ตอนที่ 2 ธุรกิจที่ล้มเหลว
ตอนที่ 2 ธุรกิจที่ล้มเหลว
เวลาประมาณ 16.30 น. ของทุกวัน หน้าประตูโรงเรียนประถมหงซิง จะมีกลุ่มผู้ปกครองรอรับลูกหลานของพวกเขา และในกลุ่มคนเหล่านี้มีหลายคนเริ่มยุ่ง
มีคนขายอาหารบาร์บีคิว พ่อค้าขายผลไม้ และแน่นอนว่าจะต้องมีหลินฟ่านที่กำลังขายแพนเค้กต้นหอม ในความเป็นจริงเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ขายแพนเค้กต้นหอม การแข่งขันในตลาดก็สูงมาก
สำหรับคนหนุ่มสาวอย่างหลินฟ่าน ผิวหน้าไม่หนาเหมือนอื่นๆ เพราะฉะนั้นเขาจึงพลาดตำแหน่งที่ดีที่สุดทุกครั้ง
"เฮ้ น้องชาย วันนี้เกิดอะไรขึ้น? มีอะไรผิดปกติกับดวงตาของเธอหรือเปล่า? เธอกระพริบตากว่าร้อยครั้งในช่วง 10 นาทีที่ผ่านมา"
ชายวัยกลางคนที่โดดเด่นถามขึ้นมา เขาสวมเสื้อคลุมยาว มือทั้งสองข้างของเขาซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ เขายืนอยู่ข้างๆรถเข็นของหลินฟ่าน
"ว้าว ศักดิ์สิทธิ์เทียน คุณสามารถนับการกระพริบตาของผม!"
ในใจของหลินฟ่านกำลังสับสน เขาสงสัยว่าตัวเองกำลังถูกผีสิง ทำไมสิ่งนี้ถึงปรากฏขึ้นในหัวของเขา? และสารานุกรมก็หนาผิดปกติอีกด้วย
"นี่เป็นแค่ชื่อเล่น ฉันสามารถมองโชคชะตาให้เธอแค่ 5 เหรียญ ฉัน เทียน สามารถมองเห็นอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ไม่ว่าใครหรืออะไรก็ตาม อย่างรวดเร็วฉันสามารถบอกคุณได้"
ศักดิ์สิทธิ์เทียน นั่งอยู่บนม้านั่งเล็กๆข้างๆเขา เขาพยายามหลอกล่อให้หลินฟ่านเชื่อเขา ในธุรกิจนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหลอกลวงลูกค้า ไม่อย่างนั้นเขาจะหาเลี้ยงชีพได้อย่างไร?
"ถ้าคุณเป็นคนที่ยอดเยี่ยมคุณคงประสบความสำเร็จมานานแล้ว ทำไมคุณถึงยังนั่งยองๆแถวหน้าโรงเรียนประถมแบบผมงั้นเหรอ? อย่างไรก็ตามคุณต้องภูมิใจกับตัวเองจริงๆ เทียนหานหมิง การทำเช่นนี้หน้าโรงเรียนประถม สอนเด็กๆให้เชื่อในการหลอกลวงของคุณ"
"อย่าเรียกฉันแบบนั้นนะ เรียกฉันว่าศักดิ์สิทธิ์เทียน ฉันไม่สามารถเปิดเผยความลึกลับของสวรรค์ได้ อย่างไรก็ตาม จุดที่ฉันยืนอยู่เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าธุรกิจอะไรก็ตามจะได้รับการเติบโตอย่างง่ายดาย หากเธอสนใจ ให้แพนเค้กต้นหอมกับฉัน แล้วฉันจะให้พื้นที่นี้ให้กับคุณ"
หลินฟ่านหัวเราะเล็กน้อย เขาไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไป เมื่อหลินฟ่านทำธุรกิจครั้งแรก ธุรกิจไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่น และเทียนหานหมิงก็ทำการหลอกลวงเขา
ตั้งแต่นั้นมาหลินฟ่านได้เห็นเทคนิคของเขา หลอกลวงกระทั่งคนยากจนเช่นเขา เทียนหานหมิงไม่มีแม้แต่จิตสำนึก?
"พี่สาวใหญ่ ช้าๆหน่อย และมองมาที่ข้าสักครู่"
ตอนนี้มีคุณป้าวัย 50 กำลังเดินผ่าน ศักดิ์สิทธิ์เทียนก็เรียกเธอ นิ้วมือของเขาเริ่มขยับราวกับว่ากำลังนับบางสิ่งบางอย่าง ยิ่งเขานับยิ่งมีความเคร่งเครียดบนใบหน้าเขาราวกับว่าจะมีบางสิ่งเกิดขึ้น
เมื่อมองไปที่ฉากนี้หลินฟ่านก็หัวเราะขึ้นมา "มีเหยื่ออีกคน" เขาคิด แต่ถึงอย่างนั้นทุกครั้งที่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลินฟ่านไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากอิจฉา
แค่พูดเรื่องไร้สาระบางอย่างก็ได้รับเงิน มันดูดีเกินไป
คุณป้าคนนี้ดูเหมือนเป็นคนที่เชื่อเรื่องดวงชะตา เธอหยุดและมองไปด้วยสีหน้าที่แปลกใจ "ผู้เชี่ยวชาญ มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ?"
"จากสายตาของเจ้า ข้าบอกได้ว่ามันอาจจะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับเจ้าในอนาคตอันใกล้" ศักดิ์สิทธิ์เทียนกล่าวอย่างจริงจังราวกับว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นเรื่องจริง
นักเรียนประถมยังไม่ได้ถูกปล่อยออกมาหลินฟ่านยืนมองเทียนหานหมิงกำลังโกงเหยื่อของเขา เขาไม่สามารถช่วยได้นอกจากยืนชื่นชมเล็กน้อย ด้วยการโกหกแต่ละครั้งเขาจะบอกว่ามีเหตุแตกต่างกันอยู่เบื้องหลังและแต่ละคนก็คิดว่ามันสมเหตุสมผล
5 นาทีต่อมา
คุณป้าพยักหน้าอย่างกังวลแล้วมอบเงิน 10 เหรียญให้กับเทียนหานหมิง ขณะที่เธอจากไป เธอก็ยังขอบคุณเขาราวก็ว่าเขาช่วยชีวิตเธอเอาไว้
"เป็นไง?" ศักดิ์สิทธิ์เทียนโชว์เงินในมือของเขาอย่างภูมิใจก่อนจะบรรจุลงในกระเป๋าเอวของเขา
"ไอ้แก่สารเลว..."
แม้หลินฟ่านจะกล่าวเช่นนั้น แต่หัวใจเขาก็เต็มไปด้วยความอิจฉา
นับตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจแพนเค้กต้นหอม มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก เนื่องจากมีพ่อค้าแผงลอยแพนเค้กอีกหลายเจ้าอยู่ข้างๆเขา ในเรื่องทักษะและคุณภาพของแพนเค้ก หลินฟ่านไม่สามารถแข่งกับคนอื่นๆได้ รายได้เพียงวันละ 100 เหรียญถือว่าโชคดี
นอกจากนี้เมื่อเจ้าหน้าที่เทศกิจมาจับ รายได้ทั้งวันก็จะหายไป
*กริ้งงงงง*
เสียงออดของโรงเรียนดังก้องไปทั่วหลินฟ่านสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาวางอุปกรณ์และส่วนผสมทั้งหมดไว้ประจำตำแหน่งขณะที่รอผู้ปกครองพาลูกๆออกมา
สิ่งที่ทำให้หลินฟ่านไม่พอใจมากที่สุดคือแผงลอยที่ประจำอยู่ข้างหน้าของเขา พวกเขาจะแข่งขันกันอย่างเลวร้าย และจะมีผู้ปกครองมาหน้าแผงลอยของเขาเพียงน้อยนิด
ในสถานที่เช่นเซี่ยงไฮ้ผู้ปกครองบางคนไม่อนุญาตให้ลูกๆกินอาหารที่ขายตามท้องถนน พวกเขากล่าวว่ามันเป็นอาหารที่ไม่สะอาดหรือถูกสุขลักษณะ ดังนั้นลูกค้าจึงมีจำกัด
เสียงพูดคุยดังขึ้นมา ฝูงชนเริ่มเดินไปทางประตูโรงเรียน
คนขายของเริ่มยุ่งมากขึ้นเช่นเดียวกันกับศักดิ์สิทธิ์เทียน
แม้กระนั้นก็ยังไม่มีใครอยู่ในบริเวณแผงลอยของหลินฟ่าน ไม่มีใครสนใจที่จะสนับสนุนแผงลอยของเขา ผู้ปกครองหลายคนเดินผ่านข้างหน้าแผงลอยของเขาแล้วถือแพนเค้กต้นหอมที่พวกเขาซื้อจากร้านอื่นๆ
หลินฟ่านเห็นว่าร้านแพนเค้กร้านอื่นๆเริ่มแน่น พวกเขายุ่งมาก
เราไม่สามารถนั่งเฉยๆได้ เราต้องทำงานหนักขึ้นก่อนที่ทุกอย่างจะเสียไป หลินฟ่านกำลังหมดหวัง และเริ่มตะโกนเสียงดัง
"แพนเค้กต้นหอม ขนาดใหญ่และหอมมาก! เพิ่มแฮมเพียง 6 เหรียญ เพิ่มเบคอนเพียง 7 เหรียญเท่านั้น!"
อย่างไรก็ถึงกระนั้นก็ไม่มีลูกค้าซักราย หลินฟ่านรู้สึกท้อแท้ แม้จะมีความพยายามแต่ไม่มีคนอุดหนุนเขา
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของหลินฟ่าน ป้าที่ยืนอยู่แผงลอยตรงข้ามเขามองเขาอย่างดูถูก ขณะที่เธอกำลังทำแพนเค้ก เธอกล่าวกับลูกค้าว่า "แพนเค้กต้นหอมของชายหนุ่มคนนั้นมีรสชาติที่น่ากลัว นั่นเป็นเหตุผลที่ไม่มีใครซื้อของเขา มีบางคนไม่ทราบและเข้าไปลอง แต่ก็ไม่มีใครเข้าไปซื้อจากเขาเป็นครั้งที่สอง"
ผู้ปกครองที่ยืนรอบๆทั้งหมดต่างก็พยักหน้า เห็นได้ชัดว่าผู้ปกครองบางคนซื้อแพนเค้กมาก่อนและรสชาติก็น่ากลัวจริงๆ
ศักดิ์สิทธิ์เทียนหลังจากอ่านโชคชะตาของผู้ปกครองหลายคน เขามองไปที่หลินฟ่านเมื่อเห็นท่าทางน่าสังเวชของหลินฟ่านเขาก็หัวเราะเบาๆ "เฮ้เด็กน้อย ทำไมเธอไม่มาลองติดตามฉัน ฉันจะให้อาหารและที่พักกับเธอ ฉันรับประกันเลยว่าเธอจะมีอนาคตที่สดใส เธอจะขายแพนเค้กต้นหอมได้ เมื่อเธอจบการฝึกงานแล้วฉันจะมอบที่ดินอันมีค่านี้ให้กับเธอ แล้วเธอจะรวย"
"คุณเก็บมันไว้เถอะ ที่ของผมก็ไม่เลว จะมีลูกค้ามากมายในอนาคต" หลินฟ่านปฏิเสธที่จะติดตามต้มตุ๋นเทียนและกลายเป็นหมอดู หากเขาทำ เขาจะกลายเป็นตัวตลกของเมือง
จู่ๆเขาก็ได้กลิ่นน้ำหอมในอากาศ หลินฟ่านหายใจเข้าออกหลายครั้ง มันเป็นกลิ่นที่มีเสน่ห์! เขาหันไปมองและสิ่งที่เขาเห็นทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย
"เอาแพนเค้กห่อหนึ่งเพิ่มแฮมและเบค่อนค่ะ" หญิงสาวที่สวยงาม มีเสียงไพเราะ เธอสวมแว่นกันแดดและแต่งกายด้วยชุดสูทสีดำ
"หญิงสาว คุณแน่ใจหรือว่าเป็นอาหารที่ดี นายหนุ่มคนนี้เก่งมากเขาทำแพนเค้กต้นหอมที่ยอดเยี่ยม ทำไมคุณไม่ลองให้ฉันอ่านโชคชะตาของคุณ เมื่อฉันดูเสร็จแล้ว แพนเค้กต้นหอมก็ควรจะพร้อมด้วย" ต้มตุ๋นเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเผยให้เห็นฟันสีเหลือง
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก "ฉันได้ลิ้มรสสิ่งนี้มาก่อน ฉันค่อนข้างรีบและที่นี่ไม่มีคิว ดังนั้นฉันจะซื้อมันก่อนจะไปหาเพื่อนร่วมงานของฉัน สำหรับทำนายดวงชะตา ลืมเรื่องนี้ไปเลย ฉันไม่เชื่อในโชคชะตา"
