ตอนที่แล้วบทที่ 50 ราชันย์ที่หัวใจแหลกสลาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 52 ฉันมาหาหลิวรูหยัน !

บทที่ 51 หลินซู่ร่ำไห้


บทที่ 51 หลินซู่ร่ำไห้

แปล Tarhai

กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/1743836472377756/

ลงตอนที่ 1-200 ราคา 200 ลงทุกวัน วันละ 6-7 ตอน

ติดต่อที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100002039138559

อ่านบนเว็บอีกแห่ง

https://amnovel.com/cat.php?id=58

 

"ไม่ได้การ ฉันต้องกลับไปที่บริษัทและตรวจดู"

ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและตัดสินใจกลับไปที่บริษัทเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างปกติ

แม้ว่าตอนนี้เขากำลังทะเลาะกับหลินซู่แต่มันก็เป็นปัญหาส่วนตัว

เนื่องจากเขายังคงทำงานอยู่ในบริษัท Ice Snow เขาต้องรับผิดชอบ นี่คือความรับผิดชอบและภาระผูกพันของพนักงานทุกคน

การแยกประเด็นเรื่องส่วนตัวและส่วนรวมออกจากกันเป็นหลักการพื้นฐานในชีวิตของเขา

"ทำไมมีเสียงร้องไห้ ?"

ฉิงเฟิงได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังร้องไห้จากหน้าต่างเมื่อเขาไปถึงชั้นสาม

เขารู้สึกคุ้นเคยกับเสียงร้องไห้เสียงนี้และอนุมานว่ามันต้องเป็นเสียงผู้หญิง

"ออฟฟิสบอส?" ฉิงเฟิงพบว่าเสียงร้องไห้มาจากออฟฟิศของเจ้านายซึ่งยังคงมีไฟอยู่

เขาเดินไปที่ออฟฟิศและแง้มประตูเล็กน้อย เขาก็ได้เห็นหลินซู่กำลังร้องไห้อยู่ตรงหน้าของรูปถ่ายที่เธอถืออยู่ในมือขณะที่หันหลังให้กับเขา

ถ้าผู้ชายในเมืองทะเลตะวันออกรู้ว่าเทพธิดาน้ำแข็งคนนี้กำลังร้องไห้แล้วละก็

พวกเขาคงอ้าปากค้าง  นี่มันข่าวใหญ่ !

หลินซู่ไม่ได้สังเกตเห็นฉิงเฟิงที่อยู่ข้างหลังเธอเพราะเธอกำลังตกอยู่ในห่วงของอารมณ์ในตอนนี้

"คุณปู่คะ ฉันคิดถึงคุณมากๆ อยู่บนสวรรค์สุขสบายดีใช่ไหมคะ?"

"คุณปู่ ฉันมีข่าวดีที่จะบอกคุณปู่ ฉันแต่งงานแล้วนะ สามีฉันชื่อลี่ฉิงเฟิง แม้ว่าเขาจะเป็นลูกชายของตระกูลลี่ซึ่งเป็นหลานชายของครอบครัวที่มีทรัพย์สินมูลค่านับพันล้านแต่เขาก็ดูแลฉันดีมากจริงๆคะ  แม้กระทั่งยังทำซุปให้ฉันกินด้วย "

"คุณปู่ ฉันรู้ว่าคุณทิ้งบริษัท Ice Snow ไว้ให้ฉัน ในที่สุดฉันก็ทำให้มันกลายเป็น บริษัทขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่านับล้านหยวนหลังจากผ่านมาเพียงสามปี บริษัทนี้เป็นเหมือนลูกของฉัน แต่ตอนนี้เรามีปัญหาทางการเงินบางอย่างและบริษัทอาจจะต้องล้มละลายได้ตลอดเวลา  เหมือนกับว่าลูกของฉันมีโรคที่อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ทุกวินาที "

"แต่คุณปู่ไม่ต้องเป็นต้องกังวลไปนะคะ สามีของฉันฉิงเฟิงเป็นคนดี เขาได้รับจดหมายเชิญงานเลี้ยงอาหารค่ำการกุศลจากบริษัทหลิว ด้วยจดหมายเชิญนั้น เราจะสามารถติดต่อกับกลุ่มเศรษฐีมากมายที่สามารถให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทของเราได้ "

"ดังนั้นคุณปู่ไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อบริษัทของเรา"

หลินซู่ร้องไห้ขณะที่ถือรูปภาพของคุณปู่ของเธอไว้

สำหรับหลินซู่ คุณปู่และแม่ของเธอเป็นคนที่รักเธอมากที่สุด เมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อยๆเธอมักจะเกาะแขนของคุณปู่และฟังเขาอ่านนิทานนางฟ้าหลายเรื่อง ปู่ของเธอยังซื้อขนมฝ้ายและเสื้อผ้าใหม่ๆให้เรื่อยๆ แต่น่าเสียดาย ที่สุดท้ายคุณปู่ของเธอก็เสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อน

บริษัท Ice Snow เป็นของขวัญจากคุณปู่ของเธอและเป็นเครื่องหมายแห่งความทรงจำของหลินซู่กับคุณปู่ของเธอ

ในช่วงสามปีที่ผ่านมาหลินซู่ได้ทำงานหนักมาก เธอนอนหลับไม่เพียงพอไม่ได้กินอาหารที่ดีและยังคงทำงานตั้งแต่กลางคืนจนถึงรุ่งเช้าของอีกวัน  เดินทางไปมาที่โน้นที่นี่ ทั้งหมดก็เพื่อทำให้บริษัทประสบความสำเร็จมากขึ้น

ทุกคนเรียกเธอว่าซุปเปอร์วูแมนในโลกธุรกิจและบอสที่เย็นชา แต่ไม่เคยมีใครรู้ว่าเธอต้องใช้ความพยายามและเวลาไปเท่าไรในการทำธุรกิจนี้

นี่คือสิ่งที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จมากขึ้น เธอใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่นๆ

ในช่วงสามปีที่ผ่านมานี้ ในที่สุดเธอก็รักษาคำพูดของเธอได้และสามารถเปลี่ยนบริษัทให้กลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีมูลค่านับล้านเหรียญดอลล่าร์

แต่ตอนนี้ บริษัทกำลังประสบกับปัญหาทางการเงินและจำเป็นต้องมีจดหมายเชิญงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อหลีกหนีจากวิกฤต โชคร้ายที่มันถูกฉิงเฟิงฉีกทิ้งไปแล้ว

หลินซู่โกหกคุณปู่ของเธอเพราะเธอไม่ต้องการให้เขากังวล เธอแม้กระทั่งโกหกหน้าตายที่บอกว่าฉิงเฟิงปฏิบัติกับเธอเป็นอย่างดีและได้นำบัตรเชิญมาให้เธอทั้งที่เขาเป็นคนฉีกมันทิ้ง

" ? "

"ดังนั้น.......บัตรเชิญนี่เป็นความหวังที่จะช่วยกอบกู้บริษัท ?" ใบหน้าของฉิงเฟิงแปรเปลี่ยนไปหลังจากได้ยินเรื่องที่หลินซู่เพิ่งพูดออกมา

ทันใดนั้น เขาก็เข้าใจว่าทำไมหลินซู่ถึงได้โกรธเขาอย่างบ้าคลั่ง บริษัท Ice Snowเป็นของขวัญและความหวังที่คุณปู่ของเธอได้เหลือทิ้งไว้ให้ เธอถือว่ามันเป็นเหมือนกับลูกของเธอและบัตรเชิญเป็นเพียงสิ่งเดียวที่สามารถช่วยชีวิตลูกเธอได้

การที่ฉิงเฟิงฉีกมันทิ้งก็หมายถึงการบดขยี้ความหวังทั้งหมดของหลินซู่  หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือเขาฆ่าลูกของเธอทางอ้อม

"เรื่องนี้.......มันเป็นความผิดของฉันเอง" ฉิงเฟิงรู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาทำ

เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเขาทำผิดพลาด ถ้าเขาเป็นหลินซู่เขาจะตบตัวเขาเองอย่างแน่นอน ตั้งแต่ที่ฉีกบัตรเชิญนั่นก็เหมือนกับทำลายความหวังทั้งหมดของเธอและลูกคนเดียวของเธอ

อย่างไรก็ตามหลินซู่ไม่ได้ทำ แต่แค่บอกว่าไม่อยากเห็นหน้าเขาแทน นอกจากนั้นเธอยังพูดถึงสิ่งดีๆทั้งหมดที่เกี่ยวกับตัวเขา เช่น เขาเป็นคนดีแค่ไหนที่เขาให้ความสำคัญและทำอาหารให้เธอ  ตลอดจนความรับผิดชอบของเขาในการหาบัตรเชิญมาช่วยเหลือบริษัทต่อหน้ารูปคุณปู่ของเธอ

ฉิงเฟิงรู้สึกผิดและเสียใจมากในขณะนี้ เขารู้สึกเหมือนเป็นไอ้ขี้แพ้เพราะไม่สามารถตระหนักได้เลยว่าบริษัทของภรรยาเขากำลังประสบกับวิกฤติทางการเงิน

(พี่ก็แค่เปิดเว็บแคมแล้วบอกให้อลิสโอนเงินจากธนาคารสวิสมาก็จบ เยกเป็ด -*-)

