บทที่ 66 การขอโทษจากหลิวรูหยัน
บทที่ 66 การขอโทษจากหลิวรูหยัน
แปล Tarhai
กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/1743836472377756/
ลงตอนที่ 1-200 ราคา 200 ลงทุกวัน วันละ 6-7 ตอน
ติดต่อที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100002039138559
อ่านบนเว็บอีกแห่ง
https://amnovel.com/cat.php?id=58
"ไอ้เลว กล้าดียังไงมาตบหน้าฉัน ฉันจะฆ่าแก!" เฉินติงกรีดร้องและวิ่งไปหาฉิงเฟิงQ
เพี๊ยะๆๆๆๆ ~
เฉินติงถูกฉิงเฟิงตบหนักขึ้นและมากขึ้นหลายสิบครั้งติดต่อกัน ใบหน้าของเธอกลายเป็นบวมแดงผมของเธอกระเซอะกระเซิง เธอโมโหมาก
"แกกล้าตบน้องสาวของฉัน แกต้องตาย!" ใบหน้าของนายน้อยเฉินเปลี่ยนไปเมื่อเห็นว่าน้องสาวของเขาถูกตบ เขาเหวี่ยงหมัดซ้ายไปที่หัวของฉิงเฟิง
เขาเคยเรียนเทควันโดมาก่อนและการชกของเขาก็ดูทรงพลังมาก ทำให้อากาศพุ่งขึ้นมา
เปรี้ยง!
ฉิงเฟิงเตะท้องนายน้อยเฉินด้วยขาซ้าย นายน้อยเฉินถูกเตะกระเด็นออกไปหลายเมตรและล้มลงไปที่พื้นด้วยใบหน้าซีดเซียว เขาเจ็บปวดที่ท้องมากและลุกไม่ขึ้น
นายน้อยหวังและนายน้อยลี่กำลังจะเข้าร่วมการต่อสู้ แต่เมื่อพวกเขาเห็นชะตากรรมที่น่าสังเวชของนายน้อยเฉิน การแสดงออกของพวกก็เขาเปลี่ยนไปและไม่กล้าเข้าไป
"ผู้เชี่ยวชาญ ... เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ"
นายน้อยหวังและนายน้อยเฉินมองเขาด้วยความตกใจ
ฉิงเฟิงได้ทุบตีนายน้อยเฉินและตบหน้าเฉินติง เขาหาเรื่องเดือดร้อนแล้ว คนรอบข้างทุกคนต่างตกตะลึง
"คนๆนี้เป็นใครกัน? เขากล้าที่จะทุบตีคนระหว่างงานเลี้ยงอาหารการกุศลเขาต้องการตาย?"
"งานเลี้ยงอาหารการกุศลห้ามไม่ให้มีการต่อสู้ เคยมีชายคนหนึ่งที่ต่อสู้กันในห้องจัดเลี้ยงครั้งล่าสุดซึ่งเขาถูกคนของบริษัทหลิวหักขาและโยนออกจากงานเลี้ยง"
"ชายคนนี้ตายแน่แล้ว เขาถูกคนของบริษัทหลิวหักขาแน่"
คนรอบข้างคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา พวกเขาเชื่อว่าลี่ฉิงเฟิงต้องถูกคนของบริษัทหลิวหักขาแน่ เพราะเขาแหกกฎของงานเลี้ยงอาหารการกุศล
บริษัทหลิวเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีมูลค่านับพันล้าน ไม่มีใครสามารถทำลายกฎของพวกเขาได้
"เกิดเรื่องอะไรขึ้น?"
หลิวฟุเดินก้าวใหญ่ๆมาที่เกิดเหตุ เขามองด้วยความไม่พอใจ
มีใครบางคนกล้าที่จะสร้างปัญหาในงานเลี้ยง ? นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคารพแก่บริษัทหลิว
"พ่อบ้านหลิว คุณต้องให้ความยุติธรรมแก่ฉัน ชายคนนี้ตบฉันและเตะพี่ชายของฉัน" เฉินติงร้องไห้ฟูมฟายเมื่อเห็นหลิวฟุ ราวกับว่าเธอได้เห็นคนสนับสนุนเธอ
"คุณคือเฉินติงใช่ไหม ? นายหญิงคนที่สองของตระกูลเฉิน?" หลิวฟุถามด้วยความประหลาดใจ เขาสามารถคาดเดาได้ว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นนายหญิงคนที่สองของตระกูลเฉิน เขาเคยพบกับเธอมาก่อน
แต่จากสิ่งที่หลิวฟุจำได้ก็คือนายหญิงคนที่สองของตระกูลเฉินเป็นสาวงามที่มีใบหน้าสวยงาม แต่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นหน้าบวมเหมือนขนมปัง เธอยังมีเลือดบนใบหน้าและผมของเธอก็กระเซอะกระเซิง เธอดูเหมือนเป็นขอทาน
"พ่อบ้านหลิวฉันเป็นนายหญิงคนที่สองของตระกูลเฉิน ลี่ฉิงเฟิงคนนี้กล้าที่จะตบฉันที่งานเลี้ยงการกุศล คุณต้องนำความยุติธรรมมาให้ฉัน"
เฉินติงร้องไห้ น้ำตาไหลบนใบหน้าที่เปราะบางของเธอ เธอรู้ดีว่านี่เป็นงานเลี้ยงการกุศลและอาณาเขตของบริษัทหลิว ทุกคนที่กล้าก่อปัญหาให้บริษัทหลิว จะตายต้องแน่
"คุณเป็นคนที่ทุบตีนายน้อยเฉินและเฉินติง?" หลิวฟุถามฉิงเฟิงขณะขมวดคิ้วเล็กน้อย
"ใช่ สองคนนี้ปากไม่ดี พวกเขาสมควรโดน" ฉิงเฟิงกล่าวเบาๆด้วยมือไขว้หลัง
ฉิงเฟิงพูดเหมือนไม่มีอะไร แต่ในสายตาของคนอื่น เขาดูหยิ่งยโสมาก
ทำไมพวกเขาถึงคิดว่าฉิงเฟิงหยิ่ง? เพราะเขาเอามือไขว้หลังเหมือนเป็นเจ้านายเมื่อกำลังเผชิญหน้ากับพ่อบ้านของบริษัทหลิว
น้องชาย นี่เป็นงานเลี้ยงการกุศล เป็นอาณาเขตของบริษัทหลิว บริษัทหลิวเป็นบริษัท ยักษ์ใหญ่ที่มีการคอนเนคชั่นและมีเบื้องหลังที่ทรงอำนาจด้วยเงินเป็นพันล้านดอลลาร์ กรุณาหยุดทำตัวหยิ่งยโส คนรอบข้างต่างหมดคำพูดและติดป้ายฉิงเฟิงอีกครั้งว่าเป็นคน "หยิ่ง" พวกเขามั่นใจว่าบริษัทหลิว ต้องสั่งสอนฉิงเฟิงเร็วๆนี้แน่
การแสดงออกของหลิวฟุเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้ยินฉิงเฟิงยอมรับว่าเขาเป็นคนทุบตีพวกเขา
"ฉันควรทำยังไงดี?" หลิวฟุขมวดคิ้วและครุ่นคิดว่าควรจะทำยังไง
หลิวฟุรู้จักชายคนนี้ ที่ปากทางเข้าเขาเห็นด้วยสายตาของตัวเองว่าฉิงเฟิงมีบัตรแพททินั่ม 5 ดาว เขาเป็นคนพาฉิงเฟิงเข้างานเลี้ยงเป็นการส่วนตัว
หลิวฟุเข้าใจอย่างชัดเจนถึงความหายากของบัตรแพลทินัมระดับห้าดาว นั่นหมายความว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขาไม่ใช่คนธรรมดาและต้องมีเบื้องหลังที่ทรงอำนาจ แต่ฉิงเฟิงก็แหกกฎระเบียบของงานเลี้ยงอาหารการกุศลนี้ เรื่องนี้ทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
ถ้าเขาไม่ทำอะไรสักอย่างกับฉิงเฟิง ชื่อเสียงของบริษัทหลิวจะมัวหมอง เขาตัดสินใจที่จะต้องให้คำเตือนแก่ฉิงเฟิง
"ลุงหลิว คุณถอยไปก่อน ฉันจะแก้ปัญหานี้เอง"
หลิวฟุเตรียมพร้อมที่จะตักเตือนฉิงเฟิง ทันใดนั้นก็มีเสียงที่น่าฟังดังขึ้น
หลิวรูหยันเดินอย่างสง่างามมาที่พวกเขาด้วยรองเท้าส้นสูงสีแดงของเธอ เธอดูมีเสน่ห์และเผยเรียวขาคู่งามให้เห็น
"ครับ นายหญิง"
เมื่อได้ยินว่าหลิวรูหยันจะจัดการเรื่องนี้เอง พ่อบ้านหลิวก็รู้สึกโล่งใจ เขารู้สึกว่านี่เป็นเรื่องยากที่เขาจะจัดการ คนที่มี EQ และ IQ สูงเช่นหลิวรูหยันจะสามารถต้องรับมือได้
"ลี่ฉิงเฟิง ฉันเสียใจมากสำหรับคำพูดดูถูกที่คุณได้รับจากงานเลี้ยงอาหารค่ำในวันนี้ฉันขอโทษคุณในนามของบริษัทหลิว"
หลิวรูหยันกล่าวขอโทษเขาด้วยใบหน้าที่งดงาม
"นายหญิง ... ขอโทษเขา?"
