Chapter 124: พวกเราจะสู้กับบอสนี้ได้ยังไง
Chapter 124: พวกเราจะสู้กับบอสนี้ได้ยังไง
{เทวดาแห่งการตัดสิน (ระดับ 35) (บอส) (ชั้นยอด)}
พลังชีวิต : 90000
มานา : 12456
สกิล : [การประหารแห่งสรวงสวรรค์] [ขนนกศักดิ์สิทธิ์] [ลำแสงแห่งการตัดสิน]
“ฮ่าๆๆ!”หวังหยู่หัวเราะ เมื่อเขาเห็นผู้ตัดสินนอกรีตวิลลี่เปลี่ยนร่างเป็นเทวดาแห่งการตัดสิน
การคาดเดาของหวังหยู่นั้นถูกต้อง เมื่อพลังชีวิตของวิลลี่ต่ำกว่า 30% เขาก็จะใช้งานสกิลของเขา [การล่วงหล่นของเทพยดา] และเปลี่ยนร่าง ปีกด้านหลังของพวกเขานั้นเหมือนกับถูกสร้างมาโดยสกิล [ขนนักศักดิ์สิทธิ์]
หลังจากเปลี่ยนร่างเสร็จ เทวดาแห่งการตัดสินก็พนมมือทำท่าสวดมนต์อีกครั้งหนึ่งและมันก็มีดาบกางเขนถูกสร้างขึ้นมาบนมือของเขา
“ก้อนหินปีศาจศักดิ์สิทธิ์!”
หยางนัวตะโกนออกมาอย่างไม่ได้สติ แล้วเธอก็จ้องไปที่เพชรที่ถูกฝังไว้อยู่ในดาบกางเขน
มันกลับกลายเป็นว่าก้อนหินศักดิ์สิทธิ์นั้นอยู่บนดาบของเทวดาแห่งการตัดสินตลอดเวลา ไม่สงสัยเลยว่าทำไมหยางนัวถึงไม่สามารถหามันเจอได้
“ลิ้มรสความเกรี้ยวกราดของเทพซะ!”
เทวดาแห่งการตัดสินคว้าดาบศักดิ์สิทธิ์ไว้ และก็ฟันไปด้านหน้าและร่าย [การประหารแห่งสรวงสวรรค์] แล้วมันก็ปล่อยดาบพลังปราณออกมาเป็นรูปกางเขน
หวังหยู่นั้นก็รีบหลบไปด้านข้างในทันทีและก็ปล่อยให้ดาบพลังปราณนั้นลอยเข้าใส่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา หยางนัว
แต่หยางนัวนั้นกำลังจดจ่อไปกับก้อนหินศักดิ์สิทธิ์บนดาบกางเขนมากเกินไป เธอพึ่งจะเห็นดาบพลังปราณ แต่มันก็สายเกินไปแล้วที่จะหลบมันได้พ้น
เพียงแค่เธอนั้นจะถูกผ่าเป็นครึ่ง หยางนัวก็เห็นร่างสีดำพุ่งตัวอย่างรวดเร็วมาหาเธอจากมุมข้างๆของตาเธอ วิสัยทัศน์ของเธอก็พร่าเบลอไปเนื่องจากโดนกระแทกอย่างรุนแรงบนใบหน้าของเธอและผลักเธอกระเด็นออกไปด้วยวิธีการรุนแรง
หลังจากที่หลบดาบพลังปราณได้มันก็ลงไปโดนพื้นดินแทน และทิ้งรอยลึกไว้เป็นเมตรหลังจากการปะทะ..
“เหี้..! นายคิดว่านายทำอะไรอยู่!!!”
“ช่วยเธอยังไงละ! มันคือสิ่งที่ผมได้ทำ ผมยอมเสียสกิลไปเพื่อเธอ ไอ้คนเนรคุณ!”หวังหยู่ตะโกนกลับเมื่อเขาลงบนพื้นดิน
“ไอ้เหี้..!”หยางนัวขู่คำรามอย่างโกรธเคืองแล้วเธอก็ชี้นิ้วกลางให้หวังหยู่
หยางนัวนั้นไม่เคยถูกตีมาก่อนทั้งชีวิต ไม่แม้แต่พ่อแม่ของเธอ! แต่หวังหยู่กล้าที่จะเตะเธอเข้าที่ใบหน้าและยังคงบ่นเกี่ยวกับการใช้สกิลอย่างสิ้นเปลือง!
ใบหน้าของผู้หญิงนั้นสำคัญกว่าชีวิตของเธอซะอีก! ถ้ามันไม่ใช่ความจริงที่หวังหยู่นั้นช่วยชีวิตเธอไว้ละก็ หยางนัวก็จะโจมตีเขาอย่างแน่นอน
เทวดาแห่งหารตัดสินจ้องไปที่หวังหยู่อยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะปลดปล่อยดาบพลังปราณครั้งแล้วครั้งเล่า และทำลายห้องโถงที่พวกเขาอยู่อย่างสมบูรณ์แบบ
สำหรับเป็นผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากเกินไปสำหรับหวังหยู่และหยางนัวที่หลบหลีกการโจมตีจากเทวดาแห่งการตัดสิน แต่การโจมตีของเขานั้นรวดเร็วและดุร้ายมากยิ่งขึ้น แม้กระทั่งหวังหยู่ก็ตระหนักได้ว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในการหลบทุกสิ่งทุกอย่าง
“เธอเห็นรูปปั้นเทพเจ้าตรงนั้นไหม?”หวังหยู่พูดแล้วเขาก็ชี้ไปยังรูปปั้นเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง “มันเป็นสิ่งเดียวในห้องโถงที่เทวดาแห่งการตัดสินไม่กล้าที่จะทำร้ายมัน พวกเราควรที่จะไปหลบด้านหลังมัน..”
“มันเป็นไปไม่ได้!”หยางนัวตอบกลับหลังจากประเมินระยะทางของมัน
ทั้งคู่นั้นอยู่ห่างเกือบสี่สิบเมตรจากรูปปั้นนั้น....แม้ว่าสกิล [การก้าวเท้า] ของนักธนูนั้นก็มีระยะเพียงแค่ห้าเมตร สำหรับผู้เล่นธรรมดานั้นจะต้องใช้เวลาสี่วินาทีในการก้าวข้ามระยะทางสี่สิบเมตร
แม้ว่าจะเป็นหยางนัวที่เล่นอาชีพที่เน้นความคล่องแคล่วเป็นหลักอย่างนักธนู มันก็ยังเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะไปไกลขนาดนั้นในขณะที่หลบห่าฝนปราณดาบที่ลอยมาหาเธอ
“เธอจำเป็นที่จะต้องจัดการเองห้าเมตรแรก และที่เหลือเดียวผมจัดการเอง!’หวังหยู่ประกาศอย่างมั่นใจ
“คุณสามารถทำมันได้งั้นเหรอ? นายจะไม่ทรยศฉันใช่ไหม…”หยางนัวตอบกลับอย่างไม่ได้ตั้งใจ
หวังหยู่นั้นเป็นแค่นักต่อสู้ธรรมดาๆที่มีความเร็วช้ากว่าหยางนัวซะอีก ดังนั้นมันจึงไม่มีทางเลยที่หวังหยู่สามารถทำอะไรได้เลย! นอกจากว่าเขานั้นจะใช้ตัวเองเป็นโล่ห์เนื้อมาป้องกันเธอเพื่อทำให้เธอปลอดภัย
“ผมดูเหมือนคนแบบนั้นงั้นเหรอ?”หวังหยู่ขู่คำรามอย่างโกรธเคือง
“ไร้สาระ นายเคยทิ้งฉันไว้ด้านหลังไม่ใช่เหรอ?”หยางนัวบ่นพึมพำอย่างไม่มีความสุข
“ผมมีเหตุผลของผม ยังไงก็ตาม มันก็ไม่ใช่เธอที่เป็นคนตัดสินใจที่พวกเราควรที่จะใช้วิธีการนี้หรือไม่”หวังหยู่นั้นก็ตอบกลับอย่างมั่นใจแล้วเขาก็ชี้ไปที่เสาหินในห้องโถง
เพียงแค่ในตอนนี้ หยางนัวก็ตระหนักได้ว่าเสาหินนั้นถูกทำลายโดยการโจมตีของเทวดาแห่งการตัดสิและก็ล่วงหล่นลงมาทางพวกเขา พวกเขาอาจจะถูกฆ่าโดยเศษซากปรักหักพังได้ ถ้าพวกเขานั้นยังคงหลบซ่อนต่อไปในที่ที่พวกเขาหลบซ่อนอยู่
“ฉันเชื่อนายในครั้งนี้! นายควรจำให้ดีว่า เอาก้อนหินศักดิ์สิทธิ์ของฉันกลับมาด้วย ถ้าฉันตาย!”หยางนัวตกลงอย่างไม่เต็มใจ
“ผ่อนคลายไว้ ไม่งั้นเธอจะตาย!”
หยางนัวก็รีบใช้ [ก้าวข้าม] หลบหลีกเสาหินที่ล่วงหล่น เพียงแค่เธอจะโดนการโจมตีของเทวดาแห่งการตัดสิน หวังหยู่ก็ปรากฏขึ้นด้านข้างเธอ และก็ผลักเธอโดยการใช้ [หมัดกระแทก] เพื่อเคลื่อนที่พวกเขาไปด้านหน้า
สกิลของนักต่อสู้นั้นยืดหยุ่นมากกว่าอาชีพอื่นๆ โดยการใช้โหมดอิสระ มันก็อนุญาตให้หวังหยู่นั้นใช้สกิลได้อย่างอิสระ อย่างเช่นการใช้ [หมัดกะแทก] เพื่อให้เขาพุ่งขึ้นไปด้านหน้า สำหรับการเป็นไก่อ่อนในเรื่องเกม หวังหยู่ก็กล้าที่จะทำอะไรบางสิ่งที่ไร้สาระแบบนี้
แม้ว่าการใช้ [หมัดกระแทก] มันก็สามารถผลักดันพวกเขาไปได้เพียงแค่ห้าสิบเมตร ซึ่งมันสำหรับคนเดียว แต่เมื่อเขานั้นกำลังแบกหยางนัวอยู่ หวังหยู่นั้นก็สามารถไปได้เพียงสามสิบเมตรก่อนที่ผลกระทบของมันจะหมดลง..
“พวกเราตายแล้ว! ทิ้งฉันไว้และหนีไป!”หยางนัวตะโกนตรงๆ ถ้าหวังหยู่ถูกฆ่า หยางนัวก็จะทำเควสล้มเหลวอย่างแน่นอน
“อย่าเร่ง!”
หวังหยู่ยิ้มอย่างเมินเฉยแล้วเขาก็จับที่หยางนัวและวิ่งต่อ..
พร้อมกับขนาดตัวขนาดใหญ่ เขาสามารถป้องกันหยางนัวได้ทุกการโจมตีที่เข้ามาหา
ห่าฝนดาบพลังปราณที่ล่วงหล่นมาโดนหวังหยู่อย่างรวดเร็วนั้นทำให้มันก็มีแสงสีทอง [การป้องกันแห่งจิตวิญญาณ] นั้นถูกใช้งาน หวังหยู่ก็รีบวิ่งต่อ ภายใต้การป้องกันของ [การป้องกันแห่งจิตวิญญาณ] ซึ่งทำให้เขานำหยางนัวและตัวเขาเองมาหลบอยู่ด้านหลังรูปปั้นได้
“มันถึงเวลาที่เธอควรลดน้ำหนักได้แล้ว! โชคดีที่ผมนั้นแข็งแกร่งมาก มิฉะนั้น พวกเราก็จะล่าช้าเนื่องจากน้ำหนักของเธอและก็จะถูกฆ่า!”หวังหยู่หัวเราะแล้วเขาก็ปาดเหงื่อบนหน้าผากของเขา
“นายต่างหากที่อ้วน! ครอบครัวนายต่างหากที่อ้วน!”หยางนัวคำรามด้วยความอาย ชายคนนี้มันโผงผางเกินไป ทำไมเขาถึงพูดว่าหญิงสาวนั้นหนักและจำเป็นที่จะต้องลงน้ำหนักกัน!
“โอเค โอเค แต่เธอลงจากตัวผมได้หรือยัง? ผมกำลังจะโดนเธอทับจนตายแล้วเนี่ย!”หวังหยู่ผลักหยางนัวให้ลงจากตัวเขาเอง
“ดูด้วยว่านายกำลังจะสัมผัสอะไร!”
“…”
เมื่อสูญเสียเป้าหมายของมัน เทวดาแห่งการตัดสินที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศก็หยุดการโจมตีและจ้องมายังรูปปั้น
“ฮ่าๆๆๆ เขาไม่กล้าที่จะโจมตีพวกเราแล้วในตอนนี้! รีบยิงเขาเร็วเข้า!”หวังหยู่หัวเราะแล้วเขาก็เอาปืนคาบศิลาออกมา แล้วเขาก็ยิงไปที่เทวดาแห่งการตัดสิน
เทวดาแห่งการตัดสินก็จ้องมาอย่างโกรธเคืองใส่หวังหยู่ แต่มันก็ยังไม่กล้าที่จะโต้กลับ
เมื่อเห็นเทวดาแห่งการตัดสินไม่กล้าที่จะตอบโต้ หยางนัวก็ตัดสินใจที่จะร่วมสนุกด้วยเช่นกัน
หลังจากที่ถูกยิงโดยหวังหยู่ เทวดาแห่งการตัดสินนั้นก็ป้องกันตัวเองสำหรับการโจมตีครั้งต่อไป และมันก็ตัดลูกศรของหยางนัวลงก่อนที่พวกมันจะถึงตัวของมัน เทวดาแห่งการตัดสินก็ยกดาบขึ้นด้วยมือเพียงข้างหนึ่ง และมันก็ถูพื้นผิวดาบด้วยมืออีกข้างหนึ่ง แล้วดาบกางเขนนั้นก็ปล่อยลำแสงสีทองออกมาจางๆ
[ลำแสงแห่งการตัดสิน]!
เทวดาแห่งการตัดสินก็เหวี่ยงดาบอีกครั้งหนึ่ง แต่ในครั้งนี้ ดาบพลังปราณนั้นผ่านทะลุรูปปั้นอย่างลึกลับ และมันก็ตัดลงมาใส่หวังหยู่และหยางนัว
“เหี้...!”หวังหยู่และหยางนัวก้รีบหลบไปด้านข้างในทันที มันแปลกประหลาดที่ไม่เห็นร่องรอยความเสียหายบนพื้นดินที่ดาบพลังปราณสีทองปะทะ
“มันเหมือนกับว่าการโจมตีของเขานั้นเป็นการโจมตีเวทย์มนต์ มันไม่เหมือนกับการโจมตีกายภาพที่เขาใช้ก่อนหน้านี้!’หวังหยู่อุทาน
“และ หลังจากนั้น?”
“เธอหมายความว่าอะไร ‘และหลังจากนั้น’ หน่ะ?”หวังหยู่จ้องไปที่หยางนัว
“มันจะมีข้อแตกต่างอะไรกับการบอกว่ามันเป็นการโจมตีอีกประเภทหนึ่งกันละ? แล้วพวกเราจะหลบมันได้งั้นเหรอ?”
“ผมจะรู้ได้ยังไง บางที...”ลำแสงสีทองก็ตัดลงมาหาพวกเขาอีกครั้งหนึ่งและขัดจังหวะที่หวังหยู่กำลังพูดอยู่
ในขณะที่เขานั้นกำลังกลิ้งหลบ หวังหยู่ก็สังเกตอย่างระมัดระวังกับการกระทำของเทพเจ้าแห่งการตัดสิน
“ผมรู้แล้วว่าพวกเราควรจะสู้กับมันยังไง!”
.