ตอนที่ 14 ชีวิตของผู้ควบคุมที่น่ากลัว
ตอนที่ 14 ชีวิตของผู้ควบคุมที่น่ากลัว
รถบรรทุกของเจ้าหน้าที่เทศกิจจอดอยู่ห่างจากแผงลอยของหลินฟ่านประมาณ 300 เมตร หนึ่งในเจ้าหน้าที่เทศกิจได้เปลี่ยนจากชุดเจ้าหน้าที่เป็นชุดของพลเรือน
"เฮ้อ บางครั้งการสวมเครื่องแบบมันเป็นเรื่องน่าอึดอัด ฉันต้องเปลี่ยนมันเพียงเพราะต้องการซื้ออะไรบางอย่าง"
"นายคิดว่า ถ้าเราไม่เปลี่ยนชุดแล้วจะไปได้เหรอ? เราเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจของเมือง เราจะไม่สามารถอธิบายได้หากมีคนถ่ายรูปเราตอนอยู่ในเครื่องแบบขณะซื้อของจากแผงลอย"
"มันเป็นเรื่องจริง..."
.....
ตอนนี้หลินฟ่านรู้สึกว่างเปล่าแม้ว่าเขาจะรู้สึกอยู่ยงคงกระพันก็ตาม มันคล้ายกับขอทานที่กำลังได้รับชัยชนะ
ในบริเวณใกล้เคียงไม่มีแม้แต่แผงลอยเดียวที่ตั้งอยู่ แม้ว่าหลินฟ่านต้องการแข่งขัน แต่ไม่มีใครมาแข่งด้วย เขารู้สึกหดหู่และโดดเดี่ยว
หลินฟ่านกลายเป็นพ่อค้าแผงลอยของโรงเรียนประถมหงซิง แต่เขาก็ปรารถนาให้มีคนที่แข่งขันกับเขาในธุรกิจได้
*ครืด ครืด*
เสียงของรถเข็นกำลังถูกลากเข้ามา พวกเขาบางส่วนลอบสังเกตสถานการณ์อยู่ภายนอกโรงเรียนประถมหงซิง เขาต่างพากันประหลาดใจเมื่อเห็นหลินฟ่านตั้งแผงลอยอยู่นอกโรงเรียน
"มันโอเค เทศกิจไปแล้ว"
จากนั้น แผงลอยจำนวนมากก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งและกลับเข้ามาประจำตำแหน่งของพวกเขา
หญิงชราเห็นรถเข็นของหลินฟ่าน เธอยิ้มประหลาดๆและพูด "เด็กน้อย แกโดนปรับเท่าไหร่?"
"มันไม่เกี่ยวกับคุณ"
หลินฟ่านเหลือบมองและไม่พูดอะไรอีก
"ว้าว เด็กน้อยดูแกหยิ่งหนิ ไม่ใช่ว่าใช้เงินทั้งหมดไปกับ 'โชว์' ก่อนหน้านี้หรอกเหรอ?
"ฉันคิดว่าแกควรทำธุรกิจอย่างซื่อสัตย์และหยุดใช้เทคนิคเหล่านี้ ดูสิตอนนี้นักแสดงของแกหนีไปหมดแล้ว ธุรกิจของแกมันเจ๊งแล้ว"
หลินฟ่านไม่ต้องการพูดอะไรอีก ผู้ขายแผงลอยคนอื่นๆต่างเป็นคู่แข่งของเขา คนแก่เหล่านี้คิดว่าเด็กหนุ่มอย่างหลินฟ่านง่ายต่อการข่มขู่
อย่างไรก็ตามเขาไม่ต้องการโต้เถียงไปกับพวกเขา เขาได้รับใบอนุญาตที่ยืนยันแผงลอยของเขาแล้ว
*ตึก ตึก*
ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงดังมาจากผู้หญิงคนหนึ่ง เธอหยุดอยู่ตรงหน้าแผงลอยของหลินฟ่าน
กลิ่นของน้ำหอมของเธอลอยอยู่ในอากาศ
หลินฟ่านเงยหน้าขึ้นมองและคิดว่า นี่เป็นสาวงามที่เจอตอนเย็นของเมื่อวานหรอกหรือ?
