ตอนที่ 89 ตรวจค้น (FREE)
หลังจากสิ้นเสียงของผ้คุมสอบ เหล่านักปราชญ์ที่อยู่รอบ ๆ ก็พ่นเสียงหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน พวกเขารอให้ ฟาง เจิ้งจือ ถูกถอนสิทธิ์จากการทดสอบ แต่ทว่า ฟาง เจิ้งจือ กลับนั่งอยู่ในที่ของเขาด้วยความสงบราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ฟาง เจิ้งจือ ออกมากับข้า!"ผู้คุมสอบเห็นว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีการเคลื่อนไหวและยังนิ่งเฉย
"ทำไมกันล่ะ?" ใบหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา
"เจ้านำของบางอย่างเข้ามาในห้องสอบและนั่นถือว่าเป็นการโกง เจ้ายังต้องถามข้าอีกรึว่า ทำไม ?" ผู้คุมสอบตอบกลับอย่างดุดัน
"การเฝ้าระวังในฐานะผู้คุมสอบด้านปัญญา เจ้าจะรับผิดชอบต่อคำกล่าวของท่านหรือ ท่านเห็นข้านำกระดาษโพยเข้ามาหรือไม่? " ฟาง เจิ้งจือ โต้กลับ
ผู้คุมเริ่มหงุดหงิด ตัวเขาไม่ได้เห็น ฟาง เจิ้งจือ นำสิ่งใดเขามาในห้องสอบเลยสักนิด แต่ทว่ามีพยานร้องเรียนว่าเห็นเขาทำและนอกจากนี้เขาคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะยอมรับแล้ว
แต่รอเดี๋ยวก่อน ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ยอมรับผิด!
"ทำไมท่านถึงไม่ลองค้นตัวข้าเสียก่อนละ?" ฟาง เจิ้งจือ เห็นว่าผู้คุมไม่ได้คิดจะตรวจหาเลย และเริ่มแนะนำ
"ตรวจหาที่ตัวเจ้า?" ผู้คุมเริ่มลังเลใจ อาณาจักรเซี่ยมีความเคารพในสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่านักปราชญ์ที่มาเข้าร่วมการทดสอบ หากไม่มีหลักฐานบ่งชี้ที่ดีมากพอ การตรวจหาตามร่างกายของผู้เข้าร่วมการทดสอบ ดูเหมือนจะไม่อยู่ในอำนาจเขา
"ผู้คุมสอบ ข้าเห็นด้วยตาของตัวเองว่าเขานำกระดาษโพยเข้ามา!"เสียงยืนยันของ หลี่ จ้วงฉือ ลอยมาจากด้านข้าง
"เจ้าแน่ใจหรือไม่?" ผู้คุมยังคงลังเลใจอยู่เช่นเดิม
"ข้ามั่นใจ!" หลี่ จ้วงฉือ พยักหน้า
"งั้น....ข้าจะตรวจหา!" ผู้คุมสอบจ้องไปที่ หลี่ จ้วงฉือ ตาเขม็งเป็นเวลาอยู่ชั่วครู่หนึ่ง
เมื่อเหล่านักปราชญ์ได้ยินเรื่องการตรวจค้นก็เริ่มพากันลุกขึ้นยืน การตรวจหาตามร่างกายผู้เข้าร่วมการทดสอบเป็นเรื่องที่หาดูได้ยาก และมันเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะเกิดความสนใจ อยากรู้อยากเห็น
แต่พวกเขาสงสัยในการแสดงออกของ ฟาง เจิ้งจือ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตรวจค้นร่างกายของ ฟาง เจิ้งจือ ได้จริง
"งั้นเชิญท่านตามสบาย!" ฟาง เจิ้งจือ ให้ความร่วมมืออย่างไม่น่าเชื่อ
ในขณะที่เขาพูด เขาก็เริ่มยืนขึ้นจากที่นั่งของเขา และเปิดกระเป๋าของเขาเทออกให้ตรวจหาอย่างแข็งขัน ทั้งหมดนั้นมีเพียงสมุดบันทึกสองสามเล่มและเงินไม่กี่เหรียญ หลังจากนั้นเขาก็ส่งสัญญาณให้ผู้คุมมาตรวจหาด้วยตัวเอง
เมื่อได้เห็นการกระทำของ ฟาง เจิ้งจือ ผู้คุมเริ่มรู้สึกว่าบางอย่างมันไม่ถูกต้องเขาเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับ ฟาง เจิ้งจือ โดยเฉาะเรื่องที่เกิดขึ้นที่บึงนำแห่งความสงบ
คนอย่าง ฟาง เจิ้งจือ จะยอมให้เขาตรวจค้นร่างกายอย่างง่ายๆได้ยังไง?
คนที่ดูเจ้าเล่ห์เยี่ยงนี้ อาจจะวางแผนอะไรไว้?
ต้องมีอะไรบางอย่าง?
ผู้คุมสับสนไปชั่วครู่ แต่ ฟาง เจิ้งจือ ส่งสัญญาณให้เริ่มการตรวจหา คำพูดนั้นราวกับธนูที่พร้อมยิงออกจากคันธนูแล้วจะยิงมันออกมา
เขาไม่มีทางเลือกเขาไม่สามารถเชื่อในคำพูดของ หลี่ จ้วงฉือ ได้แค่ฝ่ายเดียว
ทันทีที่ผู้คุมเดินเข้าไปสองสามก้าว และเริ่มการตรวจค้น ฟาง เจิ้งจือ ก็อยู่เฉย ไม่มีท่าทีต่อตานอะไรทั้งนั้นเขาแบมือของเขาออกและแสดงท่าทีที่สงบไร้เดียงสา ราวกับว่าเป็นลูกแกะตัวน้อยที่รอวันถูกเชือด
เมื่อได้เห็นท่าทีของ ฟาง เจิ้งจือ หลี่ จ้วงฉือ ก็เริ่มรู้สึกตะขิดตะขวงใจฟาง เจิ้งจือ ดูใจเย็นจนเกินไป ราวกับว่าเขาคาเดาเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ ถ้าเขานำกระดาษโพยเข้ามา ก็ไม่น่าจะใจเย็นขนาดนี้
แต่ว่ามันต้องมีแน่...หลี่ จ้วงฉือ มั่นใจในความคิดของเขา
"ไม่มี?!" ผู้คุมตรวจหาอย่างละเอียดและรู้สึกสั่นเทาเล็กน้อย ถ้าอย่างน้อยเขาตรวจพบอะไรสักอย่างก็ยังพอจะยอมรับได้ แต่ทว่ากลับไม่พบสิ่งใดเลย ข้าจะทำยังไงดี?
สายตาของเขาหันมองไปทาง หลี่ จ้วงฉือ ในทันที
"นี่มันเป็นไปไม่ได้ ข้าเห็นด้วยตาของข้าเอง ให้ข้าไปตรวจหาเองหน่อย! " หลี่ จ้วงฉือ ยังคงไม่ละทิ้งความพยายาม และไปรีบเข้าไปตรวจหาเองในทันที
นี่มันขัดแย้งกับกฎ แต่เหมือนว่า ฟาง เจิ้งจือ จะทำเป็นไม่รู้เขายังคงแสดงท่าทีนิ่งสงบและให้ หลี่ จ้วงฉือ ตรวจหาต่อไป....
ในขณะเดียวกัน เหล่านักปราชญ์ที่อยู่รอบ ๆ ก็จ้องมองมาด้วยสายตาที่อย่างรู้อยากเห็น พวกเขามองไปที่ทั้งโต๊ะ บนเก้าอี และที่บนพื้น พวกเขาเชื่อว่า ฟาง เจิงจือ ต้องนำของบางอย่างเข้ามาอย่างแน่นอน
แต่ทำไม...ไม่มีเลย?