"ฉันเป็นคนฉีกมันทิ้ง ดังนั้นฉันจะหามันมาอีกใบ" ฉิงเฟิงกระซิบกับตัวเองและจากไป

เขารู้ว่าตัวเขาทำผิดพลาดในครั้งนี้และนี่คือเหตุผลที่เขาต้องหาทางแก้ปัญหา

ฉิงเฟิงได้ข้อมูลจากคิงคอง บอสของบริษัทหลิวเป็นผู้หญิงสาวจ้าวเสน่ห์ที่ชื่อว่าหลิวรูหยัน ซึ่งเป็นคนที่ฉิงเฟิงน่าจะขอความช่วยเหลือจากเธอได้เพราะเคยเจอกันมา 2 ครั้งแล้ว เขาควรจะขอบัตรเชิญจากเธอได้

หลังจากนั้นฉิงเฟิงก็ออกจากบริษัทและขึ้นรถแท็กซี่ไปที่ Noble Palace

ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น

เขามาถึงวิลล่าหลังที่ 14 ใน Noble Palace แต่ข้างในมืดและประตูยังถูกล็อค

"หลิวรูหยันไม่อยู่บ้าน?"

ฉิงเฟิงรู้ว่าเธอไม่อยู่บ้านหลังจากที่เขาลองเคาะประตูหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่มีการตอบสนองใดๆ

"งั้นฉันจะรอที่นี่แล้วกัน"

ฉิงเฟิงต้องได้รับบัตรเชิญเพื่อแก้ไขความผิดพลาดที่กระทำต่อหลินซู่ เขารอที่ประตูหน้าบ้านของหลิวรูหยัน

เวลาผ่านไปในพริบตาจนข้ามคืน

ขอบฟ้าเริ่มเป็นสีแดงและดวงอาทิตย์ก็ค่อยๆขึ้น

วันใหม่มาถึงแล้ว

เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมหลิวรูหยันไม่กลับบ้านทั้งคืน? "

ฉิงเฟิงจ้องมองที่วิลล่าของเธอด้วยความหงุดหงิด

คืนนี้เป็นงานเลี้ยงการกุศลแล้ว เขาต้องมีบัตรเชิญก่อนหน้านั้น มิฉะนั้นทุกอย่างจะจบสิ้น "โอ้ใช่แล้ว ฉันลืมเรื่องนี้ได้อย่างไร!"

ฉิงเฟิงนึกขึ้นได้ทันที  เขาตีหน้าผากตัวเอง งานเลี้ยงจะจัดขึ้นคืนนี้โดยบริษัทหลิว

ในฐานะบอสของบริษัท หลิวรูหยันควรจะต้องไปเตรียมความพร้อมและเตรียมงานนี้อยู่ที่บริษัท ดังนั้นจึงทำให้เขารู้ว่าทำไมเธอถึงไม่กลับบ้าน

หลังจากตระหนักว่าเธอน่าจะอยู่ที่บริษัท ฉิงเฟิงยิ้มและเดินออกไป เขาตัดสินใจที่จะไปหาหลิวรูหยันที่บริษัทของเธอ

"หืม ? ภรรยาของฉันเมื่อคืนก็ไม่ได้กลับบ้านหรือนี่?"

ฉิงเฟิงสังเกตเห็นประตูห้องล็อคเมื่อเดินผ่าน เขารู้ว่าหลินซู่ต้องอยู่ในออฟฟิศทั้งคืนและไม่ได้กลับมานอนที่บ้าน

ฉิงเฟิงรู้สึกเสียใจอีกครั้งเมื่อเขาตระหนักถึงสิ่งที่หลินซู่ทุ่มเททำเพื่อบริษัท

"ที่รักรอฉันก่อน ฉันจะเอาบัตรเชิญมาให้ได้!”

ฉิงเฟิงเดินออกจากพื้นที่ที่อยู่อาศัยอย่างแน่วแน่และขึ้นรถแท็กซี่ไปยังบริษัทหลิว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจเกี่ยวกับตำแหน่งที่แน่นอนของบริษัทหลิวแต่คนขับรถแท็กซี่ก็น่าจะรู้

คนขับรถแท็กซี่พาฉิงเฟิงส่งที่บริษัทหลิว จากนั้นเขาจ่ายเงิน 100 หยวน

"ตึกดูแฟนซีอะไรขนาดนี้!"

ฉิงเฟิงอยากจะร้องไห้เมื่อเขามองไปที่ตึกสูงของบริษัทหลิว

อาคารนี้มีทั้งหมด 108 ชั้น ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดในเมืองทะเลตะวันออก ด้านนอกของอาคารทำจากหินอ่อนสีขาวซึ่งทำให้มันดูแพงมากขึ้น

การเป็นเจ้าของตึกสูงหรูหราแบบนี้แสดงให้เห็นว่าหลิวรูหยันไม่ใช่คนธรรมดาๆแน่นอน

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด