บทที่ 43 ฉันคือคนน่ากลัวคนนั้น
บทที่ 43 ฉันคือคนน่ากลัวคนนั้น
แปล Tarhai
กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/1743836472377756/
ลงตอนที่ 1-200 ราคา 200 ลงทุกวัน วันละ 6-7 ตอน
ติดต่อที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100002039138559
“พี่ใหญ่ลี่ พี่ร้องเพลงได้เพราะมาก ขออีกๆ!”
ภายใต้การร้องขอที่รุนแรงของจางเซี่ยวหยู่ ฉิงเฟิงร้องเพลงอีกมากกว่าสิบเพลง
จางเซี่ยวหยู่เมามายไปกับเสียงของเขา จนคอของฉิงเฟิงแห้งผากในที่สุด
"ไม่ไหวแล้ว ฉันจะไปพักหน่อย เจ้าอ้วนมาร้องแทนที"
ฉิงเฟิงส่งไมโครโฟนให้ลั่วเฮาและนั่งพัก
หลังจากร้องเพลงเป็นเวลานาน ลำคอของเขาแห้งผาก
"โอเคจัดให้ ฉันจะให้พวกคุณได้ยินเสียงของฉัน" ลั่วเฮาคว้าไมโครโฟนและเริ่มร้อง
แต่เขาร้องเพียงแค่ประโยคเดียว เขาก็ถูกหยุดโดยจางเซี่ยวหยู่เสียงของเจ้าอ้วนน่าเกลียดน่ากลัวเกินไป มันเลวร้ายยิ่งกว่าเสียงของหมูถูกเฉือด
"เจ้าอ้วนหยุดร้อง ฉันกลัวจะฝันร้ายตอนกลางคืน" จางเซี่ยวหยู่กลอกตาของเธอและส่งสายตาที่ดุร้ายไปที่เจ้าอ้วน
เจ้าหญิงสองคนปิดปากและแอบหัวเราะ พวกเธอเคยทำงานที่ KTVมาหลายปีแล้ว
(KTV คือชื่อเรียกสถานบันเทิงในจีนก็คือเด็กคาราโอเกะนั่นแหละ)
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินเสียงร้องที่แย่ขนาดนี้ มันฟังเหมือนเสียงเห่าหอนของผีและหมาป่า
"ลูกพี่ ฉันร้องเพลงได้เลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ ?" ลั่วเฮาคอตกและถามฉิงเฟิง
"ใช่ ชาตินี้นายอย่าร้องเพลงอีกเลย" ฉิงเฟิงพยักหน้าด้วยความเห็นอกเห็นใจ เสียงของเจ้าอ้วนนั้นเลวร้ายมาก เขาไม่สามารถทนต่อได้อีกต่อไป
ลั่วเฮาคอตกและวางไมโครโฟนลง
"สุดหล่อ , มาผ่อนคลายหลังจากร้องเพลงสักหน่อยไหม มาเล่นเกมกันเถอะคนแพ้จะต้องดื่ม" สาวสวยผมยาวเหม่ยน้อยหยิบชามขนาดเล็กขึ้นมา เธอนั่งข้างฉิงเฟิงและพูดอย่างยั่วยวน
งานของเจ้าหญิงคือการร้องเพลงกับลูกค้าและให้ความบันเทิงกับพวกเขา พวกเธอสามารถให้ลูกค้าได้รับประโยชน์เล็กๆน้อยๆเช่นการแตะเนื้อต้องตัว แต่เป้าหมายหลักของพวกเธอคือทำให้ลูกค้าใช้จ่ายเงินมากขึ้น ซื้อเหล้าอื่นๆที่ KTV แห่งนี้ถ้าลูกค้าจ่ายเงินมากพอพวกเขาก็สามารถหิ้วพวกเธอเข้าโรงแรมได้
แน่นอน ผู้หญิงอย่างว่าที่หลับนอนกับแขกนั้นเปิดกว้างมาก ถ้าพวกเธอไปโรงแรมกับลูกค้าพวกเขาจะต้องป้องกันและซื้อถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรค
"บอกฉันสิว่ามันเล่นอย่างไร?"
ฉิงเฟิงถามด้วยความสนใจด้วยรอยยิ้มเมื่อเขาเห็นภาพลักษณ์ที่เย้ายวนใจของเหม่ยน้อย "เราจะต้องว่าเดาเล็กหรือใหญ่ หนึ่งสามหรือห้าเรียกว่าเล็ก สองสี่หรือหกจะเรียกว่าใหญ่ใครแพ้ต้องดื่มเบียร์"
เหม่ยน้อยพูดอย่างร่าเริงด้วยใบหน้าที่งดงามของเธอ
"โอเคฉันจะเล่นกับคุณสักหน่อย แต่ฉายาของฉันคือ 7 ครั้ง 1 คืน ฉันไม่เคยแพ้ใคร" ฉิงเฟิงยิ้มด้วยความมั่นใจและภาคภูมิใจ
"เจ็ดครั้งหนึ่งคืน ? ทำไมคุณไม่พูดว่าสิบสามครั้งหนึ่งคืนซะเลยละ ?"
เจ้าหญิงทั้งสองคนเหม่ยน้อยและหวานน้อยทั้งคู่กลอกตาขึ้น
แกร๊กๆๆ ...
เหม่ยน้อยวางลูกเต๋าลงในชามเขย่ามันสองสามครั้งแล้วถามว่า "ใหญ่หรือเล็ก?"
"เล็ก"
หูของฉิงเฟิงขยับเล็กน้อยและให้ความสนใจกับลูกเต๋าในชาม
ขนตาของเหม่ยน้อยกระพริบ เธอเปิดฝาขึ้น แสงแห่งความประหลาดใจปรากฏบนดวงตาของเธอ
สุดหล่อคนนี้โชคดีมาก เขาเดาได้ถูกต้องในครั้งแรกเหม่ยน้อยพึมพำในใจ
ผู้แพ้จะต้องยอมรับความพ่ายแพ้ เธอคว้าขวดเบียร์และรีบกระดกหมดขวด
พนักงานทั้งหมดที่ KTV ส่วนมากจะดื่มเก่ง
เธอวางลูกเต๋าลงในชามและเริ่มเขย่าอีกครั้ง
"สุดหล่อใหญ่หรือเล็ก?"
"เล็กเหมือนเดิม"
"คุณถูกอีกแล้ว ฉันดื่ม"
"สุดหล่อ ใหญ่หรือเล็ก?"
"ครั้งนี้ใหญ่"
"เวร ! คุณเป็นราชาการพนันหรือเปล่าเนี่ย คุณมีชนะทุกครั้งเลย" เหม่ยน้อยสบถด้วยความตกใจ
ฉิงเฟิงเดาได้ถูกต้องหลายครั้งติดต่อกัน จนเธอต้องดื่มเบียร์หลายขวดแล้วรู้สึกไม่สบายตัว
"น้องเหม่ย ฉันเอง”
หวานน้อยพูดขึ้นมาหลังจากที่เห็นเหม่ยน้อยดื่มหนักไปแล้ว เธอหยิบลูกเต๋ามาและเริ่มเล่นกับฉิงเฟิง
หลังจากสิบนาทีผ่านไป ...
หวานน้อยตะลึงฉิงเฟิงสามารถคาดเดาได้อย่างถูกต้องเหมือนเดิม เขาทายไม่ผิดแม้แต่เพียงครั้งเดียว หวานน้อยดื่มเบียร์เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับเหม่ยน้อยและรู้สึกเมา
"สุดหล่อ คุณเก่งมาก เราจะเล่นกันต่อได้ยังไง?"
เหม่ยน้อยและหวานน้อยทั้งคู่ต่างมองไปที่ฉิงเฟิงอย่างขุ่นเคือง พวกเธอวางแผนที่จะมอมเหล้าฉิงเฟิงแต่กลับกลายเป็นพวกเธอต้องดื่มทุกรอบ มันน่าอับอายมาก
เมื่อเธอเห็นว่าทั้งสองคนแพ้ฉิงเฟิง จางเซี่ยวหยู่ก็เริ่มสนใจและเริ่มเล่นกับฉิงเฟิง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอก็ต้องประสบกับความพ่ายแพ้อีกคน หลังจากดื่มเบียร์ไปสองสามขวดเธอก็ไม่อยากเล่นกับฉิงเฟิงอีก
"ลูกพี่เฟิง ฉันอยากลองเล่นกับพี่มั่ง"
เจ้าอ้วนไม่เชื่อและต้องการที่จะเล่นกับฉิงเฟิง แต่เขาก็แพ้พ่ายอย่างอดสูไปอีกคน
ฉิงเฟิงเป็นเหมือนพระเจ้าแห่งการพนันกลับชาติมาเกิดเขามอบความพ่ายแพ้ให้แก่ทุกคนในห้อง
เขาถอนหายใจยาวซึ่งทำให้คนอื่นๆยิ่งหดหู่มากขึ้น
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
หลังจากร้องเพลงฉิงเฟิง ลั่วเฮาและจางเซี่ยวหยู่ ก็ออกจาก Silver Diamond KTV ด้วยกัน
"ขอบคุณสำหรับวันนี้ มันเป็นวันที่มีความสุขมากที่สุดในชีวิตฉัน"
จางเซี่ยวหยู่มองไปที่ฉิงเฟิงด้วยแววตาที่พร่ามัว สายตาของเธอจ้องมองเขาด้วยแววตาแปลกๆ
"แค่เธอมีความสุขก็ดีแล้ว"
ฉิงเฟิงจับจางเซี่ยวหยู่และยิ้มเล็กน้อย เขาสามารถบอกได้ว่าจางเซี่ยวมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจและต้องการระบายออกวันนี้
ลั่วเฮาหันศีรษะอย่างเศร้าๆไปด้านข้างเมื่อเห็นการกระทำที่สนิทสนมของทั้งสองคน
สำหรับคนโสด มันเป็นความรู้สึกที่แย่ที่ไม่มีความรักกับเขา.....
"เพื่อน หยุดอยู่ตรงนั้น! "
ฉิงเฟิงและจางเซี่ยวหยู่ เพิ่งเดินได้เพียงแค่ 50 เมตรเท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะถูกกลุ่มอันธพาลขวางไว้
พวกอันธพาลย้อมผมหลากสีสันและถือไม้กอล์ฟอยู่ในมือ พวกเขาดูเหมือนจะเป็นคนอันตรายอย่างร้ายแรง
ผู้นำคือชายวัยกลางคนตัวสูง เขามีความสูงอย่างน้อย 1.9 เมตรเขามีกล้ามเนื้อและดูเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง
เขาคือคิงคองหัวหน้าแก๊งสามหยวน
ทำไมพวกคุณถึงอยู่ที่นี่?
เมื่อเธอเห็นพวกอันธพาลจางเซี่ยวหยู่ก็กลายเป็นเงียบขรึม ใบหน้าที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาของเธอเต็มไปด้วยความกลัว
เธอรู้ว่าพวกอันธพาลเหล่านี้เป็นคนเลวและมักจะทำเรื่องไม่ดี
"สาวงาม นี่ไม่ใช่เรื่องของเธอ ถอยไปยืนห่างๆ มีบางคนจ่ายเงินให้เรามาหักขาคนที่ชื่อ ลี่ฉิงเฟิง"
คิงคองโบกมือและบอกให้จางเซี่ยวหยู่ถอยออกไป พวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อสั่งสอนฉิงเฟิง
"หวังโบ บอกให้พวกคุณมาใช่ไหม?"
จางเซี่ยวหยู่ฉลาดมาก เธอรู้ได้ในทันทีว่าเป็นหวังโบ หลังจากเรื่องทั้งหมดหวังโบ
ถูกไล่ออกจากบริษัท Ice Snow เนื่องจากฉิงเฟิง หวังโบเป็นคนเลวทรามและจะต้องมาแก้แค้นอย่างแน่นอน
"ถูกต้อง คนที่กล้าที่จะทำให้หวังโบโกรธต้องเจ็บปวดทรมานและรับผลที่ตามมา"
คิงคองยิ้มเยาะและยอมรับว่าพวกเขาถูกเรียกใช้โดยหวังโบ
"พี่ใหญ่ลี่ ฉันขอโทษ ฉันนำเรื่องยุ่งยากมาให้พี่อีกแล้ว วิ่งเร็ว!"
ขนตาของจางเซี่ยวหยู่กระพริบ ใบหน้าไร้เดียงสาของเธอเต็มไปด้วยคำขอโทษ
เธอรู้ดีว่าเหตุผลที่หวังโบพยายามสร้างปัญหากับฉิงเฟิงเป็นเพราะเธอ เธอผลักฉิงเฟิงและต้องการให้เขาหนี แต่เขาไม่ขยับตัว
"อย่ากังวลน้องสาวเซี่ยวหยู่ คนเหล่านี้เป็นแค่ไก่ป่วยๆ พวกเขาทำอะไรฉันไม่ได้"
ฉิงเฟิงแตะไหล่จางเซี่ยวหยู่และมองเธออย่างนุ่มนวล
"เพื่อน นายยโสเกินไปมั้งฉันจะสั่งสอนแก! "
เมื่อเขาได้ยินฉิงเฟิงเรียกพวกเขาว่าพวกอ่อนแอการ แสดงออกของคิงคองก็มืดครึ้มลงและเขาก็เดินไปหาฉิงเฟิงด้วยความโกรธ
"เหี้ยแล้ว !! เป็นแก ?"
คิงคองโห่ร้องเสียงดังด้วยความสยดสยอง
มันเป็นช่วงกลางคืนที่มีแค่แสงไฟสลัวๆ พวกเขาอยู่ไกลกัน ทำให้ไม่สามารถมองเห็นฉิงเฟิงได้
แต่ตอนนี้เมื่อเขาเดินใกล้เข้ามา คิงคองก็สามารถเห็นหน้าของฉิงเฟิง ใบหน้าของเขากลายเป็นสีขาวซีดและเขาก็ร้องอุทานออกมา
ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นคนเดียวกับคนที่หักแขนของเขาที่ Lone Hill