ตอนที่ 16 การตื่นขึ้นของเทพสงครามอมตะ Part 2
ตอนที่ 16 การตื่นขึ้นของเทพสงครามอมตะ Part 2
ชูแรนยิ้มอย่างมีความสุขขณะส่งมือให้อาวุโสเขี้ยวขาว แต่ขณะที่มือของเขาถูกจับโดยอาวุโสเขี้ยวขาว เขาเริ่มรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมากมาก มันเหมือนมดเป็นพัน ๆ ตัวกัดกินเนื้อมือของเขา ความเย่อหยิ่งหายไปกลับกลายเป็นใบหน้าเคล้าน้ำตาและน้ำมูก
"ผู้อาวุโส มันเจ็บเหลือเกิน ... มันเจ็บ ... เบาๆหน่อยคับ ... อ๊ากก" ชูแรนพยายามอธิบายอาการเจ็บปวดให้อาวุโสเขี้ยวขาวฟัง
"โทษทีแต่หูข้าไม่ค่อยดี .... " อาวุโสเขี้ยวขาวไม่สนใจท่าทางของชูแรน
'เจ็บปวดมากใช่ไหมไอเด็กเหลือขออวดดี’
อาการปวดค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นตามเวลาผ่านที่ไหลผ่านไปและมือชูแรนเริ่มบวม
"อ่า ...ผู้อาวุโส ... อ่า ... ข้าทนไม่ไหวแล้ว... "
"ได้โปรด ... ผู้อาวุโส ...อ๊ากกกกก ....."
เอ็ดก้าเริ่มกังวลลูกชายของเขาบนเวที และเมื่อเวลาผ่านไปความอดทนของเขาก็เริ่มหมดลง
เลือดสดๆ เริ่มหลั่งไหลออกมาจากมือชูแรน และเมื่อพ่อของเขาเห็นอย่างนั้น เขาก็สูญเสียความอดทนของเขา และรีบขึ้นไปบนเวทีและวิ่งไปหาอาวุโสเขี้ยวขาว พร้อมคุกเข่าลงตรงหน้าเขาและเริ่มอ้อนวอน
“โอ้ ผู้อาวุโสโปรดยกโทษให้ลูกที่โง่เขลาของข้าด้วย เขาสำคัญมากสำหรับการอยู่รอดของตระกูลซีของข้า กรุณายกโทษให้เข้าด้วยนายท่านข้าขอร้อง” เอ็ดก้าอ้อนวอน
"ไอเด็กเหลือขอ เจ้าเริ่มเข้าใจอะไรบ้างหรือยัง?" อาวุโสเขี้ยวขาว มองดูชูแรนอย่างไม่แยแสและพูดว่า "ทุกอย่างที่พ่อของเจ้ากำลังทำต่อหน้าข้า ทำให้ทุกอย่างที่เจ้ากล่าวออกมาอย่างอวดดีเป็นได้เพียงเรื่องราวที่ไร้ค่า .... และเจ้าผ่าน"
'ไอเด็กเหลือขอนี้มีความสามารถ ... ข้าไม่ควรเสียต้นกล้าที่ดีเช่นนี้'
"กินมันซะ" อาวุโสเขี้ยวขาวพูดขณะที่เขายัดยาเม็ดสีเขียวใส่ปากของชูแรน มันเป็นเม็ดยาแบบเดียวกันกับที่เฟลิกซ์กิน เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บจากหมัดของอาวุโสเขี้ยวขาว
ชูแรนกลืนยาอย่างรวดเร็วโดยไม่ชักช้า เมื่อยาเข้าสู่ร่างกายของเขาคลื่นพลังปราณบริสุทธิ์กระจายเข้าสู่จิตวิญญาณ ภายในเวลาไม่นานอาการบวมของชูแรนก็หายเป็นปกติ
"โปรดอภัยให้แก่ความโง่เขลาของข้าด้วย ผู้อาวุโส" ชูแรนกล่าวขณะที่กำลังคุกเข่าลง ใบหน้าของเขากำลังก้มอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นความโกรธเกรี้ยวของเขา อาวุโสเขี้ยวขาวสามารถรับรู้ได้
‘มันเก็บอารมณ์ได้ดีจริงๆ ..... ข้าเริ่มถูกใจเจ้าเด็กเหลือนี้ซะแล้ว’ อาวุโสเขี้ยวขาวคิด
"ขอบคุณสำหรับความเมตตานายท่าน" เอ็ดก้ากล่าว
"ไปพาลูกสาวของเจ้าและเฟลิกซ์มาที่นี่" อาวุโสเขี้ยวขาวกล่าวกับเอ็ดก้า
"ขอรับ นายท่าน" หัวหน้าเอ็ดก้าตอบอย่างมีความสุขและรีบออกไป
หลังจากนั้นไม่นานลูกสาวของเอ็ดก้าและเฟลิกซ์ก็มาถึง เธอสวมชุดสีชมพูที่มีเส้นขอบสีแดงและเฟลิกซ์ยังคงสวมเสื้อคลุมตัวเดิมและหน้ากากเอนบุ
"ทำความรู้จักกันซะ" อาวุโสเขี้ยวขาวหันไปพูดกับทั้งห้าคน
"สวัสดีทุกคนข้าชื่อเฟลิกซ์"
"สวัสดีทุกคนข้าชื่อเดซี่ ดีใจที่ได้พบพวกเจ้า"
"ลิลลี่เป็นชื่อของข้า .... "
"ซีชูแรน"
"ชื่อของฉันคือ ซีเยี่ยแรน"
ทั้งห้าคนแนะนำตนเองทีละคน
"ตอนนี้ตามข้ามา" อาวุโสเขี้ยวขาวกล่าวขณะที่เดินไปตามทางออกของสนามฝึก
======
ณ ลานฝึกทั่วไปของคฤหาสน์ตระกูลซี
รอบๆลานล้อมรอบด้วยพืชพรรณและต้นหญ้ามันเป็นลานที่สวยงาม มีคน 6 คน กำลังยืนอยู่ภายในลาน พวกเขาคือ เฟลิกซ์ ซีแรน เยี่ยแรน ลิลลี่ เดซี่และอาวุโสเขี้ยวขาว
เฟลิกซ์และเยี่ยแรนยืนอยู่กัน ขณะที่อีกสามคนกำลังยืนอยู่อีกฝั่ง ในขณะที่อาวุโสเขี้ยวขาวยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง
"เจ้าทั้งสองเดินเข้าไปรอในห้องพักและรอข้า" อาวุโสเขี้ยวขาวสั่งทั้งเฟลิกซ์และเยี่ยแรน
"รับทราบครับ อาวุโสเขี้ยวขาว" เฟลิกซ์ตอบอย่างรวดเร็ว
"รับทราบค่ะ อาวุโสเขี้ยวขาว" น่าแปลกใจที่เยี่ยแรนก็เห็นด้วย
"เธอไม่ได้เกลียดเฟลิกซ์งั้นหรอ? หรือว่ามีบางสิ่งบางอย่างไม่ถูกต้อง ...” อาวุโสเขี้ยวขาวคิด
หลังจากนั้นเฟลิกซ์และเยี่ยแรนก็ออกจากลานไป
"ตอนนี้มีใครบอกเหตุผลที่ข้าเลือกเจ้าทั้งสามคนแทน 13 คนนั้น?" อาวุโสเขี้ยวขาวถาม
"อาวุโสให้ข้าผ่านไปเพราะข้าตัวเล็กน่ารัก" เดซี่เป็นคนแรกที่ให้คำตอบของเธอ
"อาวุโสให้ข้าผ่านไปเพราะข้าแข็งแกร่ง... " ลิลลี่ตอบด้วยเสียงอ่อนโยนของเธอ
"อาวุโสให้ข้าผ่านไปเพราะข้าสามารถทนต่อความเจ็บปวดรุนแรงได้" ชูแรนตอบอย่างไม่ต้องคิด
"พวกเจ้าไม่มีสมองกันเลยหรือไง เป็นโชคดีของข้าจริงๆที่ได้พบกับพวกเจ้า" อาวุโสเขี้ยวขาวพูดอย่างแดกดันขณะที่โบกมือไปในอากาศ
"ขอบคุณผู้อาวุโส" ทั้งสามกล่าวพร้อมเพรียง
"ขอบคุณตูดของข้าสิ พวกเจ้าทั้งหมดตอบผิด" อาวุโสเขี้ยวขาวกล่าวว่า "เจ้าพวกโง่ ข้าอยากรู้ความรู้สึกแบบไหนที่เจ้ารู้สึกเมื่อข้าสัมผัส?"
"ตื่นเต้น ..... " เดซี่กล่าวหลังจากนึกถึงเวลานั้น
"สั่นๆ และเจ็บปวด" ชูแรนสั่นขณะตอบ
"จักกะจี้" ลิลลี่ตอบแบบลวก ๆ
"นั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมข้าถึงเลือกพวกเจ้าทั้งสาม มันเป็นเพราะความรู้สึกที่ข้าได้รับรู้ตอนที่ข้าจับมือตรวจสอบพวกเจ้า”
“พวกคุณทุกคนรู้จักจิตวิญญาณกับปราณ .... ใช่มั้ย? ถูกต้อง ... โดยการจับมือของพวกเจ้า ข้าได้ส่งจิตวิญญาณของข้าพร้อมกับปราณเข้าไปในร่างกายของเจ้าและโดยการทำเช่นนั้น ข้าจึงรับรู้ได้ถึงความสามารถของพวกเจ้า”
“ตอนนี้เจ้าคงอยากถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นใช่มั้ย? ดังนั้นข้าจะอธิบายให้ฟัง”
“สมมติว่าข้าชักนำจิตวิญญาณและปราณปริมาณ X เข้าไปในร่างกายของพวกเจ้า พรสวรรค์ของเจ้าวัดจากปริมาณของปราณที่ส่งคายออกมาจากร่างกายของพวกเจ้า โดยพรสวรรค์นี้จะนำไปเปรียบเทียบกับปริมาณของปราณที่ร่างกายพวกเจ้าดูดซึมเข้าไป
ถ้าข้าเดาไม่ผิดพวกเจ้าเริ่มพวกเจ้าเริ่มบ่มเพาะกันแล้วใช่ไหม? ถ้าใช่ระดับการบ่มเพาะของพวกเจ้าตอนนี้อยู่ในระดับไหน? "
"ผู้อาวุโส ข้าเริ่มบ่มเพาะเมื่อข้าอายุ 8 ขวบและระดับการบ่มเพาะปัจจุบันของข้า คือ ร่างนักสู้ขั้น 5"
"ผู้อาวุโส ข้าเริ่มบ่มเพาะเมื่อข้าอายุ 8 ขวบและระดับการบ่มเพาะปัจจุบันของข้า คือ ร่างนักสู้ขั้น 8"
"เอ่ออ ... ระดับการบ่มเพาะปัจจุบันของข้า คือ ร่างนักสู้ขั้น 7"
เดซี่, ลิลลี่ และ ชูแรน ตอบตามลำดับ
"อืม .... หวังว่าข้าจะตัดสินใจถูกที่เลือกพวกเจ้า ในฐานะรองอาจารย์ใหญ่ของวิทยาลัย ข้ารับรองพวกเจ้าทั้งสามคน เข้าเป็นนักเรียนสาขานอกของวิทยาลัย พวกเจ้ามีปัญหาหรือไม่?"
"ไม่มีปัญหาเลย ผู้อาวุโส" ทั้งสามตอบอย่างมีความสุขอย่างพร้อมเพรียง
"เอาล่ะ พวกเจ้าไปล่ำลาครอบครัวเถอะ อีกหนึ่งชั่วโมง ให้ไปพบข้าที่ที่ทางเข้าคฤหาสน์ตระกูลซี เข้าใจใช่ไหม?"
"รับทราบ ผู้อาวุโส"
"ไปได้แล้ว" อาวุโสเขี้ยวขาวกล่าวเสียงดังขณะออกจากลานฝึกและเดินไปยังห้องรับแขก
'มาดูกันว่าเจ้าปีศาจน้อยจะทำอะไรให้ข้าแปลกใจไหม ... ' ลุงฟางคิดในใจเมื่อเดินตรงไปยังห้องแขก
=====
นอกห้องรับแขกอาวุโสเขี้ยวขาวพยายามฟังเสียงจากภายในห้องโดยแนบหูไว้กับประตู
แม้เขาจะยืนฟังอยู่ 5 นาทีแล้วแต่อาวุโสเขี้ยวขาวก็ไม่ได้ยินอะไรเลย ...
“พวกเขาถึงทำกันเสร็จแล้วหรอ?” เมื่อความคิดนี้เข้ามาในจิตใจของเขา เขาก็เปิดประตูเข้าไปในห้อง แต่สถานการณ์ภายในห้องไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด
เยี่ยแรนกำลังนั่งอยู่ที่บนเตียงแสดงท่าทีรังเกียจ ขณะที่เฟลิกซ์กำลังอ่านหนังสือแนะนำซึ่งเขียนขึ้นโดยคุณยายของเขา
'บ้าจริง .... เห็นทีข้าต้องสอนอะไรเจ้าเด็กนี่บ้างซะแล้ว! ดันปล่อยตุ๊กตาน่ารักทิ้งไว้ แต่มานั่งหนังสือ .... '
"พวกเจ้าสองคน" อาวุโสเขี้ยวขาวกล่าวว่า "มานี่และบอกระดับการบ่มเพาะของพวกเจ้า!"
"ค่ะ อาวุโส"
"ครับ ท่านลุง"
เฟลิกซ์และเยี่ยแรน ยืนอยู่ข้างกันขณะเผชิญหน้ากับอาวุโสเขี้ยวขาว
“ระดับการบ่มเพาะของข้าอยู่ที่ร่างนักสู้ขั้นที่ 9 ”เยี่ยแรนตอบพร้อมยึดหน้าอกของเธอ [(͡◉͜ʖ͡◉)]
"เจ้าละเฟลิกซ์?"
"การบ่มเพาะของข้าอยู่ในระดับกำเนิดปราณขั้น 6 ตอนข้าตรวจสอบครั้งสุดท้าย ... " เฟลิกซ์ตอบแบบกระอักกระอ่วน
"เข้าใจละ งั้นให้ข้า .... เดี๋ยวก่อน เจ้าบอกว่าการบ่มเพาะของข้าอยู่ในระดับกำเนิดปราณขั้น 6 หรอ?" อาวุโสเขี้ยวขาวงงงันเมื่อรู้ว่าเฟลิกซ์พูดอะไร
"ใช่ลุง ข้าทดสอบด้วยหินทดสอบที่คุณยายให้ข้า"
"ข้าเชื่อไม่ลงจริงๆ ... เจ้าอายุเท่าไหร่กัน"
"อายุ 10 ปี"
"ข้าไม่เชื่อหรอกเด็ก 10 ขวบจะอยู่ระดับกำเนิดปราณขั้น 6 ลองใช้หินทดสอบของข้าดูก่อน" อาวุโสเขี้ยวขาวยังเชื่อเฟลิกซ์ไม่ลง
"ลุงไม่จำเป็นต้องไปเอามาหรอก ข้ามีอยู่ก้อนหนึ่ง!" เฟลิกซ์กล่าวในขณะที่แสดงหินทดสอบของเขา
"ใครเป็นคนให้เจ้า ทำไมเจ้าถึงมีแหวนเก็บของ?"
"ทุกสิ่งทุกอย่างได้รับมาจากคุณยาย ท่านให้แหวนเก็บของนี้ หินทดสอบและยาพิเศษ 2 ขวด" เฟลิกซ์บอกทุกอย่างที่คุณยายทิ้งไว้ให้เขา
เมื่ออาวุโสเขี้ยวขาวเห็นสิ่งที่เฟลิกซ์มีอยู่ เขาก็ตกใจมาก
"จำเอาไว้เฟลิกซ์ เจ้าห้ามบอกใครเรื่องนี้เด็ดขาด ไม่ว่าใครเข้าใจไหม" อาวุโสเขี้ยวขาวพูดอย่างจริงจัง "และเจ้า สาวน้อย เจ้าก็ห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใคร ฟังชัดเจนไหม?"
"ครับผม"
"รับทราบ ผู้อาวุโส"
"เฟลิกซ์ถือหินทดสอบโดยใช้ทั้งสองมือของเจ้า"
"ข้ารู้น่าลุง" เฟลิกซ์จับหินไว้โดยใช้มือทั้งสองข้างของเขาและภายในไม่กี่วินาทีผลก็แสดงออกมา
"กำเนิดปราณขั้น 7"
'ท่านเลี้ยงดูหลานมาแบบไหนกัน อาจารย์'
ในค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวงส่องแสงให้กับทั้งสิ่งมีชีวิตและสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีชีวิตอย่างเท่าเทียม
ไกลออกไปจากเมืองโกลด์มอร์ รถม้าวิ่งอย่างช้าๆและมั่นคงบนถนนซึ่งสร้างด้วยอิฐหิน ทั้งสองด้านของถนนปกคลุมด้วยป่าหนาทึบ ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบสงบ มันเหมือนกับความสงบก่อนเกิดพายุใหญ่
ดวงจันทร์เริ่มเปลี่ยนเป็นดวงจันทร์สีแดงเข้มอย่างช้าๆ ความแรงลมเริ่มเพิ่มขึ้นและเสียงหลากหลายชนิด เริ่มดังออกมาจากส่วนลึกของป่า ทุกอย่างถูกย้อมไปด้วยสีแดงและในที่สุดดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงมันไม่ได้ ....
ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทำให้รถม้าหยุดชะงักลง ด้านนอกรถม้าชายวัยกลางคนกำลังต่อสู้กับสัตว์ร้ายที่พยายามจะโจมตี โดยไม่มีสัญญาณของความตึงเครียดบนใบหน้าของเขา เขาสามารถจฆ่าสัตว์ร้ายได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าสู่เหตุการณ์ปกติ เสียงร้องไห้ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานก็ดังขึ้นมาจากรถ
"อ๊ากกกกกกกกก ... อย่าฆ่าข้า ... ไม่ ไม่ ... ข้าอยากจะมีชีวิต ... ได้โปรด ... อ๊ากกกกกกกก .. ไม่ .. "
เสียงกรีดร้องเต็มไปด้วยความทรมานและความเจ็บปวดราวกับมีใครกำลังทรมานเขา หญิงสาวสวยคนหนึ่งเดินลงมาจากรถ
"อาวุโสเขี้ยวขาว เฟลิกซ์เริ่มกรีดร้องอีกแล้ว ข้าไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่หลังจากร้องไห้ไปครู่หนึ่ง เขาก็หมดสติไป" เด็กสาวกล่าวอย่างขุ่นเคือง
'เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าปีศาจนี้กันแน่ และทำไมต้องเป็นตอนนี้ทุกครั้ง ..... '