ตอนที่แล้วตอนที่ 86 ความวุ่นวาย (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 88 ก่อนสอบ (FREE)

ตอนที่ 87 คลื่นใต้น้ำ (FREE)


มันเป็นเช้าที่มีฝนตกลงมา

แสงแดดกระทบกับชั้นหมอกบางๆ ส่องประกายไปทั่วเมืองหลวงแม่น้ำแห่งความสัตย์ ราวกับหญิงน้ำที่พึ่งชำระล้างร่างกายเสร็จ การทดสอบกฎแห่งเต๋าระดับเมืองหลวง แบ่งออกเป็นสองรอบคือ การทดสอบด้านปัญญา และการทดสอบด้านการต่อสู้ แต่อะไรคือความแตกต่างจากการทดสอบระดับมณฑล เนื่องจากตอนนี้การทดสอบกฎแห่งเต๋าระดับเมืองหลวง มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย มีการทดสอบด้านปัญญาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หมายความว่าจะป่านหรือไม่ผ่านจะรู้ภายในรอบเดียว

 

มันเป็นกฎใหม่ที่ค่อนข้างโหดเหี้ยม

แต่ผู้ที่เดินทางไปทั่วอณาจักรเซี่ยอันยิ่งใหญ่นี้มาแล้ว สิ่งที่เปลี่ยนไปนี้ แทบไม่ได้มีผลอะไร

ทุกยอย่างมักมีข้อยกเว้นอยู่เสมอ อย่างเช่น หลี่ จ้วงฉือ ในตอนนี้ เมื่อเห็นจำนวนผู้เข้าสอบตอนนี้ เขาแทบไม่มีอารมณ์จะทำอะไรเลย

มันไม่เกินไปไหนหรือ?

แค่การทดสอบระดับเมืองหลวง ทำไมถึงมีคนมากมายถึงเพียงนี้?

การทดสอบกฎแห่งเต๋าระดับเมืองหลวงนั้นมีกฎอย่างชัดเจน ในทุกๆเมืองที่มีการทดสอบ จะกำหนดจำนวนผู้ที่จะได้ผ่านการทดสอบไว้แล้ว ไม่ว่าจะมีคนมากมายเท่าไหร่ แต่จำนวนคนที่ผ่านก็จะมีเท่าเดิท

นั่นหมายความว่ายื่งมีคนมากเท่าไหร่ โอกาสก็ยิ่งน้อยเท่านั้น

 

8 ปี...

หลี่ จ้วงฉือ คิดว่าสวรรค์ต้องกลั่นแกล้งเขาแน่นอน เขาเตรียมตัวถึง 8 ปี ใช้เวลา 2 ปี เพื่อที่จะสอบผ่านระดับมณฑล หลังจากดีใจกับความสำเร็จครั้งนั้น เขากลับสอบไม่ผ่านการทดสอบระดับเมืองหลวงถึง 2 ครั้ง

อาจจะพูดได้ว่า เขาได้อยู่ในช่วงเวลาที่ยากเย็นที่สุด

ปีนี้เป็นปีสุดท้าย ในช่วงเวลาที่ตกลงไว้กับ ฉือ กูเหยียน ซึ่ง หลี่ จ้วงฉือ นั้นมั่นใจมาก

แต่ทำไมถึงเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น?

เขาไม่พอใจ เขาไม่พอใจอย่างมาก มองไปยังหยาดฝนที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า มือของเขาจับกระดาษที่อยู่ในกระเป๋าของตนเอง

ความเยือกเย็นปรากฎขึ้นบนนัยตา “ข้าขอโทษ” เขาพูดออกมาด้วยการตัดสินใจที่ยากลำบาก

...

 

เมื่อเวลาผ่านไป จำนวนคนที่มาเข้าร่วมการทดสอบยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ราวกับฝนที่ตกลงมา ไม่มีผลอะไรกับพวกเขาเลย พวกเขาต่างถกเถียงกันเรื่องคำตอบ และคาดเดาว่าใครจะมีรายชื่อติดอันดับในการทดสอบด้านปัญญา

“การทดสอบกฎแห่งเต๋าด้านปัญญา ครั้งนี้ดูเหมือนจะยากมาก ทั้งยักมีการยกข้อความจากกฎแห่งเต๋ามาเป็นจำนวนมาก ใครบนโลกใบนี้ที่สามารถจำมันได้หมดกัน? ข้าเชื่อว่าโชคนั้นคงมีผลเป็นอย่างมาก!”