ใบหน้าชราของหลิวฟุเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เขาตะลึง
เขารู้ว่านายหญิงเป็นคนที่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง เธอเป็นเจ้าของบริษัทที่มีมูลค่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์และการคอนเนคชั่นของเธออยู่ในเมืองหลวง ครอบครัวของเธอมีอิทธิพลมาก ปู่ของเธอเป็นนายกสมาคมผู้ก่อตั้งประเทศ
แต่ตอนนี้นายหญิงกำลังกล่าวขอโทษชายหนุ่มคนนี้ หลิวฟุพูดไม่ออก
ไม่เพียงแต่พ่อบ้านหลิวตกใจ คนรอบข้างตะลึงและอ้าปากค้าง
พวกเขาตระหนักถึงอำนาจและอิทธิพลของบริษัทหลิว แม้แต่นายกเทศมนตรีถ้าถูกทุบตีที่นี่ หลิวรูหยันก็ไม่เอ่ยปากขอโทษแน่นอน
ชายหนุ่มคนนี้คือใคร? ทำไมหลิวรูหยันถึงต้องเอ่ยปากขอโทษเขา?
"คุณหลิวนี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ มันเป็นเรื่องปกติของพวกบ้าไม่กี่คนในงานจัดเลี้ยงการกุศล"
ฉิงเฟิงเหลือบมองเฉินติงและนายน้อยเฉินและพูดเบา ๆ
ในขณะนั้นใบหน้าของเฉินติงและนายน้อยเฉินก็ดูไม่ดีและซีดเซียว
ตอนแรกพวกเขาอยากให้คนของบริษัทหลิวสั่งสอนฉิงเฟิง แต่กลายเป็นบริษัทหลิวกลับเข้าข้างฉิงเฟิงและพยายามทำให้ฉิงเฟิงพอใจด้วยการขอโทษ พวกเขาโกรธมา
แต่บริษัทหลิวมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งที่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้แม้ว่าจะโกรธก็ตาม
"ฉันจะให้โอกาสพวกคุณขอโทษหลินซู่ ไม่งั้นฉันจะหักขาพวกคุณ"
ฉิงเฟิงยิ้มเยาะและพูดต่อเฉินติงและนายน้อยเฉิน
"ทำไมฉันต้องขอโทษ ? คุณยืม 500000 จากหลินซู่เพื่อซื้อจี้หยกปลอม คุณมันโง่เอง ฉันพูดผิดตรงไหน?"
เฉินติงพูดอย่างดุเดือด
"ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะรู้สินะว่าอะไรเป็นอะไร ก็ดี ! ฉันจะแสดงให้คุณเห็นว่าสมบัติที่แท้จริงคืออะไร"
ฉิงเฟิงยิ้มเบาๆ และตัดสินใจที่จะบอกเล่าประวัติความเป็นมาของสมบัติชิ้นนี้ ถ้าพวกเขายังไม่ขอโทษเขาก็จะหักขาพวกเขาซะ
"ฉันจะบอกให้คุณรู้ จี้นี้คือจี้หยกฟินิกซ์จาก 'จี้หยกฟินิกซ์มังกร' มันเป็นของจักรพรรดิ์ชูสีไทเฮา"
ฉิงเฟิงยิ้มเบา ๆ และพูดขึ้น
"ฮ่าๆ โม้แล้ว ไม่มีทางที่จี้หยกเน่าๆนี้คือจี้หยกฟินิกซ์" เฉินติงขุ่นเคืองและมองอย่างไม่เชื่อ