Chapter 123: โดยแทบไม่ต้องยกมือขึ้นเลย
Chapter 123: โดยแทบไม่ต้องยกมือขึ้นเลย
เควส “หัวใจแห่งความกล้าหาญ” หวังหยู่นั้นก็กำลังทำเควสระดับ Sอยู่และ เควส S ทั้งหมดนั้นมีทริค สำหรับทริคในการสู้ผู้ตัดสินนอกรีตวิลลี่นั้นก็คืออัศวินศักดิ์สิทธิ์ 12 ตน
การโจมตีของวิลลี่นั้นก็ค่อนข้างขาด ตั้งแต่ที่เขานั้นเป็นการผสมผสานกันของอาชีพสนับสนุน จึงทำให้เขานั้นดูค่อนข้างอ่อนแอ เมื่อเปรียบเทียบกับเทพเจ้ามังกรเลือด อัศวินศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 12 ตนนั้นก็ถูกออกแบบมาเฉพาะเพื่อปกคลุมความอ่อนแอของวิลลี่
หนึ่งในสกิลของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์นั้นก็คือการเพิ่มพลังโจมตีและพลังป้อนกัน เมื่อพวกเขานั้นอยู่กับวิลลี่ ถ้ามันเกิดขึ้นละก็ หวังหยู่นั้นจะถูกผลักดันให้ล่าถอย ไม่ว่าเขาจะมีความสามารถของศิลกะปารต่อสู้มากแค่ไหนก็ตาม
เพิ่มเติมอีกว่า เควสที่ถูกออกแบบในทางนี้นั้นจะอนุญาติให้อัศวินศักดิ์สิทธิ์นั้นเกิดใหม่ด้านข้างวิลลี่ทันทีที่พวกเขาตายลง ดังนั้นไม่ว่ามันจะมีคนช่วยเหลือพวกเขามากแค่ไหน คุณก็ไม่สามารถที่จะกดดันจำนวนอัศวินศักดิ์สิทธิ์ได้อยู่ดี
นั่นหมายความว่า ถ้าผู้เล่นของกิลด์รากจักรพรรดินั้นสามารถที่จะฆ่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ได้ละก็ พวกมันก็จะเกิดขึ้นมาด้านข้างวิลลี่ในทันที โชคดีสำหรับหวังหยู่ที่ผู้เล่นที่ต่อสู้กับอัศวินศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นเพียงแค่อัศวินและนักบวชที่มีพลังโจมตีต่ำ มิฉะนั้น การต่อสู้กับวิลลี่นั้นจะกลายเป็นเรื่องที่หนักหนากว่านี้มาก.....
ในตอนสุดท้ายแล้ว กิลด์รากจักรพรรดินั้นเป็นสิ่งที่ช่วยหวังหยู่อย่างไม่รู้ตัว พวกเขาอนุญาตให้หวังหยู่ต่อสู้กับวิลลี่ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
หวังหยู่จ้องไปที่ผู้ตัดสินนอกรีตวิลลี่ ในขณะที่เขานั้นก็ดึงเอาอาวุธออกมาในช่องเก็บของอย่างไม่เร่งรีบ...
มันก็มีอาวุธสีทองที่ยาวประมาณหนึ่งเมตร พร้อมกับมีความหนาและบาง ตรงจุดที่หนานั้นก็มีหินที่ล้ำค่าและมุกที่ฝังไว้อยู่ด้วย
{กระบองศักดิ์สิทธิ์ (ทอง)}
พลังโจมตีกายภาพ : 45-67
พลังโจมตีเวทย์มนต์ : 50-70
+12 พละกำลัง
+14 ความแข็งแกร่ง
ผลกระทบ :
[ความแข็งแกร่งศักดิ์สิทธิ์] (ติดตัว) : เพิ่มพลังสกิลแสงของผู้ใช้ 50%
[การอวยพรศักดิ์สิทธิ์] (ติดตัว) : เพิ่มค่าสถานะให้กับพันธมิตรขึ้น 10% ทุกๆห้าสิบเมตร
[ลำแสงศักดิ์สิทธิ์](ติดตัว) : ลดคูลดาวน์สกิลของผู้ใช้ลง 20%
ความต้องการของระดับ : 1
ความต้องการของอาชีพ : อัศวิน นักบวช
กระบองนั้นเป็นอาวุธที่หวังหยู่ปล้นมาจากนายน้อยปักกิ่ง
ความแปลกใหม่ของกระบองที่มันทั้งมีความหนาและความผอมบางด้วยเช่นกัน มันคล้ายคลึงกับกระดูกขนาดใหญ่ที่มนุษย์ถ้ำใช้ขึ้นมันปรากฏในการต่อสู้ในยามอดีต กระบองนั้นอนุญาตให้ใช้แรงทื่อๆในการทำความเสียหายกับเป้าหมายของพวกมัน
นักต่อสู้นั้นไม่ได้มีข้อจำกัดในการใช้อาวุธที่พวกเขาสามารถใช้ได้ ในขณะที่ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้นั้นมีสกิล [เทพเจ้าแห่งอาวุธ] ที่อนุญาตให้หวังหยู่นั้นใช้อาวุธนี้ได้ หวังหยู่ก็รู้สึกว่าอาวุธนี้ค่อนข้างเหมาะสมกับเขา...
เมื่อหวังหยู่เลือกที่จะใช้กระบองนี่ มันก็ค่อนข้างเป็นเหตุผลธรรมดาที่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาและเขาก็ไม่สนใจว่ามันจะพังหรือไม่ แต่เขายังสังเกตได้อีกว่าอาวุธนี้นั้นยังมีการป้องกันผลกระทบของลำแสงสีทองได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“มันน่าสนใจ!”หวังหยู่หัวเราะกับตัวเอง แล้วเขาก็เหวี่ยงกระบองไปทั่วๆเพื่อทดสอบมันก่อนที่จะตะโกน “พุ่งเข้าชน!”
หวังหยู่ก็เหวี่ยงแขนแล้วก็ขว้างกระบองเข้าใส่ใบหน้าของวิลลี่ตรงๆ
วิลลี่ที่กำลังยืนทำท่าสวดมนต์อยู่นั้น ที่กำลังร่ายเวทย์อยู่ ก็ถูกขัดจังหวะอย่างรุนแรงโดยกระบองที่หวังหยู่ขว้างมา..
โดยปราศจากการรอให้เขาฟื้นตัว หวังหยู่ก็รีบไปอยู่ด้านข้างของวิลลี่แล้ว และเขาก็หยิบกระบองแล้วเขาก็เหวี่ยงเข้าใส่ใบหน้าของวิลลี่อีกครั้งหนึ่งและทำร้ายเขาอย่างรุนแรง
สำหรับผู้เชี่ยวชาญแบบหวังหยู่นั้นก็มีการโจมตีที่รุนแรงอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งมันก็ทำให้วิลลี่นั้นไม่มีโอกาสฟื้นตัว
เมื่อเห็นวิลลี่นั้นยังไม่ฟื้นตัว ขาของหวังหยู่นั้นก็รีบกวาดออกไปในทันทีและทำให้เขานั้นล้มลงบนพื้น..
“ปัง!”ใบหน้าของวิลลี่นั้นปะทะเข้ากับพื้นดินอย่างดังก้อง
หวังหยู่ก็ก้าวเหยียบขึ้นไปบนหลังของวิลลี่อย่างโหดเหี้ยมแล้วเขาก็ทุบหัววิลลี่ซ้ำๆพร้อมกับกระบองขนาดใหญ่...
โดยปราศจากอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทั้ง12 ตน วิลลี่นั้นก็ไม่ได้ต่างไปจากกองขยะ แน่นอนว่าคำพูดนั้นมีเพียงแค่หวังหยู่ที่สามารถใช้ได้ สุดท้ายแล้ว เขาก็เป็นชายที่บ้าคลั่งที่จัดการสังหารเทพเจ้ามังกรเลือดด้วยตัวเพียงคนเดียว
แม้ว่าวิลลี่นั้นจะเป็นบอส เขานั้นก็ไม่มีโอกาสในการต้านทานเมื่อเผชิญหน้ากับการจู่โจมที่โหดเหี้ยมของหวังหยู่ เขาสามารถทำได้เพียงบิดตัวไปมาเหมือนกับเป็นหนอน และหวังว่าจะหลบการโจมตีของหวังหยู่ได้
มันก็เป็นเรื่องอะไรที่สามารถเท่าเทียมกับหวังหยู่ได้ในการต่อสู้ระยะใกล้ ไม่แม้แต่เทพเจ้ามังกรเลือดที่สามารถทำมันได้ ไม่ต้องพูดถึงบอสที่น่าสงสารอย่างผู้ตัดสินนอกรีตวิลลี่เลย
หยางนัวนั้นยืนพูดไม่ออกอย่างประหลาดใจ มื่อเธอเห็นการโจมตีของหวังหยู่..
เมื่อใครบางคนนั้นต่อสู้กับวิลลี่มาก่อน หยางนัวนั้นก็เข้าใจอย่างชัดเจนถึงความแข็งแกร่งของเขา
หยางนัวนั้นเป็นใครบางคนที่เกิดขึ้นมาในตระกูลผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้อันเก่าแก่ด้วยเช่นกัน เมื่อเธอนั้นเป็นเด็กสาวตัวน้อยๆ แม้ว่าเธอนั้นจะไม่เคยพบกับหวังหยู่มาก่อน เธอนั้นก็เคยได้ยินชื่อของเขามาก่อนในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้ เธอนั้นถูกเปรียบเทียบกับตำนานอย่างหวังหยู่ตั้งแต่ที่เธอยังเด็ก...
หยางนัวนั้นเชื่ออยู่เสมอๆว่าไม่สำคัญหรอกว่าเขานั้นมีความสามารถมากแค่ไหน เธอสามารถที่จะเชื่อว่าความแตกต่างนั้นก็คือช่วงเวลาที่ฝึกฝนอันหนักหน่วงของเธอ
มีเพียงแค่วันนี้ที่เธอเข้าใจถึงความแตกต่างของความสามารถของพวกเธอ..
เมื่อเธอต่อสู้กับวิลลี่ อาวุธของเธอนั้นก็ถูกทำลายเพียงแค่สามรอบและเธอก็ต้องวิ่งหนีไปเพื่อเอาชีวิตรอด แต่หวังหยู่นั้นก็ไม่เพียงแต่สู้กับวิลลี่ได้นานกว่า เขานั้นสามารถผลักวิลลี่ไปแนบบนพื้นดินและทำร้ายเขาอย่างรุนแรง
สำหรับบางสิ่งที่เป็นผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ ไม่เพียงแต่ว่ามันจะต้องมีการฝึกฝนอย่างหนักหน่วง คุณก็จะต้องมีพรสวรรค์ด้วยเช่นกัน ไม่เพียงแต่หวังหยู่นั้นมีพรสวรรค์มากกว่าหยางนัว จำนวนเวลาและแรงที่เขาฝึกฝนในศิลปะการต่อสู้นั้นก็ไม่ใช่บางสิ่งที่หยางนัวนั้นสามารถหวังถึงในการเทียบมันได้
“เธอกำลังจ้องฉันอยู่ทำไม? เธอเจอมันแล้วเหรอ?”หวังหยู่ขู่ใสหยางนัว แล้วเขาก็เริ่มไม่สบายใจเนื่องจากความชื่นชมในสายตาของเธอ
“ไม่.....ฉันยังไม่เจอ…”หยางนัวตอบอย่างเขินอาย
“โอเค! ถ้างั้นก็ตามสบายเธอนะ!”
หยางนัวก็ตอบแบบไม่แยแสแล้วเขาก็ทำร้ายวิลลี่ต่อ ในจุดนี้นี่เอง แม้ว่าหยางนัวนั้นก็รู้สึกขอโทษกับบอส..
มันก็มีจำนวนเลขสีแดงลอยขึ้นด้านบนหัววิลลี่อย่างไม่หยุดยั้ง ไม่แม้แต่ความสามารถในการฮีลที่สามารถฟื้นคืนการโจมตีอย่างต่อเนื่องของหวังหยู่ได้ทัน พลังชีวิตของวิลลี่นั้นก็ค่อยๆลดลงอย่างช้าๆ แต่เมื่อมันล่วงหล่นกว่าสามสิบเปอร์เซนต์ หวังหยู่ก็กระโดดออกมาในทันที
หลังจากที่ได้ต่อสู้กับบอสจำนวนมาก หวังหยู่ก็รู้ว่าบอสนั้นจะปลดปล่อยสกิลที่แข็งแกร่งที่สุดเมื่อพลังชีวิตของพวกเขาลดเหลือน้อยกว่า 30% หวังหยู่นั้นก็กำลังรอคอยช่วงเวลานี้อยู่!
มันก็มีแสงศักดิ์สิทธิ์นั้นล่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าและมันก็ปกคลุมไปทั่วบาดแผลด้านในของวิลลี่ แล้ววิลลี่ก็เริ่มต้นที่จะฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง
“ไอ้นอกรีตโสมม!”
วิลลี่ตะโกนอย่างโกรธแค้นแล้วเขาก็ลอยขึ้นบนอากาศ ผมของเขานั้นพลิ้วไหวแล้วผ้าคลุมของเขานั้นก็แตกตัวออกไปเป็นแสงศักดิ์สิทธิ์ ในขณะที่ปีกก็ค่อยๆปรากฏขึ้นด้านหลังของเขาอย่างช้าๆ