“เจาคิดว่าผู้ชนะการทดสอบครั้งนี้จะเป็นใคร?”

“ต้องกันอีกหรอ ข้าว่าต้องเป็น ฮั่ว คังกัน แน่นอน อันดับ 20 บนทำเนียบมังกรซ่อน อยู่ในระดับผนวกดารา และยังอยู่ในทำเนียบมังกรดาวรุ่งเช่นเดียวกัน! แต่ถ้าพูดถึงการทดสอบด้านปัญญาละก็ ข้าเชื่อว่าต้องเป็น จาง เฮ่อตง แน่นอน!”

“ข้าก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน ตระกูลพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับคณะปกครอง และตระกูลยังมีชื่อเสียงด้านการศึกษาเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านี้ข้ายังได้ยินว่า เขายังได้การยอมรับจากหัวหน้าผู้คุมสอบอีกด้วย ‘มีพรสวรรค์ด้านการเรียนรู้อันโดดเด่น’ คือคำพูดที่ หัวหน้าผู้คุมสอบเคยกล่าวไว้!”

“แล้ว ฟาง เจิ้งจือ ละ พวกเจาคิดว่าเป็นยังไง? ข้าได้ยินมาว่า เขาเป็นผู้ชนะทั้งสองด้าน ด้วยคะแนนเต็ม...”

“ฮ่าฮ่าฮ่า คะแนนเต็ม? มีใครเคยเห็นกระดาษคำตอบของเขามาก่อนไหมละ คงมีแต่สวรรค์ที่รู้เท่านั้นแหละว่าใครได้คะแนนเต็ม.....”

“ฮ่าฮ่า พี่เฉิน พูดถูก!”

….

 

ในขณะที่ผู้คนกำลังพูดคุย ได้มีสองคนเดินมาจากที่ไกลๆ คนหนึ่งสวมชุดผ้าไหมในมือถือพัดสีทอง ให้บรรยากาศอันเย็นชา ส่วนอีกคนสวมชุดสีน้ำเงิน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

พวกเขาคือ เหยียน ซิว และ ฟาง เจิ้งจือ

“นั่น ฟาง เจิ้งจือ!”

“เหยียน ซิว เดินมากับเขาจริงๆ?! อย่าบอกนะ เหยียน ซิว ก็เข้าร่วมการทดสอบด้วย?”

“โอ้ ข้าลืมไปเลย เหยียน ซิว...ดูเหมือนเขาจะอายุ 16 ปี ตามธรรมเรียมตระกูลเหยียนแล้ว พวกเขาจะออกจากบ้านมาเมื่ออายุ 16 ปี เหยียน ซิว ต้องเข้าร่วมการทดสอบแน่ๆ!”

“ถ้าเหยียน ซิว เข้าร่วมการทดสอบ มันต้องน่าสนใจมากแน่ๆ! ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนว่าความสามารถของ เหยียน ซิว ตอนนี้อยู่ในระดับไหนแล้ว”

“แม้ว่า เหยียน ซิว จะมีชื่อมากก็ตาม แต่ไม่เคยมีใครเห็นเขาต่อสู้มาก่อน ไม่เคยถูกจัดอันดับบนทำเนียบมังกรซ่อนด้วยซ้ำ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่คงไม่มีทางถึงขั้น ผนวกดารา?”

 

การปรากฎตัวของ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ทำให้ทุกคนแปลกใจ แต่เหยียน ซิว นั้นต่างกัน ชื่อเสีงของตระกูล เหยียน นั้นทุกคนที่อยู่ในอณาจักรต่างรู้กันดี

ได้ยินเสียงพูดคุย ท่าทีของ เหยียน ซิว เปลี่ยนไปเล็กน้อย คิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่นานก็กลับสู่ความเยือกเย็นปกติ

“ดูเหมือนเจ้าจะไม่ชอบให้คนอื่นพูดถึงเจ้า และตระกูลของเจ้าเท่าไหร่นะ” ฟาง เจิ้งจือ มองเห็นความเปลี่ยนแปลงอันเล็กน้อยอย่างง่ายดาย

“ใช่” เหยียน ซิว พยักหน้า

“เจ้าเลยต้องพิสูจน์ตัวเอง เดินทางมาจากทางตะวันตก เพื่อเข้าร่วมการทดสอบ?” ฟาง เจิ้งจือ คาดเดา

“ใช่” เหยียน ซิว พยักหน้าอีกครั้ง

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ถามอะไรอีก หลังจากได้พูดคุยกับ เหยียน ซิว ทำให้เขาพอสัณณิษฐานได้ว่า ตระกูลเหยียน ไม่ได้ตั้งอยู่บนดินแดนทะเลทรายทางเหนือ

 

“ก้อง!”

เสียงระฆังเป็นสัญญานแรกของการทดสอบ การทดสอบกฎแห่งเต๋าด้านปัญญา นั้นเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ดูเหมือนเพราะคนจำนวนมาก ทำให้พื้นที่ของเมืองหลวงแม่น้ำแห่งความสัตย์ไม่เพียงพอ ดังนั้นการทดสอบครั้งนี้จึงจัดขึ้น ณ ที่ทำการเมืองหลวง

ประตูสีแดงสลักเป็นรูปสัตว์เป็นสัตญ์ลักษณ์ของที่ทำการประจำเมืองหลวง มีทหารคอยยืนป้องกันทั้ง 4 ทิศ ทั้ง เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก ทุกคนถือหอก ยืนรอคอยอยู่ในระเบียบวินัย

ผู้คุมสอบสวมชุดดำบางคนเดินไปมาอยู่บริเวณหน้าประตู สังเกตุได้ว่าการทดสอบระดับเมือหลวงนั้นเข้มงสดกว่าระดับมณฑลเป็นอย่างยิ่ง ผู้ที่ผ่านการทดสอบเปรียบเสมือนได้เดินเข้าไปยังประตูมังกรทอง มีรายชื่ออยู่ในบันทึกของอณาจักรเซี่ยอันยิ่งใหญ่ และพวกเขาส่วนใหญ่นั้นจะถูกคุ้มครองโดยกฎหมาย

ตราบเท่าที่ไม่ได้ทำความผิดร้ายแรงอะไร ก็ไม่มีทางโดนลงโทษเด็ดขาด

ยิ่งไปกว่านั้น จะได้รับคำเชิญจากแหล่งต่างๆ ทั้งเป็นที่ปรึกษา อาจารย์ หรือยิ่งกว่านั้น

กลุ่มนักปราชญ์เดินไปต่อแถว

ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว เดินไปยังประตูด้วยกัน

ฟาง เจิ้งจือ สังเกตุเห็น หลี่ จ้วงฉือ ยืนยู่ หลี่ จ้วงฉือ ก็เช่นกันเมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ ดวงตาของเขาเบิกกว้างทันที

“เจิ้งจือ ดูเหมือนโชคชะตาของพวกเราจะเหมือนกัน! การทดสอบกฎแห่งเต๋าระดับเมืองหลวง สวรรค์ต้องเล่นตลกกับพวกเราแน่นอน!” หลี่ จ้วงฉือ ไม่ได้ล้อเลียน ฟาง เจิ้งจือ แสดงความเห็นใจออกมา

ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย

 

เมื่อ หลี่ จ้วงฉือ เห็นอย่างนั้น ประกายความเยือกเย็นปรากฎขึ้นในตาเขาทันที

“เห้อ...อย่าคิดมาก! พ่อของเจ้าและข้าเคยสนิทสนมกันมาก ข้าไม่อาจทนเห็นเจ้าพลาดอันดับดีๆได้ ข้าอยากช่วยเจ้าเล็กน้อย ข้าได้รับกระดาษคำตอบมาไม่กี่วันก่อน ข้าขอมอบให้เจ้าแผ่นหนึ่ง!” เมื่อ หลี่ จ้วงฉือ พูดออกมาพร้อมกับหยิบกระดาษจากกระเป๋าออกมา ก่อนจะยัดใส่มือ ฟาง เจิ้งจือ

ฟาง เจิ้งจือ ผงะไปเล็กน้อย มองไปยัง หลี่ จ้วงฉือ และจดหมายในมือ

 

“ลุงหลี่ ท่านต้องการทำอย่างนี้จริงๆหรือ?”

“ข้าเพียงต้องการให้เจ้าเห็นความหวังดีของข้า!” ท่าทีของ หลี่ จ้วงฉือ เต็มไปด้วยความจริงใจ

“โอ้ งั้นขอบคุณมากท่านลุง!” ฟาง เจิ้งจือ ไม่พูดอะไรอีก เก็บกระดาษไว้ในกระเป๋า ก่อนจะเดินเข้าไปในประตู

 

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด