลวร้ายมากยิ่งขึ้น ผู้เล่นที่มาถึงภายหลังก็ถูกจัดรูปแบบการต่อสู้ ทุกคนนั้นก็สวมตรากิลด์ปักไว้บนหน้าอกของพวกเขา
แม้ว่าเขาจะใหม่กับโลกของเกม หวังหยู่ก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องตลกที่จะเผชิญหน้ากับรูปแบบการต่อสู้ที่กิลด์นี้จัดการ
“พวกเราควรที่จะทำอะไรดีในตอนนี้...”หยางนัวถามอย่างอ่อนแอแล้วเธอก็จ้องไปยังฝูงผู้เล่นด้านหน้าพวกเธอ
เมื่อคิดว่าพวกเธอนั้นกำลังถูกล้อมรอบโดยผู้เล่นนับพันคนในตอนนี้..
“ใจเย็นลงและดูสถานการณ์ก่อน!”หวังหยู่ตอบกลับอย่างช่วยไม่ได้
ผู้เล่นจากเมืองวาติกันก็เคลื่อนที่ไปด้านหน้าอย่างช้าๆและผลักดันพวกเขาไปยังทางตัน
แต่ผู้เล่นพวกนี้ยังไม่ได้ทำอะไรกับหวังหยู่และหยางนัว ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่สามารถทำได้ แต่พวกเขาไม่กล้าทำ...
แต้มคุณธรรม 200 แต้ม มันไม่ใช่ผลรวมเพียงแค่เล็กน้อย....ไม่ต้องพูดถึงว่ามันมีคู่ต่อสู้สองคนเลย....ไม่มีใครต้องการที่จะสู้กับหวังหยู่และหยางนัว มีเพียงแค่ต้องการที่จะขโมยแต้มในตอนท้ายสุด
หวังหยู่และหยางนัวนั้นก็ไม่ได้ต่างไปจากถุงเงินถุงทองที่รอโดนขโมย แต่ตั้งแต่ที่พวกเขานั้นไม่ได้ร่วมมือกัน ผู้เล่นพวกนี้ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเคลื่อนไหวคนแรก
ผแม้ว่าพวกเขาจะถูกผู้เล่นหลายพันคนจดจ้องอยู่ หวังหยู่และหยางนัวก็ยังไม่โดนสัมผัสเลยแม้แต่นิดเดียว
ผู้เล่นคนอื่นก็จ้องหน้ากันและกันน ไม่มีใครกล้าที่จะเคลื่อนไหวก่อน
เพียงแค่ทุกคนกำลังจ้องหน้ากันอย่างเฉยเมย ผู้เล่นวัยกลางคนก็ก้าวออกมาจากฝูงชน และก็กำมือแล้วเขาก็พูดกับฝูงชนว่า “สวัสดีทุกคน ผมคือพาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดของกิลด์เฮล์มคริมสัน แทนที่จะจ้องหน้ากันและกันแบบนี้และหวังว่าบางสิ่งจะเกิดขึ้น ทำไมพวกเราไม่ตัดสินว่าพวกเราจะทำยังไงกับสองคนนี้ดี?”
“ไอ้เหี้...!”หวังหยู่ตะโกนอย่างโกรธเคืองใส่พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัด มันเป็นครั้งแรกที่ใครบางคนกล้าที่จะปฏิบัติกับเขาเหมือนกับสัตว์ที่เลี้ยงอยู่ในฟาร์มและรอคอยที่จะถูกฆ่า
หวังหยู่ก็รีบส่งข้อความให้กับทุกคนในนิกายซวนเฉิน “ผมควรทำอะไรดี ถ้าผมถูกล่า?”
“ถ้ามันไม่มีผู้เล่นมากซักเท่าไหร่ละก็ ฆ่าพวกมันให้หมด ถ้ามันมีผู้เล่นจำนวนมาก นายก็ควรที่จะหนี!”ไร้ความกลัวรีบตอบ มันเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับนิกายซวนเฉินที่ชอบใช้เมื่อพวกเขาเจอปัญหา
“ถ้าผมถูกล่าโดยผู้เล่นนับหมื่นคนและผมติดอยู่ในทางตันละ?”หวังหยู่พูดต่อ
“…”ทั้งแชทก็เงียบกริบ...การถูกผลักให้ติดอยู่ในทางตัน...
หวังหยู่น่าจะเป็นเพียงคนเดียวในเกมที่สามารถทำให้เกิดพายุที่รุนแรงแบบนี้ได้
“เหี้...อะไรวะ! มึงมีเทพเจ้าโชคร้ายอยู่กับตัวงั้นเหรอ ทำไมนายถึงสร้างปัญหาทุกๆที่นายไปกัน?”หมิงตู่ตอบกลับ
“เพียงแค่สู้มันจนตายก็พอ! ผมจะโอ้อวดตลอดไปว่าผมได้เผชิญหน้ากับผู้เล่นนับหมื่นด้วยตัวเพียงคนเดียว!”ขุนนางครอทตอบกลับอย่างมั่นใจ
ดาบน้ำแข็งก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงที่สุด “บางทีนายสามารถยอมแพ้ได้....มันก็เป็นเพียงแค่เกม มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าอายเลยที่จะตาย”
“ล่อเวลาไว้ การช่วยเหลือกำลังไปถึง!”ไร้ความกลัวตอบกลับ
“ใครกัน?”หวังหยู่ถามอย่างสับสน ไม่เพียงแต่เมืองรัตติกาลนั้นอยู่ห่างออกไปถึงชั่วโมงครึ่ง นิกายซวนเฉินมีผู้เล่นเพียงไม่กี่คน พวกเขาจะช่วยได้มากแค่ไหนกัน? มันไม่ใช่ว่าผู้เล่นพวกนี้จะนั่งเฉยๆเงียบๆเป็นเวลาชั่วโมงหนึ่ง
“ไม่ต้องกังวลไป เดี๋ยวนายก็จะรู้เองในไม่ช้า!”ไร้ความกลัวตอบกลับอีกครั้ง