สาวงามกล่าวปฏิเสธไป หลินฟ่านยุ่งอยู่กับการทำแพนเค้ก ใบหน้าเขาแดงเล็กน้อย เขารู้ว่าแพนเค้กต้นหอมของเขามันไม่ดี และลูกค้าจะไม่กลับมาเป็นครั้งที่สอง
ศักดิ์สิทธิ์เทียนก้มศีรษะลงและไม่สามารถหุบยิ้มได้ เขาอายุมากแล้วเขาจะมองเบื้องหลังของคำพูดเหล่านี้ไม่ออกได้อย่างไร?
ทันใดนั้นนิตยสารที่อยู่ในใจของหลินฟ่านก็เปิดขึ้น คำพูดแต่ละแถวลอยขึ้นมาในใจ
หลินฟ่านส่ายหน้า เราควรลองทำแบบนี้
หลินฟ่านไม่เคยใช้วิธีนี้มาก่อน เขาไม่มีประสบการณ์ แต่ขณะนี้ทุกสิ่งที่เขาทำเป็นไปตามธรรมชาติราวกับว่าเขาเคยทำมาแล้วหลายครั้ง
"ว้าว วิธีการทำอาหารแบบนี้ ดูน่าสนใจมาก" หญิงสาวอุทานขึ้นขณะดูหลินฟ่าน
หลินฟ่านไม่รู้จะพูดอะไรเขาจึงยิ้มให้เล็กน้อย
หญิงสาวเดินออกไปคุยโทรศัพท์ ในขณะที่หลินฟ่านกำลังทำ เขารู้สึกว่ากำลังทำดีขึ้นเรื่อยๆ ภายในไม่กี่นาทีแพนเค้กต้นหอมที่สวยงามก็เสร็จ
"นี่เราเป็นคนทำ?"
หลินฟ่านไม่เชื่อตัวเอง
ชั้นนอกเป็นสีน้ำตาลทองและกรอบ ด้านในมีสีขาวและนุ่ม กลิ่นหอมของต้นหอมและแป้งมันน่ากินอย่างเหลือเชื่อ แม้กระทั่งหลินฟ่านก็อยากจะกัดและกลืนมันลงไป แต่เขาก็ระงับอาการไว้ได้
"ทำเสร็จแล้ว?" สาวงามคนนั้นคุยโทรศัพท์เสร็จ เธอก็มากระตุ้นหลินฟ่าน
"มันเสร็จแล้ว" โดยไม่ลังเลหลินฟ่านวางแพนเค้กลงในถุงพลาสติกและมัดไว้
หญิงงามเดินเข้ามาแล้วจ่ายเงินจำนวน 7 เหรียญให้หลินฟ่าน เธอพึมพำกับตัวเอง"กลิ่นหอมนี้มาจากไหน?"
แต่หญิงสาวไม่ได้ถามหลินฟ่านเกี่ยวกับกลิ่น เธอเคยลิ้มลองแพนเค้กต้นหอมของเขามาก่อนและไม่ได้พิจารณากลิ่นที่น่าทึ่งนี้ว่ามันมาจากแพนเค้กต้นหอมของเขา เธอหยิบถุงพลาสติกและไม่ทราบว่ากลิ่นมาจากไหน
ในทางกลับกันหลินฟ่านยังตกใจ เขารู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น
หลังจากนั้นแผงลอยของหลินฟ่านก็ไม่มีลูกค้าอีกต่อไป นอกเหนือจากสาวงามคนนั้น ก็ไม่มีใครมาซื้อของเขา