ผู้หญิงคนนี้มีบางอย่างแตกต่างจากเมื่อวาน เธอดูสวยขึ้นทุกวันแม้ว่าจะสวมชุดอะไรก็ตาม
แม้ว่าหลินฟ่านจะไม่ได้บ้าผู้หญิง แต่เขาก็ยอมรับว่าเธอมีรูปร่างที่โดดเด่นโดยเฉพาะหน้าอกของเธอที่ดูราวกับเป็นลูกบาสเกตบอล เขากลัวว่ามันจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
อย่างไรก็ตามหลินฟ่านเองก็เป็นคนที่มีศิลธรรม
"ความงาม คุณต้องการแพนเค้กต้นหอม?" หลินฟ่านยิ้มและถาม
ซ่งชิงยี่เห็นแพนเค้กต้นหอม เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในสรวงสวรรค์ขณะที่เธอยืนอยู่ใกล้อาหารสวรรค์
"ใช่" ซ่งชิงยี่ตอบอย่างไม่ลังเล "ให้ฉันยี่สิบชิ้น"
"ไม่มีปัญหา!" หลินฟ่านตอบ ธุรกิจขนาดใหญ่มาแล้วเขาคิด จากนั้นเขาก็เหลือบเห็นคนขายเต้าหู้ยี้อยู่ข้างๆ
เบิกตาดูกว้างๆซะ! งานมาแล้ว!
คนขายเต้าหู้ยี้เห็นผู้หญิงที่อยู่หน้าแผงลอยของหลินฟ่าน ดวงตาของเขาถูกล็อกไปที่หน้าอกอันยิ่งใหญ่ของเธอ จากนั้นเขาก็คิดถึงภรรยาแก่ๆของเขา เขารู้สึกราวกับสูญเสียชีวิต
"ความงาม ความลับของแพนเค้กต้นหอมคือ..."
เพื่อที่จะได้รับคะแนนสารานุกรมหลินฟ่านเริ่มอธิบายความลับของแพนเค้ก แต่เขารู้สึกว่าไม่ได้รับคะแนนใดๆเลยหลังจากอธิบายเสร็จ เขาเงยศีรษะขึ้นและเห็นหญิงสาวคนนี้กำลังเล่นโทรศัพท์ของเธออยู่ เธอไม่ได้ยินคำพูดใดๆของเขา
สำหรับหลินฟ่านเขามีความรู้สึกเหมือนโดนโยนก้อนหินหนักๆใส่
จากนั้นเจ้าหน้าที่เทศกิจในชุดพลเรือนก็มาถึง เมื่อเห็นว่าหลินฟ่านยังไม่ว่างเขาจึงเข้ามาต่อคิว
พวกเขายังสังเกตป้ายแดงที่แผงลอยของหลินฟ่านและคิดว่าพวกเขาต้องรออีกซักพัก เขาจึงตัดสินใจมองไปที่แผงลอยเต้าหู้ยี้
"เฮ้..."
หลินฟ่านสังเกตว่าคนเหล่านี้ดูเหมือนคนคุ้นเคย เขาหยุดชั่วคราวและตระหนักว่าพวกเขาเป็น 'พี่ชาย' ที่มาส่งเขา
แต่เมื่อเขาเห็นว่าพวกเขาอยู่ในชุดพลเรือน เขาเข้าใจว่าพวกเขามาเพื่อแพนเค้กต้นหอมแน่นอน เขาคิดว่า 'พี่ชาย' ที่เป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจจะกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อเขา
"เจ้านาย คุณต้องการเต้าหู้ยี้ซักหน่อยไหม?" ชายคนนั้นถามอย่างกระปี้กระเปร่า
"ดูเหมือนมีบางอย่างผิดปกติกับน้ำมันที่คุณใช้ คุณไม่เปลี่ยนมันนานแล้วใช่ไหม?" เจ้าหน้าที่เทศกิจชี้และถาม
สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้มีประสบการณ์พวกเขาสามารถบอกว่าน้ำมันมีความผิดปกติเพียงแค่มองมัน
"เป็นไปได้ยังไง? ผมพึ่งเปลี่ยนน้ำมันเมื่อสองวันก่อน มันสะอาดมาก" ชายคนนั้นพยายามทำตัวให้เป็นปกติขณะตอบแม้ว่ามันจะมีท่าทางแปลกๆบนใบหน้าเขาก็ตาม ในความเป็นจริงน้ำมันที่เขาใช้ปรุงอาหารเป็นน้ำมันที่ถูกแปรรูปกลับคืนมาจากท่อระบายน้ำ เป็นไปไม่ได้ที่คนปกติจะมองออก
"โอ้ งั้นเหรอ?" เจ้าหน้าที่เทศกิจพยักหน้าและกล่าว ไม่มีใครรู้ว่าเขาเชื่อคำพูดของชายคนนั้นหรือไม่
"เจ้านาย คุณอาจไม่ทราบ แต่สำหรับคนขายแร่แบบเราสุขอนามัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดูไปที่คนขายแพนเค้กต้นหอมข้างๆผมดูเหมือนน้ำมันของเขาจะได้เปลี่ยนเป็นเดือนๆ มันไม่สามารถกินได้" ชายคนนั้นพูดเบาๆแต่หลินฟ่านยังคงได้ยินคำพูดของเขา
เป้าหมายของผู้ชายคนนี้คืออยากจะให้ผู้หญิงคนนี้ได้ยิน และหยุดเธอจากการซื้อแพนเค้ก
แต่สิ่งที่ทำให้ชายคนนั้นประหลาดก็คือหญิงสาวไม่ได้ดูกังวลเลย
ซ่งชิงยี่ไม่ใส่ใจกับสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นพูด
มันเป็นไปได้อย่างไรที่แพนเค้กต้นหอมอร่อยขนาดนี้จะใช้น้ำมันคุณภาพต่ำ?
แม้น้ำมันที่เขาใช้จะเป็นดังที่กล่าวไว้แต่เธอยังคงกินแพนเค้กอยู่ดี
แต่สำหรับเจ้าหน้าที่เทศกิจเหล่านี้ พวกเขาไม่สามารถทนต่อเรื่องไร้สาระดังกล่าวได้
แพนเค้กต้นหอมของหลินฟ่านมันสิ่งที่พิเศษในหัวใจของพวกเขา
พวกเขาทนต่อคำวิจารณ์ชุ่ยๆแบบนี้ได้อย่างไร?
พวกเขาหมดความอดทน พวกเขาไม่สามารถทนมันต่อไปได้
*ปัง!*
เจ้าหน้าที่เทศกิจกระแทกเคาน์เตอร์อย่างแรง ชายคนนั้นมึนงง จากนั้นเขาจึงหยิบวิทยุและพูดว่า "มาที่โรงเรียนประถมหงซิง"
"เจ้านาย คุณหมายถึงอะไร?" ผู้ชายคนนั้นถาม เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
ในเวลาไม่ถึงนาทีรถบรรทุกของเจ้าหน้าที่เทศกิจก็มาถึง
"เจ้าหน้าที่เทศกิจมาแล้ว! เจ้าหน้าที่เทศกิจมาแล้ว!!"
"เจ้านาย ผมขอโทษแต่เทศกิจกำลังมา ผมต้องไปแล้ว" ชายคนนั้นพยายามจะดันรถเข็นของเขาออกไป แต่เจ้าหน้าที่จับไว้อย่างเหนียวแน่น
"อย่าขยับ! ฉันเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจ คุณกำลังฝ่าฝืนกฏหมายโดยการตั้งแผงลอยของคุณที่นี่" เจ้าหน้าที่กล่าว
ประโยคนี้ส่งผลประทบต่อชายคนนั้นอย่างมาก ราวกับเขาได้กล่าวว่า "ขอโทษ แต่ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ"
จากนั้น เจ้าหน้าที่เทศกิจในชุดเครื่องแบบก็มาถึง ในที่สุดชายคนนั้นก็เข้าใจ เขารู้สึกเหมือนตัวเองโง่ เขามองไปรอบๆและเห็นว่าคนอื่นๆหนีไปแล้วแม้แต่ภรรยาของเขา
แต่ขณะนั้นเขาเห็นหลินฟ่านที่กำลังทำแพนเค้กอยู่ เขาตะโกน "เขาเป็นผู้ขายเร่ เขาฝ่าฝืนกฏหมายด้วย!"
หลินฟ่านมองไปที่ชายคนนั้น เขากระพริบตาและหยิบแบบฟอร์มออกมา เขาแปะแป้งเปียกเล็กน้อยและติดมันไว้บนรถเข็นของเขา
"ขอโทษครับ ผมมีใบอนุญาต ผมปฏิบัติตามกฏหมาย"
"ความงาม คุณไม่ต้องกังวล แพนเค้กพวกนี้กินได้ ผมเป็นแผงลอยที่ถูกต้องตามกฏหมาย" หลินฟ่านยิ้มและพูด
ซ่งชิงยี่รู้สึกโล่งใจ เธอคิดว่าเขากำลังจะถูกพรากไปจากเจ้าหน้าที่เทศกิจ
ชายคนนั้นเห็นแผ่นกระดาษเขารู้สึกท้อแท้ มันเป็นไปได้อย่างไร?
สำหรับหลินฟ่านเขามีใบอนุญาตอยู่ในครอบครองเขาจึงไม่กลัว
ชีวิตนี้เช่นนี้สำหรับ 'ผู้ควบคุม' อย่างหลินฟ่าน