Chapter 122: การต่อสู้ที่น่าละอายใจ
Chapter 122: การต่อสู้ที่น่าละอายใจ
เอกรังสีรุ่งอรุณนั้นกำลังบูดบึ้งอย่างถึงที่สุด สิ่งที่เขาต้องการก็คือการทำเควสของเขาให้สำเร็จและทำให้กิลด์ของเขานั้นขึ้นไปยังระดับที่สูงขึ้น แต่ด้วยเหตุผลที่แปลกประหลาดบางอย่าง พวกเขานั้นก็สูญเสียแต้มคุณธรรมไปสามร้อยแต้มอย่างฉับพลัน...
แล้วมันก็มีสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าก็คือความจริงที่พวกเขานั้นกลายเป็นศัตรูของสาธารณชนเมืองวาติกัน ไม่เพียงแต่พวกเขาจะถูกไล่ล่าจนพวกเขาตกอยู่ในความหวาดกลัวตรงจุดเกิด เขานั้นเสียเงินไปสองร้อยเหรียญทองไปด้วย..
เมื่อเป็นเด็กที่ร่ำรวย เอกรังสีรุ่งอรุณนั้นก็ไม่กังวลเมื่อเขาสูญเสียเงินทองไปเพียงเล็กน้อย แต่เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่พวกเขาสูญเสียแต้มคุณธรรมไปสามร้อยแต้ม ถ้ามันเป็นบางสิ่งที่เขาทำและสูญเสียแต้มคุณธรรมไป เขาก็ยังสามารถยอมรับมันได้ แต่เขานั้นเป็นคนบริสุทธิ์...
มันมีฝูงผู้เล่นที่ล้อมรอบไปทั่วจุดเกิด แม้กระทั่งถนนนั้นก็เต็มไปด้วยผู้เล่นที่กำลังเสาะหาสมาชิกจากรากจักรพรรดิ ผู้เล่นพวกนี้จ้องไปที่สมาชิกกิลด์รากจักรพรรดิเหมือนกับว่าพวกเขามองไปยังมอนสเตอร์ ถ้าระบบไม่ได้แบนการต่อสู้ตรงจุดเกิดละก็ ผู้เล่นพวกนี้ก็คงโจมตีไปแล้ว
เอกรังสีรุ่งอรุณจ้องไปยังฝูงผู้เล่นอันมหาศาลก่อนที่จะก้มลงมองสมญานามในมือของเขา และก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง..
“มาสเตอร์รุ่งอรุณ ถึงตาของคุณแล้ว”
ลูกน้องของเขาก็รีบเร่งเมื่อเขาสังเกตว่าเอกรังสีรุ่งอรุณนั้นกำลังจ้องไปยังระยะที่ห่างไกลอย่างเหม่อลอย
“ฉันกำลังคิดอยู่!”เอกรังสีรุ่งอรุณตอบอย่างไม่รีรอ
“มันเกือบจะสิบนาทีแล้วนะ! คุณกำลังคิดอะไรอยู่?”
เอกรังสีรุ่งอรุณจ้องไปอย่างโกรธเคืองใส่ลูกน้องแล้วเขาก็เถียงกลับ “มันเรียกว่าเป็นการพิจารณาอย่างระมัดระวัง! นายเข้าใจมันไหม? มันเป็นเพราะว่าไอ้โง่แบบพวกนายนั้นไม่รู้จักคิดก่อนที่จะทำมัน พวกเราจึงตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้!”
“เอ่อ…”ผู้เล่นคนนี้ก็สงบเงียบลง ถ้ามันไม่เป็นเพราะว่านายน้อยปักกิ่งนั้นต้องการที่จะล่อหวังหยู่และหยางนัวละก็ มันก็ไม่มีใครในพวกเขาติดอยู่ที่นี่หรอก
“บอส คุณไม่ได้พยายามที่จะโกงใช่ไหม?”
“ฉันดูเหมือนคนที่จะโกงงั้นเหรอ?”
“ถ้างั้น ถึงตาคุณแล้ว”
“ให้ฉันคิดก่อน…”เอกรังสีรุ่งอรุณตอบแล้วเขาก็จ้องไปที่ไพ่ของเขาอย่างเหม่อลอย
ในเวลานั้นเอง ก็มีเสียงตะโกนดังออกมาจากด้านนอกจุดเกิด
กองกำลังของอัศวินที่สวมชุดเกราะสีขาวก็ปรากฏตัวึข้นอย่างฉับพลัน และพยายามฝ่าเข้าไปกลางฝูงชนแล้วพวกเขาก็ไปยังจุดเกิด
ทุกคนนั้นจดจำกองกำลังอัศวินนี้ได้ พวกเขานั้นอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากโบสถ์แห่งแสง แม้ว่าพวกเขานั้นจะไม่พึงพอใจกับการกระทำอันรุนแรงของอัศวิน แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะพูดอะไรออกมาหรือขยับ มิฉะนั้นพวกเขานั้นก็จะเป็นการต่อต้านของโบสถ์ รากจักรพรรดินั้นเป็นตัวอย่างที่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว..
“เหี้...! พวกมันมาตามจับพวกเราแล้ว!”เอกรังสีรุ่งอรุณตะโกน เมื่อเขาเห็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์กำลังพุ่งมาหาเขา เขานั้นเหมือนกับกวางที่ถูกจับได้ มันก็มีความสับสนอยู่บนใบหน้าของเขาเต็มไปหมด
“หยุดพวกมัน!”เอกรังสีรุ่งอรุณก็ตะโกนขึ้นมาตรงๆแล้วเขาก็ทิ้งไพ่โป๊กเกอร์ลงบนพื้น
“ครับ!”
ลูกน้องที่อยู่รอบเขาก็รีบปฏิบัติตัวในทันที พวกเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วพวกเขาก็ยกอาวุธของพวกเขาออกมาและตั้งรูปแบบการต่อสู้
แม้ว่าจุดเกิดนั้นจะสามารถยับยั้งผู้เล่นได้ มันก็ไม่สามารถที่จะยับยั้ง NPC ได้
“เพื่อความรุ่งโรจน์ของท่านเจ้าเมืองของพวกเรา!”
อัศวินศักดิ์สิทธิ์ตะโกนแล้วพวกเขาก็ยกดาบกางเขนขึ้นและใช้ [พุ่งเข้าชน] เมื่อพวกเขาเรียงแถวและพุ่งเข้าใส่ผู้เล่นจากกิลด์รากจักรพรรดิ
เมื่อเคยต่อสู้กับพวกเขามาก่อน ผู้เล่นจากกิลด์รากจักรพรรดินั้นก็รู้ว่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์นั้นมีพลังป้องกันกายภาพและความต้านทานเวทย์ที่สูงส่ง มีเพียงจุดอ่อนเดียวของพวกเขาก็คือสติปัญญา ผู้เล่นจากกิลด์รากจักรพรรดิก็กระโดดไปด้านข้างในทันที และหลบหลีกคลื่นการโจมตีระลอกแรกของอัศวินศักดิ์สิทธิ์
สงครามนั้นเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเมื่ออัศวินศักดิ์สิทธิ์นั้นพุ่งเข้าใส่จุดเกิด
จุดเกิดของแต่ละอาชีพนั้นแตกต่างกันใน {REBIRTH}
ยกเอกรังสีรุ่งอรุณเป็นตัวอย่าง สำหรับจุดเกิดของอัศวินนั้นอยู่ตรงสนามหน้าตรงวัดวาอาราม ในขณะที่นักบวชนั้นมีจุดเกิดตรงโบถส์ ทั้งสองแห่งนั้นใกล้ชิดกันมาก
ในตอนนี้ผู้เล่นทั้งหมดของกิลด์รากจักรพรรดินั้นติดกับอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพอัศวินหรือนักบวชนั้นก็มีพลังโจมตีที่ต่ำต้อย ถ้ามันไม่ใช่ว่าพลังชีวิตอันมากมายของอัศวินและความสามารถในการรักษาของนักบลวชแล้วละก็ พวกเขาก็จะถูกฆ่าไปนานแล้ว
ไม่ว่าพวกเขานั้นจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน อัศวินศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้เป็นเอไอระดับสูง มันจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาในการจัดการกับผู้เล่นจำนวนมากของกิลด์รากจักรพรรดิ
แม้ว่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์สามารถทำความเสียหายที่สูงได้ อัศวินจากกิลด์รากจักรพรรดินั้นก็มีนักบวชอยู่หนึ่งคนที่คอยสนับสนุนในการต่อสู้ บางคนนั้นมีนักบวชถึงสองคน...
มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่อัศวินนั้นจะมีพลังป้องกันที่สูง การโจมตีจากอัศวินศักดิ์สิทธิ์นั้นสามารถทำให้พลังชีวิตของพวกเขาลดไปครึ่งหนึ่ง แต่พวกเขาก็สามารถฟื้นฟูมันเต็มได้อย่างง่ายดายโดยนักบวชที่อยู่ด้านหลังพวกเขา
มันเป็นเรื่องที่คล้ายคลึงกัน ผู้เล่นจากกิลด์รากจักรพรรดินั้นก็แทบจะทำร้ายอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบสองคนไม่ได้เลย
แม้ว่าหลังจากการต่อสู้มาระยะเวลานานแล้ว ทั้งสองฝั่งก็ยังคงมีพลังชีวิตที่เต็มอยู่ มันเป็นเหมือนกับว่าพวกเขานั้นไม่ได้ต่อสู้กันเลยแม้แต่น้อย...
ไม่มีใครที่ต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการต่อสู้ที่ไร้เป้าหมาย ไม่แม้แต่ผู้เล่นจากกิลด์รากจักรพรรดิ แต่ถ้าพวกเขาไม่ต่อสู้กับอัศวินศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาก็อาจจะถูกอัศวินศักดิ์สิทธิ์ฆ่าเอา
หลังจากต่อสู้มาสักพักหนึ่ง ก็มีผู้เล่นที่รู้สึกว่ามันมีบางสิ่งที่ผิดปกติ แล้วเขาก็ชี้ไปที่อัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกพวกเขาล้อมรอบอยู่แล้วเขาก็ตะโกนใส่เอกรังสีรุ่งอรุณ “บอส ผมรู้สึกว่าพวกเขาพยายามที่จะวิ่งหนีไป!”
เอกรังสีรุ่งอรุณจ้องมองอย่างแปลกประหลาดไปที่ผู้เล่นคนนั้นแล้วเขาก็ตอบกลับ “อัศวินศักดิ์สิทธิ์พวกนี้มันมีความคิดเพียงรูปแบบเดียว พวกมันจะพยายามวิ่งหนีไปได้ยังไงกัน?”
“ถ้างั้นทำไมพวกมันถึงพยายามที่จะพุ่งฝ่าวงล้อมของพวกเราไปกัน?”ผู้เล่นคนนั้นถามขึ้น
ความคิดอันเรียบง่ายของอัศวินศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นที่รู้จักกันดีในเมืองวาติกัน มอนสเตอร์พวกนี้ไม่ได้แตกต่างไปจากเครื่องมือไว้ทำสงครามของโบสถ์แห่งแสงสว่างที่ถูกเลี้ยงดูมาเพื่อจัดการกับคู่ต่อสู้ พวกเขารู้เพียงแค่การพุ่งเข้าต่อสู้และสังหารคู่ต่อสู้ การพยายามที่จะหนีนั้นไม่ใช่บางสิ่งที่พวกเขาสามารถที่จะเข้าใจได้
“บางทีนายอาจจะไม่เข้าใจ แต่มันเป็นกลยุทธ์ที่ธรรมดามากในการฝ่าวงล้อม ก่อนที่นายจะสู้ต่อ ทันทีที่พวกเราปล่อยพวกมันออกจากวงล้อม พวกมันก็จะรีบพุ่งเข้าใส่พวกเราอีกครั้งหนึ่งในทันที!”เอกรังสีรุ่งอรุณหัวเราะออกมา
“คุณแน่ใจใช่ไหม?”
เมื่อใครบางคนที่ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญการเล่นเกม แล้วเอกรังสีรุ่งอรุณจะเข้าใจถึงกลยุทธ์พวกนี้ได้ยังไง?
“นายคิดเหรอว่าไอ้พวกโง่เง่านี่จะฉลาด?”
“นายไม่มีทางรู้...แต่ไม่ใช่ว่าฉันสามารถมองพวกเขาออกได้งั้นเหรอ?”เอกรังสีรุ่งอรุณหัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจ “พวกนายควรที่จะป้องกันให้ดีขึ้น! มาสเตอร์ร่าเริงและมาสเตอร์สง่างามนั้นกำลังมา! พวกเราจะเก็บรวบรวมอุปกรณ์ของอัศวินและนักบวชกันเมื่อพวกเราฆ่าไอ้พวกบัดซบนี่สำเร็จ!”
“ครับ ท่าน!”
ผู้เล่นจากกิลด์รากจักรพรรดิคำรามออกมาอย่างตื่นเต้นเมื่อเอกรังสีรุ่งอรุณพูดถึงอุปกรณ์
อัศวินศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นอาชีพที่เป็นทั้งอัศวินและนักบวช และมันก็เหมือนกับพวกผู้เล่นนั้นกำลังต่อสู้กับอาชีพทั้งสองนี้อยู่
เหตุผลที่อัศวินศักดิ์สิทธิ์พวกนี้พยายามที่จะฝ่าวงล้อมออกไปนั้นไม่ใช่สิ่งที่เอกรังสีรุ่งอรุณคาดการณ์ไว้ พวกเขานั้นเป็นเพียงแค่เอไอที่มีความคิดอันเรียบง่ายที่ถูกตั้งโปรแกรมให้ทำภารกิจไว้ พวกเขาจะไม่ฉลาดขึ้นในทันที นอกจากระบบนั้นจะอัพเดท
ตามที่โปรแกรมเมอร์ได้เขียนไว้นั้น อัศวินศักดิ์สิทธิ์จะโจมตีอย่างมั่วซั่วใส่ผู้เล่นที่วิลลี่ปะทะด้วยในการต่อสู้ เพื่อป้องกันโบสถ์แห่งแสงสว่าง
แต่แน่นอนว่า อัศวินศักดิ์สิทธิ์พวกนี้นั้นถูกปิดกั้นไว้และต้องต่อสู้กับผู้เล่นจากกิลด์รากจักรพรรดิ เมื่อพวกเขาต้องการที่จะกลับไปยังโบสถ์แห่งแสงสว่างเพื่อป้องกันมันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากการเพ้อฝัน!