"จะให้ข้าเข้าร่วมการทดสอบได้หรือยัง?" หลังจากรอให้ทุกคนได้ตรวจหากันจนเสร็จสิ้น ฟาง เจิ้งจือ ก็พูดออกมา
"ข้าขอโทษด้วยสำหรับความวุ่นวาย!" ผู้คุมขมวดคิ้วหนักและอยากเดินจากไปเต็มที่
"รอสักครู่!" ในตอนนั้นเอง ฟาง เจิ้งจือ ยั้งผู้คุมเอาไว้
"มีอะไรอีก?" ผู้คุมหยุดเคลื่อนไหวแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างมันทำให้หัวใจของเขาสั่นเทา เพราะเขาเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ อย่างชัดเจน
มันช่างเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผ้คุมต้องรู้สึกหนาวเหน็บถึงใจ
"อาณาจักรเซี่ยเป็นอณาจักรอันยิ่งใหญ่และเหล่านักปราชญ์ต่างให้ความเคารพกับการทดสอบ ทุกสิ่งอย่างเป็นไปด้วยความยุติธรรม ก่อนหน้านี้ ใครบางคนได้สงสัยว่าข้าได้นำของบางอย่างเขามาในห้องสอบ ข้าจึงยอมให้ตรวจหา นี่คือสิ่งที่ข้าเชื่อว่าทุกคนเห็น จากนั้นข้าต้องการที่จะทำตามหลักการของผู้คุมสอบ หากมีการร้องเรียนเกิดขึ้นจะต้องมีการตรวจค้นเสมอ ข้าจึงจะขอร้องเรียนบ้าง ! " ฟาง เจิ้งจือ เผยร้อยยิ้มออกมาเล็กน้อย
"เจ้าจะร้องเรียนงั้นหรือ?" เมื่อผู้คุมได้ยินเรื่องนี้เขาก็รู้สึกว่าต้องมีเรื่องไม่ดีแน่
"ใช่ ข้าสงสัยว่าทุกคนก็อาจจะนำของบางอย่างเข้ามาในห้องสอบเหมือนกัน ข้าจึงอยากจะให้ผู้คุมตรวจค้นทุกคนที่มาเข้าร่วมการทดสอบ?" ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ผู้คุมสอบด้วยท่าทีสบาย ๆ
"ว่าอย่างไรนะ?! ตรวจค้นทีละคน? "
"เหตุผลอะไรของเจ้า!"
ทำไมต้องตรวจค้นร่างกายพวกเรา ทั้งที่ไม่มีหลักฐานอะไรเลย?
เหล่านักปราชญ์เริ่มไม่สบายใจและเริ่มมีน้ำตาไหลรินออกมา แต่หลังจากที่ได้คิดเล็กน้อย พวกเขาก็เริ่มปิดปากเงียบ เพราะก่อนหน้านี้ได้ไปช่วยผู้คุมตรวจค้นร่างของ ฟาง เจิ้งจือ โดยไม่ได้มีหลักฐานเช่นเดียวกัน
"ตรวจค้นทุกคน?" ผู้คุมเริ่มหงุดหงิด ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมตอนนั้น ฟาง เจิ้งจือ ถึงให้ความร่วมมือนักนอกจากนี้เขายังเป็นคนริเริ่มให้ตรวจค้นอีกด้วย มันราวกับเขาขุดหลุมฝังตัวเองแท้ ๆ !
ตรวจค้นร่างกายทีละคน มันต้องใช้เวลานานแค่ไหนกัน? ในการสอบครั้งนี้จำนวนผู้เข้าร่วมการทดสอบระดับเมืองหลวงต้องใช้เวลามากกว่า 5 เท่าของการทดสอบครั้งที่ผ่านมา ความล่าช้าไม่ได้สำคัญมากนัก แต่การกระทำเช่นนี้เป็นเรื่องที่โหดร้ายเกินไป!
แน่นอนว่าควรจะแจ้งให้หัวหน้าผู้คุมสอบให้ทราบก่อน
ถ้าหากเขาไม่ทำตามที่ ฟาง เจิ้งจือ พูดมันจะดูไม่ยุติธรรม ถ้า ฟาง เจิ้งจือ โกรธขึ้นมาล่ะก็ เขาคงจะทำอะไรไม่ได้
ในตอนนี้ เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าความจริงแล้วใครกันที่เป็นลูกแกะตัวน้อยที่รอวันเชือด
"ไม่มีหลักฐาน...." ผู้คุมสอบพูดคำ ๆ นี้ออกมาด้วยความยากลำบาก
เพราะก่อนหน้านี้เขาตรวจค้น ฟาง เจิ้งจือ เขาเองก็ไม่มีหลักฐานเลยเช่นกัน
"ไม่ต้องพูดหาถึงหลักฐานเลย? ข้าควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม!? ข้าหวังว่าผู้คุมจะเชื่อข้า! นอกจากนี้ ข้ายังสามารถช่วยท่านแบบที่ หลี่ จ้วงฉือ ทำได้!" ฟาง เจิ้งจือ จะมีความมั่นใจอย่างเป็นอย่างมาก
เพจหลัก : Double gate TH