Chapter 125: เป็นที่ต้องการของคนทั้งหมด
Chapter 125: เป็นที่ต้องการของคนทั้งหมด
ตั้งแต่ที่ [ลำแสงแห่งการตัดสิน] นั้นมีพื้นฐานเป็นสกิลเวทย์ มันก็จำเป็นที่จะต้องใช้ท่าทางเพิ่มเติมในการใช้งานมัน เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ [การประหารแห่งสรวงสวรรค์]
ตั้งแต่ที่พวกเขาทั้งสองคนหลบอยู่ด้านหลังรูปปั้นเทพเจ้า เทวดาแห่งการตัดสินนั้นก็ไม่สามาถที่จะใช้ [การประหารแห่งสรวงสวรรค์] ได้ สิ่งที่หวังหยู่จะต้องทำทั้งหมดก็คือขัดขวางเมื่อมันร่าย [ลำแสงแห่งการตัดสิน] เพื่อป้องกันการโจมตี
เมื่อยิงเทวดาแห่งการตัดสินด้วยปืนคาบศิลาของเขาก่อนหน้านี้ หวังหยู่ก็รู้ว่าการโจมตีระยะไกลไม่สามารถขัดขวางมันได้ สำหรับบอสที่ใช้โหมดอิสระนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการจัดการมัน
“เธอต้องการที่จะได้ก้อนหินปีศาจศักดิ์สิทธิ์หรือไม่?”หวังหยู่ถามหยางนัว
“แน่นอนว่าอยากได้!”
“ผมจะตอกเขาลงอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เมื่อเวลามาถึง ผมต้องการให้เธอยิงใส่เขา!”หวังหยู่แนะนำ
“นายสามารถทำมันได้งั้นเหรอ?”หยางนัวจ้องไปที่ร่างที่ลอยอยู่ท่ามกลางอากาศแล้วเธอก็ถามอย่างกังวลกับหวังหยู่
ไม่สำคัญหรอกว่าเธอนั้นคิดอย่างยากลำบากมากแค่ไหน หยางนัวก็ไม่สามารถจินตนาการได้ถึงอาชีพระยะประชิดแบบนักต่อสู้นั้นสามารถที่จะตอบโต้เทวดาแห่งการตัดสินได้
หยางนัวนั้นรู้อย่างชัดเจนว่าด้วยความสามารถของเธอ เธอไม่สามารถที่จะจัดการบอสได้ ถ้าไม่มีหวังหยู่
“ฉันมีแผน!”
หวังหยู่นั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจเมื่อเขาพุ่งเข้าใส่เทวดาแห่งการตัดสิน
เทวดาแห่งการตัดสินก็ยกดาบขึ้นมาในทันทีเมื่อมันเห็นหวังหยู่พุ่งเข้ามา และก็เตรียมที่จะใช้ [การประหารแห่งสรวงสวรรค์] แต่หวังหยู่ก็ปฏิบัติตัวในทันทีและเข้าใกล้กับรูปปั้นของเทพเจ้า และมันก็พยายามที่จะร่าย [ลำแสงแห่งการตัดสิน] แทน
“นี่แหละคือช่วงเวลาที่ฉันรออยู่!”
หวังหยู่ก็นำพลองยาวออก และก็ใช้มันผลักตัวเองขึ้นบนอากาศ ในขณะที่เขาอยู่กลางอากาศ หวังหยู่ก็รีบเปลี่ยนพลองยาวออกและใช้ความเศร้าโศรกแห่งผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้อัดเข้าใส่เทวดาแห่งการตัดสินด้วย [หมัดกระแทก] และขัดจังหวะสกิลของเขา
“ติ๊ง!”หยางนัวก็ปฏิบัติตัวในทันที และก็ยิงลูกศรแล้วลูกศรเล่าเข้าใส่หัวของเทวดาแห่งการตัดสิน
หยางนัวนั้นมีอุปกรณ์ที่ค่อนข้างดี แต่ในตอนนี้เธอนั้นมีอาวุธอัคนีที่ได้มาจากหวังหยู่ ความเสียหายที่เธอทำได้นั้นก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
หวังหยู่นั้นก็ไม่มีสกิลที่ทำให้เขานั้นบินได้ เขาจึงลงบนพื้นอย่างรุนแรง
เทวดาแห่งการตัดสินก็จ้องไปอย่างโกรธเคืองใส่เขา และเหวี่ยงดาบแล้วก็ใช้ [การประหารแห่งสรวงสวรรค์] อีกครั้ง
พร้อมกับการใช้ [ระลอกคลื่น] หวังหยู่นั้นก็จัดการตัวเองให้หลุดพ้นจากความอันตราย และก็กลิ้งไปหลบด้านหลังของรูปปั้นเทพเจ้าอีกครั้งหนึ่ง
“ห้าสิบเมตร เหมือนกับเป็นระยะสูงสุดของการโจมตีของมัน”หวังหยู่พึมพำกับตัวเอง เมื่อเทวดาแห่งการตัดสินที่จะโจมตีอีกครั้งหนึ่ง
หวังหยู่นั้นก็วิ่งเข้าไปหามันในทันที และก็ใช้พลองยาวทำให้เขาพุ่งขึ้นไปบนอากาศอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะอัดใส่มันอย่างรุนแรงอีกครั้งด้วยการใช้ [หมัดกระแทก] และก็ยกเลิกสกิลของมัน ในขณะที่หยางนัวนั้นก็ปล่อยห่ากระสุนใส่ร่างกายของมัน
หวังหยู่นั้นมีสามสกิลที่เขาสามารถขัดจังหวะศัตรูได้ในขณะที่พวกมันพยายามที่จะใช้สกิลก็คือ [ร่างกายโลหะ] [ฝ่ามือพลังวอยด์] และ [หมัดกระแทก] ที่คูลดาวน์เหล่านี้นั้นก็ไม่ค่อยสูง ซึ่งทำให้หวังหยู่นั้นสามารถใช้งานพวกมันหมุนเวียนไปมาในการสู้กับเทวดาแห่งการตัดสิน
พลังชีวิตเกือบ 90000 ของมันก็ลดลงอย่างต่อเนื่องโดยผู้เชี่ยวชาญสองคน
เมื่อมันกำลังจะตาย เทวดาแห่งการตัดสินก็ลอยขึ้นกลางอากาศ และทั่วร่างของมันก็ปกคลุมไปด้วยออร่าสีทองแล้วมันก็เริ่มที่จะร่ายมนต์
“วิ่ง! มันจะใช้ท่าไม้ตายแล้ว!”
“ผมเข้าใจแล้ว!”หวังหยู่พยักหน้า แทนที่จะวิ่งหนี หวังหยู่ก็พุ่งเข้าใส่เทวดาแห่งการตัดสิน และก็จับคอของมันและทุ่มมันลงอย่างไร้เมตตา
{ข้อความทั่วโลก : กระทิงเหล็กแห่งเมืองรัตติกาลและหิมะบริสุทธิ์นั้นเป็นผู้เล่นคนแรกที่ฆ่าบอสผู้ตัดสินนอกรีตวิลลี่}
{ระบบแจ้งเตือน : คุณได้รับค่าประสบการณ์ 0 หน่วย จากการฆ่าเทวดาแห่งการตัดสิน}
{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้ฆ่าบอสจากฝ่ายแสง คุณได้รับสมญานาม : นักล่าเทพเจ้า : แต้มคุณธรรมของเมืองวาติกัน -200 แต้ม ความคุ้นเคยกับฝ่ายแสง -200 แต้ม}
{นักล่าเทพเจ้า}
+20 จิตวิญญาณ
+20 สติปัญญา
หยางนัวก็ได้รับข้อความเช่นเดียวกันกับหวังหยู่ มีเพียงความแตกต่างหลักเพียงอย่างเดียวก็คือตั้งแต่ที่ค่าประสบการณ์นั้นไม่ถูกปิดกั้น เธอก็เลื่อนระดับ
“เหี้... ทำไมนายไม่ใช่สกิลนั้นก่อนหน้านี้กัน?”หยางนัวบ่น
“เขามีพลังชีวิตมากเกินไปก่อนหน้านี้ ไม่ต้องพูดถึงเขานั้นใช้โหมดคลั่งอยู่ เธอต้องการที่จะฆ่าฉันตายงั้นเหรอ?”
“นายรู้เหรอว่าผู้เล่นที่โจมตีคนสุดท้ายใส่บอสจะได้รับค่าประสบการณ์เพิ่ม 50% หน่ะ? ไอ้ขี้งก!”หยางนัวคลั่ง
เมื่อเขาได้ยินคำพูด ‘ค่าประสบการณ์’ หวังหยู่ก็จ้องไปอย่างเฉยเมยใส่ค่าสถานะบนหน้าต่าง และไม่กล้าที่จะพูดคำพูดอีก
...
หยางนัวนั้นก็เป็นคนที่ชอบคำนวน มันเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะทำอะไร ถ้าเธอรู้ว่าหวังหยู่นั้นให้ประโยชน์กับเธอโดยไม่ได้อะไรกลับคืนมากับตัวเอง
ตั้งแต่ที่เทวดาแห่งการตัดสินนั้นเป็นบอสที่เป็นส่วนหนึ่งของเควสเธอ มันก็ไม่ได้ดรอปอุปกรณ์อะไรออกมา มีเพียงดรอปไอเทมเควสสามคน
ขนนักศักดิ์สิทธิ์ : ไอเทมเควส
ก้อนหินศักดิ์สิทธิ์ : ไอเทมเควส
ตราศักดิ์สิทธิ์ : ไอเทมเควส
หวังหยู่นั้นก็รู้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับไอเทมสองอย่างแรง แต่ตราศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นบางสิ่งที่หวังหยู่จำไม่ได้
แต่ทั้งสองคนนั้นก็ไม่ได้สนใจมากกับตราศักดิ์สิทธิ์ เมื่อพวกเขานั้นได้รับคำแจ้งเตือนที่เหมือนกัน
{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้รับเควส “หลบหนีจากเมืองวาติกัน” เควสระดับ A คุณจะถูกไล่ล่า ในขณะที่คุณหลบหนีจากเมืองวาติกัน ไอเทมเควสทั้งหมดจะถูกดรอปลงหลังจากที่คุณตาย}
ทั้งคู่นั้นก็รีบเปิดแผนที่ขึ้นในทันทีหลังจากทั้งคู่ได้รับแจ้งเตือนจากระบบ มันก็มีจุดสีแดงสองจุดบนแผนที่ ซึ่งมันบ่งบอกถึงหวังหยู่และหยางนัว ในขณะที่จุดสีเขียวนั้นก็หมายถึงผู้เล่นที่กำลังไล่ล่าพวกเขาลง
เมื่อหวังหยู่ฆ่าเทวดาแห่งการตัดสินลง ผู้เล่นจากกิลด์รากจักรพรรดิที่กำลังขังอัศวินศักดิ์สิทธิ์ไว้ก็ตกใจกับการแจ้งเตือนทั่วโลก
“ไอ้พวกนักเลงนั้นฆ่าเทวดาแห่งการตัดสิน?”เอกรังสีรุ่งอรุณอ้าปากค้าง ไม่ใช่ว่าเทวดาแห่งการตัดสินนั้นจะเป็นบอส 200 ที่เป็นบอสช่วงจบเกมงั้นเหรอ? ทำไมผู้เล่นที่อ่อนแอจึงฆ่าพวกเขาได้ในช่วงต้นเกมกัน?
ข้อความอีกสองข้อก็ทำลายความคิดของเอกรังสีรุ่งอรุณลงจนเกิดความสับสน
{แจ้งเตือนระบบ : กิลด์ทั้งหมดของคุณได้รับเควส ‘ค้นหาความจริง’ เพื่อจับกุมนักล่าเทพเจ้าของเมืองวาติกันเพื่อฟื้นฟูเกียรติของกิลด์ของคุณ!}
{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้รับเควส ‘ล้างแค้น’ หยุดนักล่าเทพเจ้าจากการหลบหนีโดยการสังหารเขา เมื่อทำสำเร็จคุณจะได้รับแต้มคุณธรรมจากเมืองวาติกัน 200 แต้มและสมญานาม “นักรบที่น่าเคารพบูชา”}