ตอนที่ 269 ซื้อขายเพื่อเเลกเปลี่ยน
เป็นที่ชัดเจนที่เขาต้องการสอบถามถึงเรื่องนี้
ถ้า เจียง หลี่ มีเซนต์ศักดิ์สิทธิ์คอยหนุนหลังเขาจะไม่เเปลกใจเลยที่ เจียง หลี่ จะสามารถขโมยพลังงานสวรรค์ได้ เเน่นอนว่า สถาบันเเอสทรัลนั้น จะไม่ปล่อยให้ตัวตนที่เป็นอันตรายนั้นหลบๆซ่อนโดยที่พวกเขาไม่รู้ถึงสถานการณ์
อีกอย่าง เจียง หลี่ นั้นก็ไม่ต้องการบอกถึงเรื่องของ จักรพรรดิ์น้อย จักรพรรดิ์น้อยคือตัวตนที่เเข็งเเกร่งในอดีต เขากำลังสร้างเขตเเดนศักดิ์สิทธิ์ขึ้นด้วยการช่วยเหลือของพระเเม่ราชินีเเน่นอนว่า ถ้าถึงตอนนั้นเเม้ว่าจะเป็น เจียง หน่าหลาน ก็ยังยากที่จะปะทะกับเขาได้
เจียง หลี่ พลางคิดหาวิธีการเพื่อตอบคำถามนั่น
เขาไม่ได้อธิบายเพียงเเต่พูดออกไปว่า"ที่จริงเเล้วนี่อาจจะเป็นคนที่อาจารย์ใหญ่รู้อยู่ก่อนเเล้วก็ได้ ในวันนั้นตอนที่ผมอยู่ที่ตลาดมืดเเละต่อสู้กับครอบครัว เจียง โดยการปะทะกับรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์ เจียง หน่าหลาน ในตอนนั้นเเม้เเต่ความเเข็งเเกร่งของผมก็ไม่สามารถเอาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์นั้นได้บนโลกนี้มีเพียงไม่กี่คนหรอกที่สามารถเอาชนะความเเข็งเเกร่งของ เจียง หน่าหลาน ได้!"
"เธอจะบอกว่าเขาคือ หวาง จ้าว ?"
อาจารย์ใหญ่พลันคิดถึงประเด็นนี้เเต่ก็ยังรู้สึกสงสัย"เธอจะบอกว่าเธอกับ หวาง จ้าว มีความสัมพันธ์กันดังนั้นเขาเลยสอนเธอเป็นการสวนตัวงั้นหรือ?"
"เมื่อพูดถึงจุดนี้ผมเองก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก"เจียง หลี่ ผายมือออกไป
"ฉันไม่เชื่อว่านั่นจะคือ หวาง จ้าว หากเขาปรากฏตัวขึ้นทำไมเขาถึงไม่กลับไปหา ครอบครัว หวาง?"อาจารย์ใหญ่กล่าว"นอกจากนี้ถึงเเม้ว่ามันจะเป็นจริงก็ตามเพราะด้วยพลังของเขาก็เพียงพอจะชนะ เจียง หน่าหลาน อีกทั้งยังสามารถขโมยพลังงานสวรรค์ได้"
เจียง หลี่ จ้องมองออกไปเขาไม่รู้จะกล่าวอะไรต่อไป
"เช่นนั้นถ้าอาจารย์ใหญ่ไม่มีอะไรผมขอตัวกลับก่อน!"
"รอเดี๋ยว!"เขากล่าวหยุด"ฉันมีเรื่องจะขอร้องเธอบางอย่าง!"
"อาจารย์ใหญ่โปรดพูดมาเถิด"เจียง หลี่ กล่าว
"เธอก็รู้ใช่หรือไม่ถึงเรื่องที่ เยว่ ยู่ฉิง พูดถึงก่อนหน้านี้ที่ให้เธอส่งมอบสิทธิบัตรข้าวจิตพลัง"อาจารย์ใหญ่กล่าว"จะเป็นไปได้หรือไม่ถ้ากลุ่มจักรพรรดิ์เเดงของเธอยกสิทธิบัตรให้กับสถาบันเเอสทรัล"
"สิ่งนี้มีค่ามากเกินไปหากกลุ่มจักรพรรดิ์เเดงของผมพึ่งพามันสักวันหนึ่งการที่จะกลายเป็นกลุ่มที่มั่งคั่ง 10 อันดับเเรกของโลกก็ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก เเต่พวกคุณสถาบันเเอสทรัลกลับต้องการเเย่งมันไป?"เจียง หลี่ กล่าวออกไป
"เเน่นอนว่าเราจะไม่ขอรับมันมาฟรีๆ"อาจารย์ใหญ่พลางเข้าใจถึงเจตนาของ เจียง หลี่"ถึงเเม้ว่าพวกเธอจะเปิดการค้าขายเเต่มันก็ต้องใช้ระยะเวลาหลายปีในการเจริญเติบโต มันเลยไม่เป็นเรื่องที่ดีนักเเน่นอนว่าพวกเธออาจต้องรอถึง 35 ปี เเต่พวกเรากลับสามารถพัฒนามันได้โดยใช้เวลา 1 ปี ข้าวจิตพลังนั้นสามารถส่งเสริมให้มนุษย์เเข็งเเกร่งขึ้นได้ นอกจากนี้้เราเองก็ต้องการเสริมศักยภาพของมนุษยชาติ ตอนนี้มนุษยชาตินั้นได้พบเจออารยธรรมที่น่ากลัวมีโอกาสสูงมากที่เราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรอทำศึก"
"ผมเองก็เข้าใจถึงปัญหานี้ เเต่ผมก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยกสิ่งนี้ให้กับพวกคุณโดยฟรี"เจียง หลี่ กล่าว
"เธอต้องการสิ่งใดเป็นสิ่งเเลกเปลี่ยน"อาจารย์ใหญ่กล่าว"สิทธิบัตรข้าวจิตพลังนี้ ทางสถาบันเเอสทรัลได้ทุ่มทรัพยากรอย่างเต็มความสามารถหากมันได้รับการส่งเสริมเเน่นอนว่าจะช่วยเหลือพวกเราให้เเข็งเเกร่งขึ้นได้สิ่งนี้เเม้เเต่สาขาทางการทหารเองก็ต้องการใหม่ฉันเชื่อว่าภายในไม่กี่ปีมนุษยชาติเราจะต้องพัฒนาอย่างก้าวกระโดด"
"ทางการของย่านชั้นสูงส่งคุณมางั้นหรือ?"เจียง หลี่ กล่าว
เเน่นอนว่าสิ่งนี้ย่านชั้นสูงจะต้องให้ความสนใจอย่างใหญ่หลวง
"เเน่นอนทางการของย่านชั้นสูงได้ส่งฉันมาเพื่อให้ได้รับสิทธิบัตรนี้ ถึงเเม้ว่ามันจะเป็นส่วนทั้งหมดที่พ่อของเธอได้ศึกษา เเต่ทางรัฐบาลมนุษย์จะให้ความเป็นธรรมโดยการบันทึกการมีส่วนร่วมของพ่อของคุณเเละให้รางวัลเเก่คุณ"อาจารย์ใหญ่กล่าว
"ดูเหมือนว่าพวกคุณต้องการจะบีบบังคับผมจริงๆ"เจียง หลี่ กล่าวออกไปเขาไม่เต็มใจที่จะยกสิทธิบัตรข้าวจิตพลังนี้ให้ เเต่ทางการของย่านชั้นสูงกลับเป็นคนส่งเรื่องมาถึงเขานี่ไม่ง่ายที่จะเลี่ยงอย่างเเน่นอน
ในขณะนั้นเองเขาก็พลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้"สิทธิบัตรข้าวจิตพลังนั้นผมจะยกให้กับมนุษยชาติก็ได้เเต่ผมมีสิ่งที่ผมต้องการเพื่อเป็นการเเลกเปลี่ยน?"
"อะไรงั้นหรือ? ตราบเท่าที่ไม่เกินกำลังของพวกเราเกินไปพวกเราสามารถตอบเเทนเธอได้ เเม้เเต่ขอให้พ่อของเธอเป็นตัวเเทนของมนุษยชั้นสูงก็ย่อมทำได้ เงื่อนไขนี้เป็นอย่างไร?"เขากล่าวต่อรองราคา
"อะไรนะ ตัวเเทนสูงสุดของมนุษยชาติ?"ร่างกายของ เจียง หลี่ พลันสั่นไหว สถานะนี้ไม่ธรรมดาอย่างมากหากพ่อของเขากลายเป็นตัวเเทนสูงสุดพ่อของเขาก็จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย
อีกอย่างจะต้องรู้ว่าประธานาธิบดีนั้นเเม้จะเป็นตำเเหน่งที่มีชื่อเสียงเเต่ก็ต้องได้รับมาเพราะการเลือกตั้งลงคะแนนเเต่สถานะตัวเเทนสูงสุดของมนุษยชาตินั้นกลับเป็นตัวเลือกที่พิเศษอย่างมาก
เเม้เเต่ ซู่ หยวนซาง ก็เป็นได้เเค่ตัวเเทนของเมืองจีนทั้ง 36 นอกจากนี้สถานะยังเเตกต่างกันอย่างเหนือชั้น
ตัวเเทนในเขตย่านชั้นสูงนั้นเเตกต่างกัน หาก ซู่ หยวนซาง ได้เป็นเเน่นอนว่าเขาจะเป็นผู้พิพากษาประจำเขตของย่านชั้นสูงร่วม 200 ปี เขาเสมือนว่าเป็นตัวเเทนสูงสุดของมนุษยชาติ
ความเเตกต่างของสถานะทั้ง 2 นั้นห่างกันราวกับฟ้าเเละเหว
"เป็นอย่างไรบ้าง?เเม้เเต่ครอบครัว เจียง ก็ยังไม่กล้าที่จะท้าทายอำนาจเหล่านี้ หากพ่อเธอได้รับสิทธินี้เเน่นอนว่าย่อมเป็นประโยชน์ทีเดียว"อาจารย์ใหญ่กล่าวกับ เจียง หลี่
เจียง หลี่ เองก็ขบคิดเขานั้นมีความสามารถที่ดีในการพัฒนาภายหลังเเต่สถานะตัวเเทนนั้นก็ล่อตาล่อใจ
"งั้นเธอต้องการสิ่งใด?ถ้าเธอไม่ได้ต้องการตำเเหน่งตัวเเทน?"อาจารย์ใหญ่กล่าว"สถานะตัวเเทนนั้นเทียบเท่าได้กับตำเเหน่งระดับสูงสุดมันอาจเทียบเท่ากับตำเเหน่งของอาจารย์ใหญ่ที่ฉันดำรงมามากกว่า 10 ปี"
"อำนาจของสิทธิตัวเเทนนั้นยิ่งใหญ่ก็จริง"เจียง หลี่ กล่าว"ถ้าพ่อของผมเป็นขอบเขตเเห่งการลืมเลือน เเน่นอนว่าผมย่อมสนับสนุนตัวเลือกนี้ เเต่ตอนนี้เขายังไม่ได้เข้าสู่สภาวะหายใจในครรภ์ด้วยซ้ำ หากเกิดความบางหมางซ้ำเเต่เขาจะเสียเปรียบ"
"เช่นนั้นเธอก็เลือกที่จะปฏิเสธสิ่นะ"อาจารย์ใหญ่ถอนหายใจออกมา
การรับมือกับ เจียง หลี่ นั้นเป็นเรื่องยาก เเน่นอนว่าเขาไม่สามารถผลีพลามได้
นอกจากนี้เบื้องหลังของ เจียง หลี่ ก็ยังไม่เเน่นอนมันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะคิดถึงสิ่งอื่น
"เช่นนั้นเอาเป็นเธอเป็นอย่างไร หากเธอได้รับสถานะตัวเเทนเเน่นอนว่าย่อมมีโอกาสพลิกผันอย่างมาก"เขากล่าวออกมา
"ไม่เเน่นอน ผมไม่ต้องการตำเเหน่งตัวเเทน เเต่ผมต้องการบล็อคพลังงาน"เจียง หลี่ กล่าว
"อะไรนะ? เธอว่าอย่างไรนะ?"อาจารย์ใหญ่พลันรู้สึกประหลาดใจ
"ผมต้องการบล็อคพลังงาน"เจียง หลี่ กล่าว
เขาเเทบจะไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยินคำขอของ เจียง หลี่ กลับไม่ได้สูงเกินไป มันเเทบเรียกว่าร้องขอน้อยเกินไปด้วยซ้ำ
คล้ายกับตำนานของคนในสมัยโบราณที่เขามอบหยกชั้นดีให้กับจักรพรรดิ์เเละจักรพรรดิ์ผู้นั้นทรงถามออกไปว่าต้องการอะไรตอบเเทนเเต่ชายคนที่มอบหยกให้เขากลับกล่าวออกมาว่าขอเพียงข้าวต้มชามเดียวก็พอ
"สิ่งที่เธอกล่าวนั้นเป็นความจริงงั้นหรือ?"อาจารย์ใหญ่กล่าวอีกครั้ง
"เเน่นอนว่าเป็นความจริง"เจียง หลี่ กล่าว"เเต่ผมไม่ต้องการบล็อคพลังงานธรรมดาเเต่เป็นบล็อคพลังงานระดับสูงเอาเป็นบล็อคพลังงาน 10 ดาวละกัน นอกจากนี้ผมยังได้ยินว่าย่านชั้นสูงนั้นมีสมองคอมพิวเตอร์ที่เเข็งเเกร่งเเละคอยพัฒนาเทคโนโลยีเเน่นอนว่าพวกเขาสามารถสรางบล็อคพลังงานระดับพระเจ้าขึ้นมาได้"
จักรพรรดิ์น้อยนั้นต้องการพลังงานกลขนาดใหญ่เพื่อส่งเสริมเขตเเดน
หากเขาได้รับบล็อคพลังงานขนาดใหญ่นั้นความเเข็งเเกร่งของ จักรพรรดิ์น้อยก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เเน่นอนว่าเขาจะกลายเป็นเซนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่เเท้จริงที่ได้รับการส่งเสริมเขตเเดน
อาวุธที่เเข็งเเกร่งที่สุดนั้นก็คือความเเข็งเเกร่งของตนเอง
"เธอต้องการบล็อคพลังงานระดับพระเจ้า?เธอจะเอาไปใช้ทำอะไรงั้นหรือ?"อาจารย์ใหญ่กล่าวออกไปบล็อคพลังงานระดับพระเจ้านั้นเป็นพลังงานขนาดใหญ่ที่รุนเเรงเเน่นอนว่าย่านชั้นสูงใช้สิ่งนี้ในการขับเคลื่อนเรือรบมันเป็นพลังงานขนาดใหญ่ที่กลั่นมาจากดาวเคราะห์นับครึ่งปีกว่าจะสร้างบล็อคพลังงานระดับพระเจ้าได้
"ทำการวิจัย"เจียง หลี่ กล่าว"นอกจากนี้ผมยังต้องการศิลาอมตะ ถ้าคุณตอบรับคำขอทั้ง 2 ของผม เเน่นอนว่าผมจะยกสิทธิบัตรข้าวจิตพลังให้กับคุณเพื่อเป็นการเเลกเปลี่ยน"
ศิลาอมตะนั้นเป็นตัวเเทนของพลังงานทางชีวภาพ มันเป็นกลุ่มพลังงานที่เเข็งเเกร่งมาก
นอกจากนี้หากได้รับพลังงานทั้ง 2 นี้การส่งเสริมความก้าวหน้าของจักรพรรดิ์น้อยก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความเเข็งเเกร่งของจักรพรรดิ์น้อยความปลอดภัยของเขาก็จะเพิ่มมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นหากการบ่มเพาะพลังของจักรพรรดิ์น้อยสูงมากเพียงไร เขาเเละฮง เหยหยู่ เองก็พลอยได้รับประโยชน์ไปด้วย
"ดี..เช่นนั้นฉันจะรายงานเรื่องนี้ให้กับทางการของย่านชั้นสูง"อาจารย์ใหญ่เชื่อว่าคำขอเช่นนี้พอจะยอมรับได้
เขาเปิดชิพเอไอของเขาเพื่อสื่อสารคำสั่งลับไปยังเขตย่านชั้นสูง
"อืม...ทางการของย่านชั้นสูงเห็นด้วยกับการที่เธอเสนอคำขอคือ บล็อคพลังงานเเละศิลาอมตะ เเละสัดส่วนเท่าไหร่ที่เธอต้องการ?"
" 1:9"เจียง หลี่ กล่าวออกไปตอนเเรกเขาคิดว่าจะเอา 5:5 เเต่สิ่งที่จักรพรรดิ์น้อยขาดไม่ได้ก็คือพลังงานกล
"ดี...ทางเราจะประเมินเเละจัดการให้เธออย่างเร่งรีบหวังว่าเธอจะตกลงพร้อมกับอนุมัติลายเซ็นเเละโอนข้อมูลการวิจัยทั้งหมดผ่านสิทธิบัตร"อาจารย์ใหญ่กล่าวออกมา
"ไม่มีปัญหา!"
เจียง หลี่ ได้ยกสิทธิบัตรไป เขาพลางกล่าวในใจว่า"หากจักรพรรดิ์น้อยได้รับมรดกของพระเเม่ราชินีมาอย่างเเท้จริง การจะศึกษาข้าวจิตวิญญาณที่เเท้จริงนั้นก็ย่อมทำได้ เเม้เเต่ยาสภาวะหยุดนิ่งก็ยังมีค่ามากหากเทียบกับสิทธิบัตรที่พวกคุณเอามันไป"