ตอนที่แล้วChapter 125: เป็นที่ต้องการของคนทั้งหมด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 127: หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความบาดหมาง

Chapter 126: ไม่ต้องกังวลไป การช่วยเหลือกำลังไปถึง


Chapter 126: ไม่ต้องกังวลไป การช่วยเหลือกำลังไปถึง

ความคิดของเอกรังสีรุ่งอรุณนั้นก็ยุ่งเหยิงไปมั่ว เมื่อเขาจ้องไปยังแจ้งเตือนระบบ...

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเควสแรก เมื่อมองไปยังมัน มันก็ให้ความรู้เขาถึงกราดเกรี้ยวและสิ้นหวังไปพร้อมๆกัน...

แจ้งเตือนระบบนั้นหมายถึงกิลด์รากจักรพรรดินั้นจะต้องจับกุมคนที่ฆ่าวิลลี่เพื่อฟื้นฟูแต้มคุณธรรมของเขา แต่ในอีกความหมายหนึ่ง นั่นก็หมายความว่าการตายของวิลลี่นั้นตำหนิเขา....

ระบบนั้นรู้อย่างเด่นชัดว่ามันกิลด์รากจักรพรรดินั้นเป็นผู้ถูกกล่าวหา แต่พวกเขาก็ยังคงทำให้พวกเขาเป็นแพะรับบาปและลงโทษพวกเขา....

แต่รางวัลจากการทำเควสที่สองนั้นน่าดึงดูดอย่างมาก ผู้เล่นทุกคนของกิลด์รากจักรพรรดินั้นตื่นเต้นอย่างมากและวิ่งไปยังโบสถ์แห่งแสง มันเป็นเควสทั่วไปสำหรับทุกคนในเมือง

แม้ว่าหวังหยู่และหยางนัวนั้นจะเป็นผู้คนที่มีไหวพริบอย่างมาก จำนวนผู้เล่นอันมากมายที่พวกเขาจะต้องจัดการด้วยนั้นเพิ่มความยากของเควส

เอกรังสีรุ่งอรุณก็พยายามปรับความคิดในทันที และพยายามที่จะฟื้นเกียรติยศของกิลด์ของเขา และก็ทิ้งสภาพอันน่าเศร้าของเขาไว้

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง มาสเตอร์ร่าเริงและมาสเตอร์สง่างามก็เข้ามาในเกมด้วยเช่นกัน ข่าวใหม่นี้ทำให้พวกเขานั้นกระตือรือร้นอย่างมาก

“พวกเราควรจะไปที่ไหนกันดี?”

เมื่อพวกเขาวิ่งออกมาจากโบสถ์แห่งแสงสว่าง หวังหยู่ก็สังเกตเห็น่วาถนนนั้นเต็มไปด้วยผู้เล่น เมื่อมองไปยังแผนที่ พวกเขาเป็นเพียงจุดสีเขียวเล็กๆสองจุดในทะเลสีแดง

ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้นั้นไม่ได้เป็นอมตะ ยิ่งไปกว่านั้น หยางนัวนั้นเป็นหญิงสาว เมื่อเธอจ้องไปยังฝูงศัตรูที่ค่อยๆเคลื่อนที่มาหาพวกเธออย่างช้าๆ หยางนัวก็ยอมแพ้อย่างไม่ได้ตั้งใจ และหันกลับไปหาหวังหยู่ที่เป็นความหวังสุดท้ายของเธอ

หยางนัวนั้นรู้อย่างชัดเจนถึงความแข็งแกร่งของหวังหยู่ แม้ว่าเธอนั้นจะช่วยหวังหยู่ในการฆ่าเทวดาแห่งการตัดสิน มันก็เป็นเรื่องที่เด่นชัดว่าหวังอยู่ก็สามารถฆ่ามันได้อย่างง่ายดายโดยปราศจากการช่วยเหลือของเธอ

“ผมคงไม่มีปัญหาถ้าผมหลบหนีไปเพียงคนเดียว....แต่ผมสงสัยว่าผมจะสามารถพาเธอไปด้วยได้ไหม…”หวังหยู่กระซิบ เมื่อเขามองไปรอบๆ

“นายจะไม่ทิ้งฉันไว้ที่นี่ใช่ไหม?”หยางนัวถามอย่างกังวล

“ไม่ใช่ในตอนนี้! ส่งก้อนหินศักดิ์สิทธิ์มาให้ฉัน!”หวังหยู่หัวเราะ

“อื้ม!”หยางนัวพยักหน้าแล้วเธอก็ส่งก้อนหินให้กับหวังหยู่ มันน่าจะปลอดภัยกว่าถ้าหวังหยู่เป็นคือถือมัน

หลังจากที่เก็บก้อนหินไว้ในช่องคลังของเขา หวังหยู่ก็ชี้ไปที่จุดที่เขาสันนิษฐานว่ามันเป็นจุดที่อ่อนแอของรูปแบบศัตรูและประกาศ “พวกเราจะฝ่าทางนั้นไป! ตามผมมา!”

หวังหยู่ก็ทะยานไปด้านหน้าและใช้ [หมัดกระแทก] เพื่อผลักเขาไปด้านหน้า

หยางนัวก็ทำตามในทันที และตามหวังหยู่อย่างใกล้ชิด

ฝูงชนนั้นก็หัวเราะเยาะกับทั้งคู่ เมื่อพวกเขาเห็นทั้งคู่พุ่งมาหาพวกเขา อย่างน้อยมันก็มีผู้เล่นหลายสิบคนอยู่ที่นี่ ชายคนนี้คิดว่าเขาจะสามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้งั้นเหรอ?

“โจมตี!”เสียงก็ดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน ผู้เล่นที่เป็นอาชีพโจมตีไกลทั้งหมดก็รีบเล็งไปยังหวังหยู่และร่ายสกิลและยิงลูกศรใส่พวกเขา

หวังหยู่นั้นจะพบความกดดันบ้าง ถ้าผู้เล่นพวกนี้มาจากกิลด์เดียวกันและมีการร่วมมือกันในการโจมตี

แต่ว่ากิลด์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองวาติกันนั้นยังคงติดอยู่ในจุดเกิด ผู้เล่นที่ล้อมรอบหวังหยู่และหยางนัวนั้นเป็นเพียงแค่กลุ่มคนที่โหยหาในความรุ่งโรจน์เท่านั้น

หวังหยู่นั้นก็ยืดมือออกไปทั้งสองข้าง และก็ขัดขวางลูกศรหลายสิบดอกที่ลอยมายังเขา และเขาก็ขว้างพวกมันกลับใส่คนที่โจมตีเขา และขัดขวางลูกบอลไฟและเวทย์มนต์น้ำแข็งแบบนั้น..

หยางนัวนั้นก็ยกธนูของเธอขึ้นและหาโอกาสในการยิงใส่พวกนักธนูแถวหลังและนักเวทย์ ในเวลาไม่กี่วินาทีพวกเขาก็กลายเป็นแสงสีขาวไป

ก่อนที่พวกเขาจะเตรียมการโจมตีระลอกสอง หวังหยู่ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขาแล้ว....

สำหรับผู้เชี่ยวชาญแบบหวังหยู่นั้นก็ไม่มีปัญหาในการสังหารแท็งค์อย่างเช่นนายน้อยปักกิ่ง แล้วคนอื่นจะต้านทานการโจมตีที่รุนแรงของเขาได้ยังไงกัน?

[บีบคอ] [เตะด้านข้าง] [หมัดกระแทก] [เข่าลอย]

มันไม่ได้ใช้เวลานานมากสำหรับหวังหยู่และหยางนัวในการกวาดล้างของผู้โจมตีพวกเขา

“เหี้...!”

แม้ว่าหลังจากที่เปิดเส้นทางของผู้เล่นพวกนี้แล้ว หวังหยู่ก็ยังไม่สามารถหลบหนีได้ เขาก็ยืนอยู่ที่นั่นและมึนงงอยู่อย่างนั้น

ผู้เล่น.....ทั่วทั้งถนนนั้นเต็มไปด้วยพวกเขา ไกลเท่าที่ตาสามารถมองเห็นได้...

แม้ว่าหวังหยู่จะเห็นสงครามของคนนับหมื่นระหว่างกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ติและเมืองรัตติกาลมาก่อนก็ตามที มันก็ไม่สามารถเทียบได้เลยกับผู้เล่นจำนวนมหาศาลที่เต็มไปทั่วทั้งถนนแบบนี้

หวังหยู่นั้นเคยได้ยินนิยายของผู้เชี่ยวชาญเพียงหนึ่งเดียวในการท้าทายกับกองทัพนับหมื่นคนมาก่อน แต่มันก็ไม่ได้ต่างไปจากนิยายปรัมปรา

จัดการฝูงชนด้วยตัวเพียงคนเดียวงั้นเหรอ? มันก็ไม่ได้มากไปกว่าความเพ้อฝันของคนบ้า...

ลืมไปเกี่ยวกับผู้เล่นนี้เลย หวังหยู่ก็จะลงแรงจำนวนมากในการฆ่าหมาป่านับพันตัว

เพื่อทำให้เลวร้ายมากยิ่งขึ้น ผู้เล่นที่มาถึงภายหลังก็ถูกจัดรูปแบบการต่อสู้ ทุกคนนั้นก็สวมตรากิลด์ปักไว้บนหน้าอกของพวกเขา

แม้ว่าเขาจะใหม่กับโลกของเกม หวังหยู่ก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องตลกที่จะเผชิญหน้ากับรูปแบบการต่อสู้ที่กิลด์นี้จัดการ

“พวกเราควรที่จะทำอะไรดีในตอนนี้...”หยางนัวถามอย่างอ่อนแอแล้วเธอก็จ้องไปยังฝูงผู้เล่นด้านหน้าพวกเธอ

เมื่อคิดว่าพวกเธอนั้นกำลังถูกล้อมรอบโดยผู้เล่นนับพันคนในตอนนี้..

“ใจเย็นลงและดูสถานการณ์ก่อน!”หวังหยู่ตอบกลับอย่างช่วยไม่ได้

ผู้เล่นจากเมืองวาติกันก็เคลื่อนที่ไปด้านหน้าอย่างช้าๆและผลักดันพวกเขาไปยังทางตัน

แต่ผู้เล่นพวกนี้ยังไม่ได้ทำอะไรกับหวังหยู่และหยางนัว ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่สามารถทำได้ แต่พวกเขาไม่กล้าทำ...

แต้มคุณธรรม 200 แต้ม มันไม่ใช่ผลรวมเพียงแค่เล็กน้อย....ไม่ต้องพูดถึงว่ามันมีคู่ต่อสู้สองคนเลย....ไม่มีใครต้องการที่จะสู้กับหวังหยู่และหยางนัว มีเพียงแค่ต้องการที่จะขโมยแต้มในตอนท้ายสุด

หวังหยู่และหยางนัวนั้นก็ไม่ได้ต่างไปจากถุงเงินถุงทองที่รอโดนขโมย แต่ตั้งแต่ที่พวกเขานั้นไม่ได้ร่วมมือกัน ผู้เล่นพวกนี้ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเคลื่อนไหวคนแรก

ผแม้ว่าพวกเขาจะถูกผู้เล่นหลายพันคนจดจ้องอยู่ หวังหยู่และหยางนัวก็ยังไม่โดนสัมผัสเลยแม้แต่นิดเดียว

ผู้เล่นคนอื่นก็จ้องหน้ากันและกันน ไม่มีใครกล้าที่จะเคลื่อนไหวก่อน

เพียงแค่ทุกคนกำลังจ้องหน้ากันอย่างเฉยเมย ผู้เล่นวัยกลางคนก็ก้าวออกมาจากฝูงชน และก็กำมือแล้วเขาก็พูดกับฝูงชนว่า “สวัสดีทุกคน ผมคือพาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดของกิลด์เฮล์มคริมสัน แทนที่จะจ้องหน้ากันและกันแบบนี้และหวังว่าบางสิ่งจะเกิดขึ้น ทำไมพวกเราไม่ตัดสินว่าพวกเราจะทำยังไงกับสองคนนี้ดี?”

“ไอ้เหี้...!”หวังหยู่ตะโกนอย่างโกรธเคืองใส่พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัด มันเป็นครั้งแรกที่ใครบางคนกล้าที่จะปฏิบัติกับเขาเหมือนกับสัตว์ที่เลี้ยงอยู่ในฟาร์มและรอคอยที่จะถูกฆ่า

หวังหยู่ก็รีบส่งข้อความให้กับทุกคนในนิกายซวนเฉิน “ผมควรทำอะไรดี ถ้าผมถูกล่า?”

“ถ้ามันไม่มีผู้เล่นมากซักเท่าไหร่ละก็ ฆ่าพวกมันให้หมด ถ้ามันมีผู้เล่นจำนวนมาก นายก็ควรที่จะหนี!”ไร้ความกลัวรีบตอบ มันเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับนิกายซวนเฉินที่ชอบใช้เมื่อพวกเขาเจอปัญหา

“ถ้าผมถูกล่าโดยผู้เล่นนับหมื่นคนและผมติดอยู่ในทางตันละ?”หวังหยู่พูดต่อ

“…”ทั้งแชทก็เงียบกริบ...การถูกผลักให้ติดอยู่ในทางตัน...

หวังหยู่น่าจะเป็นเพียงคนเดียวในเกมที่สามารถทำให้เกิดพายุที่รุนแรงแบบนี้ได้

“เหี้...อะไรวะ! มึงมีเทพเจ้าโชคร้ายอยู่กับตัวงั้นเหรอ ทำไมนายถึงสร้างปัญหาทุกๆที่นายไปกัน?”หมิงตู่ตอบกลับ

“เพียงแค่สู้มันจนตายก็พอ! ผมจะโอ้อวดตลอดไปว่าผมได้เผชิญหน้ากับผู้เล่นนับหมื่นด้วยตัวเพียงคนเดียว!”ขุนนางครอทตอบกลับอย่างมั่นใจ

ดาบน้ำแข็งก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงที่สุด “บางทีนายสามารถยอมแพ้ได้....มันก็เป็นเพียงแค่เกม มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าอายเลยที่จะตาย”

“ล่อเวลาไว้ การช่วยเหลือกำลังไปถึง!”ไร้ความกลัวตอบกลับ

“ใครกัน?”หวังหยู่ถามอย่างสับสน ไม่เพียงแต่เมืองรัตติกาลนั้นอยู่ห่างออกไปถึงชั่วโมงครึ่ง นิกายซวนเฉินมีผู้เล่นเพียงไม่กี่คน พวกเขาจะช่วยได้มากแค่ไหนกัน? มันไม่ใช่ว่าผู้เล่นพวกนี้จะนั่งเฉยๆเงียบๆเป็นเวลาชั่วโมงหนึ่ง

“ไม่ต้องกังวลไป เดี๋ยวนายก็จะรู้เองในไม่ช้า!”ไร้ความกลัวตอบกลับอีกครั้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด